เออ! อย่ามาหลงรักก็แล้วกัน -Ep.7-
-Ep.7-
"พอดีจะเข้าตลาดไปเอาสมุดบิลของฟาร์มที่สั่งออกแบบไว้น่ะ" แบงค์ตอบพร้อมๆ กับเร่งเครื่องยนต์ออกจากฟาร์ม
"สมุดบิลเปลี่ยนแบบเหรอ?"
"ใช่ แม่นกไม่ค่อยชอบที่บิลฟาร์มอรุณวรินทร์ไปคล้ายกับของฟาร์มอิ่มอกอิ่มใจน่ะ พี่เมย์ก็เลยออกแบบให้ใหม่"
"เห็นชัดๆ ว่าเราทำก่อนอีก!" ใบหม่อนบึนปากบ่น ฟาร์มอิ่มอกอิ่มใจประกอบกิจการคล้ายๆ กับฟาร์มอรุณวรินทร์ แต่เคยโดนเรื่องนมวัวมีกลิ่น เลยเสียความน่าเชื่อถือไปบ้าง ลูกค้าที่ฟาร์มนั้นมีก็เป็นลูกค้าขาจร ไม่ค่อยมีประจำ แต่ก็ดำเนินกิจการไปได้เรื่อยๆ อาจเพราะฝ่ายขายทำงานเก่งมั้ง
แบงค์หันไปยิ้มให้คนที่ทำแก้มป่องก่อนเอามือยีหัวเธอเบาๆ "เอาน่า...เปลี่ยนก็ดี จะได้ดูมีอะไรใหม่ๆ"
พอถึงตลาดในเมือง แบงค์ก็เข้าไปรับบิลที่ร้านก่อน เสร็จแล้วจึงพาใบหม่อนไปเดินตลาดสด แบงค์ตามถือของให้ใบหม่อนทุกอย่าง ซื้อขนมอร่อยๆ ให้เธอกินก็เยอะ กับใบหม่อนแบงค์เป็นตัวของตัวเองที่สุด เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็ก อีกอย่าง...เขาก็เอ็นดูเธอและคิดกับเธอมากกว่ารุ่นน้องที่รู้จัก เพียงแต่ไม่เคยเผยความรู้สึกให้ใครได้เห็น เพราะรู้ดีว่าใบหม่อนชอบศินมากแค่ไหน ของที่ถือในมืออยู่ตอนนี้เขาล้วนรู้ดีว่าใบหม่อนซื้อไปให้ใคร
"วันนี้บ้านใหญ่ไม่ทำกับข้าวเหรอ?" ระหว่างขับรถกลับ แบงค์ก็ได้เอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย ปกติบ้านใหญ่ทำกับข้าวไม่เคยขาด ตัวเขาเองยังเคยเข้าไปฝากท้องที่นั่นประจำ กินจนรู้ว่ากับข้าวหม้อนี้ใครเป็นคนทำ
"อ๋อคือ...วันนี้แม่นกเข้าโกดังแต่เช้าน่ะ เลยทำไม่ทัน หม่อนก็มาสายด้วย" เธอโกหกคำโต
"อ่อ" พูดมาถึงตรงนี้แบงค์ก็พึ่งนึกได้ว่าเมื่อเช้าศินโทรมาหา
"พี่ศินไม่ค่อยสบายน่ะ" ใบหม่อนว่าต่อเพราะกลัวแบงค์ถามถึงสาเหตุที่ศินไม่เข้าโกดัง เธอเลือกที่จะโกหกเพราะไม่อยากเอาศินมาขาย เดี๋ยวจะโดนลูกน้องในฟาร์มมองไม่ดี เฉพาะเรื่องที่เขาไม่ค่อยอยู่ติดฟาร์มจนงานเริ่มไม่เป็นระเบียบ เทียววานคนนู้นทีคนนี้ทีให้ดูงานแทนก็ถูกคนงานซุบซิบกันมากพออยู่แล้ว นี่ถ้ารู้กันว่าเจ้านายติดผู้หญิงแถมยังโดนสาวทิ้ง ฟาร์มอรุณวรินทร์คงมีพาดหัวข่าวใหม่ที่น่าสนใจให้คนงานได้เมาท์กันสนุกปากแน่
"อ่อ เมื่อช่วงสายๆ พี่เห็นหม่อนขับมอเตอร์ไซต์ออกไป ก็นึกว่าไปตลาดมา"
"อ๋อ หม่อนไปซื้อโจ๊กกับยาให้พี่ศินน่ะ พอดีมื้อเที่ยงคนป่วยอยากกินข้าวมันไก่กับขนม หม่อนก็เลยออกมาซื้อให้"
"อ่อ" แบงค์ชำเลืองมองคนข้างๆ ไม่เต็มตานัก แม้จะรู้สึกว่าใบหม่อนทำตัวแปลกๆ แต่เขาก็ไม่คิดจะเค้นถามเอาความอะไร ตั้งใจขับรถต่อไปจนถึงฟาร์ม
