บทที่ 3 ฤทธิ์น้ำเมา (5)
บทที่ 3
ฤทธิ์น้ำเมา (5)
“แล้วนี่กลับถึงห้องหรือยังคะ แบมเองก็เพิ่ง...”
“แค่นี้ก่อนนะครับ” ปริญตัดประโยคพัลวันเมื่อได้ยินเสียงอาเจียนจากคนด้านในห้องจนเขาต้องรีบวางสาย
ขายาวก้าวเดินตามไปยังห้องน้ำ เขาเห็นว่าม่านไหมกำลังโก่งคอกับชักโครก ใบหน้าแดงก่ำ น้ำหูน้ำตาไหล และเขาก็ใจดีลูบเรือนเบา ๆ ที่แผ่นหลังบาง ก่อนจะหยิบทิชชูมาเช็ดซับเม็ดเหงื่อและคราบเปื้อนออกให้
ม่านไหมหอบหายใจและหลับตา เธอกอดโถส้วมประหนึ่งว่ามันเป็นของรัก บ่นในใจกับตัวเองว่าต่อไปเธอจะไม่ดื่มให้เมาขนาดนี้อีก เป็นภาระคนอื่นไม่พอยังทรมานจากผลกระทบที่ตามมาอีกด้วย
“จะอ้วกอีกหรือเปล่าไหม” ปริญถามเสียงอ่อน มือก็ยังคงลูบที่แผ่นหลังบางเบาให้กับเธอ
“อือ...เวียนหัว” หญิงสาวสั่นหัวและเดินไปล้างหน้าล้างปากที่ก๊อกน้ำจากนั้นก็ฉวยหยิบทิชชูในมือเขามาเช็ดลวก ๆ ก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินกลับไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนอีกครั้ง พานทำให้คนที่มองอย่างปริญอดที่จะอมยิ้มให้กับการกระทำของเธอไม่ได้
“พี่วางทิชชูไว้ตรงนี้นะ เผื่อไหมลุกขึ้นมาอ้วกอีก” ปริญบอกทิ้งท้ายเพราะเขาตั้งใจจะกลับและให้หญิงสาวได้พักผ่อน
ร่างสูงย่อตัวลงเล็กน้อยพลางจัดผ้าห่มคลุมกายให้เธอ หากแต่มันกลับเป็นจังหวะที่ม่านไหมพลิกตัวหันกลับมาพอดิบพอดี
“ไหมชอบพี่ ไหมชอบพี่ปริญ” คนตัวเล็กปรือตามองคนที่แอบชอบคล้ายกับหลุดเข้าไปในห้วงความฝัน
ม่านไหมไม่รู้ตัวเลยว่าได้เผลอพลั้งทำในสิ่งที่ไม่ควรออกไป เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เปิดปากบอกความรู้สึกกับเขา เธอไม่อยากให้ปริญมองเธอแปลกไป เธอไม่อยากห่างหายเพียงเพราะคำสารภาพ แต่เธอกลับอยากได้ความรักจากเขาในฐานะคนรักด้วยเช่นกัน
“ไหม...” พอถูกย้ำชัดหลายครั้งก็มั่นใจแล้วเธอคิดยังไง
เขาพูดไม่ออกเพราะไม่รู้จะต้องให้คำตอบกลับไปแบบไหน
“ไหมขอโอกาสบ้างได้ไหม หรือพี่ปริญคบกับพี่แบมไปแล้ว” เมื่อกี้นี้เธอได้ยินเขาคุยสายกับพี่ที่แผนก
ความสนิทสนมใกล้ชิดที่เห็นในร้านสังสรรค์ทำให้เธอคิดเป็นอื่นไม่ได้เลยว่าความสัมพันธ์ของเขาอาจจะคืนกลับ แต่เธอยังคงหวังลึก ๆ ว่าความบังเอิญที่พัดผ่านมาจะทำให้เธอได้มีโอกาสอยู่ในสถานะนั้นบ้าง
“รู้เรื่องนี้ได้ยังไง”
เขาและแบมเคยคบหากันแต่ก็ต้องเลิกราเพราะเข้ากันไม่ได้ คบหากันเพียงครึ่งปีสถานะก็ต้องสิ้นสุด แต่ก็มีช่วงหลัง ๆ มานี้ที่เธอเข้าหาชวนคุย พยายามคิดว่าเธออาจจะอยากสร้างมิตร แต่มองลึกถึงเจตนาคนฉลาดอย่างปริญย่อมรู้ทันทีว่าเธออยากรีเทิร์น
“ไหมไม่อยากเป็นแค่คนแอบชอบแล้ว”
“ไหม...” ปริญตาโตเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กหยัดตัวขึ้นและขยับเข้าใกล้ ครั้นจะห้ามปรามคำพูดก็เป็นต้องกลืนกลับเมื่อถูกริมฝีปากนุ่มกดทาบลงมาอย่างดูดดึง
ความตกใจส่งผลให้เขาแน่นิ่งไป กระทั่งตั้งสติได้ว่าควรผลักไสแต่ความหวานหอมที่ได้รับกลับกลายเป็นการเชื้อเชิญให้ลิ้มลองมากขึ้น
ปริญรับรู้ถึงจูบไม่ประสีประสาของเธอ แต่มันคงเป็นเพราะความมึนเมาเธอถึงบดคลึงเน้นสัมผัสจนเผลอไผลได้เหมือนกัน หากแต่เศษเสี้ยวของความคิดกลับร้องตะโกนว่าต้องหยุด มือใหญ่จับรวบแขนเล็กจากนั้นก็ดันตัวหญิงสาวออกห่าง กลัวว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่ควรขึ้นมา
“ไหม! ตั้งสติ!”
