บท
ตั้งค่า

[2/2]

[2/2]

“ว่าไงคะน้อง? ตกลงว่ามีอะไร?”

ทั้งผิงและเพื่อนสนิทยังมัวแต่ยืนนิ่งอึ้งอยู่ เดินเข้ามาเปิดประเด็นเองแล้วยังมาเงียบใส่คนที่นั่งอยู่โต๊ะตรงนี้อีก ทุกคนก็เลยได้แต่งงกับพฤติกรรมสองสาวคู่นี้

ส่วนฉีก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าที่สองคนตรงหน้ายืนอึ้งอยู่แบบนี้ ก็เพราะการได้มาเจอกันกับเขาอย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน

ฉีรู้ว่าผิงกลับมาอยู่บ้านได้ 2-3 วันแล้ว และรถที่เตี่ยผิงเอามาซ่อมก็ยังอยู่ที่อู่ของเขา แต่ก็ไม่นึกว่าจะเจอผิงที่นี่และคนข้าง ๆ นี้ก็คงจะเป็นแฟนท์ เพื่อนสนิทของผิงแน่นอน

แม้จะผ่านมา 7 ปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน ทว่าสาวรุ่นน้องทั้งสองคนนี้ก็ยังหน้าตาเคล้าเดิม ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลงยกเว้นความขาวผ่องออร่าแตกสาวที่เพิ่มมากขึ้น

“ว่ายังไงครับ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”

ฉีมองหน้าขนมผิงอย่างมีเลสนัย แต่ก็ยังเก็บอาการทำเป็นเหมือนคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำแบบนี้

“ก็ที่โต๊ะนี่เราสองคนยังจะนั่งอยู่นะคะ แล้วเราก็เอาเสื้อวางไว้ตรงนี้แล้ว พวกคุณไม่เห็นกันหรอ?” กว่าที่ผิงจะรวบรวมสติตัวเองได้ก็กินเวลาไปหลายนาทีแล้ว ก่อนจะอ้างสิทธิ์เรื่องที่นั่งของตนเองและเพื่อน

“แล้วไหนล่ะเสื้อ?” ฉีย้อนถามอีกคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาบอกอย่างเอาเรื่อง

ตั้งแต่ที่เขากับอิ้งค์มาถึงโต๊ะนี้ก็ไม่เห็นว่ามันจะมีเสื้อของใครวางเอาไว้ก่อนหน้านี้เลย พอเห็นมันว่างก็เดินมานั่งไม่ได้ตั้งใจอยากจะแย่งใคร

“ก็เมื่อกี้มันยังอยู่บนโต๊ะนี้อยู่เลยนะ” เหมือนคำพูดของฉีที่ถามออกไปจะทำผิงเริ่มไม่มั่นใจขึ้นแล้ว และเธอก็กำลังจะมองหาที่ยืนยันว่าตัวเองกับเพื่อนเป็นเจ้าของโต๊ะนี้จริง

“แต่พี่กับแฟนมานั่งที่โต๊ะนี้ ก็ไม่เห็นมีอะไรวางไว้นะคะน้อง จำผิดโต๊ะรึเปล่า?”

“แฟน?”

พอได้ยินอิ้งค์พูดแบบนั้น แฟนท์ย้ำคำพูดที่ผู้หญิงตรงหน้าบอกเมื่อครู่ พลันทำหน้าตื่นเขย่าแขนเพื่อนเบาๆ

และดูสีหน้าของเพื่อนในตอนนี้แฟนท์รู้เลยว่าแม้ผิงจะเก็บอาการได้อยู่จริง

แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันมานานแค่แววตาของผิงที่มองไปยังสองคนนั้นสลับกัน แค่นี้... แฟนท์ก็รู้แล้วว่าผิงคิดอะไรอยู่

“งั้นไปเรียกพนักงานมาถามเลยไหมคะน้อง? ว่าสิ่งที่น้องพูดมามันใช่เรื่องจริงไหม?”

“ก็ดีค่ะ จะได้รู้กันไปเลย”

ผิงรวบรวมความมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองพูดมันคือความจริง และจะไม่ยอมเสียโต๊ะตรงนี้ไปง่าย ๆ แน่ เพราะกว่าจะขับรถมาถึงมันก็เหนื่อยมากแล้ว ยังมาเจอคนชุบมือเปิบแย่งโต๊ะไปแบบนี้อีก ยิ่งรู้ว่าคนที่มาแย่งโต๊ะคือใครแบบนี้เธอยิ่งยอมให้ไม่ได้เลย

แม้ว่าอากาศข้างนอกร้อนมากมายเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ตอนนี้ในใจผิงร้อนมากกว่าทุกอย่างไปหมดแล้ว

อันที่จริงจะว่าไปสองคนนี้อาจจะเป็นคนหยิบเสื้อของพวกเธอไปทิ้งไว้ที่ไหนสักที่ก็ได้ ...ใครจะไปรู้

“แค่นี้ไม่ต้องทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้มั้ง เราให้น้องเค้านั่งเถอะอิ้งค์ สงสารเด็กตาดำ ๆ น่ะ... เรากลับบ้านกันดีกว่า”

“ได้ไงล่ะฉี นี่เราก็เพิ่งจะมาเหมือนกันนะ เราไม่ผิดก็เรียกให้พนักงานมาตรวจสอบกันไปเลยสิ”

“ไอ้ผิง... กลับกันเถอะ เดี๋ยวกูพาไปนั่งร้านอื่นก็ได้”

แฟนท์ดึงแขนของเพื่อนสาวให้ถอยออกมา เพราะกลัวจะมีเรื่องกันในร้านนี้จริง ๆ นอกจากจะเรื่องโต๊ะนั่งแล้ว ยังมาเจอแฟนเก่าของผิงเป็นคู่กรณีอีก แบบนี้เรื่องมันจะไปกันใหญ่เอาได้

“ไม่! เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น ปล่อย... พี่คะ! พี่คะเชิญทางนี้หน่อยค่ะ”

แล้วมีหรือที่ผิงจะยอมให้ง่าย ๆ แขนเรียวรีบสะบัดมือเพื่อนออกได้แล้ว ก็รีบยกมือเรียกหาพนักงานในร้านคนหนึ่งให้เดินมาที่โต๊ะเกิดเหตุเลย และไม่นานพนักงานในร้านก็เดินเข้ามา

“มีอะไรกันหรอคะลูกค้า?”

“คือว่าหนูกับเพื่อนยังไม่ได้คืนโต๊ะนี้นะคะ เราแค่ออกไปถ่ายรูปกัน แต่ยังเอาของวางไว้ตรงนี้อยู่ แล้วพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชายสองคนนี้ก็มานั่งที่ของเราค่ะ”

“แล้วของลูกค้าอยู่ไหนคะ?”

“ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครหยิบมันไปค่ะ แต่ยืนยันได้ว่าเอาไว้ตรงนี้จริงๆ”

ประโยคนี้ผิงจงใจมองหน้าฉีตรง ๆ เหมือนกำลังปักใจเชื่อว่าอาจจะเป็นคนที่มาแย่งโต๊ะนี่เอง ที่เป็นคนเอาเสื้อแขนยาวของพวกเธอไปซ่อน

“งั้นผมขอย้อนดูกล้องหน่อยได้ไหมครับ? เผื่อน้องเค้าจะได้รู้สักทีว่าใคร... เป็นคนเอาไป” ฉีพอเดาสายตาคู่นั้นออกว่าผิงคิดอะไรอยู่ คงจะคิดว่าเขาเป็นคนเอาของไปซ่อนสินะ แล้วเขาจะทำอย่างนั้นทำไมกัน

“เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ ดิฉันจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

“งั้นขอเข้าไปดูด้วยนะคะ”

“ผมก็ด้วยครับ” ฉีเองก็อยากไปเห็นกับตาเหมือนกันว่าใครเป็นคนเอาไป ทีนี้จะได้ไม่ต้องเห็นผิงมาทำสายตาเหมือนจับผิดเขาอยู่แบบนี้

“งั้นก็ไปกันหมดนี่เลยค่ะ” อิ้งค์เริ่มตงิดอยู่ในใจว่าทำไมสายตาของผู้หญิงตรงหน้ากับฉีที่เป็นแฟนของตัวเอง พวกเขามองหน้ากันแปลกๆ

เหมือนสองคนนี้รู้จักกันมาก่อนอย่างนั้นเลย แล้วผู้หญิงคนนี้ดู ๆ ไปก็รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ว่าเคยเจอเธอที่ไหนแต่ก็ยังนึกไม่ออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel