บทที่ ๑ ร่วมเตียง (๒)
“ตกลงจะเอาบนเตียง หรือลองแบบยืนดูไหม” ถามจบก็ไม่รอให้หล่อนได้ตอบ รีบจับร่างบางหันหลังอย่างรวดเร็ว อารมณ์ร้อนรุ่มไม่สนใจแม้กระทั่งถุงยางอนามัยที่ซื้อมาหลายชิ้น
ความแข็งขืนที่โดนบั้นท้ายทำเอาหล่อนรีบส่ายหน้า แต่เขาไม่รอช้ารีบเข้าไปในกายสาวอย่างรวดเร็ว ทว่าใบหน้าคมก็เหยเกเมื่อพบกับความคับแน่น การสอดใส่จึงต้องค่อยเป็นค่อยไปเพราะร่างบางร้องตลอดเวลา
“เจ็บ เอาออกไป ฉันเจ็บ” บอกเสียงหลง แต่มีหรือที่ร่างหนาจะยอมทำตาม มาขนาดนี้แล้วใครเล่าจะทนไหว เขาแค่หยุดการกระทำทุกอย่างแล้วเลื่อนมือไปกอบกุมทรวงอกด้านหน้า บีบเคล้นเพื่อหันเหความสนใจของหล่อน
จูบซับที่ท้ายทอยเพื่อผ่อนคลายความเครียด เริ่มคิดว่าบางทีตนสลับบทบาทกันหรือเปล่า เธอมาใช้บริการเขาอย่างนั้นเหรอ
“ไม่เจ็บหรอก นิดเดียวก็ดีขึ้นแล้ว ฉันกำลังจะพาเธอขึ้นสวรรค์” เหมือนปลอบเด็กที่กำลังกลัว ถ้าจะให้หยุดตอนนี้คงทำไม่ได้ มีเพียงทางเดียวคือต้องค่อยเป็นค่อยไป และเมื่อสอดกายเข้าไปด้านในจนสุดก็แช่ค้างไว้อย่างนั้นสักพักเพื่อให้หล่อนได้หายตระหนก
ชายหนุ่มขยับกายช้าๆ เพื่อดูว่าคนตรงหน้าเป็นเช่นไร ถึงจะมองจากด้านหลังแต่เขาก็รับรู้ว่าหล่อนคงมีอารมณ์ร่วมไม่ต่างกันนัก จากที่ตอนแรกบอกให้เอาออกตอนนี้กลับเริ่มครางเสียงเบา เขาจึงเพิ่มความเร็วมากกว่าเดิม
คราวนี้ร่างบางเปล่งเสียงดังอย่างลืมตัว ลำตัวสั่นคลอนก่อนเขาจะรวบผมยาวไปไว้ด้านหน้าเพราะเกะกะ กอบกุมทรวงอกที่สั่นตามแรงโยก ซบหน้าลงที่ไหล่มนพลางขบเม้มอย่างลืมตัว ทั้งที่ไม่ค่อยชอบฝากรอยไว้บนร่างกายคนอื่นเท่าไหร่
แต่ตอนนี้เขาทำรอยบนตัวเธอถึงสองรอยด้วยกัน ถ้าหญิงสาวตื่นขึ้นมาจะด่าทอก็ตามใจ จะยอมนิ่งเงียบไม่ต่อปากอย่างใด
“แรง แรงอีก” เอี่ยวหน้ามาบอก แล้วมีหรือที่คนตัวสูงจะไม่ทำตาม เพิ่มความแรงจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่งห้อง ตอนนี้พวกเขาไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้นนอกจากคนตรงหน้า
ชายหนุ่มทะยานพาหล่อนไปสู่เส้นทางคดเคี้ยวอันแปลกประหลาด เธอไม่สามารถหักห้ามความต้องการส่วนลึกเอาไว้ได้ ถึงใจจะสั่งให้หยุดแต่ดูเหมือนมันจะสายเกินไปเสียแล้ว ปลายทางของถนนเส้นนี้มีเพียงแสงขาวโพลนทว่าเต็มไปด้วยความสุขสม
ลมหายใจร้อนเป่ารดต้นคอ ก่อนเธอจะทรุดนั่งลงบนพื้น พวกเขายังไม่ทันได้ขึ้นบนเตียงก็มีความสุขกันตั้งแต่หน้าประตู ไม่รู้ว่าคืนนี้จะจบลงตรงไหน
แต่เขามั่นใจว่ามันจะไม่ใช่แค่รอบเดียวอย่างแน่นอน