"ขอบคุณมากนะพี่แบงค์ ไว้เย็นๆ หม่อนจะเข้าไปเล่นด้วยที่ออฟฟิศ" ใบหม่อนยืนคุยกับแบงค์หลังจากลงรถแล้วเดินอ้อมมายืนฝั่งคนขับ เพราะต้องไปรอเอาบิลอยู่แล้วเธอเลยพูดแบบนั้น
"โอเค พี่ไปก่อนนะ" แบงค์พยักหน้าให้คนที่ยืนอยู่นอกรถ พอใบหม่อนหันหลังเดินเข้าบ้าน แบงค์ก็ขับรถเข้าไปข้างในแล้วตรงไปยังออฟฟิศทันที
เหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ในสายตาศินทุกอย่าง เพราะห้องนอนของเขาอยู่ติดถนนทางเข้าฟาร์ม แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไร ทำไมต้องรู้สึกด้วยก็ในเมื่อเขาไม่ได้ชอบพอกับใบหม่อน ว่าก็ว่าเถอะ ทำไมแม่เขาไม่ประเคนใบหม่อนให้แบงค์ไป หมอนั่นก็ดูเข้าท่าดี มีความเป็นผู้ใหญ่ เรื่องงานก็พอพึ่งพาได้ ทำไมต้องพยายามยัดเยียดเธอมาให้เขาด้วย ทั้งๆ ที่กูก็เป็นแบบนี้
ตอนนี้ศินกำลังพยายามติดต่อรินทุกทาง แต่ข้อความที่ส่งไปไม่เคยถูกอีกฝ่ายเปิดอ่าน โทรก็ไม่เคยติด ศินเลยว่าจ้างพวกวัยรุ่นในเมืองที่พอจะรู้จักกันให้ตามหารินอีกแรง
มือหนายกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมดไปอีกกระป๋อง ดวงตาคมจึงเริ่มแดงรื้น ก่อนจะเปิดกระป๋องใหม่ที่หยิบมาเผื่อแล้วกระดกดื่มย้อมใจไปอีกสองสามอึก
แกร็ก
"พี่ศินแม่ล่ะ?" เสียงเล็กดังขึ้นพร้อมร่างบางที่เปิดประตูพรวดเข้ามา ถึงการเข้าห้องคนอื่นโดยไม่เคาะประตูก่อนจะเป็นการเสียมารยาท แต่นั่นไม่ใช่กับใบหม่อน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นการกระทำที่ศินเองก็คุ้นชินไปเสียแล้ว ใบหม่อนจึงไม่ได้รับเสียงต่อว่าใดๆ จากเขา
"น้ากรอยมารับไปเรือนคุณย่าแล้ว" หากแต่เสียงที่ตอบกลับไปนั้นมีความเยือกเย็นพอสมควร เพราะเขาไม่ใช่ศินคนที่เคยเอ็นดูใบหม่อนอีกแล้ว เรื่องที่แม่และใบหม่อนทำกับริน มันมากเกินกว่าที่เขาจะกลับมามองเธอเหมือนเก่า
ศินไม่ได้หันไปมองคนถาม เพราะมือกำลังวุ่นกับการกดโทรศัพท์อยู่ อีกมือก็กำกระป๋องเบียร์ไม่ห่าง ใบหม่อนที่พึ่งสังเกตุเห็นจึงรีบว่าให้เขา
"พี่กินเบียร์อีกแล้วเหรอ? พี่ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะพี่ศิน เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก!" ร่างเล็กเดินเข้าไปเก็บกระป๋องเบียร์เปล่าที่หล่นอยู่ข้างเท้าหนา กับอีกกระป๋องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างๆ หน้าของศินดูโทรมจนเธอทนมองไม่ไหว ได้แต่ถอนหายใจแล้วเก็บกระป๋องทิ้งถังขยะ ก้มเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายลงในตะกร้าด้วย
"อย่ามายุ่ง!" เขาตอบ แต่ไม่ได้สนใจมองเธอสักนิด
"หม่อนซื้อข้าวมาให้แล้ว พี่รีบไปกินเถอะ"
"พี่ไม่อยากกินของที่เปื้อนมือเธอ!"
