ตอนที่ 14 วันเสาร์เราสอง
ในเวลาเที่ยงของวันเสาร์บ้านหลังเล็กของพราวรวีก็ยังคงเงียบสนิท เจ้าของบ้านสาวยังคงนอนขดอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายตัวโตที่ตอนนี้กำลังเปิดแอปพลิเคชั้นสำหรับสั่งอาหาร เพราะคิดว่าถ้าคนที่นอนหลับใหลอยู่ตื่นขึ้นมาคงได้หิวจนตาลายแน่ๆ
เมื่อคืนทั้งเขาและเธอใช้พลังงานไปเยอะกว่าทุกครั้ง ยิ่งได้สัมผัสใกล้ชิดไร้ปราการขวางกันก็ยิ่งรู้สึกดีจนแทบอยากจะหยุดเวลาไว้ เขามั่นใจว่าตัวเองสะอาดปราศจากโรคติดต่อและก็มั่นใจว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดก็ไม่เคยมีใครอื่นนอกจากเขา
การได้เป็นผู้ชายคนแรกมันรู้สึกอิ่มเอมใจ รู้สึกหวงแหนแต่เพราะเผลอไปบอกเธอว่าอยากให้เธอเป็นแค่คู่นอนก็เลยต้องมาคิดหนัก ความรู้สึกของเขาเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด พราวรวีไม่เหมือนคนอื่นที่เขาเคยเจอ คงเพราะการเริ่มต้นที่ข้ามขั้นตอนทุกอย่างไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องคอยเอาใจ เธอก็ทำตัวสบายๆ กับเขา การพูดคุยในแต่ละวันเลยเหมือนพูดคุยกับเพื่อน เขาจะกลับดึก หรือบอกว่าจะไปไม่กลับมาเธอก็ไม่เคยบ่นหรือถามถึงเหตุผล แต่ตัวเขาเองต่างหากที่อยากจะกลับมาค้างกับเธอทุกวัน อยากนอนหลับไปด้วยกันและตื่นมาเจอหน้ากันแบบนี้ทุกเช้า
ถ้าครบสามเดือนแล้วความรู้สึกนี้ยังอยู่เขาคิดว่าจะขอเธอเป็นแฟน และคิดว่าระยะเวลาที่มีร่วมกันนั้นจะทำให้ทั้งสองคนเข้าใจกันมากขึ้น เห็นตัวตนของกันและมากขึ้น เพราะเพิ่งผิดหวังจากความรักมาได้ไม่นาน กวีวัธน์เลยอยากมั่นใจก่อนว่าเธอจะใช่คนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตเขาได้ไหม
มันอาจฟังดูเห็นแก่ตัวที่เอาคลิปไปขู่ให้เธอยอมเป็นคู่นอนทั้งที่คลิปนั้นไม่เคยมีอยู่เลยนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เขากังวลเพราะถ้าพราวรวีรู้ความจริงคงโกรธเขามาก ระหว่างนี้ต้องทำดีกับหญิงสาวไว้ก่อนถึงเวลาที่บอกความจริงก็หวังว่าเธอจะไม่โกรธเขามากอย่างที่คิด
ขณะกำลังคิดอะไรเพลินๆ หญิงสาวที่นอนนิ่งก็ตะแคงตัวเข้ามากอดเขาในขณะที่ตายังปิดอยู่
“พราวครับ เที่ยงแล้ว” ชายหนุ่มกระซิบเบาๆ ไม่อยากรบกวนคนนอนแต่ก็ไม่อยากให้เธอทานข้าวผิดเวลามากไปกว่านี้
“ขอนอนต่ออีกได้ไหมคะ”
“ต่อเวลาให้อีกนิดก็ได้ครับ” เขาก้มลงจูบแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเอาหมอนข้างมาแทนตำแหน่งตัวเองแล้วรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัว
จากนั้นออกไปรอไรด์เดอร์ที่หน้าบ้านเพราะกลัวว่าถ้าเขากดออดจะรบกวนคนขี้เซาที่ยังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
กวีวัธน์เตรียมอาหารลงจานเรียบร้อย ยังไม่ทันเดินไปตามเจ้าของบ้านก็เดินออกมาจากห้องนอนพอดี
หญิงสาวสวมเสื้อยืดตัวยาวกับกางเกงขาสั้นโชว์ขาเนียนสวย ไม่รู้ว่าตอนอยู่บ้านคนเดียวจะแต่งตัวแบบนี้ออกไปรับของจากไรด์เดอร์บ้างหรือเปล่า เขาได้แค่สงสัยแต่ไม่กล้าถามเพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัวและเธอก็ไม่ได้เป็นแฟนหรือคนรักของเขา แต่ถ้าวันไหนสถานะเปลี่ยนรับรองได้เลยว่าขาเนียนสวยคู่นั้นต้องมีเขาคนเดียวที่ได้เห็น
หลังมื้ออาหารกวีวัธน์ก็มานั่งเล่นมือถืออยู่บนโซฟาขณะที่อีกคนนั่งพิมพ์งานอยู่ด้านตรงกันข้าม
“พราวครับ ออกไปเดินเล่นกันไหม”
“คุณอยากไปเหรอคะ” เธอเงยหน้าขึ้นมาถามจากนั้นก็กลับไปสนใจงานตรงหน้าอย่างเคย
“เปล่า ผมแค่คิดว่าคุณอยากออกไปข้างนอกบ้าง”
“ฉันชินกับการอยู่บ้านแล้วล่ะค่ะ คุณล่ะคะ ปกติแล้ววันเสาร์คุณชอบทำอะไร”
เป็นคำถามง่ายๆ แต่เขากลับนึกไม่ออกว่าที่ผ่านมาเขาใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองชอบบ้างไหม ตอนคบกับพรลภัสทุกวันหยุดเขาก็พาเธอออกไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง ต่างประเทศบ้างถ้าเวลาว่างไม่มากพอจะไปเที่ยวไกลๆ เขาก็เธอไปเดินช้อปปิ้งหรือไม่ก็ดูหนัง
แต่หลังจากเลิกกับเธอเขาก็มักจะไปขลุกอยู่ที่บ้านของมารดาเพราะที่นั่นมีหลานสาวตัวเล็กอยู่สองคนทำให้เขาหายเหงาได้บ้าง แต่ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมพี่ชายของเขาเลยพาลูกๆ ไปอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัดเขาเลยไม่ได้ไปที่บ้านนั้นมาสองสัปดาห์แล้ว แต่ก่อนทำทุกอย่างไปตามที่คนรอบข้างบอก แต่ตอนนี้เขาคิดว่าสิ่งที่เขาอยากทำในวันหยุดจริงๆ คือการได้อยู่กับพราวรวี
“ส่วนใหญ่ก็จะไปเล่นกับหลานที่บ้านแม่ครับ” เขาเลี่ยงที่จะพูดถึงแฟนเก่าเพราะไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะเล่าให้คนอื่นฟัง
“แล้วคุณมาอยู่กับฉันแบบนี้หลานๆ ไม่คิดถึงเหรอคะ”
“ช่วงนี้ปิดเทอมครับ หลานๆ ไปอยู่กับตายายที่ต่างจังหวัด”
“ค่ะ ถ้าเบื่อมากก็หาอะไรทำสิคะ”
“ผมจะทำอะไรได้ คุณเอาแต่นั่งทำงาน ไม่สนใจผมเลยสักนิด”
“ก็เพราะใครล่ะคะทำให้ฉันตื่นสาย พี่ดานัดส่งงานเย็นนี้ ถ้าไม่รีบปั่นก็คงต้องรอพี่ดาว่างอีกทีสัปดาห์หน้าเลยนะคะ”
“ก็คุณอยากน่ารักเองนี่”
เขาขยับลงจากโซฟาแล้วพยายามมุดตัวเข้ามานอนหนุนตักเธอราวกับเป็นลูกแมวน้อย
“ขอนอนแบบนี้ได้ไหม”
