บทที่ 3
"อ้าวหนูบะหมี่ โอ๊ย...ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยสิ"
เสียงหวานแหบเล็กน้อยเอ่ยทักทายเมื่อเห็นเธอ ลภัสหัวเราะแหะๆ เธอชอบล้างแต่มือ แล้วก็ลืมล้างหน้า...ปล่อยให้มันขะมุกขะมอมอย่างไม่ตั้งใจ ดีเท่าไหร่แล้วที่หน้าไม่เป็นสิว ไม่เยิน เพราะถ้าไม่น้ำมันเครื่องก็ฝุ่นบ้างล่ะ ที่จะแต้มอยู่บนหน้าของสาวน้อย
"แหม...ถ้าไม่ล้าง จะไม่ขายให้หรือจ๊ะ พี่ล้อม"
เอ่ยล้อเลียน แต่ก็เดินไปตรงเคาน์เตอร์ที่ด้านหลังมีอ่างล้างเอนกประสงค์อยู่ บุญล้อมส่ายหน้าน้อยๆ พลางยื่นส่งทิชชูเนื้ออ่อนที่เหมาะสำหรับเช็ดหน้าส่งให้กับลภัส เด็กคนนี้เธอนึกชอบกับความขยันและความน่ารักของเจ้าตัว และทึ่งกับพรสวรรค์ของสาวน้อยวัยสิบเก้าคนนี้อย่างมากก็ตอนที่ซาเล้งคันเก่งของเธอพัง ลภัสซ่อมเสร็จภายในเวลาอันรวดเร็ว แถมยังแนะนำให้ทำเครื่องใหม่ เติมนี่ เพิ่มนั่น ตอนนี้เจ้าซาเล้งคันเก่งของบุญล้อม ซิ่งแรงวิ่งฉิวกว่าเดิม จนสามีของเธออย่างฤกษ์ที่ไม่ค่อยสนับสนุนการซิ่งมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างของภรรยาอยู่แล้ว ร่ำๆ จะเอามันแอบไปขายต่อ เพราะอยากให้บุญล้อมหันมานั่งรถยนต์ ขับรถยนต์ดีๆ บ้าง เมียเจ้าของร้านทองใหญ่แต่ติดดินซิ่งซาเล้ง ก็เธอนี่ล่ะ...บุญล้อมผู้ไม่เคยลืมว่าตัวเองมาจากไหน เป็นใคร ผู้เมินการนั่งรถยนต์กับสามี...เฮ้อ...เพลียแทนเฮียฤกษ์แกจริงๆ
"ขายสิ เป็นสาวเป็นนาง ดูแลผิวพรรณตัวเองบ้างนะบะหมี่"
บุญล้อมว่า มือหยิบนั่นจับนี่อย่างคล่องแคล่ว เพราะรู้ดีว่าสาวน้อยต้องการอะไร ลภัสเอ่ยสั่งเพิ่มถึงเมนูโปรดของทองแท่ง
"เอาโกโก้เย็นปั่น ใส่นมนิดนึ่งนะพี่ล้อม"
"เอ...ของใครล่ะนั่น"
ปรกติเจ้าหล่อนจะสั่งแค่ชานมไทยไข่มุกเผือก วันนี้มีเมนูเพิ่ม บุญล้อมเลยถามออกไปอย่างอดสงสัยไม่ได้
"ของเฮียทอง"
"หืม? เฮียกินโกโก้เป็นด้วยรึ นึกว่าเป็นแต่เบียร์"
"เป็นสิของโปรดเฮียเลยนา"
ลภัสว่า แล้วเดินออกจากบริเวณเคาน์เตอร์เพราะไม่อยากเกะกะ บุญล้อมขมวดคิ้วอย่างงงๆ นิดหน่อย แล้วก็ทำตามที่สาวน้อยสั่งแต่โดยดี
เมื่อรับเงินจากลภัสค่าเครื่องดื่มแล้ว บุญล้อมก็ชวนคุยอีกสองสามคำ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าคิ้มมารดาของสามี บอกกล่าวอะไรไว้ เธอเกือบจะลืมไปเสียแล้วเพราะทำงานเพลิน
"จริงสิ บะหมี่ไปทำแอร์ให้ที่ร้านหน่อย ว่างไหม? ไปได้หรือเปล่าล่ะ"
"ไปได้สิจ๊ะ นี่เวลาพักแล้ว เดี๋ยวขอเอาโกโก้ไปให้เฮียก่อน แล้วหนูจะไปทำให้"
ลภัสออกจากร้าน ไปคร่อมมอเตอร์ไซค์คันเก่งของเธอ รีบขับกลับไปที่อู่เพื่อเอาเครื่องดื่มไปให้ทองแท่งก่อน เห็นเขายืนหน้าหงิกอยู่ตรงหน้าอู่ โดยมีเจ๊กฮวดยืนบ่นเสียงไม่เบานัก เธอได้ยินเข้าโดยบังเอิญทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะฟังเท่าไหร่
"ตามใจแม่หน่อยน่า อาตี๋"
"โอ๊ย ยุ่งกันจริงๆ นะป๊า"
"เอ่อ...น้องก็แต่งงานไปหมดล่ะ เหลือแต่แกนี่ล่ะไอ้ตี๋ แม่ก็กลัวลูกชายจะเทื้อ มีหลานไม่ทันอุ้ม"
"อุ้มของหยก กับของเพชรไปก่อนสิป๊า หนูยังไม่อยากแต่งงาน"
"เฮ่ย...ไปๆ เถอะ อย่าให้พูดมาก แม่เค้านัดไว้แล้ว ป๊าก็รำคาญแม่เราเหมือนกันนั่นล่ะ ถ้าแกไม่ไปก็บ่นๆๆ ตกลงไปนา"
"เอ่อ ไปก็ไป บะหมี่ มายืนทำหน้าเอ๋ออะไรตรงนี้ แอบฟังผู้ใหญ่คุยกันเรอะ"
เขาหันมาเจอหน้าใสๆ ตาแป๋วๆ ที่ยืนทำนิ่งกะพริบตาปริบๆ อยู่ก็พานเอ็ดเอาเหมือนจะระบายอารมณ์ สาวน้อยยิ้มหน้าเป็น แล้วส่งเครื่องดื่มในมือให้
"โกโก้ของเฮียจ้ะ ไปๆ เถอะนะเฮีย ใครๆ ก็อยากให้เฮียมีเมียเสียที"
"เออ...ตกลงไปนะไอ้ตี๋ ตกลงตามนี้"
เจ๊กฮวดว่าแล้วเดินฮัมเพลงเข้าไปในบ้าน เขาขึงตาใส่ยัยจอมจุ้น แล้วรับเครื่องดื่มไปดูดดังโฮก แล้วบ่นเบาๆ
"จุ้น"
"ก็เฮียเทื้อ มัวแต่กินเหล้าไม่ยอมหาสาว ก็ต้องแบบนี้ล่ะเฮีย อิอิ"
"ไปไหนก็ไปไป๊"
เขาโบกมือไล่ ยัยตัวเล็กเห็นเป็นโอกาส เลยพูดบอกถึงธุระของตนเสียเลย
"หนูไปละนะเฮีย ขอลาไปช่วยคุณคิ้มทำแอร์ก่อน อาจจะมาค่ำๆ หน่อย ไปก่อนนะจ๊ะ"
"อ้าว เฮ้ย อะไรนะไอ้บะหมี่ กลับมาก่อน ใครให้ลางานไปทำจ๊อบวะ กลับมาก่อน ไอ้เด็กแสบ"
ทองแท่งได้แต่ตะโกนตามหลัง แม่ตัวเล็กปราดขึ้นมอเตอร์ไซค์คันโปรด แล่นชิวไปอย่างรวดเร็วเสียแล้วสิน่า
ตาคมยาวรีมองตามหลังคนตัวเล็กแล้วถอนใจอย่างหงุดหงิด
นี่เขาดูแววขึ้นคานจนน่าเป็นห่วงสินะ พ่อแม่ และใครต่อใครถึงได้เริ่มเข้ามาวุ่นวายหาเมียให้แบบนี้
เฮ้อ...
...
"เข้าไปในร้านได้เลยนะบะหมี่ บอกว่ามาซ่อมแอร์ ม้าอยู่ชั้นสองน่ะ"
บุญล้อมบอกกล่าวเมื่อเห็นหน้าสาวน้อย ลภัสไปเอาอุปกรณ์ช่างมาจากลุงป้อม ที่เป็นมือหนึ่งเรื่องช่างในละแวกนี้ แต่ตอนนี้แกโดนสั่นคลอนตำแหน่งจากการมาของสาวน้อยนามลภัส ที่ซ่อมได้เกือบทุกสิ่ง แม่สาวน้อยหน้าหวาน ช่างเจรจากลับเป็นที่ถูกใจของลุงป้อมช่างไฟ ที่ถ่ายทอดวิชาให้อีกหลายอย่างฟรีๆ เจ้าหล่อนถ้าว่างจากงานอู่ ก็จะแวบมาขอวิชาจากลุงป้อม มาช่วยหยิบจับและหลังๆ มาถึงกับติดสอยห้อยตามลุงป้อมไปทำงานด้วย สาวน้อยไม่เอาค่าแรง บอกว่าได้เป็นค่าวิชาแล้ว ลุงป้อมก็สบายไป เพราะมีลูกมือดี พอแกทำงานไม่ทันเพราะลูกค้ามาก แกก็จะส่งลูกค้ามาให้ลภัสด้วย
อุปกรณ์การช่าง เวลาจะออกทำงานก็มาเอาที่ลุงป้อมนี่ล่ะ ลภัสถือว่ามันคือค่าขนมของเธอ เก็บสะสมไว้เพื่ออนาคต นอกเหนือจากรายได้เงินเดือนที่ได้จากอู่ที่เธอทำงานประจำ
"จ้ะ"
สาวน้อยตัวบางที่หอบหิ้วของมาพะรุงพะรัง แต่ล่ะอย่างดูมีน้ำหนักไม่เบา ทำให้บุญล้อมนึกเอ็นดู เธอมองตามหลังลภัสที่เดินตัวเอียงเข้าไปในร้านทองโชคดี แล้วยิ้มน้อยๆ
"ยิ้มหวานเลยนะล้อม คิดถึงเฮียหรือ"
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างตัวอย่างจะแหย่ ทำให้บุญล้อมหันมาทำตาโตใส่คนพูด ที่ตรงเข้ามาโอบเอวเธอ แล้วทำท่าจะก้มลงหอมเธอ แต่บุญล้อมหลบเสียก่อน แล้วหยิกเขาเบาๆ พลางทำตาดุๆ ใส่สามี
"เฮีย อย่ารุ่มร่าม คนเยอะแยะ อายเค้า"
ฤกษ์หัวเราะหึๆ เขาทำเป็นว่าปล่อยเธอแล้วไปยืนใกล้ๆ พอบุญล้อมทำงานเผลอๆ เขาก็กดจมูกหอมเอาดังฟอด เล่นเอาบุญล้อมหน้าแดงก่ำ คนทำที่หอมแก้มนิ่มนั่นได้พอชื่นใจ ก็เดินผิวปากหวือไปนั่งตรงมุมหนึ่งของร้าน เพื่อทำงานของตน บุญล้อมประจำการอยู่ตรงเคาน์เตอร์ ทำหน้าที่ที่เธอชอบและถนัด ไม่ได้ไปวุ่นวายอะไรกับสามี
"เมื่อไหร่พวกหนูจะได้อุ้มหลานล่ะพี่ล้อม"
เสียงพนักงานคนหนึ่งเอ่ยล้อเลียน บุญล้อมหัวเราะเบาๆ แล้วแสร้งว่าเสียงดัง เพื่อให้ฤกษ์ได้ยินด้วย
"คงอีกนาน เฮียแก่แล้ว น้ำยาไม่ค่อยจะมี ว้าย! เฮีย ปล่อยล้อมนะ"
ประโยคหลังอุทานเสียงดัง เมื่อฤกษ์ถึงตัวเธออย่างว่องไว แล้วช้อนอุ้มเธอลอยหวือขึ้น เขาทำหน้าเคร่ง แต่นัยน์ตาเป็นประกายระยับหวาน
"หึ! ปรามาสผัวว่าไร้น้ำยา งั้นไปทำลูกกัน"
"เฮีย บ้า ปล่อยนะโว้ย! โอ๊ยๆๆ ล้อมล้อเล่น อายเค้า"
บุญล้อมตะโกนลั่นร้าน เมื่อฤกษ์ทำท่าจะอุ้มเธอไปออกนอกร้านจริงๆ เรียกเสียงหัวเราะได้จากพนักงานและลูกค้า รู้กันว่าเฮียฤกษ์คืออดีตพ่อหม้ายเนื้อหอม ที่มาตกลงปลงใจกับสาวห้าวสู้ชีวิตอย่างบุญล้อม คู่ที่ไม่น่าจะมาบรรจบพบเจอกันได้ แต่ตอนนี้ครองรักกันมาหนึ่งปีกว่าแล้ว ต่างเติมเต็มในส่วนที่ขาดให้กันและกัน
พรหมลิขิตจะทำงานของมัน เมื่อถึงเวลา คนไกลไม่เคยพบก็จะได้พบ ส่วนคนใกล้ที่ไม่เคยต้องตา...ก็อาจจะกลับมาเป็นคนต้องใจ...