“บ้าเอ๊ย!” โยนกระเป๋าสตางค์ลงบนพื้นเมื่อพบว่าเงินหายไปเกือบหมื่น ปกติชายหนุ่มไม่ค่อยกดธนบัตรมาใส่กระเป๋าไว้ ส่วนมากเขาใช้บัตรเครดิต แต่เพราะเมื่อคืนจะมาใช้บริการหญิงสาวจึงเตรียมเงินไว้ให้เป็นค่าเหนื่อย
ใครจะคิดว่าคนที่ตนเลือกจะโดนแย่งชิงไป แล้วดันเจอหญิงอีกคนที่แม้ลีลาไม่เด็ดแต่กลับทำให้เขาสุขสมไปหลายรอบจนหลับสนิทบนเตียง ตื่นมาอีกทีพบว่าหล่อนไม่อยู่แล้ว แถมยังขโมยเงินไปอีกต่างหาก
ยังดีที่นาฬิกาเรือนหลายล้านยังคงอยู่ ไม่งั้นเขาได้แจ้งความเพื่อจับหล่อนเป็นแน่ ถือว่าคราวซวยก็แล้วกัน เงินแค่นั้นขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก ก็แค่เศษไม่กี่บาท
“ถ้าฉันเจอเธออีก เธอไม่ได้อยู่ดีมีสุขแน่” หมายมาดไว้ในใจแล้วเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย
เมื่อคืนก็ต้องยอมรับว่ามีความสุขมากจริงๆ จนลืมสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคไปเสียสนิท เขาไม่รู้ว่าหล่อนไปทำรีแพร์มาหรือเปล่า ทำไมช่องทางจึงได้แคบจนเข้าแทบไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหรอก สิ่งที่ตนควรจะทำคือต่อจากนี้ต่างหาก
“คุณช่วยจองคิวตรวจโรคทางเพศให้ผมด้วยนะ” โทรบอกผู้ช่วยของตนแล้ววางสาย อย่างน้อยก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน ชายหนุ่มคิดว่าต้องเข้าตรวจโรคทุกชนิด ไม่รู้ว่าหล่อนจะมีโรคแฝงหรือเปล่า
เสียดายหน้าตาก็สะสวย ถ้าอยากได้เงินเพียงแค่บอกอย่างไรเขาก็ให้อยู่แล้ว มาขโมยกันแบบนี้สงสัยคงไม่อยากอยู่แบบปกติสุขสินะ...
ซีดานสีเข้มขับมาจอดหน้าบริษัทขนาดสามชั้น ตึกแห่งนี้อยู่นอกเมืองและมีโกดังอยู่ด้านหลังสำหรับส่งของและผลิตสินค้าให้ผู้บริโภคที่มีทั่วประเทศ ร่างหนาลงจากตำแหน่งคนขับแล้วเดินเข้ามาข้างใน เขาเลือกสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีเรียบและกางเกงสแลคเท่านั้น ไม่ได้ใส่สูทอย่างเคยเพราะเพียงแค่อยากตรวจดูของด้านใน
ปลาบปลื้ม หทัยจงสวัสดิ์หรือคุณปลื้มที่ใครๆ ต่างรู้จักว่าเป็นลูกชายคนเล็กของตระกูลใหญ่ ที่รวยติดอันหนึ่งในยี่สิบของประเทศ
หทัยวิมล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เป็นเครือขนาดใหญ่ที่สองสามีภรรยาสร้างขึ้นมาด้วยกัน โดยใช้เวลานับสามสิบปีกว่าจะขยายให้เป็นที่รู้จักและสร้างกำไรมหาศาล มีทั้งน้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยวและที่กำลังโด่งดังคือแบรนด์เครื่องสำอาง
คุณชนะชล หทัยจงสวัสดิ์ ผู้ก่อตั้งบริษัทร่วมกับคุณปริมกมล วิมลสุขผู้เป็นภรรยา พวกท่านเริ่มจากน้ำแร่ธรรมชาติ หันมาจับน้ำหวานรสชาติอร่อย ขยับขยายมาเป็นขนมและปัจจุบันเพิ่มเครื่องสำอางเข้าไปด้วย
