แค่รักก็เพียงพอ

26.0K · จบแล้ว
ไหมขวัญ
21
บท
965
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ยลดา เด็กกำพร้าที่ถูกป้าเอามาเลี้ยงแบบส่งๆ รู้ตัวเองดีว่าเป็นที่รังเกียจจึงโดนใช้งานสารพัด แต่ก็ใช้มาเถอะ เธอทำได้หมดแหละ และใครจะรู้ว่าการถูกจิกหัวใช้ ตั้งแต่เล็กจนโตมันจะมีประโยชน์ เมื่อเธอถูกโยนให้ไปดูแล ชายหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้อย่าง ธาวิน ที่หล่อโคตร รวยโคตร แต่อารมณ์ร้ายโคตร ด่ากราดทุกคน ไม่มีไว้หน้า แต่การทำแบบนั้นใช้ได้ผลกับแค่คนอื่น แต่กับเธอน่ะ ก็มาสิคะ ฉันนี่แหละที่รองรับอารมณ์ของคนทั้งโลก! ถ้าเอาไม่อยู่อย่าเรียกตรูว่า ‘ยลดา’ “ผมชอบคุณได้ไหม” “ชะ...ชอบฉัน...ชอบฉัน คุณชอบฉันเหรอคะ” ถามเสียงแผ่วยกมือทั้งสองปิดปากและแก้มที่มันร้อนผ่าวและคงแดงก่ำจนน่าอายของตัวเองอีกครั้ง “อื้อ” ธาวินพยักหน้ายอมรับเขินๆ “ใจคุณเต้นแรงมาก” เพราะตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขา สัมผัสได้เลยว่าไม่ใช่แค่เธอที่กำลังตื่นเต้นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เขาเองก็ไม่ต่างกัน “ผมไม่เคยสารภาพรักใคร” ยลดาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเอ็นดูท่าทางของผู้ชายตัวโตตรงหน้า “คุณน่ารักจัง ต่างจากวันแรกที่เราเจอกันมากๆ เลยค่ะ” “น่ารักก็รับรักผมสิครับ”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันประธานคนต่ำต้อยพลิกชีวิตนางเอกเก่งคนรับใช้เศรษฐีพระเอกเก่ง

บทที่ 1 ครอบครัวใหม่ (1)

1

ครอบครัวใหม่

เด็กน้อยวัยสิบขวบที่เพิ่งสูญเสียพ่อเพียงคนเดียวไปได้ไม่นาน เดินตามป้าเข้าไปในบ้านที่ไม่คุ้นเคย เงยหน้ากวาดสายตาไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกหลากหลาย

“จากนี้แกก็มาอยู่ที่นี่กับป้า แต่ห้ามขี้เกียจนะ ไม่งั้นฉันไม่เลี้ยงจริง ๆ ด้วย” มยุรีหันมาพูดกับหลานสาวที่ตัวเองต้องรับอุปการะต่อจากพี่ชายที่เพิ่งเสียชีวิตไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจแต่จะทิ้งขว้างก็ไม่ได้ ดีที่ยังเหลือเงินประกันก้อนหนึ่งไว้ให้ ก็ถือซะว่าเป็นค่าจ้างในการเลี้ยงดู

“ค่ะ” ยลดาตอบรับเพียงสั้น ๆ รับรู้ได้ถึงความไม่เต็มใจของป้า แต่เธอยังเด็กจะอยู่ลำพังก็คงไม่ได้ ดังนั้นตั้งใจไว้ว่าจะทำตัวเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เพื่อที่คนรับเลี้ยงจะได้ไม่ลำบากใจ

“ทำไมไปพูดกับหลานแบบนั้นล่ะ”

“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยทำงานบ้าง เล็กๆ น้อยๆ จะมานั่งกินนอนกินได้ยังไง” มยุรีมองค้อนสามี ก่อนจะหันมาถามหลานสาว “ทำได้ไหม”

“ค่ะ”

“คุณนี่ มันจริงๆ เลย” อเนกส่ายหน้า รู้ว่าถ้าไม่มีเงินก้อนนั้นเมียเขาไม่มีทางรับเลี้ยงหลานคนนี้แน่ๆ

“แม่ขา ให้ยาหยีนอนห้องเดียวกับหนูนะคะ” อัสมาเด็กน้อยที่ตามแม่ไปงานศพคุณน้าจนได้รู้จักกับยลดา และพูดคุยเล่นกันจนถูกคอร้องขอ

“ได้สิ”

“งั้นเราไปดูห้องกันดีกว่า” ว่าแล้วอัสมาก็จูงแขนยลดาไปที่ห้องทันที

“เอาของไปด้วยสิรอใครเอาไปให้กัน”

“ไปเถอะเดี๋ยวลุงตามเอาไปให้เอง” อเนกบอกเมื่อเห็นยลดาหยุดชะงักและจะกลับมาเอากระเป๋าของตัวเอง ก่อนจะหันมาต่อว่าภรรยา “นั่นหลานคุณน่ะ เพิ่งเสียพ่อไป คุณเป็นที่พึ่งเดียวของเขาทำไมต้องไปพูดจาข่มแบบนั้นด้วย อีกอย่างคุณก็ไม่ได้เลี้ยงฟรีๆ เงินประกันพ่อเขาคุณก็เอามา เงินล้านนะนั่นดูแลลูกเขาดีๆ เหมือนที่อยากได้เงินเขาหน่อย”

“คุณนี่ทำไมชอบขัดฉันอยู่เรื่อย หลานฉันทำไมจะไม่รัก ที่พูดก็แค่ไม่อยากให้เด็กมันเหลิง ตามใจมากโตไปเสียนิสัยจะมาพูดมาสั่งมาสอนมันได้ไหมล่ะ จะสอนอะไรก็ตอนเด็กนี่แหละ ไม่รู้แล้วอย่ามาพูดมาก เอากระเป๋าไปให้หลานด้วย และไม่ต้องเก็บให้มันนะ ให้มันเก็บเองโตแล้ว”

อเนกส่ายหน้าไม่อยากต่อปากต่อคำกับภรรยา จึงถือกระเป๋าที่มีเพียงสองใบของยลดาไปให้ที่ห้อง ในเมื่อพูดกับเมียไม่ได้ ก็บอกก็สอนลูกสาวเอาไว้หน่อยแล้วกัน ว่าให้ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างน้อยก็อยากให้เด็กน้อยรู้สึกอุ่นใจเวลาอยู่ที่นี่

แต่อเนกลืมไปว่าเวลาส่วนใหญ่ของตัวเองอยู่แต่กับการทำงาน คนที่ลูกสาวอยู่ด้วยมากที่สุดก็คือมยุรี ดังนั้นการเสี้ยมสอนทั้งหมดคือนางเสียส่วนใหญ่

“ไอวี่ไม่ต้องเก็บลูก” เสียงสั่งจากแม่ทำให้อัสมาที่กำลังจะเอาจานข้าวของตัวเองไปเก็บอย่างเช่นทุกครั้งต้องชะงัก “ยาหยีเอาจานไปเก็บให้ไอวี่ด้วยนะ”

“ค่ะ”

“เสร็จแล้วก็ล้างด้วย”

“เดี๋ยวไอวี่ช่วยนะ”

“ไม่ต้อง อิ่มแล้วก็ไปอ่านหนังสือ แค่ล้างจานจะทำอะไรหลายคน”

“แต่...” อัสมาจะแย้งแต่ก็ต้องก้มหน้าหุบปาก

“ไอวี่! แม่ให้ไปทำอะไรก็ไปทำ ชอบจริงทำที่ไม่ได้สั่งเนี่ย”

“ค่ะ” อัสมาปรายตามองยลดาอย่างรู้สึกผิด เพราะตั้งแต่ญาติคนนี้มาอยู่ในบ้านเธอก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย เล็กน้อยแม่ก็เรียกใช้ยลดาตลอด “รอบนห้องนะ”

“อื้อ” ยลดาพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะหยิบจานของตัวเองและอัสมามาซ้อนกัน แต่ก่อนไปก็มีจานอีกใบของมยุรีมาวางซ้อน “ป้าฝากด้วย และมาเก็บพวกนี้ไปล้างให้เรียบร้อยนะ” สั่งจบก็เดินหนี

“ค่ะ” ยลดาไม่มีปัญหากับการทำงานบ้าน เพราะอยู่กับพ่อเธอทำเองอยู่แล้ว เมื่อโดนสั่งก็รีบทำอย่างไม่อิดออด แต่แค่รู้สึกอิจฉาอัสมานิดๆ ตามประสาเด็กที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

แรกๆ เมื่อยลดาโดนใช้งานอัสมามีอาสาไปช่วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้ช่วยเพราะแม่สั่งห้าม โดยท่านให้เหตุผลว่ายลดาเป็นคนอาศัย ดังนั้นงานในบ้านทุกอย่างอีกฝ่ายต้องทำเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