ตอนที่ 12 ฉันไม่ได้บังคับนะคะ
จักรยานยนต์จอดหน้ารั้ว คนตัวโตก็เดินไปเปิดอย่างรู้งาน พอล็อกประตูเสร็จก็เดินตามเข้ามาในบ้านหลักเล็กอย่างคุ้นเคย
“ผมค้างที่นี่ได้ใช่ไหม”
“ถามจริงหรือแค่ถามเป็นมารยาทคะ ฉันเห็นคุณเอากระเป๋ามาแล้ว”
กวีวัธน์หัวเราะเมื่อหญิงสาวพูดอย่างรู้ทัน เขารีบเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเก็บในห้องนอน จัดการแขวนชุดตัวเองในตู้เสื้อผ้าอีกฝั่งที่ยังพอมีพื้นที่ว่างจากนั้นอาบน้ำจนรู้สึกสดชื่นก็ออกมาหาเจ้าของบ้านที่ห้องรับแขก
“อ่านอะไรอยู่เหรอครับ” ชายหนุ่มยื่นหน้าเขามาใกล้จนได้กลิ่นครีมอาบน้ำที่เธอใช้ประจำ
“ห้ามดูนะคะ” หญิงสาวรีบถอยห่างพร้อมเก็บเอกสารในมือเข้าแฟ้ม
“ความลับเหรอครับ”
“ประมาณนั้นค่ะ”
“มันจะเป็นความลับได้ยังไง อีกหน่อยคุณก็ต้องพิมพ์ออกมาขายมาใช่เหรอครับ”
“ไม่ใช่นิยายค่ะ มีงานอื่นนิดหน่อย”
“อ้อ” เขาพยักหน้าบอกว่าตัวเองเข้าใจ
“ปกตินอนดึกไหม”
“ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ”
กวีวัธน์มองนาฬิกาที่ผนังเห็นว่ายังเหลือเวลาอีกเกือบสองชั่วโมง
“ผมขอนั่งทำงานได้ไหม ถ้าคุณจะนอนก็บอกผมนะ” เขาหยิบโน้ตบุ๊กออกมากางและทำท่าจะนั่งทำบนโซฟา
“ไปนั่งทำในห้องทำงานฉันก็ได้”
“แล้วคุณล่ะ”
“ฉันชอบนั่งตรงนี้มากกว่า” เพราะพื้นพรมหน้าทีวีมันอุ่นและนุ่มจนเธอไม่อยากลุกไปไหน
“ขอบคุณนะครับ”
ชายหนุ่มเดินไปยังห้องทำงานที่เธอบอก เขาเคยเข้ามาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อคืนก่อน แต่ตอนนั้นทั้งห้องมืดสนิท พอได้มีโอกาสเข้ามาอีกครั้งก็สำรวจไปทั้งห้อง
ขนาดของห้องนี้เล็กกว่าห้องนอนอยู่มาก ผนังด้านหนึ่งเป็นตู้หนังสือที่มีผลงานของเจ้าของบ้านและนักเขียนคนอื่นอยู่เต็มตู้ ถัดออกไปเป็นตู้โชว์ขนาดเล็กด้านในเป็นรูปถ่ายและถ้วยรางวัลตั้งแต่สมัยที่เธอยังเรียนหนังสือ กวีวัธน์มองรูปถ่ายวัยเด็กแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ ใบหน้าของเธอสวยหวานมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่เปลี่ยนไปมากนัก
เขานั่งทำงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็รู้สึกปั่นป่วนท้อง แต่ก็ยังฝืนทำงานต่อจนเสร็จ พอเดินออกมาจากห้องก็เห็นคนตัวเล็กยังคงนั้นอ่านเอกสารแผ่นเดิมด้วยใบหน้าเครียด
“งานมันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“ก็ประมาณหนึ่งค่ะ ฉันไม่ค่อยได้ทำงานแบบนี้ก็เลยต้องเตรียมตัวมากหน่อย แล้วคุณทำงานเสร็จแล้วเหรอคะ”
“ครับ”
กวีวัธน์ทรุดตัวนั่งอีกด้านหนึ่งของโซฟา ใบหน้าหล่อเหลาซีดลงเล็กน้อย
“คุณไม่สบายหรือเปล่าคะ ทำไมหน้าซีดจัง”
“อืดท้องนิดหน่อยครับ เมื่อกี้หิวมากกินเยอะไปนิด”
“นั้นไง กะแล้ว กินเข้าไปได้ยังไงตั้งสองชาม”
“มันอร่อยด้วยหิวด้วย ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรเลย”
“เฮ้อ” เจ้าของบ้านถอนหายใจ พลางลุกไปเตรียมยาลดกรดมาส่งให้เขา
“อะไรครับ”
“ยาลดกรด”
“คุณมียาพวกนี้ติดบ้านด้วยเหรอครับ”
“ไม่มีหรอกค่ะ เพิ่งไปซื้อมาตอนที่เห็นคุณกินชามที่สองนั่นแหละ”
“น่าอายจังนะครับ” เขาหัวเราะ ก่อนจะหยิบแก้วที่มีน้ำฟองฟู่สีส้มมาดื่ม
หลังจากทานยาได้สักครู่ก็รู้สึกดีขึ้น ชายหนุ่มเห็นว่าตอนนี้พราวรวีตาปรือจนแทบจะปิดก็เลยบอกให้เธอไปนอน
“ผมขอนอนในห้องได้ไหม สัญญาเลยจะนอนนิ่งไม่รบกวนคุณ”
“ถ้าบอกไม่ได้ล่ะคะ”
“ผมรู้ว่าคุณไม่ใจร้ายหรอก แล้วจะกลัวอะไรคุณบอกเองนี่ว่าช่วงนี้เป็นรอบเดือน”
ชายหนุ่มเดินตามเธอมายังห้องนอน ล้มตัวลงนอนก่อนเจ้าของห้องด้วยซ้ำ เขาเว้นที่ว่างให้เธอเพียงนิด พอหญิงสาวล้มตัวลงนอนก็รีบขยับเข้ามาจนชิด
“ไหนว่าจะนอนนิ่งๆ ไงคะ”
“ก็แค่กอดเอง นอนกอดกันแบบนี้อบอุ่นดีออก”
พราวรวีไม่เถียงเพราะเธอเองก็รู้สึกดีและอบอุ่นเวลาที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา นอนไปสักพักทั้งคู่ก็พากันหลับลงอย่างง่ายดาย
เช้าวันใหม่ทุกอย่างก็เหมือนเดิม หญิงสาวตื่นก่อนเขา อาบน้ำเสร็จก็มานั่งทำงาน พอเขาตื่นก็เข้าครัวชงกาแฟให้ตัวเองและเจ้าของบ้าน
“วันนี้ไม่มีแซนด์วิชนะคะ มีคุกกี้อยู่ในตู้ค่ะ” เธอตะโกนบอกโดยไม่ได้สนใจเขา เพราะตอนนี้สมองกำลังไหลลื่น มือกำลังรัวไปบนแป้นคีย์บอร์ดเป็นระวิง
“กลางวันนี้คุณกินข้าวบ้างหรือเปล่า” เขาวางแก้วกาแฟและจานเล็กๆ ใส่คุกกี้วางให้เธอได้หยิบทานได้อย่างสะดวก
“ค่ะ” เธอตอบแต่สายตายังจ้องไปที่หน้าจอ
“สั่งมากินที่บ้านเหรอ”
“ส่วนใหญ่จะสั่งมาค่ะ แต่ถ้าต้องออกไปร้านหรือไปซื้อของก็จะกินก่อนเข้าบ้าน ถามทำไมคะ คงไม่กลับมากินข้าวกลางวันกับฉันหรอกนะคะ”
“ผมไม่ได้ว่างขนาดนั้นก็แค่กลัวคุณทำงานเพลินจนลืมกินข้าว”
“ไม่ลืมหรอกค่ะ ไม่เกินเที่ยงท้องฉันก็ร้องประท้วงแล้วค่ะ” เธอตอบแบบไม่อายเพราะเรื่องกินคือเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่งของเธอเลยทีเดียว
กวีวัธน์หงุดหงิดที่เธอเอาแต่นั่งทำงานโดยมาสนใจเขาเลยสักนิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะที่ตกลงกันมันก็แค่คู่นอน
“ผมไปทำงานก่อนนะครับ”
“เย็นนี้จะกลับมากินข้าวไหม” หญิงสาวเงยหน้ามาถาม
“ผมจะโทรบอกก่อนบ่ายสามนะครับ” ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นที่เธอยังสนใจถามว่าเขาจะมาทานอาหารเย็นด้วยหรือเปล่า
“ค่ะ ฉันไม่ได้บังคับนะคะ แค่ถาม”
“ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ไปนะครับ เดี๋ยวผมล็อกประตูรั้วให้เลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ” พราวรวีส่งยิ้มสดใสให้คนตัวโต อีกคนก็ยิ้มตอบ ความรู้สึกที่ได้คุยกับใครสักคนในตอนเช้ามันดีกว่าที่คิดไว้มาก