“ไหมเมาไหมรู้ตัว...แต่สิ่งที่ไหมพูดไหมทำมันคือความรู้สึกจริง ๆ ของไหมนะ”
“ไหมต้องตั้งสติ อย่าทำแบบนี้!” เสียงเข้มกดต่ำ พยายามทำตัวให้ดุดันมาดขรึมมากที่สุด
พอได้รับจูบหวาน ๆ เขาก็เริ่มไม่เป็นตัวของตัวเอง ยอมรับเลยว่าจูบเมื่อครู่นี้ทำเขาเสียศูนย์จนกลางกายดีดผงาดคับแน่นอยู่ในกางเกง
ให้ตาย...เขามั่นใจว่ามันไม่ใช่ความรู้สึกชอบ แต่ใครบ้างที่ได้รับสัมผัสหอมหวานน่าลิ้มลองแล้วจะหักห้ามอดทน
ผู้ชายต่อให้ใจแข็งเด็ดเดี่ยวมากแค่ไหนแต่พอเห็นของสวยงามก็ยากที่จะออกห่าง
ยิ่งรสจูบนุ่มละมุนชวนหลง ดวงตาฉ่ำปรือดื้อรั้น ดวงหน้าแดงก่ำ จากฤทธิ์มึนเมา ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปรากฏตรงหน้าแทบไม่ต่างจากเครื่องดื่มอำพันที่ขับกล่อมให้เขาพร่าเลือนอ่อนโอน
ตัวเขานี่แหละที่กำลังเมา!
“ก็แค่ฝัน ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ฮะ?” คราวนี้ปริญงงเป็นไก่ตาแตก
ม่านไหมคิดว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่ในความฝันอย่างนั้นหรือ..?
“ขอแค่คืนนี้ก็พอ ฝันดีของไหม” สิ้นประโยคริมฝีปากแดงฉ่ำก็กดทาบลงไปอีกครั้ง
มือเล็กประคองใบหน้าหล่อเหลาของปริญเข้าใกล้และบดคลึงหยอกเย้ากับกลีบปาก เธอไม่เคยมีประสบการณ์ ไม่เคยลองจูบกับใคร แต่พอถูกครอบงำด้วยความเมาและความหลงใหลก็กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างปล่อยไปตามหัวใจที่เรียกร้อง
เธอกำลังคิดว่าตัวเองอยู่ในห้วงความฝัน หากแต่มันเป็นภาพฝันที่ชัดเจนจนอยากเก็บเกี่ยวไว้ให้นานที่สุด
มือใหญ่ลดระดับและเปลี่ยนมาเป็นการจับที่ไหล่มนของหญิงสาว ปริญขบเม้มตามกลีบปาก จากนั้นก็สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปสัมผัส พร้อมกับเอนเอียงใบหน้ารับให้เข้ากับองศาการจูบของเธอ
กลายเป็นว่าเขากำลังพร่ำสอนรสจุมพิตอันแสนหวานให้คนตัวเล็ก ละเลียดชิมทีละนิดและเปลี่ยนมาหยอกเอินดูดดึงสลับกัน ความอดทนอดกลั้นขาดสะบั้นเมื่อถูกความต้องการหลอมเหลวจนมอดไหม้ กลิ่นกายสาวก็เป็นอีกหนึ่งเชื้อเพลิงที่ทำให้เขาหมดความยับยั้งชั่งใจ ไม่สนถูกสนผิดเลยว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นไม่ควรเพียงใด
แต่แล้วไง...
ตอนนี้คนสองคนปล่อยให้อารมณ์นำพาเหนือความคิด ไม่คิดสนใจแล้วว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนไปตลอดกาล...