“มันจะเมื่อยเอานะคะ ไหนจะเสียงคีย์บอร์ดอีก ถ้าง่วงไปนอนในห้องดีไหมคะ ปิดม่านทึบๆ จะได้นอนสบาย”
“ก็อยากอยู่ใกล้แบบนี้นี่ครับ อีกนานไหมกว่างานจะเสร็จ”
“ไม่นานค่ะ”
“มีงานให้ผมช่วยทำไม ไม่อยากอยู่ว่างๆ”
“ถ้าบอกจะช่วยทำไหมคะ”
“แน่นอนครับ” เขารีบอาสาทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ว่าเธอจะให้ทำงานอะไร
“รดน้ำต้นไหมให้หน่อยได้ไหมคะ”
“สบายมากครับ”
กวีวัธน์ลุกขึ้นขโมยหอมแก้มเนียนดังฟอดก่อนจะรีบไปรดน้ำต้นไม้ตามที่เจ้าของบ้านสาวบอก
พอส่งงานเรียบร้อยพราวรวีก็เดินออกไปหน้าบ้าน เห็นว่าเขากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ก็แอบมองแล้วยิ้ม เผลอคิดไปไกลว่าถ้าเขาเป็นคนรักและอยู่ด้วยกันแบบนี้คงจะดีไม่น้อย
พราวรวีเดินเข้าไปใกล้กะจะแกล้งเขาให้ตกใจ แต่กะจังหวะผิดไปนิด เพราะเขาหันกลับมาทั้งที่ในมือยังถือสายยางอยู่
“ว้าย คุณวัธน์หันไปทางอื่น” หญิงสาวรีบวิ่งหนีแต่มีหรือคนอย่างกวีวัธน์จะทำตามชายหนุ่มวิ่งตามพร้อมฉีดน้ำใส่จนเธอเปียกไปทั้งตัว
เมื่อตัวเองเปียกแล้วพราวรวีก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก เธอเดินเข้ามาแย่งสายยางในมือเขาเป็นพัลวัน จากนั้นเสียงหัวเราะของทั้งสองก็ดังไปทั้งบริเวณบ้าน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใครสุดท้ายก็เปียกกันทั้งคู่
เสื้อยืดตัวโตพอโดนน้ำเข้าไปก็แนบเนื้อจนเห็นสัดส่วนชัดเจน เจ้าตัวคงไม่รู้แต่คนมองได้แต่แอบกลืนน้ำลาย
“ไปอาบน้ำก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย” ชายหนุ่มอยากให้เธอรีบเข้าบ้านเพราะกลัวใครผ่านไปผ่านมาจะเห็น
“ค่ะ คุณวัธน์ก็เปียกเหมือนกันนะคะ”
“จะชวนอาบพร้อมกันเหรอครับ” เขาถามนัยน์ตาเป็นประกาย
“เปล่าค่ะ แค่จะบอกว่าให้คุณอาบห้องเล็ก”
“ว้า นึกว่าจะได้อาบพร้อมกันเสียอีก”
ชายหนุ่มเดินนำเธอเข้าไปในบ้าน จากนั้นเข้าไปหยิบอุปกรณ์อาบน้ำของตัวก่อนจะออกมาอีกครั้งเพื่อตรงไปยังห้องอาบน้ำที่อยู่ด้านนอกห้องนอน
หลังอาหารมื้อค่ำกวีวัธน์ขอตัวไปตอบอีเมลของลูกค้า ทิ้งให้เจ้าของบ้านนั่งเหงาอยู่หน้าโซฟา ทั้งที่แต่ก่อนไม่เคยเหงาเวลาต้องอยู่คนเดียว แต่หลายวันมานี้กลับรู้สึกเหงาเวลาที่เขาไม่อยู่ด้วย หญิงสาวเปิดเพลงจากโน้ตบุ๊กเบาๆ เสียงเพลงทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น
กวีวัธน์ไม่ได้เอาโทรศัพท์เข้าไปในห้องทำงานด้วย เพราะชาร์ตแบตทิ้งไว้ พอมีสายโทรเข้าพราวรวีจึงเดินไปดู แต่สายตัดไปแล้ว
จากนั้นก็มีไลน์เด้งขึ้นมา เป็นเพราะกวีวัธน์ตั้งค่าให้ดูข้อความขณะล็อกหน้าจอไว้เธอจึงเห็นว่าเพื่อนของเขาชวนออกไปดื่ม พร้อมกับบอกว่าวันนี้มีสาวๆ มาให้อีกหลายคน
พราวรวีไม่แน่ใจว่าเขาจะออกไปไหม และเขาจะมีเธอคนเดียวตลอดสัญญาไหม แต่ถ้าคืนนี้ชายหนุ่มออกไปกับเพื่อนเธอจะถือว่าเป็นการทำผิดสัญญา เพราะเดาจากเหตุการณ์แล้วคงไม่ใช่แค่ออกไปดื่มอย่างเดียวแน่นอน
พอชายหนุ่มออกมาจากห้องทำงานเธอก็บอกเขาว่าเมื่อกี้มีสายโทรเข้ามา แต่เธอไม่ได้รับเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัว
กวีวัธน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากนั้นเขาก็กดโทรออก แต่แทนที่จะเดินไปคุยที่อื่นเขากลับเดินมานั่งใกล้ๆ พราวรวีกำลังจะเบาเสียงเพลงที่เปิดไว้ แต่เขาก็ยกมือบอกว่าไม่เป็นไร
เธอพยายามเงี่ยหูฟังก็จับใจความได้ว่า เขาจะไม่ออกไปไหนทั้งนั้นเพราะตอนนี้เขากำลังอยู่เพื่อนผู้หญิง แม้จะรู้สถานะของตัวเองดีแต่ก็รู้สึกดีใจที่กวีวัธน์ไม่ออกไปกับเพื่อน
“ฉันไม่ได้บังคับให้คุณอยู่ด้วยนะคะ จะออกไปก็ได้” เธอรีบบอกหลังจากเขาวงสายไปแล้ว
“ไม่ล่ะ ผมบอกแล้วระหว่างนี้จะมีแค่คุณ แล้ววันนี้มันก็เป็นวันหยุด ผมอยากใช้เวลากับคุณให้เต็มที่ สัปดาห์หน้างานผมคงยุ่งมาก บางทีอาจไม่มีเวลาให้คุณอย่างเคย”
“ถ้ายุ่งมาก ไม่ต้องกลับมาค้างที่นี่ก็ได้นะคะ”
“งานยุ่งก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำงานตลอดเวลานี่ครับ กลับมานอนกอดคุณพอเช้าก็มีแรงไปทำงานต่อ”
“ท่าทางงานคุณเครียดมากเลยนะคะ ดูสิคิ้วติดกันแล้ว” เธอเอื้อมมือไปนวดบริเวณหัวคิ้วเหมือนที่เคยนวดให้ตัวเองเวลาเครียดๆ
“ถ้าอยากนวดก็ต้องนั่งแบบนี้” เขาคว้าให้เธอไปคร่อมอยู่บนตักอย่างรวดเร็ว
พราวรวีใจเต้นแรงกับท่าทางอันล่อแหลม เธอนั่งตัวเกร็งพลางใช้สองนิ้วกดไปบนหัวคิ้ว ขณะที่เขาหลับตาพิงกับโซฟาอย่างผ่อนคลาย
หญิงสาวนั่งมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่ตรงหน้า สองมือก็นวดไปตามขมับและเรื่อยลงมาที่ไหล่หนา
“ดีจัง นวดเก่งเหมือนกันนะครับ”
คนพูดยังคงหลับตาอยู่ ทำให้พราวรวีใช้โอกาสนี้สำรวจใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจนกว่าครั้งไหน ยิ่งมองใกล้ก็ยิ่งก็ยิ่งรู้สึกดี บางทีเธอคิดว่าตอนนี้ตัวเองแอบชอบเขาไปแล้วหรือเปล่า ชอบที่เขาหน้าตาดี ชอบที่นิสัยเรียบง่ายไม่เรื่องมาก หรือชอบเวลาที่อยู่บนเตียงกับเขากันแน่ คิดแล้วก็ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
“แอบมองแบบนี้คิดอะไรกับผมหรือเปล่า” จู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมาจนเธอต้องรีบเบนหน้าไปทางอื่น
“ใครจะคิดอะไรกันล่ะ” เธอเถียงแต่ยังไม่กล้ามองหน้าเขาตรง
