ตอนที่ 15 เพื่อนคุณดูดีนะ
สายของวันจันทร์พราวรวีแต่งตัวออกจากบ้านและตรงมายังบริษัทที่ณิชามนทำงานอยู่ เพื่อเตรียมตัวอีกครั้ง
“วันนี้เพื่อนนิสวยมากเลย”
“ไม่ต้องมาชมเลย พราวเขินนะ ไม่ค่อยได้แต่ตัวแบบนี้มันดูทางการยังไงไม่รู้ นิว่าดูแก่ไปไหม”
หญิงสาวหมุนตัวให้เพื่อนดู วันนี้เธอสวมสูทพอดีตัวสีเขียวมิ้นต์ กางเกงห้าส่วนแนบไปเรียวขาเล็กเสื้อด้านในเป็นเกาะอกสีขาวแต่งลายลูกไม้เล็กน้อยที่ช่วงอก ใบหน้าหวานแต่งด้วยเฉดสีอ่อน ขนตางอนปัดมาสคาร่าเน้นดวงตาให้ดูกลมโตมากขึ้น ริมฝีปากอิ่มแต้มสีนู้ดดูเรียบหรู ผมที่เคยปล่อยยาววันนี้ถักเปียและเกล้ามวยไว้บริเวณท้ายทอยติดกิ๊บลูกปัดสีขาวดูทันสมัย
“แก่ตรงไหนสวยมากต่างหากล่ะ เดี๋ยวพราวรอตรงนี้นะ นิจะไปดูก่อนว่าบอสของนิมาหรือยังจะได้แนะนำให้รู้จักกันก่อน”
“บอสของนิ ไม่ดุใช่ไหม”
“ไม่ดูเลยสักนิด ทั้งหล่อทั้งใจดี ถ้านิยังไม่มีแฟนคงจะจีบไปแล้ว”
“พราวชักอยากจะเจอแล้วสิ อยากรู้จังว่าเขาจะหล่อเหมือนพระเอกคนใหม่ของพราวไหม”
ภาพใบหน้าหล่อเหลาของกวีวัธน์ก็แวบเข้ามา เธอต้องสลัดศีรษะเพื่อไล่เอาภาพเขาออกไป หมู่นี้ชักจะคิดถึงเขาบ่อยเกินไปแล้ว ทั้งที่นอนด้วยกันทุกคืนแต่พอกลางวันก็ยังคิดถึงเขาอยู่เรื่อย
“บอสมาแล้ว ไปทักทายหน่อยคุณกฤษณ์ก็อยู่ด้วยจะได้แนะนำให้รู้จักพร้อมกันเลย พราวพร้อมใช่ไหม”
“อยากตอบว่าไม่พร้อมแต่กลัวนิจะโกรธน่ะสิ ไปกันเลยไหม เผื่อมีอะไรที่พราวต้องปรับแก้”
พราวรวีเดินตามหลังเพื่อนไปยังห้องทำงานของรองประธานบริษัทด้วยความประหม่าเธอไม่รู้ว่าเจ้านายของเพื่อนจะเป็นคนแบบไหนและจะทำงานร่วมกันได้ดีหรือเปล่า
พอประตูเปิดกว้างเธอก็เดินตามเข้าไปด้านใน ขาเรียวแทบก้าวไม่ออกเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานนั้นคืนผู้ชายที่นอนกับเธอมาตลอดทั้งสามสัปดาห์
เธอไม่เคยรู้เรื่องส่วนตัวของเขามาก่อน ไม่คิดว่าเขาจะเป็นเจ้านายสุดหล่อที่ณิชามนพูดถึง
“บอสคะ คุณกฤษณ์คะ นี่พราวรวีเพื่อนของนิค่ะ วันนี้เธอจะมาช่วยเป็นล่ามให้อีกคน”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพราวรวี” กวีวัธน์กล่าวทักทาย สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยคำถาม ไม่คิดว่าคนที่จะมาช่วยงานวันนี้จะเป็นพราวรวี หลายวันที่ผ่านมาเขาเห็นเธออ่านสัญญาอะไรสักอย่างแต่พอเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวก็เก็บเข้าแฟ้มและบอกว่าเป็นความลับของลูกค้า ไม่เคยรู้เลยว่าลูกค้าที่หญิงสาวพูดถึงนั้นจะเป็นตัวเอง ถ้ารู้คงพามาด้วยกันตั้งแต่เช้า
