แก้วตาดวงใจมาเฟีย 2 เจ้าสมุทร

แก้วตาดวงใจมาเฟีย

ตอนที่2

เจ้าสมุทร

อัครวาณิชสมุทรกรุ๊ป

อัครวาณิชสมุทรกรุ๊ปบริษัทเครื่องมือแพทย์ส่งออกรายใหญ่ระดับต้นๆของประเทศ อัครวาณิชสมุทรกรุ๊ปถูกก่อตั้งได้เพียงแค่ห้าปีแต่สามารถไต่ระดับขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำในการส่งออกเครื่องมือแพทย์ได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียงแค่สามปีก็คงต้องยกความดีให้กับ เจ้าสมุทรประธานกรรมใหญ่และผู้ก่อตั้งอัครวาณิชสมุทรกรุ๊ปที่ทั้งเก่งและฉลาดสามารถพาบริษัทเติบโตขึ้นมาได้จนถึงทุกวันนี้

ภายในห้องทำงานใหญ่สุดหรูของเจ้าสมุทรประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทเจ้าสมุทรกำลังนั่งอ่านเอกสารกองโตตรงหน้าอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

"ขออนุญาตครับนาย"เสียงเคาะประตูห้องทำงานของเจ้าสมุทรดังขึ้นพร้อมกับเสียงของปกป้องลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามาภายในห้อง เจ้าสมุทรละสายตาจากกองเอกสารตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมามองปกป้องลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะทำงานของเขา

"นายครับใกล้ได้เวลานัดแล้วครับ"เสียงทุ้มของปกป้องลูกน้องคนสนิทเอ่ยบอก

"อืม...ให้คิวไปรับลูกแก้วที่มหาลัยด้วย"เจ้าสมุทรเอ่ยบอกก่อนที่จะปิดแฟ้มเอกสาร

"ครับนาย"เจ้าสมุทรพยักหน้าแล้วจึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานและเดินออกจากห้องทำงานโดยมีปกป้องเดินตามอยู่ด้านหลัง

"เรียบร้อยดีไหม?"เจ้าสมุทรเอ่ยถามกับปกป้องขณะที่ยืนอยู่ภายในลิฟต์

"ครับนายผมให้ลูกน้องคนอื่นๆช่วยกันย้ายสินค้าไปเก็บไว้ที่โกดังนอกเมืองแล้วครับ"ปกป้องรายงานเจ้าสมุทรถึงเรื่องที่เจ้าสมุทรสั่งการโดยการให้ย้ายสินค้าอาวุธสงครามออกจากท่าเรือไปเก็บไว้ที่โกดังนอกเมืองเพราะเขาได้รับรายงานว่าตำรวจจะขอเข้าค้นอาวุธสงครามเถื่อนที่ท่าเรือสินค้าของสิบทิศเพื่อนสนิทของเจ้าสมุทร

"อืม"เจ้าสมุทรพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

เบื้องหน้าของเจ้าสมุทรเขาเป็นเพียงแค่นักธุรกิจธรรมดาที่ขาวสะอาดและประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเครื่องมือแพทย์ส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับต้นๆของประเทศอัครวาณิชสมุทรกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เขาสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของตัวเองและไม่ใช่เพียงแค่นั้นเจ้าสมุทรยังรับตำแหน่งประธานกรรมการใหญ่ของโรงพยาบาลอัครวาณิชสมุทรโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่เมฆาผู้เป็นพ่อของเขาเป็นเจ้าของอีกด้วยแต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของเจ้าสมุทรนั้นดำมืด เจ้าสมุทรเป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลมากของในเหล่าแวดวงมาเฟียเขาทำธุรกิจผิดกฎหมายคือค้าอาวุธสงครามเถื่อนทั้งฟอกเงินและธุรกิจใหม่ที่กำลังจะสร้างขึ้นก็คือคาสิโน ทุกๆคนต่างเกรงกลัวในอำนาจของเจ้าสมุทรก็เพราะผลพลอยจากเมฆาผู้เป็นพ่อที่เป็นถึงอดีตมาเฟียใหญ่ที่ใครๆก็ต่างก้มหัวให้เพราะเกรงกลัวอำนาจมันเลยทำให้ทุกๆคนต่างก็เกรงกลัวเกรงใจและไม่กล้าที่จะอยู่วุ่นวายหรือท้าทายอำนาจของเจ้าสมุทรลูกชายอดีตของนายมาเฟียใหญ่อย่างเมฆาแต่ใช่ว่าทุกคนที่จะกลัวในอำนาจของเจ้าสมุทรยังมีอีกหลายคนที่พยายามจะท้าทายเจ้าสมุทรและมักลองดีกับเขาอยู่เสมอแต่ส่วนมากพวกที่กล้าลองดีกับเขามักพบกับจุดจบที่ไม่ค่อยสวยสักเท่าไร

"จัดการให้เรียบร้อย"เจ้าสมุทรบอกกับปกป้องด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขรึม

"ครับนายผมจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด"ปกป้องพยักหน้ารับคำสั่งจากผู้เป็นนายคำว่าจัดการให้เรียบร้อยของเจ้าสมุทรก็คือจัดการพวกที่กล้ามาท้าทายอำนาจและเข้ามาวุ่นวายกับธุรกิจของเจ้าสมุทรแล้วพวกนั้นก็จะได้รู้ว่าการลองดีนั้นจะเจออะไรจากเจ้าสมุทรกลับไปบ้าง

ติ๊ง

เสียงประตูลิฟต์เปิดออกพร้อมกับร่างสูงของเจ้าสมุทรที่ก้าวเท้าเดินออกมาจากลิฟต์พนักงานในบริษัททุกคนที่เห็นว่าท่านประธานบริษัทเดินมาก็ต่างค้อมศีรษะเล็กน้อยเพื่อเป็นการเคารพให้กับเจ้าสมุทรก่อนที่เจ้าสมุทรจะเดินออกจากบริษัทไปพร้อมกับปกป้องลูกน้องคนสนิท

ร้านอาหาร

"สวัสดีครับคุณเจ้าสมุทรคุณสีครามกับคุณสิบทิศรออยู่ด้านในห้องอาหารแล้วครับ"เสียงของผู้จัดการของร้านอาหารเอ่ยบอกพร้อมกับผายมือให้กับลูกค้าวีไอพีอย่างเจ้าสมุทร

"อืม"เจ้าสมุทรพยักหน้าให้กับผู้จัดการก่อนที่ผู้จัดการร้านอาหารจะเดินนำเจ้าสมุทรไปยังด้านในห้องอาหาร

"มาช้าจังวะ?"สีครามถามเจ้าสมุทรในขณะที่เดินเข้ามาในห้องอาหาร

"..."เจ้าสมุทรเงียบไม่ตอบพร้อมกับหย่อนสะโพกนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆกับสิบทิศแล้วยื่นมือไปหยิบแก้วไวน์ที่พนักงานรินให้ขึ้นมาดื่ม

"แค่ตอบคำถามกูมันยากมากหรือไงวะไอ้เจ้าสมุทร?"สีครามถาม

"ไม่ยากแต่กูไม่อยากตอบ"เจ้าสมุทรบอก

"มึงนี่มันกวนตีนจริงๆ"สีครามพูดขึ้น

"แล้วมึงจะไปเสือกอะไรกับมัน"สิบทิศเพื่อนสนิทอีกคนที่นั่งอยู่ถามกับสีคราม

"กูก็แค่ถามไม่ได้อยากจะเสือกเรื่องของมันหรอกถามเป็นมารยาทเฉยๆ"สีครามบอกกับสิบทิศก่อนจะยกแก้วไวน์ราคาแพงขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว

เจ้าสมุทรสิบทิศและสีครามทั้งสามคนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่มัธยมแต่เจ้าสมุทรกับสิบทิศทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันมาก่อนตั้งแต่จำความได้เพราะพ่อกับแม่ทั้งสองคนรู้จักกันส่วนสีครามมาสนิทที่หลังเพราะย้ายมาเรียนที่กรุงเทพด้วยความที่มีนิสัยชอบอะไรคล้ายๆกันก็เลยคบและสนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้และทั้งสามคนก็ยังร่วมหุ้นกันทำธุรกิจร่วมกันอีกตั้งหลายอย่างอีกด้วย

"เออแล้วมึงย้ายสินค้าไปไว้ที่อื่นหรือยัง?"สีครามถามเจ้าสมุทร

"ไปไว้ที่โกงดังนอกเมืองแล้ว"เจ้าสมุทรตอบสีครามและสิบทิศทั้งสองคนพยักหน้ารับรู้ในสิ่งที่เจ้าสมุทรบอก

"มึงว่าเป็นฝีมือของใครวะไอ้สิบทิศที่กล้าใช้ตำรวจมาค้นที่ท่าเรือของมึงปกติตำรวจไม่กล้ายุ่งกับท่าเรือมึงแต่เดือนนี้สองครั้งแล้วที่ท่าเรือมึงโดนตรวจสอบและนี่ก็เป็นครั้งที่สาม?"สีครามถามสิบทิศอย่างสงสัย

"จะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่คนที่ไอ้เจ้าสมุทรไปประมูลซื้อที่ดินตัดหน้าเขามา"สิบทิศตอบก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่ม

"เจ้าสัวอุดม?"สีครามเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเพราะศัตรูพวกเขามีมากเหลือเกินเลยไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครกันแน่

"หรือมึงคิดว่าไงไอ้เจ้าสมุทร?"สิบทิศถามกับเจ้าสมุทร

"กูก็คิดว่าเป็นฝีมือของเจ้าสัวอุดม"เจ้าสมุทรตอบ

เมื่อหลายเดือนก่อนเจ้าสมุทรประมูลซื้อที่ดินที่จะมาสร้างคาสิโนได้และที่ดินที่เจ้าสมุทรประมูลได้มาก็เป็นทำเลทองนักลงทุนหรือนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายคนอยากได้ที่ดินทำเลทองตรงนั้นกันมากโดยเฉพาะเจ้าสัวอุดมนักการเมืองชื่อดังที่ได้ข่าวว่าเจ้าสัวอุดมก็อยากได้ที่ดินตรงนั้นมากเพื่อจะสร้างห้างสรรพสินค้าแบบครบวงจรแต่ก็ถูกเจ้าสมุทรปาดหน้าเค้กซื้อดินตรงนั้นไปเฉยๆและนี่ก็คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าสัวอุดมโกรธมากโกรธมากถึงที่สุดด้วย

"ขี้แพ้ชวนตีเป็นเด็กๆไปได้ไม่มีเงินประมูลซื้อเองยังจะมาโกรธคนอื่น"สีครามบอกพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

"แล้วหุ้นส่วนคนใหม่ของมึงจะมาตอนไหนไอ้คราม?"สิบทิศหันมาถามสีครามวันนี้พวกเขามีนัดมาทานข้าวกับหุ้นส่วนคนใหม่ที่จะร่วมหุ้นเปิดคาสิโนธุรกิจใหม่ของพวกเขาทั้งสามคน

"เดี๋ยวก็คงมา"สีครามตอบพร้อมกับยกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูเวลา

"แล้วมึงจะไปไหนไอ้เจ้าสมุทร?"สีครามถามกับเจ้าสมุทรเพราะอยู่ดีๆเจ้าสมุทรก็ลุกพรวดพราดขึ้นจากเก้าอี้

"ห้องน้ำ"เจ้าสมุทรตอบและเดินออกไปจากห้องอาหารทันทีสิบทิศกับสีครามได้แต่ส่ายหน้าไปมาเล็กหน่อยให้กับท่าทีของเจ้าสมุทร