บทที่ 4 ห่วงใย
เมื่อหันมองกลับมาอีกครั้ง ปลายฝนก็ผล็อยหลับไปแล้ว โดนัทจึงตัดสินใจเลี้ยวรถเข้ามาภายในปั๊มน้ำมันที่มีชื่อแห่งหนึ่ง เขาทำเพียงจอดรถติดเครื่องยนต์เอาไว้
จ้องมองใบหน้าของปลายฝนพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อย เธอคงเหนื่อยมาทั้งวัน ไหนจะไปรับเพื่อนทั้งสองคนอีก โดนัทจึงทำได้เพียงค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ เช่นเดียวกัน
“เฮีย…ตื่นเถอะค่ะ” เสียงเรียกของปลายฝนทำให้เขาค่อยๆ ลืมตาตื่น “ขอโทษนะคะที่หลับ เฮียทำไมไม่ปลุกฝนคะ” น้ำเสียงออกเชิงตำหนิชายหนุ่มที่ไม่ยอมปลุกให้เธอตื่น
“ก็เห็นหลับสบาย ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” โดนัทเดินลงไปจากรถเพื่อทำธุระ มีเพียงสายตาของปลายฝันที่จ้องมองไปยังเขาที่หายเข้าไปในห้องน้ำ
ติ้ง…
(ถึงหรือยังครับ ไม่เห็นตอบข้อความพี่เลย)
ปลายฝนหันมองข้อความที่ปรากฏที่หน้าจอโทรศัพท์ แต่กลับไม่ยอมเปิดอ่านถ้าหากเธอเปิดอ่านข้อความของอาคินในตอนนี้ คงอธิบายเรื่องทุกอย่างได้ยาก จึงตัดสินใจกดล็อกหน้าจอเอาไว้ตามเดิม
“ดื่มน้ำหน่อยไหม” โดนัทยื่นขวดน้ำเปล่าแช่เย็นมาตรงหน้าของปลายฝน เขาเองก็มีขวดน้ำอีกขวดในมือพร้อมกับเปิดฝาแล้วยกมันขึ้นดื่มโดยที่ไม่ใช้หลอดที่นำติดมือมาด้วย “บอกทางอีกรอบ”
“ค่ะ ฝนขอโทษนะคะ”
“มีอะไรให้ขอโทษ รีบบอกทางจะเช้าแล้ว” โดนัทพูดขึ้น รถเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่ปลายฝนบอก ตอนนี้เธอรู้สึกตื่นเต็มตาจ้องมองถนนเบื้องหน้าใจจดจ่อ
“หัวเราะอะไรคะ”
“ไม่มีอะไร แค่มองเห็นแมวมันน่ารักดี” สิ้นคำพูดของเขา ปลายฝนรีบหันมองหาสิ่งนั้นด้วยความสนใจ ยิ่งทำให้โดนัทหัวเราะอีกครั้ง “ไม่ต้องมองหรอก”
“ทำไมคะ”
“ไม่มีอะไร เลี้ยวซอยหน้าใช่ไหม”
“จอดตรงนี้ได้เลยค่ะ ไม่ต้องไปส่งถึงหน้าบ้านหรอกค่ะ ฝนเดินเข้าไปนิดเดียวก็ถึงค่ะ”
“ไม่เป็นไป” โดนัทตัดสินใจหักพวงมาลัยเข้าไปในซอย โดยไม่ฟังคำพูดของปลายฝน ซอยขนาดเล็ก รถยนต์ไม่สามารถสวนทางกันได้ เพราะอีกเลนมีรถยนต์จอดอยู่ เขาจึงเข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่อยากให้ขับรถเข้ามาในซอย
“ขอบคุณมากนะคะ”
“เข้าบ้านเถอะ” โดนัทพูดแค่นั้น ก่อนที่เขาจะมองแผ่นหลังของเธอที่หายเข้าไปในรั่วบ้าน แต่รถยนต์ก็ยังนิ่งอยู่เช่นเดิม เมื่อมองเห็นไฟในบ้านเปิดติดแล้ว เขาจึงเคลื่อนรถกลับบ้าน
ในช่วงเช้าตรู่ที่นอนหลับได้เพียงน้อยนิด ปลายฝนก็ต้องคว้าเอาโทรศัพท์ที่กำลังแผดเสียงแจ้งเตือนในตอนเช้า ร่างกายที่ยังมีความเหนื่อยล้าทำให้เธอต้องฝืนทนลุกขึ้นไปทำอาหารในเวลาตีห้าครึ่งของทุกวัน
