บท
ตั้งค่า

5 ชอบชีวิตที่อิสระ

เหลี่ยมรักหัวใจมาเฟีย

ตอนที่5

ชอบชีวิตที่อิสระ

มหาวิทยาลัย

"เย้ๆในสุดการเรียนของวันนี้ก็สิ้นสุดลงแถมช่วงบ่ายอาจารย์ก็ยกคลาสอีก วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีและยอดเยี่ยมเลยว่าไหมเจ้าเอ๋ย พระพาย"กระต่ายเดินกอดคอเพื่อนรักทั้งสองคนออกมาจากลิฟต์เมื่อเรียนในช่วงเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

"สำหรับกระต่ายเวลาไม่มีเรียนก็ดีหมดนั่นแหละ"พระพายเอ่ยบอกพร้อมกับยื่นนิ้วไปจิ้มที่แก้มของกระต่าย

"เธอนี่รู้ใจฉันจริงๆเลยนะพระพายสมแล้วที่เป็นเพื่อนรักฉัน"กระต่ายบอกพร้อมกับหัวเราะออกมา

"นานๆทีจะว่างเราไปหาอะไรกินกันสามคนดีไหม?"พระพายบอกและมองหน้าเจ้าเอ๋ยกับกระต่ายด้วยรอยยิ้ม

"ไป ฉันไป"กระต่ายรีบยกมือขึ้นทันที

"ฉันขอผ่านนะจะกลับไปช่วยแม่ที่ร้านน่ะวันนี้แม่อยู่ร้านคนเดียวเจ้าอ้ายไปเรียน"เจ้าเอ๋ยเอ่ยบอกอย่างยิ้มๆ

เจ้าเอ๋ยเธอไม่ค่อยจะไปไหนมาไหนกับกระต่ายและพระพายสักเท่าไหร่เพราะเธอทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่คลับแห่งหนึ่งในตอนกลางคืน พอมมีเวลาว่างเธอก็มักจะไปช่วยแม่ขายของที่ร้านส่วนเจ้าอ้ายน้องสาวเธอก็ไปเรียนเลยไม่มีใครคอยช่วยแม่เลย

"ไปแป๊บเดียวก็ไม่ได้เหรอ?"กระต่ายถามออกไปทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนเธอจะตอบว่าอะไร

"เอาไว้วันหลังนะกระต่าย พระพายวันนี้ฉันอยากไปช่วยแม่ที่ร้านจริงๆ"

"ไม่เป็นไรหรอกกระต่ายวันนี้เราไปกินกันสองคนก็ได้ไว้รอบหน้าเจ้าเอ๋ยค่อยไปด้วยกันนะ"พระพายเอ่ยบอกกับกระต่ายก่อนที่จะหันไปบอกกับเจ้าเอ๋ยด้วยรอยยิ้ม

"อืมได้เลย"เจ้าเอ๋ยพยักหน้าและส่งยิ้มให้พระพาย

"ก็ได้วันหลังห้ามเบี้ยวอีกนะ ห้ามๆเลยฉันขอสั่ง"กระต่ายเอ่ยบอกกับเจ้าเอ๋ยด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

"โอเคๆถ้างั้นฉันไปก่อนนะ"เจ้าเอ๋ยโบกมือลาเพื่อนทั้งสองคนก่อนที่จะต่างคนต่างแยกย้ายกันไป

ร้านอาหารตามสั่งแม่จันทร์

"อ้าวเจ้าเอ๋ยทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังเลยลูกไหนบอกว่าวันนี้เลิกเย็นพอเลิกเรียนแล้วก็จะไปทำงานเลยไม่ใช่เหรอ?"จันทร์ผู้เป็นมารดาเอ่ยถามลูกสาวคนโตทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าเอ๋ยเดินเข้ามาในร้าน ส่วนในมือเธอก็ยังควงตะหลิวไปด้วยเพราะเธอกำลังผัดข้าวให้ลูกค้าอยู่

"วันนี้อาจารย์ยกคลาสน่ะจ้ะเอ๋ยก็เลยรีบกลับมาช่วยแม่"เจ้าเอ๋ยเอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ผู้เป็นแม่และเดินไปวางกระเป๋าลงบนโต๊ะและหยิบผ้ากันเปื้อนที่แขวนอยู่ขึ้นมาสวมใส่

"ถ้างั้นเจ้าเอ๋ยก็น่าจะไปพักผ่อนที่บ้านนะลูกเดี๋ยวไปทำงานก็เลิกดึกพรุ่งนี้ก็มีเรียนเช้าอีกร่างกายมันจะไม่ไหวเอานะ"จันทร์เอ่ยบอกลูกสาวอย่างเป็นห่วงเพราะลูกสาวเธอทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่คลับเวลาที่คลับปิดก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนกว่าลูกสาวเธอจะกลับมาถึงบ้านก็ปาเข้าไปตีสองเพราะต้องอยู่เก็บร้านพอตอนเช้าก็ต้องไปเรียนอีก

"สบายมากเลยจ้ะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงเอ๋ยนะแค่นี้มันจิ๊บๆมากเลย"เจ้าเอ๋ยเอ่ยบอกพร้อมกับยื่นมือทั้งสองข้างออกไปเพื่อที่รับจากข้าวของลูกค้าไปเสิร์ฟที่โต๊ะ

"เอ๊ะ มือลูกไปทำอะไรมาเจ้าเอ๋ยทำไมถึงแปะปลาสเตอร์ที่มือ?"จันทร์ถามพร้อมกับมองหน้าลูกสาวอย่างรอคอยคำตอบ

"เอ๋ยล้มจ้ะแม่ เดินและมันสะดุด"เจ้าเอ๋ยโกหกออกไปเพราะถ้าขืนเธอบอกว่าแผลที่ได้มาเกิดจากการเกือบจะโดนรถชนแม่เธอได้ถามยาวเป็นกิโลแน่

"วันหลังก็ระวังหน่อยสิลูก"จันทร์ส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะยกจานข้าวให้ลูกสาวไปเสิร์ฟลูกค้า

"จ้าแม่วันหลังเอ๋ยจะระวังให้มากๆนะ"เจ้าเอ๋ยเอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ผู้เป็นแม่

"จริงเลยๆเราเนี่ย ไปเสิร์ฟให้ลูกค้าโต๊ะสองนะ"

"โอเคจ้ะแม่"เจ้าเอ๋ยพยักหน้าก่อนที่จะเดินถือจานข้าวไปเสิร์ฟให้ลูกค้าที่โต๊ะทันที

ร้านเจ.วีดีไซน์

ร่างสูงของสิงหาเดินเข้ามาในร้านเสื้อผ้าของผู้เป็นแม่ก่อนที่จะมีพนักงานรีบวิ่งมาต้อนรับอย่างหน้าตาตื่น

"สวัสดีค่ะคุณสิงหาคุณจาอยู่บนห้องทำงานค่ะเชิญคุณสิงหาค่ะ"พนักงานหญิงผายมือเชิญให้ลูกชายเจ้าของร้านเดินขึ้นไปที่ห้องทำงาน

"อือ"สิงหาพยักหน้าและเดินตรงขึ้นไปที่ชั้นสองห้องทำงานของผู้เป็นแม่

เจ.วีดีไซน์ เป็นร้านเสื้อผ้าที่จารวีแม่ของสิงหาเป็นเจ้าของนอกจากจะเป็นเจ้าของแล้ว จารวีผู้เป็นแม่ยังเป็นดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าในร้านทั้งหมดด้วย

ถึงท่านจะอายุหกสิบกว่าแล้วแต่ฝีไม้ลายมือในการออกแบบกลับทันสมัยและตามเทรนอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะได้ตอบโจทย์ของลูกค้าในสมัยนี่และร้านเสื้อผ้าของแม่เขาก็มีลูกค้าเข้ามาไม่ขาดสายเพราะถูกใจในฝีมือการตัดเย็บและดีไซน์ที่ประณีตของเจ.วีดีไซน์

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

สิงหายกมือขึ้นมาเคาะประตูห้องทำงานของผู้เป็นแม่ก่อนที่จะได้ยินเสียงของแม่ที่นั่งอยู่ในห้องเอ่ยอนุญาตให้เข้าไปได้

แกร๊ก

สิงหาเปิดประตูห้องเข้ามาก่อนที่จารวีจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวเดินเข้ามาในห้อง

"ลมอะไรหอบมาหาแม่ได้ล่ะวันนี้?"