หลายวันมานี้กวีวัธน์กลับมาทานอาหารเย็นกับเธอทุกวัน บางวันเขาก็โทรมาบอกว่าจะซื้อเข้ามา บางวันเธอก็โทรไปถามว่าเขาจะเข้ามาไหมแล้วก็สั่งอาหารเย็นไว้รอ ความสัมพันธ์ตอนนี้ไม่มีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย กลางคืนก็แค่นอนหลับไปในอ้อมกอดของอีกฝ่าย ตอนเช้าก็ดื่มกาแฟและทานอาหารง่ายๆ ด้วยกัน เพียงแค่นี้กวีวัธน์กลับรู้สึกว่าตัวเองมีความสุข
“พราว เย็นนี้ผมไม่กลับมานะครับ”
“ค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าจากหน้าจอ ใจอยากถามว่าเพราะอะไรแต่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ไปถามแบบนั้น
การที่เขามานอนด้วยและทานอาหารด้วยทุกวันทำให้เธอเริ่มชินกับการมีเขา โดยที่ลืมไปว่าเขากับเธอตกลงเป็นแค่คู่นอนเท่านั้น
“ไม่ถามเหรอครับว่าทำไม”
“ถ้าคุณอยากให้รู้ก็คงบอกเองใช่ไหมคะ”
“ผมนัดดื่มกับเพื่อนครับ คงดึกอย่างเคยไม่อยากกลับมารบกวน”
“ตามสบายเลยค่ะ คุณก็รู้ว่าเราสองคนไม่จำเป็นต้องคอยรายงานว่าไปทำอะไรที่ไหน”
“ผมนึกว่าคุณจะห่วงผม”
“คุณโตแล้วนะคะ มีอะไรต้องห่วงกัน”
“งั้นผมไปนะ”
“ค่ะ ถ้าเมาก็อย่าขับรถนะคะ”
“ครับ” กวีวัธน์ยิ้มกว้างอย่างน้อยเธอก็ยังเป็นห่วงเขา
ไม่รู้ว่าตัวเองจะหวังให้เธอห่วงทำไม ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลยสักนิด
หลังเลิกงานออกจากบริษัทกวีวัธน์ก็ตรงไปยังบาร์ประจำที่นัดเพื่อนไว้ เขามาถึงเป็นคนสุดท้ายเพราะมีงานที่ต้องเคลียร์ก่อนจะหยุดในวันเสาร์
“มาแล้วพระเอกของเรา” ฐากูรทักทายเป็นคนแรกเมื่อเห็นเขาเดินขึ้นมายังชั้นสองของบาร์อันเป็นที่นั่งประจำของพวกเขาทุกเย็นวันศุกร์
กวีวัธน์นั่งดื่มกับเพื่อนท่ามกลางสาวสายที่มาคอยบริการ แต่เขากลับไม่สนใจเลยสักคน ในสมองของเขาตอนนี้คิดถึงแต่เรือนร่างเย้ายวนของพราวรวีจนแทบอยากจะขอตัวกลับ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าถ้ากลับไปแล้วตัวเองจะได้ปลดปล่อยไหม หลายวันมานี้เขาพยายามอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ากำลังจะอดทนรอไม่ไหว
“อิศ ถามหน่อยสิผู้หญิงเขามีรอบเดือนกันกี่วัน”
“ก็ 3-7 วัน แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เกิน 5 วันหรอก”
“อย่าบอกนะว่าสาวที่คั่วอยู่ติดไฟแดง” ภากรที่แอบฟังอยู่พูดขึ้น
“อือ นอนกอดอย่างเดียวมาหลายวันแล้ว”
“งั้นคืนนี้ก็จัดไปสักคนสิ” ภากรกระซิบ
“ไม่ดีกว่าสัญญากับเขาไว้แล้วว่าช่วงนี้จะมีแค่เขา”
“ไหนว่าแค่คู่นอนแล้วทำไมกลัวเขาขนาดนั้น”
“ไม่ได้กลัว แต่ไม่อยากผิดคำพูด”
“ช่วงนี้เพื่อนเราเป็นคนดีจังนะครับ” ฐากูรได้ทีก็ประชด เขารู้สึกว่าเพื่อนแปลกไป เพราะตอนที่มีแฟนยังแอบหิ้วผู้หญิงกลับไปนอนด้วยเวลาที่แฟนตัวเองไม่อยู่
กวีวัธน์เริ่มลังเลว่าคืนนี้เขาจะพาผู้หญิงกลับไปสักคนดีไหม แล้วคนที่พาไปด้วยจะทำให้เขามีความสุขเหมือนพราวรวีหรือเปล่า แต่พอคิดไปคิดมาก็ไม่อยากผิดสัญญาที่ให้ไว้ ไม่ใช่เพราะกลัวเธอโกรธที่รู้ว่าเขาทำผิดสัญญาแต่เพราะกลัวไปนอนกับคนอื่นแล้วไม่มีความสุขต่างหาก