เมื่อทำอาหารเสร็จแล้วถึงได้มาอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนตามปกติเช่นทุกวัน ในมือของปลายฝนมีถุงผ้าที่บรรจุอาหารเอาไว้เต็มปิ่นโตใหญ่ ก่อนที่จะไปมหาลัยเธอไม่ลืมแวะเอาข้าวเช้าไปให้พี่สาว ที่ตื่นขึ้นมาเตรียมร้านตอนตีห้า
“วันนี้มีต้มจืดตำลึงกับปลาแดดเดียวทอดแล้วน้ำพริกของโปรดพี่ดาวนะ ฝนมีทำงานต่อหลังเลิกเรียนคงกลับดึกหน่อยนะคะ” รอยยิ้มของเธอยังคงสดใสอยู่เช่นเดิม แต่ก่อนที่จะได้พูดต่อ เสียงรถยนต์ที่คุ้นเคยก็ขับเข้ามาจอดที่หน้าร้าน
“สวัสดีครับพี่ดาว” อาคิดที่เดินยิ้มเข้ามากล่าวคำทักทาย
“วันนี้มีเรียนเช้าเหมือนกันเหรอ”
“ครับ ผมมีสอบตอนเช้ากับบ่ายครับ”
“ตั้งใจสอบนะ ไปกันได้แล้วเดี๋ยวรถติดไปไม่ทันกันพอดี ฝนเอานี่ไปด้วยพี่ซื้อมาให้” ทัดดาวยื่นถุงหูหิ้วให้กับปลายฝน “แบ่งกันทานนะ” และยังส่งกาแฟเย็นมาให้กับอาคินอีกหนึ่งแก้ว
“ขอบคุณมากนะครับ”
“รีบไปๆ” ทัดดาวเอ่ยไล่ตามหลัง เธอยิ้มออกมาด้วยความสุขเมื่อมองเห็นสีหน้าของน้องสาวที่มีความสุขกับผู้ชายคนนี้ เธอได้แต่หวังว่าเขาและปลายฝนจะได้อยู่เคียงข้างกันไปตลอด
ในบางครั้งทัดดาวก็โทษตัวเองที่ทำหน้าที่พี่สาวไม่ดีพอ เห็นความลำบากของครอบครัวตั้งแต่ที่แม่เสียไป ชีวิตที่ไม่เคยต้องมารับผิดชอบอะไรกลับเปลี่ยนไปในทันที
ส่วนพ่อของเธอนั้นแม่ไม่เคยพูดถึงส่วนพ่อของปลายฝนแม่เคยบอกแค่ว่าเป็นคนญี่ปุ่น ที่มาแลกเปลี่ยนที่ไทยหลังจากที่เขากลับไปแม่ก็ท้องปลายฝน ส่วนทัดดาวเป็นลูกสามีอีกคน แต่ถึงอย่างนั้นพี่น้องต่างพ่อทั้งสองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้และรักกันดีมาตลอด
“เมื่อคืนฝนถึงบ้านกี่โมง พี่โทรหาก็ไม่รับข้อความก็ไม่อ่าน อย่าทำแบบนี้อีกนะพี่เป็นห่วง” อาคินถามขึ้น
“ขอโทษนะคะ ฝนถึงบ้านอาบน้ำก็นอนเลย คราวหน้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะสัญญา หายโกรธฝนนะคะ” น้ำเสียงออดอ้อนของเธอทำให้เขาโกรธไม่ลงสักครั้ง
“ต้องทำอะไรรู้ใช่ไหมครับ” เขาหยุดรถที่หน้าตึกบริหาร ก่อนที่ปลายฝันจะโน้มใบหน้าเข้าไปหอมแก้มอาคินเหมือนอย่างที่เคยทำ แต่เขากลับไม่เพียงพอแค่นั้น ริมฝีปากหยักได้รูปแนบชิดเข้าหากเธอในทันที
เขาเน้นน้ำหนักแรงกด ก่อนที่ริมฝีปากของปลายฝนจะเผยออกให้เข้าได้สอดปลายลิ้นเข้าไป ความรู้สึกร้อนรุ่มเพราะสัมผัสที่ต่างออกไปทำให้อาคินรีบผละออกห่างอย่างเสียดาย ถ้าหากวันนี้เข้าไม่รีบไปสอบคงมีเวลาอยู่ต่อกับเธออีกเล็กน้อย
