บทย่อ
ยลดา เด็กกำพร้าที่ถูกป้าเอามาเลี้ยงแบบส่งๆ รู้ตัวเองดีว่าเป็นที่รังเกียจจึงโดนใช้งานสารพัด แต่ก็ใช้มาเถอะ เธอทำได้หมดแหละ และใครจะรู้ว่าการถูกจิกหัวใช้ ตั้งแต่เล็กจนโตมันจะมีประโยชน์ เมื่อเธอถูกโยนให้ไปดูแล ชายหนุ่มที่ประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้อย่าง ธาวิน ที่หล่อโคตร รวยโคตร แต่อารมณ์ร้ายโคตร ด่ากราดทุกคน ไม่มีไว้หน้า แต่การทำแบบนั้นใช้ได้ผลกับแค่คนอื่น แต่กับเธอน่ะ ก็มาสิคะ ฉันนี่แหละที่รองรับอารมณ์ของคนทั้งโลก! ถ้าเอาไม่อยู่อย่าเรียกตรูว่า ‘ยลดา’ “ผมชอบคุณได้ไหม” “ชะ...ชอบฉัน...ชอบฉัน คุณชอบฉันเหรอคะ” ถามเสียงแผ่วยกมือทั้งสองปิดปากและแก้มที่มันร้อนผ่าวและคงแดงก่ำจนน่าอายของตัวเองอีกครั้ง “อื้อ” ธาวินพยักหน้ายอมรับเขินๆ “ใจคุณเต้นแรงมาก” เพราะตอนนี้เธออยู่ในอ้อมกอดของเขา สัมผัสได้เลยว่าไม่ใช่แค่เธอที่กำลังตื่นเต้นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ เขาเองก็ไม่ต่างกัน “ผมไม่เคยสารภาพรักใคร” ยลดาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเอ็นดูท่าทางของผู้ชายตัวโตตรงหน้า “คุณน่ารักจัง ต่างจากวันแรกที่เราเจอกันมากๆ เลยค่ะ” “น่ารักก็รับรักผมสิครับ”
บทที่ 1 ครอบครัวใหม่ (1)
1
ครอบครัวใหม่
เด็กน้อยวัยสิบขวบที่เพิ่งสูญเสียพ่อเพียงคนเดียวไปได้ไม่นาน เดินตามป้าเข้าไปในบ้านที่ไม่คุ้นเคย เงยหน้ากวาดสายตาไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
“จากนี้แกก็มาอยู่ที่นี่กับป้า แต่ห้ามขี้เกียจนะ ไม่งั้นฉันไม่เลี้ยงจริง ๆ ด้วย” มยุรีหันมาพูดกับหลานสาวที่ตัวเองต้องรับอุปการะต่อจากพี่ชายที่เพิ่งเสียชีวิตไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจแต่จะทิ้งขว้างก็ไม่ได้ ดีที่ยังเหลือเงินประกันก้อนหนึ่งไว้ให้ ก็ถือซะว่าเป็นค่าจ้างในการเลี้ยงดู
“ค่ะ” ยลดาตอบรับเพียงสั้น ๆ รับรู้ได้ถึงความไม่เต็มใจของป้า แต่เธอยังเด็กจะอยู่ลำพังก็คงไม่ได้ ดังนั้นตั้งใจไว้ว่าจะทำตัวเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เพื่อที่คนรับเลี้ยงจะได้ไม่ลำบากใจ
“ทำไมไปพูดกับหลานแบบนั้นล่ะ”
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ อยู่ด้วยกันก็ต้องช่วยทำงานบ้าง เล็กๆ น้อยๆ จะมานั่งกินนอนกินได้ยังไง” มยุรีมองค้อนสามี ก่อนจะหันมาถามหลานสาว “ทำได้ไหม”
“ค่ะ”
“คุณนี่ มันจริงๆ เลย” อเนกส่ายหน้า รู้ว่าถ้าไม่มีเงินก้อนนั้นเมียเขาไม่มีทางรับเลี้ยงหลานคนนี้แน่ๆ
“แม่ขา ให้ยาหยีนอนห้องเดียวกับหนูนะคะ” อัสมาเด็กน้อยที่ตามแม่ไปงานศพคุณน้าจนได้รู้จักกับยลดา และพูดคุยเล่นกันจนถูกคอร้องขอ
“ได้สิ”
“งั้นเราไปดูห้องกันดีกว่า” ว่าแล้วอัสมาก็จูงแขนยลดาไปที่ห้องทันที
“เอาของไปด้วยสิรอใครเอาไปให้กัน”
“ไปเถอะเดี๋ยวลุงตามเอาไปให้เอง” อเนกบอกเมื่อเห็นยลดาหยุดชะงักและจะกลับมาเอากระเป๋าของตัวเอง ก่อนจะหันมาต่อว่าภรรยา “นั่นหลานคุณน่ะ เพิ่งเสียพ่อไป คุณเป็นที่พึ่งเดียวของเขาทำไมต้องไปพูดจาข่มแบบนั้นด้วย อีกอย่างคุณก็ไม่ได้เลี้ยงฟรีๆ เงินประกันพ่อเขาคุณก็เอามา เงินล้านนะนั่นดูแลลูกเขาดีๆ เหมือนที่อยากได้เงินเขาหน่อย”
“คุณนี่ทำไมชอบขัดฉันอยู่เรื่อย หลานฉันทำไมจะไม่รัก ที่พูดก็แค่ไม่อยากให้เด็กมันเหลิง ตามใจมากโตไปเสียนิสัยจะมาพูดมาสั่งมาสอนมันได้ไหมล่ะ จะสอนอะไรก็ตอนเด็กนี่แหละ ไม่รู้แล้วอย่ามาพูดมาก เอากระเป๋าไปให้หลานด้วย และไม่ต้องเก็บให้มันนะ ให้มันเก็บเองโตแล้ว”
อเนกส่ายหน้าไม่อยากต่อปากต่อคำกับภรรยา จึงถือกระเป๋าที่มีเพียงสองใบของยลดาไปให้ที่ห้อง ในเมื่อพูดกับเมียไม่ได้ ก็บอกก็สอนลูกสาวเอาไว้หน่อยแล้วกัน ว่าให้ดูแลช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างน้อยก็อยากให้เด็กน้อยรู้สึกอุ่นใจเวลาอยู่ที่นี่
แต่อเนกลืมไปว่าเวลาส่วนใหญ่ของตัวเองอยู่แต่กับการทำงาน คนที่ลูกสาวอยู่ด้วยมากที่สุดก็คือมยุรี ดังนั้นการเสี้ยมสอนทั้งหมดคือนางเสียส่วนใหญ่
“ไอวี่ไม่ต้องเก็บลูก” เสียงสั่งจากแม่ทำให้อัสมาที่กำลังจะเอาจานข้าวของตัวเองไปเก็บอย่างเช่นทุกครั้งต้องชะงัก “ยาหยีเอาจานไปเก็บให้ไอวี่ด้วยนะ”
“ค่ะ”
“เสร็จแล้วก็ล้างด้วย”
“เดี๋ยวไอวี่ช่วยนะ”
“ไม่ต้อง อิ่มแล้วก็ไปอ่านหนังสือ แค่ล้างจานจะทำอะไรหลายคน”
“แต่...” อัสมาจะแย้งแต่ก็ต้องก้มหน้าหุบปาก
“ไอวี่! แม่ให้ไปทำอะไรก็ไปทำ ชอบจริงทำที่ไม่ได้สั่งเนี่ย”
“ค่ะ” อัสมาปรายตามองยลดาอย่างรู้สึกผิด เพราะตั้งแต่ญาติคนนี้มาอยู่ในบ้านเธอก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย เล็กน้อยแม่ก็เรียกใช้ยลดาตลอด “รอบนห้องนะ”
“อื้อ” ยลดาพยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนจะหยิบจานของตัวเองและอัสมามาซ้อนกัน แต่ก่อนไปก็มีจานอีกใบของมยุรีมาวางซ้อน “ป้าฝากด้วย และมาเก็บพวกนี้ไปล้างให้เรียบร้อยนะ” สั่งจบก็เดินหนี
“ค่ะ” ยลดาไม่มีปัญหากับการทำงานบ้าน เพราะอยู่กับพ่อเธอทำเองอยู่แล้ว เมื่อโดนสั่งก็รีบทำอย่างไม่อิดออด แต่แค่รู้สึกอิจฉาอัสมานิดๆ ตามประสาเด็กที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
แรกๆ เมื่อยลดาโดนใช้งานอัสมามีอาสาไปช่วยบ้าง แต่ก็ไม่ได้ช่วยเพราะแม่สั่งห้าม โดยท่านให้เหตุผลว่ายลดาเป็นคนอาศัย ดังนั้นงานในบ้านทุกอย่างอีกฝ่ายต้องทำเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