เห็นท่าทางของพราวรวีแล้วกวีวัธน์ก็ยิ้ม เธอนั่งอยู่บนตัวเขา ใกล้ชิดกันขนาดนี้จะถ้าไม่คิดอะไรก็คงแปลก ขนาดเขายังรู้สึกเลยว่าร่างกายของตัวเองกำลังร้อนขึ้นทีละนิด
ไม่รู้ว่าพราวรวีมีมนตร์วิเศษอะไรถึงทำให้เขาตื่นตัวได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ได้กลิ่นหอมที่ออกมาจากเรือนผมและร่างกายของเธอ กวีวัธน์ก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกเพลิงราคะเผาไหม้ทีละนิด
“จะว่าอะไรไหมคะ ถ้าเรื่องหน้าฉันจะเขียนให้พระเอกนิยายหล่อเหมือนคุณ” มือเรียววาดไปตามสันกรามอย่างแผ่วเบา
“แล้วคุณจะเป็นนางเอกด้วยไหมล่ะครับ”
“ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ว่านางเอกจะเป็นแบบไหน แล้วคุณอยากให้เป็นแบบไหนล่ะคะ”
“อยากได้คุณ”
“อยากได้แบบฉันเหรอคะ”
“เรื่องนิยายผมไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ ผมรู้แค่ตอนนี้ผมอยากได้คุณ” เขาเน้นคำอย่างชัดเจน
จากนั้นฝ่ามือใหญ่ก็รั้งท้ายทอยคนที่นั่งคร่อมอยู่ให้เข้ามาใกล้ เอียงใบหน้าเล็กน้อย แล้วจูบลงมายังริมฝีปากอิ่ม จังหวะที่เธอกำลังจะพูด คนตัวโตก็เลยสบโอกาสส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากพอดิบพอดี
ทันทีที่ปากลิ้นสัมผัสกันทั้งสองก็ขยับร่างกายเบียดเขาหากันและกันอย่างคนคุ้นเคย เสียงจูบแลกลิ้นดังขึ้นท่ามกลางเสียงเพลงคลอเบาๆ ความต้องการของร่างกายยากที่จะหักห้าม ยิ่งเขาจูบเร่าร้อนสะโพกกลมกลึงก็ขยับเบียดยิ่งขึ้น
พราวรวีรู้สึกว่าท่อนล่างของเขามันกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนเธอเองก็รู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วร่าง รู้สึกว่าความเป็นหญิงของตนเองกำลังตอดตุบและกำลังรอคอยบางอย่างจากเขาจนแทบจะทนรอไม่ไหว
สัญชาตญาณดิบที่อยู่ในกายของคนทั้งสองต่างเปิดเผยออกมา ปากจูบร้อนแรง ปลุกเร้าอารมณ์แห่งตัณหา เสื้อผ้าถูกถอดออกโยนทิ้งอย่างไม่ไยดี
ริมฝีปากร้อนเลื่อนจากเรียวปากอิ่มมายังซอกคอขาว ขบเม้มสร้างความเสียวซ่านจนเธอแอ่นร่างเข้าหา ปากร้อนพรมจูบไปทั่วเนินอก ก่อนจะครอบครองด้วยความกระหาย อีกมือก็บีบเคล้นหนักเบาไปตามแรงปรารถนา
นิ้วร้ายกรีดยางกลางกลับกุหลาบ แทรกเขาไปในโพรงถ้ำที่ฉ่ำเยิ้ม
“อ๊ะ!”
หญิงสาวตกใจแต่ไม่คิดจะขยับหนี สะโพกร่อนรับสัมผัสจากนิ้วยาวอย่างโหยหา
“คุณร้อนแรงขึ้นทุกวันแบบนี้ ผมคงไปไหนไม่รอดแน่”
พราวรวียิ้มมุมปาก ทุกอย่างที่ทำก็เพื่อมัดใจเขา อยากให้เขามีความสุข และแอบหวังว่าครบสัญญาแล้วเขาจะไม่จากไปไหน
“คุณวัธน์ อื้อ...”