อาณาจักรขยายใหญ่ขึ้นจนเข้าตลาดหลักทรัพย์ มีผู้ถือหุ้นจำนวนมาก ก่อนท่านจะจากโลกนี้ไปด้วยโรคร้ายอย่างมะเร็งปอด จึงหลงเหลือภรรยาสานหน้าที่ต่อได้เป็นอย่างดี และตอนนี้ได้ลงจากตำแหน่งให้ลูกชายคนโตอย่างคุณโปรดปราน หทัยจงสวัสดิ์ทำหน้าที่ประธานผู้บริหาร และถือหุ้นส่วนใหญ่รับตำแหน่งแทน
“เสียหายเท่าไหร่” เจ้าหน้าที่ดูแลฝ่ายผลิตรีบเข้ามารับหน้า ใครจะคิดว่าบริษัทจะส่งรองประธานอย่างปลาบปลื้มมาเอง ตอนแรกคิดว่าจะเป็นพนักงานฝ่ายการตลาดเท่านั้น
แต่พอเห็นหน้าจึงได้รู้ว่าตนกำลังจะโดนเชือดแล้ว จากแววตาของน้องชายท่านประธาน ถ้าไม่เชือดตนทิ้งก็คงเอาไปเผาทั้งเป็น
“ครีมรองพื้นมีสารปะ ปนเปื้อน ขะ ครับ เสียหายโดยประมาณหะ ห้าล้าน” แค่ดวงตาคมจ้องมาก็เสียงสั่น มือหนาหยิบเอกสารมาตรวจอีกครั้งทั้งที่ก่อนมาเขาอ่านอย่างละเอียดแล้ว เป็นเพราะพนักงานประมาทเทส่วนผสมผิด ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
“เงินไม่ใช่น้อยเลยนะ คุณว่าไหม” โยนเอกสารไปไว้บนโต๊ะ ตอนนี้เขาอยู่ห้องประชุมที่เป็นกระจกใส มองเห็นโกดังและโรงงานผลิตได้ชัดเจน
ในส่วนปัญหาเรื่องนี้พี่ชายมอบหมายให้เขาจัดการ เพราะฝ่ายนั้นก็มีงานล้นมือจนแทบไม่ได้กลับบ้าน ส่วนมากท่านประธานมักจะอาศัยอยู่คอนโดใกล้บริษัท และซื้อทั้งชั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องอยู่บ้านทนฟังคำบ่นจากมารดาเหมือนน้องชายคนเล็ก
“ส่วนปนเปื้อนทิ้งทั้งหมดแล้วทำใหม่ให้ทันส่งตลาด เงินที่เสียคุณต้องทำการตลาดสินค้าอื่นให้มาทดแทนส่วนนี้ ห้ามกลับบ้านจนกว่ายอดที่ได้มาจะมากกว่ายอดที่เสียไป” ชัดเจนจนคนฟังต้องผงกศีรษะรับคำสั่ง หลังจากนั้นจึงพาร่างสูงลงไปดูการผลิต
ส่วนลูกน้องที่ทำพลาดเขาได้ตักเตือนพร้อมหักเงินเดือนเรียบร้อยแล้ว การไล่ออกไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก ต้องนำคนผิดมาใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด จะได้รู้ว่าต่อจากนี้ควรมีสติในการทำงาน ไม่ใช่มัวแต่คิดเรื่องอื่นจนบริษัทต้องมารับกรรมจากความชุ่ยของบุคคลผู้เดียว
“คุณผู้หญิงคะ มีคนมาอ้างว่าท้องกับคุณปลื้มมาขอพบค่ะ” หญิงวัยกลางคนที่กำลังนั่งชาขณะอ่านหนังสืออยู่สวนดอกไม้หลังบ้านต้องชะงัก ท่านวางแก้วราคาแพงลงที่จานรอง ดวงหน้าหวานมีริ้วรอยตามกาลเวลาตีสีหน้าเรียบสนิท
ไม่เคยมีคนมาหาท่านด้วยสาเหตุนี้มาก่อน คุณปริมกมลลุกยืนเต็มความสูง เดินเข้าไปในบ้านตามหลังด้วยแม่บ้านที่ใส่ชุดเป็นรูปแบบเดียวกันคือเสื้อสีฟ้าผ้าเรียบมีกระดุมด้านหน้า และกางเกงสีดำใส่สบายเพื่อจะได้ทำงานบ้านสะดวก