3 ตกหลุมรัก
ฟิว..
ผมเดินลงมาจากรถเพื่อไปลานกิจกรรมรับน้องที่ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงส่วนไหนของมหาลัยเพราะมหาลัยแห่งนี้กว้างมากถ้าให้เดินรอบมหาลัยคงใช้เวลาทั้งวัน อ้อ ผมลืมบอกไปสินะว่าผมเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ตอนนี้ผมต้องรีบไปลานกิจกรรมเพราะสายมากแล้วจากนั้นค่อยไปตามหาข้าวฟ่าง ข้าวฟ่างคือผู้หญิงที่แม่ขอร้องให้ผมมาดูแล บอกตามตรงว่าผมยังไม่เคยเจอข้างฟ่างเลยสักครั้งแต่ก็พอจะรู้ว่าเธอหน้าตาเป็นยังไงเพราะแม่ให้ดูรูป แต่ไม่ใช่แค่รูปของข้าวฟ่างคนเดียวหรอกนะที่แม่เอาให้ผมดูเพราะยังมีรูปของเด็กน้อยวัยสามขวบชื่อว่าข้าวปั้นกับข้างแป้งเด็กฝาแฝดลูกของข้าวฟ่างกับ..ไอ้เตอร์ แต่ไอ้เตอร์มันไม่รู้หรอกนะว่ามันมีลูกเพราะมันเลิกกับข้างฟ่างไปนานแล้วและตอนที่เลิกมันก็ไม่รู้ว่าข้าวฟ่างท้องสาเหตุที่เลิกก็เพราะมันเหี้ยไงได้เขาแล้วมันเกิดเบื่อก็เลยทำตัวเหี้ยใส่จนข้างฟ่างทนไม่ไหวหอบลูกในท้องหนีมันไปโดยที่มันก็ไม่รู้ หึ โง่ชิบหาย โคตรสมน้ำหน้า
ผมเดินมาจนเกือบถึงลานกิจกรรมก็เจอเข้ากับผู้หญิงคนนึงที่นั่งอยู่กับพื้นลักษณะเหมือนเธอจะหกล้มมากกว่าลงไปนั่งเองเพราะคงไม่มีใครบ้านั่งอยู่ตรงกลางถนนให้คนมองแบบนี้หรอกแบบนี้และดูเหมือนเธอพยายามจะลุกแต่ก็ลุกไม่ไหวผมก็เลยรีบเดินเข้าไปถาม
"นี่เธอเป็นอะไรหรือเปล่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย" ผมถามโดยที่ยังไม่ได้มองหน้าเพราะเห็นว่าที่หัวเข่าทั้งสองข้างของเธอมันถลอกจนมีเลือดไหลซึมออกมา แต่คำถามของผมที่ถามคนตรงหน้ายังไม่ได้คำตอบ หรือเจ็บจนพูดไม่ออกวะ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดผมก็เลยเงยหน้าขึ้นมองปรากฏว่าเธอก็คือคนที่ผมตามหาอยู่ เธอคือข้าวฟ่างเมียเก่าไอ้เตอร์ ที่บอกว่าเมียเก่าเพราะตอนนี้ไอ้เตอร์มันมีเมียใหม่ไปแล้วซึ่งคงจะนับไม่หวาดไม่ไหวว่าเมียมันมีกี่คนเอาเป็นว่านิ้วมือคงไม่พอคงต้องยกนิ้วเท้ามานับด้วยเพราะความชั่วมั่วไม่เลือกของมันที่เห็นผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้คลำดูไม่มีหามันก็เอาหมด คิดละก็อดสงสารแม่ของลูกมันไม่ได้ที่มาเจอผู้ชายเลวๆ อย่างไอ้เตอร์ แต่พอมาเจอหน้าเจอตัวเป็นๆ แบบนี้ อยากจะบอกว่าตัวจริงของข้างฟ่างเธอสวยกว่าในรูปที่แม่เอาให้ดูมากมากจนผมอดมองไม่ได้ข้าวฟ่างสวยมากสวยจนใจของผมเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ผมตกหลุมรักคนตรงหน้าใช่หรือเปล่า
"เป็นอะไรไหมฉันถาม" ผมสลัดความคิดนั้นไปก่อนจะถามอาการของเธออีกครั้งคือผมต้องถามย้ำอีกครั้งเพราะไม่เห็นว่าเธอจะตอบคำถามของผม