"อยากปวดท้องตายเหรอพี่ศิน?" ใบหม่อนทนมองคนทำตัวหยิ่งผยองไม่ได้อีกต่อไป เลยเข้าไปคว้าต้นแขนแกร่งให้หันมาคุยกันดีๆ นี่เขาจะเป็นบ้าให้ได้เลยใช่ไหม?
คนโดนดึงแขนหันมาจ้องเธอตาแข็ง ก่อนจะกระตุกแขนออกจากการจับกุมของมือบางอย่างนึกรังเกียจ บอกตามตรง เขารู้สึกอึดอัดที่ต้องมองใบหน้าสวยแสร้งซื่อของเธอเต็มทน แม้แต่เสียงก็ไม่อยากได้ยิน เมื่อก่อนศินไม่เคยคิดเล็กคิดน้อยกับการมีตัวตนของใบหม่อนเลย แต่หลังจากที่เกิดเรื่องกับริน การมีอยู่ของใบหม่อนก็กลายเป็นที่น่ารำคาญ เธอเหมือนเป็นส่วนเกินในชีวิตเขา ซึ่งเขาอยากจะตัดมันเต็มทน!
"เธออยากจะทำอะไรในบ้านก็เชิญตามสบายเลยหม่อน แต่ขอร้อง...อย่ามายุ่งกับพี่!"
"หม่อนเป็นห่วงพี่นะพี่ศิน! ดูสภาพตัวเองก่อนว่าตอนนี้มันเป็นยังไง เนี่ยเหรอคุณศตายุผู้สืบทอดกิจการของฟาร์มอรุณวรินทร์ มีสติหน่อยไม่ได้เหรอ?"
"แล้วใครวะมันทำให้กูเป็นแบบเนี๊ย!!"
ตุบ!
"โอ๊ย!!..." ร่างเล็กถลาเข้าไปกระแทกอกแกร่งเมื่อถูกเขากระชากแขนตอนที่ตวาดโวยวาย
ดวงตาคมแดงรื้นจ้องมองใบหน้าสวยของใบหม่อนที่กำลังเบ้หน้าอย่างโมโหจัดพลางขบกรามแน่นจนปากสั่น แต่ครู่เดียวศินก็รู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรออกมา เขาผ่อนแววตาที่โกรธจัดลงแล้วสะบัดแขนใบหม่อนออก ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ก็อยากมายั่วประสาทเขาเองหนิแล้วจะโทษใครล่ะ? คนยิ่งหัวเสียอยู่!
"พี่แม่งโครตไม่มีสติเลยพี่ศิน!" ใบหม่อนสะบัดตัวเดินไปหยิบตะกร้าผ้าของคนที่พึ่งจะตวาดใส่เธอมาอุ้มไว้แล้วเดินออกไปจากห้อง ถามว่าเธอร้องไห้เหรอ? เปล่านะ แต่อยากจะปาตะกร้าผ้าใส่คนเสียสติมากกว่า นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องซักนะ โดนแน่!