“หายโกรธแล้วครับ” อาคินยิ้มกริ่มด้วยความพอใจ ก่อนที่เขาจะหอมแก้มเธอไปอีกครั้ง ก็ใครใช้ให้ปลายฝนทั้งสวยทั้งน่ารักแบบนี้ เป็นใครก็อดใจไม่ไหวเช่นเดียวกันกับเขา
“นี่…” อยู่ๆ เธอก็หยิบของบางอย่างขึ้นมาจากพื้น “ของรินไม่ใช่เหรอคะ”
“คงใช่..น่าจะทำหล่นเอาไว้เมื่อคืน จำได้ด้วยเหรอว่าเป็นของริน” อาคินถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ทำไมจะจำไม่ได้ละค่ะ ลิปแท่งนี้ รินชอบทาเป็นประจำ เห็นบ่อยๆ มันก็คุ้นตานะคะ เดี๋ยวฝนเอาไปคืนให้เองค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ อย่าเอาแต่มองสาวแล้วไม่มองทาง” ปลายฝนเอ่ยแซว กลับได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของเขาเพียงเท่านั้น
“วันนี้แกมาสาย” ญานินเอ่ยแซวเพื่อนรัก เมื่อมองเห็นว่าเธอเดินลงมาจากรถของอาคิน
“ไม่สายสักหน่อย”
“รถจอดนานแล้วนะทำไมไม่ลงมาสักที หรือจูบร่ำลากันอยู่จ๊ะ” น้ำเสียงเอ่ยแซวดังขึ้นทำให้ปลายฝน ก้มหน้าเขินอายและตอบปัด ญานินที่เห็นอาการเขินของเธอถึงกลับชอบใจ
“โอ๊ยยย พอกันสักทีเถอะ เลิกเสียงดังหัวฉันจะระเบิดอยู่แล้ว วันนี้ฉันคงเรียนแค่คาบเช้านะ ไม่รู้จะอยู่รอดไหมเนี่ย” เอรินบ่นขึ้น ก่อนที่จะหยิบยาแก้ปวดออกมาทาน
“ไม่ไหวก็กลับไปนอนเถอะ เดี๋ยวฉันลาป่วยให้แกเอง” ญานินตอบกลับ
“ใช่ริน ถ้าไม่ไหวก็กลับเถอะ รายงานกลุ่มไม่เป็นอะไรหรอก ฉันกับนินจัดการเองได้” ปลายฝนเห็นด้วยกับคำพูดของญานิน พอเห็นอาการของเอรินแล้วเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้
“ไม่เป็นไร งานกลุ่มก็ต้องทำด้วยกันสิอีกอย่าง…วันนี้เรียนรวมกับผู้ชายด้วยนะ อาหารตาทั้งนั้น”
“แกนี้นะ นิสัยไม่สมกับหน้าตาจริงๆ” ญานินบ่นออกมา
“ทำไมนิสัยดีหน้าตาก็สวยละสิ” เอรินเอามือทั้งสองข้างโอบแก้มของตัวเองเพื่ออวดความสวยให้กับญานินและปลายฝน เป็นการแกล้งเล่นขำขันกันในกลุ่มเพื่อนเพียงเท่านั้น
“นี่ของแก ทำตกเอาไว้ที่รถพี่คินนะ” ปลายฝนยื่นลิปสติกแท่งสีดำคืนให้กับเอริน
“ฉันหาแทบตาย ขอบใจมากนะ สงสัยคงทำหล่นเอาไว้เมื่อคืน เมื่อคืนเมาจำอะไรไม่ได้เลย ตื่นมาแม่ฉันบ่นจนหูชา” เอรินพูดต่อ “ว่าแต่ใครไปส่งแก” เธอหันไปถามญานิน
“ฝนบริการดีถึงที่ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ด้วยล่ะ”
“ทำไมฉันไม่ได้บริการจากแกบ้างฝน คราวหน้าถ้าฉันเมาแกต้องเอาฉันไปไว้ที่ห้องยัยนินนะ”
“ฉันให้หนุ่มหล่อไปบริการถึงที่แล้วไง ส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก็ดีแล้วอย่าบ่นนักเลย” ปลายฝนพูดขึ้นก่อนที่เสียงหัวเราะของทั้งสามคนจะดังขึ้น