"ผมก็คิดถึงแม่เหมือนกันนะ"สิงหาเอ่ยบอกพร้อมกับเดินไปหอมแก้มผู้เป็นแม่แบบที่ชอบทำเป็นประจำและพาตัวเองไปนั่งลงที่โซฟา

"งั้นเหรอ?"จารวีปิดแฟ้มเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทำงานและหันไปส่งยิ้มให้ลูกชายที่นั่งอยู่ที่โซฟา

"แม่ไม่เชื่อที่ผมพูดหรือไง?"สิงหาถามผู้เป็นแม่ออกไป

"เชื่อสิ ลูกเป็นลูกแม่ แม่เชื่อลูกอยู่แล้ว"จารวียิ้มและลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานไปนั่งลงข้างๆกับลูกชาย

"ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าแม่ดูสวยขึ้นนะดูอารมณ์ดีด้วย"

"แม่ก็อารมณ์ดีเป็นปกติ"จารวียักไหล่

"อย่าบอกนะว่าช่วงนี้แม่กำลังเดทอยู่?"สิงหาจ้องมองผู้เป็นแม่อย่างรอคอยคำตอบ

ถึงแม้ว่าจารวีผู้เป็นแม่ของสิงหาท่านจะเข้าสู่เลขหกแล้วก็ตามแต่ความสวยก็ยังคงอยู่เพราะจารวีผู้เป็นแม่คอยดูแลตัวเองอยู่ตลอดเวลาและถึงจะเข้าเลขหกแต่หัวกระไดไม่เคยแห้งเพราะมีหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่มาขายขนมจีบตลอดเวลา

"คนนี้ห้าสิบห่างกับแม่ประมาณสิบปีกว่าปีได้มั้งเป็นนักลงทุนนิสัยก็น่ารักเทคแคร์แม่ตลอด เสมอต้นเสมอปลายดี"จารวีจับมือลูกชายและเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม

"คำว่าเสมอต้นเสมอปลายนี่กี่อาทิตย์?"สิงหาถามออกไปเพราะรู้นิสัยแม่ของตัวเองดีว่าเดทกับใครก็แค่ประเดี๋ยวประด๋าวไม่ได้จริงจังอะไรเหมือนเดทเอาแค่เอาสังคมแค่นั้น นานสุดนี่น่าจะสองสามอาทิตย์เร็วสุดก็เจ็ดวันเห็นจะได้

"หนึ่งเดือน"จารวีตอบลูกชายออกไป

"นานกว่าคนอื่นๆแปลกดีครับ"สิงหาบอกอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

"เอาล่ะไม่พูดเรื่องของแม่แล้วมาพูดเรื่องลูกบ้างดีกว่า?"

"เรื่องอะไรครับ?"

"เมื่อไรจะมีหลานให้แม่บ้าง แม่เห็นสิบทิศเขามีลูกสาวหน้าตาน่ารักเชียวแม่เห็นแบบนั้นก็อยากมีหลานมาเรียกย่าบ้าง"

"แม่หยุดเลย เรื่องนั้นผมไม่เคยมีความคิดอยู่ในหัวเลยแม้แต่นิดเดียว"สิงหาพูดออกไปด้วยความจริงเขาไม่เคยมีความคิดที่จะมีลูกและมีใคร เขาชอบชีวิตแบบนี้ ชอบชีวิตที่เป็นอิสระแบบนี้มันดีที่สุดแล้ว

"ที่ลูกยังไม่คิดเพราะว่าลูกยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่าถ้าลูกได้เจอคนที่ใช่แม่เชื่อว่าลูกจะอยากมีลูกที่น่ารักๆแบบหนูยิ้มลูกของสิบทิศแน่นอน"จารวีมั่นใจในความคิดของตัวเองมากถ้าลูกชายเธอได้เจอคนที่ใช่ความคิดทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทันที

"พอแล้วครับแม่ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว เราไปกินข้าวกันดีกว่านี่ก็เที่ยงแล้วผมหิวแล้ว"สิงหารีบห้ามแม่ทันทีเพราะถ้าขืนพูดต่อคงยาว

"โอเคๆไม่พูดแล้วถ้างั้นไปกินข้าวกัน"จารวีเอ่ยบอกกับลูกชายและลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าสะพายแบรนด์หรูที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาก่อนที่สองแม่ลูกจะพากันเดินออกไปจากห้องทำงาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel