บทที่ 3 ส่งทาง
“เฮียนัทสวัสดีค่ะ” ญานินยกมือขึ้นไหว้โดนัท ในขณะที่ตนเองเดินมาเข้าห้องน้ำแล้วเจอกันโดยบังเอิญ
“ครับ มากับใครเดี๋ยวเฮียเปิดเหล้าไปให้สักขวด”
“นินมากับยัยรินนะคะ แต่ฝนไม่ได้มาด้วย ทำงานช่วงนี้เหนื่อยๆ ใกล้จะสอบด้วยอยากมาปลดปล่อยค่ะ” ญานินพูดพร้อมยิ้ม “วันนี้ขอเหล้าแพงๆ ได้ไหมคะ” เธอหัวเราะอย่างพอดี
“ได้ เดี๋ยวให้ภพจัดการให้ กลับดีๆล่ะถ้าไม่ไหวก็บอกเด็กที่ร้าน”
“ขอบคุณค่ะ เฮียนัท” ญานินตอบรับด้วยความดีใจ ถึงแม้จะซื้อกินได้เองแต่ของฟรีและมีคุณภาพย่อมดีกว่า
“หายไปนาน เลยนะ” เอรินบ่นขึ้น “แล้วนี่แกเปิดเหล้าอีกทำไม ขวดนี้ก็จะกินไม่หมดอยู่แล้วไหม” เธอบ่นขึ้นมาอีกรอบ
“เจอเฮียนัท เฮียใจดีเลยเปิดเหล้ามาให้อีกขวด กินให้เมาไปเลยนะ เดี๋ยวฉันรับผิดชอบแกเอง” ญานินที่เป็นนักดื่มพูดขึ้น พร้อมกับรินเหล้าลงแก้วให้ตัวเองและเอริน
“ไม่น่าไว้ใจ กินแค่พอดีดีกว่า จำได้ไหมครั้งนั้นเมาแล้วภาพตัดต้องนอนที่นี่เลยนะ” เอรินเตือนสติ
“เอ่อน่า ไม่เป็นอะไรหรอก นี้ร้านเฮียนัทนะ ไม่มีอันตรายหรอกน่า”
“เหรอ..”
เสียงดนตรีสดบรรเลงอย่างเมามัน ยิ่งดึกดนตรียิ่งเข้าจังหวะให้นักท่องราตรีได้ส่ายสะโพกโยกย้ายกัน จนมาถึงวินาทีสุดท้ายของค่ำคืน ญานินและเอรินที่กำลังทรงตัวลุกขึ้นเดินไปยังด้านนอก
“เดี๋ยวผมให้เด็กที่ร้านไปส่งนะครับ” จิณภพพูดขึ้น เมื่อโดนัทได้ฝากฝังหญิงสาวทั้งสองคนไว้ให้เขา ว่าให้ดูแลอย่างดี เพราะหญิงสาวทั้งสองก็เหมือนกับน้องสาวของเขาเช่นเดียวกัน
“มายอาวววว ฉานนนจะกาบบบเองงง” ญานินปัดมือของจิณภพออก ทั้งที่ตัวเองแทบทรงตัวยืนไม่ไหว สุดท้ายจิณภพก็ต้องพยุงให้เธอไปนั่งที่โซฟา ส่วนเอรินนั้นหลับไปตอนไหนเขาเองก็ไม่อาจรู้ได้
“พี่ภพ สวัสดีค่ะ” ปลายฝนเอ่ยทักพร้อมยกมือขึ้นไหว้
“อ้าวน้องปลายฝน มาได้ยังไงครับ หรือว่ามารับเพื่อนกลับ”
“ค่ะ พอดีนินโทรหาฝนนะคะ”
“งั้นให้พี่ช่วยพยุงเพื่อนไปที่รถให้นะครับ” จิณภพอาสาช่วยเหลือปลายฝน
“ไม่ต้องเดี๋ยวกูจัดการเอง” เสียงของโดนัทดังขึ้น ก่อนที่ทั้งสองคนจะหันไปมองพร้อมกัน
“เฮียยังไม่กลับเหรอ”
“ถ้ากลับจะเห็นมายืนอยู่ตรงนี้ไหม ไปทำงานเถอะ เดี๋ยวทางนี้จัดการเอง” โดนัทพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะช่วยพยุงญานินส่วนปลายฝนพยุงเอรินไปที่รถของโดนัท
“ฝน พี่ขอโทษที่มาช้า” อาคินทักขึ้น “หวัดดีเฮีย โทษทีที่น้องมันทำให้ลำบาก ขอบคุณมากนะครับ”
“ไม่เป็นไร” โดนัทยืนมองปลายฝนและอาคินสลับกันไปมา
“พี่คินมาก็ดีแล้วค่ะ งั้นฝากรินกลับไปพร้อมพี่เลยนะคะ ส่วนนินเดี๋ยวฝนจะพากลับเอง ถ้าให้พี่ขับไปส่งคงได้อ้อมโลกไปไกล” ปลายฝนตัดสินใจส่งเอรินให้อาคินดูแล เพราะทั้งสองคนบ้านอยู่ติดกันและยังสนิทสนมกันมาก
“จะดีเหรอ ผู้หญิงเดินทางกลางคืนมันอันตราย พี่ไม่วางใจ อ้อมก็ไม่เป็นไร” อาคิดอาสาขึ้น เพราะเขาเป็นห่วงปลายฝันมาก
“เดี๋ยวกูไปส่งน้องมันเอง มึงกลับไปเถอะ ดึกแล้ว”
“ผมไม่อยากรบกวนเฮีย..แต่..” อาคินนิ่งคิดเล็กน้อย “งั้นผมฝากหน่อยนะครับ” สุดท้ายเขาก็ต้องตัดสินใจเพราะเอรินเมามากพร้อมกับอาเจียนออกมา “พี่จัดการเอง กลับไปเถอะ ผมฝากด้วยนะเฮีย”
อาคินเอ่ยห้ามเมื่อปลายฝนกำลังหาสิ่งของมาทำความสะอาดเสื้อผ้าของเขา สุดท้ายอาคินก็ทำได้เพียงพาเอรินกลับบ้านให้เร็วที่สุด
“ขอบคุณมากนะคะ”
“อืม” โดนัทขานรับในลำคอ เขาตั้งสมาธิเอาไว้ที่พวงมาลัยรถเพียงเท่านั้น กลิ่นเหล้าลอยฟุ้งอยู่ภายในรถทำให้ปลายฝนยกมือขึ้นมาปิดจมูก
โดนัทเห็นแบบนั้นจึงลดกระจกข้างคนขับและข้างปลายฝน ให้เธอได้สูญอากาศภายนอก เขาชะลอความเร็วของรถลงไปขับในความเร็วไม่เกินแปดสิบ ทั้งที่ถ้าหากเขาขับคนเดียวคงเหยียบมิดเข็มไมล์
ภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบ ทำให้ความอึดอัดก่อตัวขึ้นทันที ปลายฝนที่นั่งหันหน้าออกไปด้านนอกเช่นเดียวกันโดนัท ที่ตั้งอกตั้งใจขับรถ แต่ใครจะรู้ว่าในใจของทั้งสองคนไม่ได้สงบนิ่งเหมือนกับใบหน้า
“เรียนเป็นไงบ้างช่วงนี้” อยู่ๆ โดนัทก็ถามขึ้น
“ก็ปกติค่ะ ไม่ได้มีอะไรมากค่ะ”
“ตั้งใจเรียน จะได้หางานดีๆ ทำได้”
“ค่ะ” เหมือนไม่มีเรื่องจะต้องให้คุยกัน เพราะเมื่อก่อนก็เป็นเช่นนี้ เธอก็เป็นเพียงแฟนของอาคินที่ได้รู้จักเขาก็เพราะอาคินอีกนั่นแหละ
“ขอโทษนะ วันนั้นยังไม่ได้ขอโทษเลย ถึงแม้ทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิมไม่ได้..” อยู่ๆ โดนัทก็กล่าวคำนี้ออกมา เขาเป็นผู้ใหญ่และเป็นผู้ชายที่เมื่อทำผิดก็ควรกล่าวคำคำนี้ออกมา
“ช่างมันเถอะค่ะ เรื่องมันผ่านมาแล้ว เฮียอย่าเก็บเอาไปใส่ใจเลยค่ะ”
“มีอะไรให้ช่วยบอกได้เสมอเลยนะ ถือว่าเป็นหนี้ติดค้างแล้วกัน” โดนัทพูดต่อ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่ถนนเบื้องหน้า และความเงียบก็ได้ครอบคลุมเข้ามาอีกครั้ง
“เฮียไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะ ให้มันจบเพียงเท่านี้ดีแล้วค่ะ” ใช่แล้ว ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง เธอไม่ได้ยึดติดกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เขาก็ไม่ควรยึดติดเช่นเดียวกัน ต่อให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมก็ต้องเดินหน้าต่อไป
“เข้าใจแล้ว ว่าแต่กับคินเป็นยังไงบ้าง ถ้ามันทำให้เสียใจบอกได้เลยนะเดี๋ยวจัดการให้เอง”
“พี่คินดีมากเลยค่ะ อย่างที่เฮียเห็นเราก็เป็นแบบนี้กันมานานแล้วค่ะ” ไม่ใช่อยากอวดว่าอาคิดดีต่อเธอแบบไหน แต่เขาเองก็คงมองเห็นความรักของเธอและอาคินมาตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้
“ดีแล้ว เห็นคินบอกว่าจะฝึกงานเทอมหน้า ถ้ายังไม่มีที่ฝึกงาน มาที่ร้านนะ ลูกปลาถามหาอยู่บ่อยๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะลำบากใจ เพราะเฮียจะให้ลูกปลาดูแลฝนเอง เราคงเจอกันบ่อย แต่คงไม่ได้ทำให้ลำบากใจ”
“ค่ะ ฝนจะเอาไปคิดค่ะ” ปลายฝนตอบรับเพียงเท่านั้น แต่ที่สำคัญคงเป็นเรื่องระยะทางที่ห่างไกลของที่พักและที่ฝึกงาน เรื่องนี้ก็เป็นส่วนประกอบที่ทำให้เธอเลิกที่จะไปทำงานที่คลับในตอนนั้น
“ห่วงเรื่องที่พักอยู่สินะ…เดี๋ยวคุยกับลูกปลาให้ แอดไลน์มา ถ้าได้เรื่องแล้วจะส่งข้อความไปบอก” โดนัทพูดเหมือนกำลังมัดมือชก แต่ปลายฝนกับทำตามอย่างไม่ขัดข้อง การหาที่ฝึกงานไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าหากเธอสามารถฝึกงานที่ที่เคยทำงานมาก่อนมันก็ง่ายมากกว่าต้องไปเริ่มต้นใหม่ ปลายฝนหันมองไปยังโดนัท เป็นครั้งแรกที่เธอกล้ามองใบหน้าหล่อของเขาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ความรู้สึกบางอย่างมันกำลังทำให้หวาดกลัว
โดนัทขับรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกสูง ซึ่งเป็นคอนโดของญานิน เขาช่วยปลายฝนพยุงญานินขึ้นมาบนห้องในเวลาเกือบตีสาม ถ้าหากให้ปลายฝนพยุงญานินขึ้นมาบนห้องคงไม่มีทางเป็นไปได้ เพราะญานินเป็นคนตัวสูงถึงร้อยเจ็บสิบ ส่วนปลายฝนสูงเพียงร้องหกสิบกว่าๆ เท่านั้น
“เฮียกลับไปก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวที่เหลือฝนจัดการต่อเองขอบคุณมากนะคะ” ปลายฝนเอ่ยขอบคุณเมื่อมายืนที่หน้าห้องของญานินเป็นที่เรียบร้อย
“ต้องใช้คีย์การ์ด จะกลับบ้านไหมหรือจะนอนที่นี่” เขาไม่สามารถลงไปด้านล่างได้เพราะต้องมีคีย์การ์ดห้อง ถึงจะสามารถใช้ลิฟต์ได้
“กลับค่ะ แต่ต้องเช็ดตัวให้นินก่อน คงอีกนานค่ะ”
“เดี๋ยวไปส่ง” โดนัทเอ่ยเพียงเท่านั้นเขาผลักประตูให้เปิดออกแล้วช่วยพยุงร่างของญานินไปที่เตียงนอน ที่เป็นห้องแยกกับห้องรับแขก
โดนัทเดินออกมานั่งรอที่ด้านนอก เขาจ้องมองการกระทำของปลายฝนที่เดินเข้าออกระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ ไม่ได้เกิดความเบื่อหน่ายแต่อย่างใด ภาพตรงหน้ากลับทำให้เขายิ้มมุมปากและมองจนเพลิดเพลิน
“กลับกันเถอะค่ะ” ปลายฝนเอ่ยขึ้นหลังจากที่เช็ดตัวให้ญานินเสร็จแล้วเรียบร้อย เธอหยิบคีย์การ์ดสำรองที่อยู่ในลิ้นชักออกมา นำพาโดนัทมาที่ชั้นล่างโดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน
“บอกทาง เดี๋ยวไปส่ง” โดนัทเน้นย้ำอีกครั้ง ว่าเขาตั้งใจที่จะไปส่งเธอให้ถึงบ้าน “มันดึกจนจะเช้าแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ” คำพูดของเขาได้ผล ปลายฝันเดินตรงไปขึ้นรถและบอกจุดหมายปลายทางให้เขาได้ทราบ