บทที่ 2
สร้อยเพชรได้หมั้นหมายกับ วีระชาติพ่อหม้ายวัยดึกที่เป็นเศรษฐีคนหนึ่งของจังหวัด อายุอานามที่ห่างกันของสร้อยเพชรกับคู่หมั้น ทำให้เจ๊กฮวดและสมพรแน่ใจว่า ฝ่ายนั้นจะเป็นทุกอย่างให้กับลูกสาวจอมแสบของพวกเขาได้ เพราะอย่างสร้อยเพชรที่ยังมีบางมุมเป็นเด็กไม่รู้จักโต ต้องได้สามีที่เป็นได้ทั้ง พ่อ พี่ และผัวในคราวเดียวกัน วีระชาติคือคนที่ตอบโจทย์ทุกสิ่งให้กับหล่อนได้
"ตั้งเบิกให้ป๊าเซ็นด้วยล่ะ แล้วก็ให้เงินพิเศษไปด้วยอีกหมื่นหนึ่ง ไอ้ครทำงานมานานเกินห้าปีแล้ว"
พี่ชายย้ำ สร้อยเพชรยักไหล่ ตายังมองแหวนเพชรเม็ดโตที่ส่งประกายระยับบนนิ้วนางข้างซ้ายของหล่อนอย่างปลื้มๆ พี่ชายที่เห็นหล่อนโอ้เอ้ไม่ยอมเขียนเอกสารสักที เลยเอ่ยแขวะขึ้น ตามประสาพี่น้องที่รักกันแบบกาสะลองกับซ้องปีบ
"มัวแต่มองแหวนเพชรที่ผัวให้อยู่ได้ งานการไม่ทำนะอาหมวยใหญ่ ปลื้มเหรอจะมีผัวเป็นของตัวเองน่ะ"
"ไอ้เฮีย!"
สร้อยเพชรถลึงตาใส่พี่ชาย แล้วเม้มปากแน่น หน้างดงามแดงก่ำ
"ปากเหรอน่ะ เมื่อไหร่จะเลิกปากหมาเสียที แหม...ปากแบบนี้สิถึงยังหาเมียไม่ได้"
"เอ่อ อย่างเฮียไม่ต้องหาโว้ย เอามือแกว่งๆ เดี๋ยวก็ได้"
ว่าเข้านั่น แหย่น้องสาวให้หัวร้อนจนโดนสร้อยเพชรด่า เกือบจะเอาที่ทับกระดาษปาหัวอีกสองสามประโยค ก็พอชุ่มใจบันเทิงอารมณ์ ก็เดินแกมวิ่งออกมา หัวเราะหึๆ ไปด้วย จริงแล้วเขาก็รักหล่อนนั่นล่ะ เพราะหล่อนคือน้อง พฤติกรรมบางอย่างของสร้อยเพชรมันทำให้เขาอดคันปากว่าแขวะหล่อนไม่ได้ ตามประสาคนเคยเย้าหยอกกันแรงๆ ระยะหลังมานี้ตั้งแต่ได้วีระชาติมาเป็นว่าที่สามี หล่อนดีขึ้นเยอะ แต่สร้อยเพชรก็คือสร้อยเพชร บางอย่างบางทีก็เปลี่ยนปรับกันไม่ได้ง่ายๆ
"เฮ้อ...ทำไมพักนี้มีแต่คนมีเมีย มีผัวกันวะ" เขาว่ารำพึง
"ก็มีแต่เฮียไงที่ยังไม่มีเมีย"
เสียงเล็กเสียงหนึ่งดังแทรกขึ้น เล่นเอาเขาสะดุ้ง แล้วหันขวับไปมอง ใบหน้ามอมๆ ด้วยฝุ่นและคราบน้ำมันที่เคยคุ้น กำลังยิ้มกว้างให้เขา มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะนี่ แม่เด็กจอมยุ่ง!
