ตอนที่ 10 แปลกแต่ดี
พราวรวีรู้สึกปวดร้าวไปทั่วทั้งตัว เธอพยายามฝืนลุกขึ้นมาอย่างเงียบที่สุด อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโตอย่างเคย หญิงสาวเอาชุดที่กวีวัธน์ใส่ไว้ในตะกร้าเข้าเครื่องปั่น จากนั้นก็นั่งเขียนนิยายต่อ เพราะใช้พลังงานไปมากเช้านี้เธอเลยไม่มีแรงฝึกโยคะ
“คุณตื่นเช้าจัง” ชายหนุ่มเดินงัวเงียออกมาจากห้องนอน เขาสวมเพียงผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวเพราะชุดของตัวเองทิ้งไว้ห้องรับแขกตั้งแต่เมื่อคืน
พราวรวีเงยหน้ามองแล้วก็ต้องรีบหลบเพราะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นร่างกายของเขาชัดเจนแบบนี้
รูปร่างของเขาไม่ได้บึกบึนอย่างคนออกกำลังกายอย่างหนักหรือคนที่ชอบเล่นกล้าม แต่มันดูลีนและสุขภาพดีจนเธออดชื่นชมไม่ได้ ไหล่กว้าง สะโพกสอบ ช่วงลำตัวมีกล้ามแค่เล็กน้อย ใบหน้าหวานร้อนผ่าวเมื่อคิดว่าถ้าได้เอื้อมมือไปสัมผัสจะให้ความรู้สึกแบบไหน
“ไปแต่งตัวก่อนไหม มาเดินโป๊อยู่กลางบ้านแบบนี้ได้ยังไง” หญิงสาวรีบปราบ
“ก็ผมออกมาเอาชุด จำได้ว่าเมื่อคืนถอดทิ้งไว้แถวโซฟา”
“ฉันเอาไปแขวนไว้ในห้องน้ำ ส่วนชุดที่เปียกกำลังอบอยู่เดี๋ยวคงเสร็จ คุณจะไปอาบน้ำรอเลยก็ได้ ถ้าเสร็จแล้วจะเอาไปแขวนไว้ให้”
“ขอบคุณครับ”
เสียงเตือนจากเครื่องซักและอบผ้าอัตโนมัติดังขึ้นพอดี พราวรวีหยิบกางเกงกับเสื้อเชิ้ตออกมารีด จากนั้นก็เอาไปแขวนไว้หน้าตู้เสื้อผ้าในห้องนอน ส่วนชั้นในเธอจะรอให้เขามาหยิบไปเอง
ชายหนุ่มสวมเชิ้ตสีขาวตัวเดิม ก่อนจะออกมาจากห้องนอน
“คุณเห็นกางเกงในผมไหม”
“ในเครื่องไปหยิบเอง ไม่ต้องมองแบบนั้นเลย ตอนซักฉันเทไปทั้งตะกร้าไม่ได้จับของคุณเลยสักนิด”
“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย แต่ถึงคุณจะจับก็ไม่เห็นเป็นไรมันก็แค่เสื้อผ้า หรือคุณคิดอย่างอื่น” เมื่อเห็นเธออายเขาก็อยากแกล้ง
“ฉันไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ รีบไปแต่งตัวได้แล้ว”
กวีวัธน์หัวเราะร่วนก่อนจะรีบไปเอาชั้นในของตัวเองและกลับเข้าห้องนอนเพื่อเข้าไปแต่งตัวอีกครั้ง
แม้จะแปลกไปบ้างที่ตื่นมาตอนเช้าแล้ววุ่นวายกับการหาเสื้อผ้า แต่กลับรู้สึกดีจนอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน
ออกมาจากห้องนอนพราวรวีก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เขาเห็นเธอขะมักเขม้นกับการทำงานก็เลยไม่อยากรบกวน ชายหนุ่มเดินเข้าไปในห้องครัว ชงกาแฟสำหรับตัวเองหนึ่งแก้วแล้วตะโกนถามอีกคนว่าชอบดื่มแบบไหน
จากนั้นกาแฟหอมกรุ่นก็มาวางตรงหน้าพร้อมทั้งแซนด์วิชที่เขาเอาออกมาจากตู้เย็น เหมือนว่าที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง แต่เมื่อเห็นเขาทำตัวเป็นกันเองแบบนี้เธอก็เลยไม่รู้สึกอึดอัด สิ่งที่กวีวัธน์ทำไม่เหมือนกับนิยายของเธอเลยสักนิด เพราะในนิยายพระเอกหรือไม่ก็นางเอกคนใดคนหนึ่งต้องทำอาหารเช้าไว้รออีกคน แต่เพราะเธอกับเขาไม่ใช่พระเอกนางเอก ทุกอย่างเลยดูง่ายๆ สบายๆ
“ขอบคุณนะคะ” เธอยกกาแฟขึ้นมาจิบ สายตาก็ยังมองไปที่หน้าจออย่างเคย
“คุณพิมพ์นิยายทุกวันไม่เบื่อเหรอ” เขาชวนคุย พลางนั่งลงบนโซฟาอย่างผ่อนคลาย
“มันงานของฉันนี่คะ” เธอชินแล้วกับการอยู่แบบนี้ และนึกภาพตัวเองไปทำงานอื่นไม่ออก
“ผมขอถามหน่อยได้ไหม คุณอาจไม่ชอบคำถามของผมเท่าไหร่ ผมต้องขอโทษไว้ก่อนเลยถ้าคุณจะไม่พอใจ”
“ถามมาสิคะ ถ้าตอบได้ก็จะตอบ”
“รายได้จากการเขียนมันพอเลี้ยงชีพใช่ไหมครับ” เพราะเขาเห็นเธอใช้ชีวิตแบบไม่ลำบาก มีบ้าน มีรถและเท่าที่ดูของใช้บางอย่างของเธอก็เป็นแบรนด์เนม
“ก็พอค่ะ ฉันหาเงินจากการเขียนตั้งแต่สมัยเรียนแล้วค่ะ มีแฟนคลับที่คอยสนับสนุนอยู่ พองานออกมาก็เลยขายได้เรื่อยๆ”
“นอกจากงานเขียนแล้วมีงานอย่างอื่นไหมครับ”
“ก็มีงานแปลหนังสือบ้าง แปลเอกสารสัญญาบ้างแล้วว่าใครจะจ้าง แล้วฉันก็ต้องดูแลร้านเครื่องเขียนกับหอพักอีกด้วยค่ะ” ไม่รู้เพราะอะไรเธอจึงบอกเขาทุกเรื่องอย่างไม่มีปิดบัง
“เก่งนะครับ ทำตั้งหลายอย่างเลย”
“ไม่รู้เรียกว่าเก่งไหม แต่ทุกอย่างฉันก็ทำอย่างเต็มที่ หาเงินตอนที่มีแรง พอแก่ไปจะได้ไม่ลำบากค่ะ”
“อายุเท่าไหร่กันเชียวคิดถึงเรื่องแก่แล้วเหรอครับ”
“มันก็ต้องเตรียมตัวไว้ แล้วคุณละ เอาแต่นั่งถามฉัน ไม่รีบไปทำงานเหรอคะ” หญิงสาวมองเวลาที่มุมจอโน้ตบุ๊กซึ่งเลยเวลาเคารพธงชาติมาแล้วเกือบสิบนาที
“ผมเข้างานเก้าโมงครับ” เขานั่งจิบกาแฟอย่างใจเย็น
“แล้วไม่รีบไปล่ะคะ เดี๋ยวรถก็ติดหรอกคุณ”
“นั่นสิ ไม่รู้ว่าจากตรงนี้ไปบริษัทจะใช้เวลานานไหม งั้นผมไปก่อนนะ ฝากล้างแก้วกาแฟด้วยนะครับ” เขาเพิ่งนึกออกว่าจากบ้านของเธอไปบริษัทมันไกลกว่าบ้านตัวเองอยู่นับสิบกิโล
“ค่ะ ไม่ไปส่งนะคะ ขี้เกียจลุก” เพราะเขาไม่ใช่แฟน ไม่ใช่คนรักเธอจึงไม่ต้องคอยเอาใจ
“ลุกมาปิดรั้วหน่อยดีไหม ผมเห็นคุณเปิดไว้ตลอดไม่กลัวเหรอครับ”
“เดี๋ยวสักพักฉันก็ออกไปซื้อของแล้ว เปิดไว้คงไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“ผมก็แค่เป็นห่วง ไปนะครับ”
“ขอบคุณนะคะ” เธอยิ้ม รู้สึกดีที่เขาบอกว่าเป็นห่วงแต่เขาก็คงพูดไปตามมารยาทเท่านั้น
พราวรวีนั่งทำงานต่ออีกเกือบชั่วโมง จนงานเสร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ก็ออกมาจากบ้าน ตรงไปยังร้านเครื่องเขียน ตรวจสอบรายการสั่งซื้อของเพิ่ม จากนั้นแวะไปทักทายน้าแก้วตา แล้วก็ตรงไปซื้อของยังห้างสรรพสินค้าใกล้บ้าน
หญิงสาวเดินซื้อของตามรายการสินค้าที่จดไว้ในมือถือ พอได้ครบก็เอาไปเก็บที่รถ ก่อนจะกลับเข้ามาอีกครั้ง เธอเดินวนอยู่บริเวณชั้นสี่ของห้าง ขณะกำลังคิดว่าเที่ยงนี้จะทานอะไรดีเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ว่าไงนิ ว่างเหรอจ๊ะถึงได้โทรมาหาเพื่อนกลางวันแบบนี้” พราวรวีกรอกเสียงไปตามสาย
“ใครจะว่างแต่มีเงินเข้ากระเป๋าตลอดเหมือนพราวล่ะ นิโทรมาขอความช่วยเหลือนิดหน่อย”
“พูดอะไรผิดหรือเปล่า อย่างนิจะมาขอความช่วยเหลือพราว ตลกใหญ่แล้ว”
“จริงๆ นะพราว นิมีงานด้วย อยากให้พราวช่วยมาเป็นล่ามให้หน่อย”
“นิก็เก่งภาษานี่ได้ไม่เห็นต้องพึ่งพราวเลย” เพราะรู้ว่าณิชามนนั้นเก่งกว่าตัวเองหลายเท่า
“งานนี้ต้องใช้ล่ามสองคน จะได้ช่วยกัน แล้วนิก็ไม่รู้จะหาใครที่ทำงานเข้าขากับนิได้ดีเท่าพราวอีกแล้ว”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ งานอะไร”
“ลูกค้าชาวจีน จะทำสัญญาซื้อบ้านทีเดียว 30 หลัง เลยต้องละเอียดหน่อย”
“เขาไม่มีล่ามมาเหรอ”
“ก็มีนะ แต่ทางเราก็อยากเตรียมไปเองด้วย แล้วพราวก็ได้ทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ พราวต้องช่วยนิได้เยอะแน่ๆ”
“ด่วนไหม พราวต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง”
“ต้นเดือนหน้า นิจะส่งสัญญาเก่า ให้พราวดูก่อนจะได้เตรียมตัว ที่นิให้พราวช่วยเพราะเอกสารสัญญามันสำคัญกับบริษัทเจ้านายย้ำว่าต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้ ถ้าใกล้ถึงวันนัดสัญญาฉบับใหม่นิจะส่งให้”
“แล้วเจ้านายนิ เขาพูดจีนไม่ได้เหรอ”
“ได้ วันนั้นฝ่ายที่ซื้อเขาจะมากันหลายคนก็เลยต้องเตรียมคนฝั่งเราให้พร้อม”
“นิแน่ใจนะว่าพราวจะทำงานนี้ได้”
“แน่ใจสิ ไม่ใช่งานแรกสักหน่อยที่เราทำด้วยกัน”
“นั่นมันนานมาแล้วตั้งแต่นิอยู่บริษัทเล็กๆ แต่นี่มันบริษัทใหญ่เลยนะ”
“ไม่ต้องกังวลหรอกน่า พราวมีความสามารถนิเชื่อใจ”
“ถ้านิเชื่อใจพราวก็ตกลง ช่วงนี้พราวจะเตรียมตัวให้พร้อม”
“น่ารักที่สุดเลยเดี๋ยวนิส่งรายละเอียดไปทางอีเมลนะ ตอนนี้ขอตัวไปทำงานต่อล่ะ”
“จ้า”
นานแล้วที่พราวรวีไม่ได้ทำงานอย่างเป็นทางการ หญิงสาวเลยต้องเตรียมซื้อชุดใหม่ เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องมาขายหน้าถ้าเธอจะแต่งตัวในแบบเดิมๆ
หญิงสาวเลือกสูทเข้ารูปสีเขียวมิ้นต์ กางเกงห้าส่วน ดูทันสมัยด้านในเป็นเสื้อสีขาวผ้าแต่งลายลูกไม้ช่วงอกนิดหน่อย ไม่ได้เป็นทางการมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไป
เธอส่งรูปชุดให้กับณิชามนดูเพื่อขอความคิดเห็น เมื่อเพื่อบอกว่าสวยเธอก็จัดการชำระเงิน ณิชามนยังบอกอีกว่าให้เก็บใบเสร็จค่าชุดไว้เพราะเธอจะเอาไปทำเรื่องเบิกเงินให้ ก่อนจะตรงไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ที่สุดเพราะตอนนี้หิวจนตาลายไปหมดแล้ว
สลัดปลาแซลมอน เห็ดออรินจิผัดเนยและสไปซี่แซลมอนมากิ หายเข้าไปในกระเพาะของหญิงสาวภายในพริบตา
ขณะกำลังจะชำระเงินสายตาก็เหลือบไปครอบครัวน่ารักครอบครัวหนึ่ง ผู้หญิงดูอายุไม่มากบางทีอาจจะอายุน้อยกว่าเธอด้วยซ้ำ เธอมากับลูกเล็กและสามี ครอบครัวดูมีความสุข เห็นแล้วก็นึกถึงตัวเองที่จนป่านนี้ก็ยังหาแฟนไม่ได้สักคน มิหนำซ้ำยังเผลอไปมีอะไรกับผู้ชายเพราะความเมาแล้วเขายังถ่ายคลิปเอามาขู่จนต้องยอมเป็นคู่นอนกับเขาถึงสามเดือน
ออกจากห้างพราวรวีก็แวะตรวจเลือดและปรึกษาเรื่องคุมกำเนิดเพราะระหว่างนี้คงเลี่ยงไม่ได้ถ้ากวีวัธน์จะทำเหมือนเมื่อคืนอีก โชคดีที่รอบเดือนเธอมาเมื่อตอนสายของวันนี้ หมอจึงฉีดยาคุมให้เธอได้ทันที และไม่อยากเสียเวลามาอีกรอบหญิงสาวจึงตรวจเลือดไปทีเดียว ส่วนผลค่อยมารับอีกครั้งวันหลัง