"พี่ไม่.....เอ่อฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกแค่หัวเข่าถลอกนิดเดียวเอง" เข่าถลอกปอกเปิกขนาดนี้บอกว่านิดเดียวบอกไม่เป็นอะไร หึหน้าตาดีแล้วยังปากแข็งอีกนะ อันนี้ผมคิดเองในใจ
"หัวเข่าเธอมีเลือดซึมออกมาด้วยนะฉันว่าเธอไปทำแผลที่ห้องพยาบาลมั้ยเดี๋ยวฉันพาไป"
"ไม่เอาอ่ะเป็นไรหรอกนิดเดียวเอง"
"นิดเดียวบ้านเธอสิเลือดออกขนาดนี้"
"นิดเดียวจริงๆ นะ"
"งั้นก็แล้วแต่เธอละกันเธอเจ็บไม่ใช่ฉันเจ็บ" ผมขี้เกียจพูดกับคนดื้อแต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆ นะ
"เอ่อ.....ว่าแต่นายเรียนอยู่ปีหนึ่งใช่หรือเปล่า"
"อื้มใช่ฉันเรียนปีหนึ่งคณะบริหารแล้วเธออ่ะ" ผมถามทั้งที่ก็รู้อยู่แล้ว
"ฉันก็เรียนบริหารนะ"
"จริงเหรอดีจังได้เจอคนที่เรียนคณะเดียวกันฉันชื่อฟิวนะเธอชื่ออะไร" ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเพราะตอนนี้ผมยังไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าผมรู้จักเธอ
"ฉันชื่อข้าวฟ่างเรียกฟ่างเฉยๆ ก็ได้ ว่าแต่ฟิวนี่ ย่อมาจากกาฟิวป่ะ^^" กาฟิว?? คิดได้ไงวะใครจะมาชื่อปัญญาอ่อนขนาดนี้แต่ในเมื่อเธอคิดว่าผมชื่อนี้ก็แล้วแต่เลยเอาที่สบายใจเพราะดูเธอจะชอบชื่อนี้
"รู้ได้ไงอ่ะ"
"เดาเอาไม่คิดว่าจะถูกนะเนี๊ยะ555" รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สดใสของเธอทำให้ผมหลงเธอหนักขึ้นไปอีก
"เรียกฉันว่าฟิวก็พอนะกาฟิวเอาไว้ให้ป๊าม๊าที่บ้านฉันเรียกก็พอ"
"อื้มมม ^^ ฉันว่าตอนนี้เรารีบไปเข้าแถวเถอะจะเลยสิบห้านาทีแล้ว"
"เออนั่นนะสิงั้นเรารีบไปกันเถอะว่าแต่....เธอเดินไหวไหม" ผมถามคนตรงหน้าที่พอได้มองใกล้ๆ ก็ทำให้ผมใจสั่นเข้าไปอีก
"ไหวสิ"
"แน่ใจ?? "
"อื้มมม...โอ๊ย เจ็บ" พูดไม่ทันขาดคำคนดื้อที่พยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองก็ล้มลงไปอีกรอบผมก็เลยปล่อยให้เธอล้มจะได้รู้ว่าตัวเองเดินไม่ไหวจริงๆ
"เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าเธอต้องเดินไม่ไหวยังจะดื้ออีก งั้นเอางี้เธอขึ้นมาขี่หลังฉันละกัน"
"ไม่เอามันไม่เหมาะ"
"ไม่เหมาะอะไรเธอเจ็บขาเดินไม่ไหวฉันก็แค่ให้เธอขี่หลังไม่เห็นจะเป็นไรเลย ป่ะเร็วสายแล้วฉันไม่อยากโดนทำโทษเพราเธอหรอกนะ" ผมพูดพร้อมกับย่อตัวลงเพื่อให้เธอขึ้ขี่หลัง
"งั้นฉันไม่เกรงใจละนะ ขอบใจนะ^^"
"ขอหลบหน้าแก้อายหน่อยนะ" เธอกระซิบบอกผมก่อนจะเอาหน้ามุดเข้าที่ไหล่ของผมซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันรู้สึกดีไงที่ได้อยู่ใกล้ๆ ผมผิดไหมถ้าจะบอกว่าผมรู้สึกกับข้าวฟ่าง
(เรื่องของฮันเตอร์กับข้าวฟ่างอยู่ในเรื่อง ก็แค่เมียเก่า นะคะเผื่อใครยังไม่ได้อ่านไปตามอ่านกันได้นะคะ^^)