“เช่นกันค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะบอส” เธอเรียกเขาอย่างที่ณิชามนเรียก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณพราวรวี” ทนายหนุ่มยื่นมือมาทักทายตามมารยาท หลังจากหญิงสาวกับบอสทักทายกันไปแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะคุณกฤษณ์” เธอยื่นมือมาจับแล้วทักทายอย่างเป็นกันเองพร้อมส่งรอยยิ้มหวานให้อย่างเป็นมิตร
ทั้งสี่คนช่วยกันดูสัญญาอย่างละเอียดอีกครั้งจนกระทั่งถึงเวลาทานอาหารกลางวัน
กวีวัธน์พาทุกคนไปทานอาหารยังโรงแรมที่นัดหมาย เพราะจะได้ไม่เสียเวลาเดินทาง
เขาไม่มีโอกาสอยู่ตามลำพังกับพราวรวีและดูเหมือนตอนนี้เธอกับทนายของบริษัทจะคุยกันอย่างถูกคอ ชายหนุ่มได้ยินเสียงหัวเราะของทั้งสองคนดังเข้าหูอยู่บ่อยครั้ง
ตาคมจ้องไปยังร่างระหงวันนี้สวยกว่าทุกวันที่เขาเคยเห็น แม้จะสวมชุดเรียบร้อยมิดชิดแต่ชายหนุ่มก็รู้ดีกว่าใครว่าภายในสูทแสนสุภาพนั้นสวยงามและเย้ายวนมากแค่ไหน เพียงแค่คิดเลือดในกายก็สูบฉีด กวีวัธน์ได้แต่นั่งเกร็งจนปวดเมื่อยไปทั้งตัว
ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ลูกค้าที่นัดคุยและเซ็นสัญญาวันนี้เป็นชาวจีนแต่มีภรรยาเป็นคนชาวอังกฤษ ทำให้พราวรวีต้องใช้ทักษะทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษแต่หญิงสาวก็ทำได้เป็นอย่างดี
กวีวัธน์ไม่คิดว่านักเขียนนิยายที่ตัวเองนอนกอดอยู่ทุกคืนนั้นมีความสามารถถึงเพียงนี้ ไม่ใช่เขาคนเดียวที่ชื่นชม เพราะทนายความของเขานั้นก็เอ่ยชมหญิงสาวแทบไม่ขาดปาก
“เย็นนี้คุณพราวว่างไหมครับ” กฤษณ์ซึ่งนั่งด้านหลังของรถตู้คู่กับพราวรวีถามขึ้น
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมอยากชวนคุณพราวไปทานอาหารเย็น มีร้านเปิดใหม่ใกล้ๆ บริษัทบรรยากาศดีมาก เราจะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น”
“ชวนแค่พราวเหรอคะคุณกฤษณ์” ณิชามนแกล้งถามไปแบบนั้นเพราะพอจะมองออกว่าคุณทนายกำลังจะจีบเพื่อนของเธอ
“ผมก็จะชวนคุณนิกับบอสอยู่เหมือนกันแต่ พอดีนั่งใกล้คุณพราวก็เลยชวนเธอเป็นคนแรก” กฤษณ์รีบแก้ตัว
“ฟังดูน่าสนใจนะคะ บอสไปด้วยกันไหมคะ”
“เอาสิ เดี๋ยวผมเป็นเจ้ามือเองถือเป็นการขอบคุณคุณพราวที่มาช่วยงานด้วย”
“จริงนะคะบอส” ณิชามนแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเพราะปกติบอสจะแค่เป็นคนจ่ายเงินเวลาพนักงานอยากออกไปฉลอง ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่เจ้าตัวจะไปสังสรรค์กับลูกน้องเลยสักครั้ง
“ถ้ายังถามอยู่ผมจะเปลี่ยนใจแล้วนะ” เขาทำเสียงเข้ม ที่ตอบตกลงไปก็เพราะไม่อยากให้พราวรวีออกไปกับคนอื่น ถึงแม้จะมีณิชามนไปด้วยแต่เขาก็ไม่ค่อยชอบสายตาที่ทนายหนุ่มมองผู้หญิงของเขา
กวีวัธน์เพิ่งร่วมงานกับกฤษณ์ได้ไม่ถึงปีจึงไม่ค่อยสนิทกับเขาเท่าไหร่ แต่ก่อนทนายความของบริษัทจะเป็นบิดาของกฤษณ์ แต่เพราะตอนนี้ท่านอายุมากแล้วก็เลยส่งมอบงานให้กับลูกชาย
รถตู้มาจอดหน้าบริษัทยังเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาที่จองกับทางร้านอาหารไว้ พราวรวีเห็นว่าตัวเองทำงานในส่วนที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้วเลยขอตัวไปเดินซื้อของและนัดเจอกับทุกคนที่ร้านซึ่งณิชามนส่งพิกัดให้แล้ว
“อย่าเบี้ยวนะพราว นิไม่อยากไปดินเนอร์กับสองหนุ่ม มันคงอึดอัดพิลึก”
“ไม่เบี้ยวหรอกจ้า นานๆ พราวจะเข้ามาในเมืองเลยว่าจะไปซื้อของสักหน่อย”
“ฝ่ายบัญชีโอนเงินให้แล้วใช่ไหม ครบหรือเปล่า”
“ครบจ้ะ บริษัทนี้สวัสดิการดีเหมือนกันนะ พราวมาช่วยงานไม่กี่ชั่วโมงเบิกค่าชุดทำงานได้ด้วย”
“เจ้านายนิใจดีไง หล่อด้วย”
“รู้แล้วล่ะว่าหล่อ อย่ามัวแต่คุยเลยคนหล่อมองตาเขียวแล้ว พราวไปก่อนนะเดี๋ยวเจอกัน”
“ถ้ามาไม่ถูกโทรหานะพราว”
“จ้า”
มาถึงห้างสรรพสินค้าพราวรวีเดินดูของไปเรื่อยเพราะยังไม่เจอของที่ตัวเองถูกใจ ระหว่างนั้นกวีวัธน์ก็โทรเข้ามา
“สวัสดีค่ะบอส”
“ผมใช่บอสของคุณที่ไหนกันล่ะครับ ว่าแต่ตอนนี้คุณอยู่ไหน เย็นนี้ไม่ไปทานข้าวตามที่นัดไว้เหรอครับ”
“อยากให้ไปเหรอคะ”
“ที่ผมตกลงไปก็เพราะคุณเลยนะ ถ้าคุณไม่ไปผมก็ไม่ไป”
“เป็นถึงรองประธานทำไมงอแงเป็นเด็กเลยล่ะคะ”
“ใครงอแงกันผมก็แค่ถาม บอกมาก่อนว่าตกลงคุณจะมาไหม”