สะโพกขยับเข้าหามือร้อน ปลายนิ้วโป้งกดนวดเกสร ส่วนนิ้วกลางก็ปลุกเร้ากระตุ้นด้านในโพรงถ้ำ
หญิงสาวแทบจะสุขสมเพียงแค่นิ้วมือ แต่เธอไม่ได้ต้องการแค่นั้น และอีกคนก็เหมือนจะรู้ความต้องการของเธอดี
“ยกตัวขึ้นนิดนะครับ”
เขากระซิบพร้อมจับเอวคอดยกขึ้น สอดท่อนเอ็นร้อนที่ตั้งตระหง่านไปยังโพรงถ้ำ สองมือพยุงให้เธอครอบลงมาทีละนิด
“อื้อ..คุณวัธน์”
หญิงสาวจับไหล่เขาแน่นขึ้น รู้สึกคับแน่นและจุก ใบหน้าหวานเหยเก เหงื่อผุดขึ้นตามไรผม
“พราวครับ มันแน่นมาก อีกนิดนะครับที่รัก อดทนอีกนิด”
เพียงได้ยินคำว่าที่รักหลุดออกจากปาก เธอก็เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก ความเจ็บจุกเมื่อครู่แทบไม่มีหลงเหลือ สะโพกกลมกลึงครอบครองความเป็นชายลงมาจนสุด
“อ้าส์”
“เก่งมากครับ ยังเจ็บอยู่ไหม”
เขากัดฟันถาม เพราะตอนนี้รู้สึกว่าความอ่อนนุ่มกำลังบีบรัดจนปวดร้าวไปทั้งแก่นกาย
เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ลองขยับดูนะที่รัก ขยับแบบที่คุณต้องการเลย”
พราวรวีทำตามที่เขาบอก พอขยับไปได้สักพักก็รู้สึกที่ตัวเองเป็นคนคุมเกม
“แบบนี้ดีไหมคะคุณวัธน์”
เธอหันมาถามพลางกดสะโพกบดเบียน หมุนวนและโยกขยับอย่างที่เคยศึกษาเรื่องพวกนี้จากคลิป
“ดีมากครับ อ่าส์.. แบบนั้นแหละคนเก่งของผม มันดีมาก พราว อื้อ...คนเก่ง พราว..”
หญิงสาวชอบฟังเสียงของเขายามนี้ที่สุด ยิ่งเขาเรียกชื่อเธอก็ยิ่งขยับเร็วขึ้นจนร่างกายร้อนรุ่ม ความต้องการกำลังพุ่งถึงขีดสุด
“คุณวัธน์ขา ช่วยพราวด้วย พราวจะไม่ไหวแล้ว อื้อ...”
กวีวัธน์จับเอวคอดยกขึ้นจนแก่นกายเกือบหลุดจากนั้นก็กดลงมาพร้อมกับสวนสะโพกขึ้น
“แบบนี้ใช่ไหมครับ พราวของผมชอบแบบนี้ใช้ไหม”
เสียงหวานครางแทบไม่เป็นภาษา เธอกอดแน่นในจังหวะกระแทกเสยครั้งสุดท้าย ร่างกายกระตุกเกร็ง หอบเหนื่อยซบลงกับไหล่หนา
“อ้าห์....”
ชายหนุ่มแทบทนไหวกับช่องทางที่บีบรัด เขาลุกขึ้นจับเธอนอนราบไปกับความยาวของโซฟา จากนั้นก็ถาโถมเข้าลึกแรงอย่างบ้าคลั่ง
“พราว ดีมากรัดแบบนั้น ดีมาก เก่งมาก เสียวที่สุดครับที่รัก อื้อ อ่าส์...”
ชายหนุ่มสุขสมอย่างรุนแรง ท่อนเอ็นกระตุกพ่นน้ำรักออกมาจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งท้องน้อย
เขาทรุดใบหน้าลงบนอกอวบ กอดเธอไว้แน่น รอจนช่องทางรักคลายตัวก็อุ้มเข้าไปในห้องนอนกว้าง บทเพลงรักเร่าร้อนเริ่มบรรเลงอีกครั้งและอีกครั้งจนอ่อนแรงหลับลงไปด้วยกันทั้งคู่