"ยุ่งเรื่องผู้ใหญ่น่าเราน่ะ บะหมี่"
เขาว่า มองสบกับนัยน์ตากลมโตแจ่มใสนั่น หล่อนจะรู้ไหมว่า นัยน์ตาของหล่อนมีสีน้ำตาลสวย...มาก สีของมันเหมือนโกโก้ใส่นมนิดหน่อย ของโปรดของเขาเลยล่ะ แต่มีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าเขาชอบ ก็มีแต่กำไลหยกนั่นแหละ ส่วนมากจะนึกว่าเครื่องดื่มโปรดของเขาคือเบียร์กันทั้งนั้น แหม...ก็เล่นตั้งวงทุกวันกับช่าง เมาเกือบทุกเย็น ก็ไม่แปลกหรอก ที่ใครๆ จะเข้าใจไปแบบนั้น
"โกโก้ไหมเฮีย เดี๋ยวหนูจะไปซื้อชานม"
เจ้าหล่อนว่า...ทองแท่งรู้สึกแปลกๆ ที่หล่อนดันล่วงรู้ว่าเขาชอบอะไร ยัยเด็กจอมยุ่งคนนี้ คือเด็กในปกครองของเขา มรดกที่เขารับสืบทอดมาจากเพื่อนสนิทอย่างภูมิ ที่ตอนนี้คงจะมองลงมาจากท้องฟ้า ว่าเขาดูแลลูกเลี้ยงให้ดีไหม
"อืม"
เขาพยักหน้ารับ หล่อนยิ้มกว้างส่งให้เขา หน้าเล็กใสนั่นมักจะมีคราบน้ำมันบ้าง ฝุ่นบ้างอยู่ตลอด เพราะหล่อนชอบขลุกกับเครื่องยนต์กับงานในส่วนของช่าง แถมฝีไม้ฝีมือต้องเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร ทั้งที่วัยยังละอ่อน แค่สิบเก้า...เอ่อ...ใช่ หล่อนอายุสิบเก้าแล้วนี่หว่า อีกไม่กี่เดือนนี้วันคล้ายวันเกิดของหล่อนเขาดันจำได้ด้วยนะ ไม่รู้ทำไม...แต่เขาก็เป็นคนจำเก่งกับเรื่องแบบนี้ ช่างทุกคนในอู่แม้กระทั่งเมียหรือลูกของพวกเขา ทองแท่งจำวันคล้ายวันเกิดของทุกคนได้
เขามองตามหลังหล่อนไป นัยน์ตาคมยาวรีเป็นประกายอ่อนโยนโดยที่เจ้าของไม่รู้ตัว เมื่อหล่อนขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ที่ประกอบเองกับมือ สตาร์ทมันออกไปจากอู่
ลภัส...
จริงสินะ เขาควรจะบอกกับไอ้วิชญ์ว่า เขาน่ะมีลูกสาวให้เลี้ยงนะ ทั้งที่จะโตเกินจะแหย่เล่น อุ้มหยอก แต่ก็นับเป็นลูกสาว? ได้หรือเปล่าหว่า
เขาควรนับหล่อนเป็นลูกสาว...
เขาควรทำแบบนั้น
....
ร้านกาแฟที่อยู่ตรงกันข้ามกับร้านทองโชคดี เป็นร้านประจำของลภัส สาวน้อยมักจะใช้เวลาพักเล็กๆ น้อยๆ ของตน แวะเวียนมาอุดหนุนชานมไข่มุกของโปรด เป็นของสิ้นเปลืองไม่กี่อย่างที่ลภัสยอมใช้จ่ายให้ตัวเอง เพราะความฝันของเธอที่อยากจะทำ มันช่างใช้เงินมากมายเหลือเกินแหะ
มันอาจจะมากเกินกำลังที่สองมือเธอจะทำได้เสียด้วยซ้ำ แต่ลภัสก็ถือว่ามันเป็นสิ่งที่ฝันไว้ แล้วสักวันต้องทำได้ หรือถ้าทำไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้พยายาม เธอก็คิดว่าเธอน่ะใช้ชีวิตที่สัญญากับพ่อเลี้ยงของเธอไว้คุ้มแล้วล่ะ
พ่อเลี้ยงของเธอ
สาวน้อยเงยมองไปบนท้องฟ้า แดดยามบ่ายวันนี้ไม่ค่อยจ้านัก ด้วยความเป็นฤดูฝนติดจะครึ้มๆ เสียด้วยซ้ำ ภูมิอยู่บนนั้นหรือเปล่าหนอ หรือว่าอยู่ที่อื่น เขาบอกไว้ว่าคนอย่างเขาน่ะ อาจจะไม่มีโอกาสไปเบิกบานบนสวรรค์ เพราะทำชั่วไว้เยอะ แต่ไม่แน่หรอก อาจจะไปช่วยซ่อมอะไรในนรก จนเผื่อท่านพญามัจจุราชอาจจะเห็นใจ ดีดกลับขึ้นไปบนสวรรค์ให้ชื่นใจเป็นโบนัสมั่งก็ได้
คิดถึงบิดาเลี้ยง แล้วก็อมยิ้ม ความทรงจำยามอยู่กับภูมิ มีหลากหลายสีสัน ทั้งสุข ทุกข์ จนยาก และร่ำรวย เธออยู่กับเขาแค่ไม่กี่ปี แต่รักเขาเหมือนกับเขาเป็นพ่อแท้ๆ พ่อที่ไม่เคยมี เขาปลุกพรสวรรค์ของเธอขึ้นมาให้ได้เจิดจ้า และให้ผู้คนได้ทึ่งกับฝีมือของเธอ สาวน้อยที่เติบโตมากับภาพยนตร์ทรานฟอร์เมอร์ หุ่นยนต์ต่างดาวจักรกล ที่มีภาพรถแปลงร่างเป็นหุ่น เรื่องราวสนุกสนานตรึงตราในความทรงจำ และทำให้เธอมีความฝันอันบรรเจิดไม่เหมือนกับเด็กหญิงคนไหนๆ ในวัยเดียวกัน
เธออยากเป็นนักสร้างหุ่นยนต์ สร้างรถยนต์ เธอหลงไหลในเครื่องยนต์กลไก อยากรู้อยากเห็นว่าบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ สร้างขึ้นได้อย่างไร ทำงานได้อย่างไร อีลอน มาร์ค คือฮีโร่ของเธอ บอกเล่ากับมารดาไป ท่านก็หาว่าเธอแปลกเด็ก ใครล่ะจะเข้าใจเวลาที่เด็กหญิงหน้าหวานจิ้มลิ้ม ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ยิ้มเผล่ยกมือเวลาที่ครูถามเกี่ยวกับอาชีพในฝันว่าอยากเป็นนักสร้างหุ่นยนต์ คนก็หาว่าหล่อนแปลกกันทั้งนั้น ที่ไปอยากทำในอาชีพที่ส่วนใหญ่เพศชายที่จะสนใจกัน
ภูมิเป็นคนดึงพรสวรรค์อันนั้นของเธอออกมา เขาเป็นนักสร้าง นักคิด และผู้หลงไหลในเครื่องยนต์กลไกแบบเธอ พ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง ขลุกอยู่ด้วยกันได้เป็นวันๆ ด้วยการดูคลิปต่างประเทศเกี่ยวกับเครื่องยนต์ การสร้างรถยนต์ กลไกเทคนิคใหม่ๆ มารดาของเธอยังส่ายหัว แถมยังเอ็ดภูมิด้วยว่าจะทำให้ยัยหนูของเธอเป็นทอมบอยไปเปล่าๆ มีอย่างที่ไหน อยากเป็นนักสร้างหุ่นยนต์
'ลูกมันชอบน่า สนับสนุนไปตามกำลังก็แล้วกัน'
ภูมิเคยว่า แน่ล่ะสาขาวิชาที่เธออยากจะร่ำเรียนนั้น แพงหูฉี่เลยทีเดียว ลภัสรู้ดีถึงฐานะการเงินของตัวเองและครอบครัวในตอนนั้น จะเรียนสาขาอื่นไปเธอก็ไม่ได้ชอบอะไรและคงจะไม่ได้อะไรไปต่อเติมความฝันของเธอ เธอจึงตัดสินใจเบนเข็มไปเรียนเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ อย่างซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ แทนเข้ารับการร่ำเรียนต่อ หลังจากที่จบจากกศน.เทียบวุฒิมอหกได้เรียบร้อยแล้ว ภูมิพาเธอไปเป็นลูกมือด้วยในอู่รถยนต์ขนาดใหญ่ของเพื่อนเขา ทำให้เธอได้เรียนรู้เทคนิคกลไกหลายอย่าง ลงมือจริง เรียนรู้จากของจริง ย่อมดีมากกว่าในตำรานัก และตอนนี้เธอก็ติดสอยห้อยตามเขามาใช้ระยะเวลาสุดท้ายในชีวิต ณ อู่ของเจ๊กฮวด ที่มีเพื่อนรักของเขาอย่างเฮียทองเป็นคนดำเนินกิจการ
เฮียทอง...
ผู้ชายหน้าตี๋ดูดี ผิวพรรณสะอาด ตัวสูงใหญ่ เสียงดัง ใจใหญ่ กินเหล้าดุ คนนั้น เป็นคนที่ดูแลเธอแทนบิดาหลังจากที่เขาเสียชีวิตไปแล้วด้วยโรคร้าย
เธอตั้งใจจะทำตามคำสั่งเสียของภูมิเป็นอย่างดีนั่นคือดูแลเขา...ใช่ บิดาบอกให้เธอดูแลเขา เพราะว่าเขาคือเพื่อนรัก และผู้มีพระคุณคนหนึ่ง
เธอตั้งใจจะทำงานกับเขาไปเรื่่อยๆ แล้วก็ดูแลเขาตามคำสั่งเสียของพ่อ
ถ้าเขาไม่เบื่อและรำคาญเธอไปเสียก่อนนะ
สาวน้อยย่นจมูกน้อยๆ ยามคิดถึง เฮียทอง...เธอเรียกเขาเหมือนที่ใครๆ เรียก ตอนแรกจะเรียกเขาเหมือนที่เรียกภูมิ แต่ว่าเขาคงจะไม่ชอบใจนักหรอก ก็เขายังโสด แล้วอายุของเขาก็ต่างกับเธอเกินรอบพอดี...ขืนเธอเรียกเขาว่าพ่อ มีหวังสาวๆ กระเจิงหมดแน่ ถึงคนแถวนี้จะรู้ว่าเฮียทองไม่เคยมีเมียก็เถอะน่า แต่ไม่ดีหรอกเธอไม่สะดวกใจกับการเรียกเขาว่าพ่อด้วยสิ
เธอผลักประตูร้านเข้าไป ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับเจ้าของร้านสาวที่รับหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ ซึ่งมักจะชงเครื่องดื่มเองทุกแก้ว ถ้ามาประจำการอยู่ตรงนี้ เพราะเป็นอาชีพและความถนัดเดิมก่อนที่จะแต่งงานกับเจ้าของร้าน