“ของฟรีใครจะปฏิเสธลงล่ะคะ แค่ตอนนี้ฉันมาซื้อของใช้ค่ะ ถึงเวลานัดแล้วจะไปที่ร้านเอง ยังเหลือเวลาอีกตั้งนานไม่อยากนั่งรอในบริษัทค่ะ”
“อันที่จริงไปรอในห้องผมก็ได้นะครับ”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันเป็นแค่ล่ามเฉพาะกิจนะคะ จะไปนั่งรอในห้องคุณได้ยังไง ถ้าคนอื่นมาเห็นคุณคงต้องหาทางตอบคำถามให้วุ่นแน่”
“คงไม่มีใครกล้าถามหรอกครับ ถ้ามีงานแบบนี้ผมจะนึกถึงคุณคนแรกเลย”
“ดีเหมือนกันนะคะ บริษัทคุณจ้างแพงเสียด้วย”
“สนใจมาทำงานกับผมไหมล่ะครับ”
“ตำแหน่งอะไรล่ะคะ”
“ผู้ช่วยผมไง”
“อย่าเลยค่ะ ฉันไม่อยากไปแย่งงานเพื่อน แล้วฉันก็เป็นคนรักอิสระค่ะ ไม่ชอบเป็นลูกน้องใคร นี่คุณจะโทรมาคุยแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะได้ไปซื้อของต่อแล้วนะ”
“ฝากซื้ออาฟเตอร์เชฟด้วยนะ”
“ฉันซื้อไม่เป็นนะคะ ส่งรูปตัวอย่างมาให้หน่อยได้ไหม”
“ถามคนขายดูก็ได้ เอากลิ่นที่คุณชอบมาเลย”
“คุณเป็นคนใช้เองนะคะ จะเอากลิ่นที่ฉันชอบได้ยังไงคะ”
“ผมเป็นคนใช้ก็จริง แต่คนที่หอมแก้มผมทุกวันเป็นคุณนะคะ ผมเลยอยากให้คุณเลือกกลิ่นที่ตัวเองชอบ”
“คุณเชื่อใจฉันใช่ไหม ถ้าฉันเลือกกลิ่นที่ไม่ถูกใจคุณอย่ามาบ่นทีหลังนะ”
“ไม่แน่นอนครับ คุณซื้อของใช้ส่วนตัวอย่างอื่นเผื่อผมด้วยนะ”
“ได้ค่ะ แล้วมีอะไรอีกไหมคะ”
“ตอนนี้ยังนึกไม่ออกครับถ้านึกออกจะโทรไปบอกนะครับ”
“ค่ะ งั้นวางนะคะจะได้รีบไปซื้อ”
“ครับ”
วางสายไม่ถึงหนึ่งนาทีโทรศัพท์ก็มีเสียงเตือนจากแอปพลิเคชั่นของธนาคารว่ามีเงินเข้ามาจำนวนหนึ่ง คนที่โอนเข้ามาก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นคนที่เพิ่งวางสายไปเมื่อครู่
ไม่รู้ว่าเขาจะฝากซื้อของใช้ทั้งปีหรือยังไงกันถึงได้โอนมาเยอะขนาดนี้ กลับไปถึงบ้านเธอคงต้องโอนคืนให้เขาเพราะดูแล้วมันมากเกินไปจริงๆ
พอมาถึงร้านอาหารทุกคนก็รออยู่แล้ว พราวรวีนั่งคู่กับณิชามนส่วนด้านตรงข้ามเป็นคุณกฤษณ์ เธอแทบไม่ได้คุยกับกวีวัธน์เลย ได้แต่แอบมองเขาเป็นระยะเท่านั้น
“บอสคะ เพื่อนนิสวยไหม” ณิชามนถามเจ้านายหลังจากพราวรวีขับรถออกไปจากหน้าร้านอาหารแล้ว ส่วนเธอยังต้องนั่งรถเจ้านายกลับไปเอารถของตัวเองที่บริษัทเพราะตอนออกมาเขาบอกให้นั่งมากับเขาเพราะไม่รู้ว่าร้านอาหารอยู่ที่ไหน
