[3/1]
[3/1]
วันนี้ผิงต้องตื่นแต่เช้าเพราะว่าจะมีคนมาหา ซึ่งคนคนนั้นก็คือพอร์ชแฟนหนุ่มของผิงเอง ทั้งคู่คบกันได้ปีกว่าในช่วงที่ผิงไปเรียนที่เชียงใหม่แล้วพอร์ชก็เรียนอยู่ที่นั่นด้วย
พอหลังจากที่เรียนจบพร้อมกันมาต่างคนก็ต่างแยกย้ายกลับมาอยู่บ้านของตัวเอง พอร์ชมีบ้านอยู่กรุงเทพฯ และต้องช่วยงานครอบครัวของเขาต่อ
ก่อนหน้านี้เขาเคยคุยกับผิงเรื่องย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ทว่าผิงเองก็อยากจะอยู่ที่นี่กับเตี่ยและม๊ามากกว่า
อีกอย่างเฮียส้งก็คงไม่ยอมให้ลูกสาวคนเดียวของเขาไปไหนไกลตาได้อีกแล้ว แค่ไปเรียนแล้วไม่กลับมาบ้านเป็นเวลา 4 ปี มันก็มากเกินพอแล้ว
กลับมาอยู่บ้านเฮียส้งและเพ็ญพรก็เลี้ยงดูลูกสาวตัวเองได้สบายอยู่แล้ว ต่อให้ผิงอยากพักผ่อนหรือยังไม่อยากไปสมัครงานที่ไหน พวกเขาก็พร้อมจะเลี้ยงผิงได้เสมอ ขอแค่อยู่บ้านหลังนี้ไม่ไปไหน
ตอนนี้ผิงแต่งตัวเสร็จแล้ว ระหว่างรอพอร์ชขับรถมาถึงบ้านก็นั่งเล่นโทรศัพท์รอหน้าโทรทัศน์ไปพลาง ๆ ก่อน กระทั่งสักพักเกือบ ๆ ครึ่งชั่วโมง
รถคันหรูราคาแพงของแฟนหนุ่มก็ขับเข้ามาจอดไว้หน้าบ้าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงกดกริ่งดังขึ้น 2-3 ครั้ง ผิงรับรู้ถึงการมาของพอร์ชแล้ว ก็รีบลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับไม่ลืมหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเองออกไปด้วย
วันนี้ผิงได้บอกพอร์ชแล้วว่าจะพาไปเดินห้างแถวนี้ แล้วก็หาอะไรทานกันด้วย ถ้าหากพอร์ชอยากจะดูหนังด้วยผิงก็ไม่ว่าอะไร
แต่ขากลับเข้าบ้านก็คงต้องรบกวนแฟนหนุ่มให้จอดแวะเอารถจักรยานยนต์ของตัวเองที่เฮียส้งไปส่งซ่อมไว้
“รอนานไหมผิง?” แฟนหนุ่มเดินลงจากรถมายืนรออยู่หน้าบ้านได้ไม่นาน ผิงก็เดินออกมาพร้อมกับสัมภาระของตัวเอง
“ไม่นานเลย ไปกันเถอะ”
เช้านี้ร่างบางแต่งตัวดูสวยผิดหูผิดตาไปมากจากเมื่อวาน ราวกับคนละคนกัน
สาเหตุนี้ก็เพราะว่าเคยโดนแฟนหนุ่มติเรื่องการแต่งตัวมาบ้างแล้ว ว่ามันไม่แมตช์กันกับชุดของเขาซึ่งก็จริง
โดยเฉพาะทั้งตัวของพอร์ชเป็นแบรนด์เนมราคาแพงทุกชิ้น ถ้าเกิดผิงจะใส่รองเท้าแตะเดินลากไปไหนมาไหนด้วยกัน
คนข้างนอกก็คงจะมองว่าผิงเป็นคนรับใช้ที่บ้านของพอร์ชพอดี บางครั้งผิงเองก็เหนื่อยที่ต้องเป็นแบบนี้
Porsche Taycan Turbo S ขับมุ่งหน้าไปตามทางที่เจ้าถิ่นเป็นคนบอก ระหว่างทางที่ขับออกจากซอยมีคนมองมายังรถคันนี้อย่างสนใจ คงจะกำลังคิดสงสัยกันอยู่ว่าคนรวยที่ไหนมาขับในซอยแถวนี้
ผิงค่อนข้างไม่ชินเลยกับการพบเจอกันทุกครั้งของเธอและพอร์ช บางทีผิงก็แค่อยากจะชิว ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
ไม่ต้องมาแต่งองค์ทรงเครื่องหน้าผมจัดเต็มราวจะออกงานกันขนาดนี้ รวมทั้งรถราคาแพงที่นั่งอยู่ตอนนี้ด้วย
“แล้วที่ห้างแถวนี้มีอะไรน่ากินบ้าง?” พอร์ชถามขณะที่หักพวงมาลัยไปตามทางลูกศรของโรงจอดรถในห้างใหญ่ที่เพิ่งจะเปิดใหม่ในอีกตัวเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบางพระเลย
“ผิงเองก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แล้วพอร์ชอยากกินไรอ่ะ?”
“เรากินอะไรก็ได้แหละ แล้วแต่ผิงเลย”
“อื้ม... โอเค” ผิงอยากจะเบือนหน้าลอบถอนหายใจแรง ๆ ใส่ด้วยซ้ำ คำที่พอร์ชบอกว่า ‘อะไรก็ได้ ง่ายๆ’
อาหารง่าย ๆ สำหรับเขาก็คืออาหารที่ไม่เน้นปรุงจัด ไม่เอาอาหารที่ใช้วัตถุดิบค้างคืน ร้านที่ต้องไปกินนั้นต้องสะอาดไม่มีฝุ่นหรือแมลง และหากเป็นร้านที่ได้มิชลินสตาร์ด้วยก็จะดีมาก
ตั้งแต่รู้จักกันผิงก็เห็นว่าพอร์ชดูเป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ อยู่หรอก แต่พอได้มาคบกันจริง ๆ จัง ๆ ถึงได้รู้ว่าตอนที่ไปเดตด้วยกันครั้งแรกแล้วเห็นว่าเขากินง่ายอยู่ง่ายนั้นมันไม่จริงเลย แต่มันก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรมากมายสำหรับผิงอยู่แล้ว
ผิงและพอร์ชใช้เวลาเกินครึ่งวันอยู่แต่ในห้างฯ กิจกรรมที่ทำร่วมกันก็มีช้อปปิ้ง กินข้าว ดูหนัง ก่อนที่จะพากันเดินทางกลับมาบ้านของผิง
Porsche Taycan Turbo S ถูกสตาร์ทเครื่องขึ้นมาอีกครั้ง และมุ่งหน้ากลับทางเดิมที่มา คราวนี้พอร์ชพอจะจำทางกลับได้เพราะถนนหลักมันมีแค่เส้นเดียว ก็แค่ขับตรงไปทางเดิมไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ผิงได้บอกพอร์ชแล้วว่าให้แวะอู่ซ่อมรถทางเข้าซอยก่อน เพราะต้องไปเอารถจักรยานยนต์ก่อน ซึ่งพอร์ชก็ได้แต่พยักหน้ารับ ใจจริงไม่อยากให้ผิงขับรถแบบนั้นแล้วด้วยซ้ำ
แค่รถเก๋งคันละไม่กี่บาทขอแค่ผิงบอกมา พอร์ชก็พร้อมพาไปเต็นท์รถตอนนี้เลย
ส่วนรถจักรยานยนต์มันมีเปอร์เซ็นต์ของความปลอดภัยน้อยกว่ารถยนต์ตั้งเยอะ
เพราะแบบนี้พอร์ชถึงไม่ยอมให้ผิงเอารถคันนั้นขับไปเรียนที่เชียงใหม่ไง มีพอร์ชขับรถยนต์ให้นั่งไปเรียนสบายกว่าตั้งเยอะ
“จอด ๆ ร้านนี้แหละพอร์ช”
ผิงบอกคนขับให้จอดตรงหน้าร้านซ่อมเปิดใหม่ที่เฮียส้งเอาลูกรักของผิงมาซ่อมไว้ ก่อนจะหันมาปลดล็อกเข็มขัดของตัวเองลง และเตรียมตัวเข้าไปในร้าน
“อ่าๆ”
“เดี๋ยวผิงลงไปเองนะ พอร์ชรออยู่นี่แหละมันร้อน”
เพราะรู้ว่าคุณหนูอย่างพอร์ชเป็นคนที่ขี้ร้อนง่าย เลยไม่อยากให้ลงไปด้วย ผิงไปแปบเดียวคงใช้เวลาไม่น่าจะนาน
“ไม่เป็นไร... เดี๋ยวพอร์ชลงไปเป็นเพื่อน”
“เอางั้นหรอ?” ร่างบางถามอีกคนให้แน่ชัดว่าต้องการแบบนั้นจริงหรือไม่ หากทนอากาศข้างนอกที่ร้อนขึ้นมาไม่ไหวคงลำบากผิงแน่นอน
“ไปสิ”