“ก็ดีดูนะครับ”
“แค่ดูดีเองเหรอคะ นิว่าพราวทั้งสวยทั้งมีเสน่ห์และก็ยังโสดด้วยนะคะ”
“คุณบอกเพื่อนคุณสวยแต่ทำไมถึงโสดมาจนถึงตอนนี้ล่ะครับ”
“พราวเคยมีแฟนค่ะ แต่เลิกกันไปตั้งแต่เรียน จากนั้นก็ไม่เห็นจะคบใครอีกเลย คงเพราะเป็นคนชอบเก็บตัวมั้งคะ เลยไม่ค่อยได้ออกไปเจอคนอื่น นี่ก็อายุ 26 แล้วไม่มีแฟนสักทีสงสัยนิคงต้องช่วยหาแล้วล่ะคะ”
“คุณพูดเหมือนกับว่าหากันง่ายๆ นะครับ”
“ไม่ง่ายและก็ไม่ยากค่ะ เดือนหน้าเราจะต้องไปงานแต่งงานเพื่อน เจ้าบ่าวเป็นเพื่อนรุ่นพี่คณะวิศวะ นิจะต้องหาเพื่อนเจ้าบ่าวหล่อๆ ให้พราวสักคนแล้วล่ะค่ะ”
“อย่าลืมถามเธอก่อนนะครับว่าอยากมีแฟนไหม”
“ไม่ต้องถามหรอกค่ะ ยายพราวอยากมีแฟนจะตาย แต่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจและไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอกับผู้ชาย”
“เหรอครับ ผมนึกว่าเพื่อนคุณชอบอยู่คนเดียวเสียอีก”
“อยู่คนเดียวมันก็ดีคะ แต่บางทีนิก็สงสารเพื่อนไม่อยากให้อยู่คนเดียวเลย โดยเฉพาะตอนฝนตกยิ่งแล้วใหญ่”
“เธอกลัวฝนเหรอคะ”
“นิดหน่อยค่ะ ตอนเด็กที่บ้านฝนตกหนักไฟก็ดับ กว่าพ่อแม่เธอจะกลับมาถึงบ้านก็ดึกมาแล้ว จากนั้นพราวก็เลยเป็นคนไม่ค่อยชอบเวลาที่ฝนตกและไฟดับเท่าไหร่คะ ถ้ามีคนอยู่ด้วยก็คงดี”
ณิชามนเล่าเรื่องของเพื่อนให้เจ้านายฟังอย่าละเอียด เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไรและเธอก็คิดว่าเจ้านายก็คงไม่เอาเรื่องของเพื่อนเธอไปเล่าให้คนอื่นฟัง
“ฟังดูน่าสงสารนะครับ ยิ่งช่วงนี้หน้าฝนด้วย”
“นั้นสิคะ ถ้าบอสอยากช่วยดูแลเพื่อนของนิก็ได้นะคะ ถ้าตัดสินใจช้าจะไม่ทันคุณกฤษณ์เอานะคะ”
“ทนายของผมเขาจีบเพื่อนคุณเหรอ” เขาพอดูออกแต่ก็อยากฟังความเห็นของคนอื่นด้วย
“ค่ะ ขานั้นลุยเต็มที่เลย”
“เพื่อนคุณล่ะครับมีทีท่ายังไงบ้าง”
“ยังดูไม่ออกค่ะ คงต้องใช้เวลาสักพัก แต่คุณกฤษณ์ก็ดูดีนะคะ เป็นผู้ชายอบอุ่นแบบที่ยายพราวชอบเลยค่ะ”
กวีวัธน์แอบถามเรื่องส่วนตัวและสเปกผู้ชายของพราวรวีอีกหลายคำถามก่อนจะกลับมาถึงบริษัท เมื่อส่งเลขาสาวแล้วเขาก็กลับไปยังบ้านของตัวเอง เตรียมเสื้อผ้าสำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ใส่หลังรถ และเอาส่วนที่ใส่แล้ววางไว้ให้ป้าอุ่นเอาไปจัดการ