บทที่ 6
“เต็มร้อยเลยค่ะพ่อ” เธอทำท่าตะเบ๊ะรับคำสั่ง ก่อนจะยิ้มกว้าง แล้วยกมือไหว้บิดา เธอโบกมือให้ท่านเมื่อรถแล่นจากไป วันนี้เธอเป็นวันแรกของเธอ ที่จะได้เป็นผู้ใหญ่ ที่มีความรับผิดชอบแล้วเต็มตัว กันตาคิดอย่างปลื้มใจ เธอจะทำมันให้ดีที่สุด อย่างเต็มความสามารถเลยทีเดียว
ร่างเล็กบางเดินเร็วๆ เข้าไปอย่างกระฉับกระเฉง สายตามองดูความโอ่อ่าของสถานที่ตรงหน้าอย่างภูมิใจในตนเอง ที่เธอแข่งขันจากผู้สมัครหลายร้อยคนจนได้เข้าทำงานที่นี่จนได้ โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมห้าดาว ที่มีชื่อเสียง มีคนอยากทำงานที่นี่มากมายเพราะมีค่าตอบแทนและสวัสดิการที่ดี อีกทั้งถ้าผ่านงานจากที่นี่ไปแล้ว โรงแรมหลายๆ แห่งก็จะอ้าแขนรับ เพราะการันตรีได้ถึงคุณภาพของการทำงาน
วันนี้เธอแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใหม่ รวมถึงกระโปรงสอบสั้นสีดำที่มารดาเป็นคนซื้อให้มาหมาดๆ เมื่อวาน เรียกได้ว่าไม่ยอมซักกันเลยทีเดียวเพราะเห่อของใหม่ เรือนผมยาวดำมันรวบไว้ด้วยริบบิ้นสีขาว ให้เรียบร้อย ใบหน้าหวานแต่งแต้มแต่พองาม กันตาไม่ใช่คนสวยเด่นสะดุดตา หากแต่เป็นคนน่ารักที่มองไม่เบื่อ มีเสน่ห์ตรงรอยยิ้มที่ยิ้มทั้งปากและตา แม้จะไม่เคยมีแฟน แต่กันตาก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์เสียทีเดียว เพราะมีหนุ่มๆ หลายคนมาเมียงมองสาวหมวยตัวเล็กคนนี้อยู่เหมือนกัน แต่ติดที่เจ้าตัวไม่สนใจแล้วยุ่งแต่กับเรื่องเรียนเสียมากกว่า เอาไปเอามาทุกคนก็ล่าถอย บางคนก็กลายเป็นเพื่อนของเธอไปแทน กันตาไม่เคยคิดว่าตนเองสวย เพราะไม่เคยมีคนชม ส่องกระจกทุกวันก็เห็นแต่สาวหมวยหน้าใสมองตอบกลับมาเท่านั้นเอง แถมมารดายังชอบล้อเลียนบ่อยๆ เรื่องนัยน์ตายาวรีของเจ้าตัว ยิ่งทำให้เธอไม่เคยมีความมั่นใจในเสน่ห์ของตนเองเลยสักนิด
“น้อง น้องคะ น้องทำงานที่นี่หรือเปล่า?” เสียงร้องเรียกดังขึ้น ก่อนที่กันตาจะเดินไปทางประตูหลังของโรงแรม หญิงสาวหันขวับไปทางต้นเสียง แล้วก็พบกับหญิงสาวสวยจัด ที่ยืนด้วยมาดของนางพญา กันตาแทบจะอ้าปากค้างกับความสวยชวนตะลึงนั่น นางแบบหรือว่าดาราหนอ สวยเหมือนนางฟ้ามาเดินดินจริงๆ
“ค่ะ”
“มานี่หน่อยสิ” ศุจีรากวักมือเรียก เธอเห็นแม่สาวหมวยตัวเล็กแต่งตัวเรียบร้อย จึงลองเรียกดูว่าจะใช่พนักงานของที่นี่หรือเปล่า
“ค่ะ คุณผู้หญิง มีอะไรให้รับใช้คะ” แม้จะยังไม่ได้ทำงานอย่างเป็นทางการ แต่เธอก็ถือว่าตัวเองเป็นพนักงานของที่นี่คนหนึ่ง ที่ต้องบริการลูกค้าให้ได้รับความประทับใจมากที่สุด
“เฝ้าของให้ฉันหน่อยสิ เดี๋ยวจะมีคนของโรงแรมมารับฉัน เธอบอกให้เขารอก่อนนะ ฉันไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง” นางฟ้า เอ๊ย! คุณผู้หญิงหน้าตาสวยจัดบอกเธอ กันตารับคำทันที งานโรงแรมเป็นงานบริการ ลูกค้าคือพระเจ้า ฉะนั้น พระเจ้าสั่งอะไรมาเธอก็ต้องทำอย่างเต็มที่
“ได้เลยค่ะ”
“ดีมาก ดูให้ดีๆ ล่ะ ของฉันไม่ใช่ถูกๆ” ศุจีราสั่งเสียส่งท้าย แล้วเดินเร็วๆ เข้าไปในโรงแรม เพราะปวดท้องมากจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว
กันตายืนอยู่กับกระเป๋าเดินทางของศุจีราเฝ้ามันตามคำสั่ง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาตอกบัตรเริ่มงาน คงไม่เป็นอะไรหรอก เธอก็กำลังทำงานอยู่นี่นา กันตาคิดยิ้มๆ งานแรกก็คืองานเฝ้ากระเป๋าของลูกค้า แม้จะผิดจากงานในตำแหน่งของเธอไปนิด แต่ก็ถือว่าทำงานล่ะเรา
รถตู้สีขาว ติดสติกเกอร์ของโรงแรมมาเลี้ยวจอดเบรกเอี๊ยดตรงหน้าเธอ พร้อมกับคนขับที่เปิดกระจกออกมา แล้วตะโกนสั่งเธอเสียงดัง จนกันตาตกใจ
“เร็วๆ เข้าครับคุณ เดี๋ยวจะพากันตกเครื่อง ผมจะซวยเอา”
“เอ๋?” กันตากระพริบตาปริบๆ อย่างงงๆ เธอชี้ที่ตัวเธอเอง แล้วถามเขาเสียงใส “ฉันเหรอคะ?”
“คุณนั่นแหละ” ฝ่ายนั้นย้อน “มาทำงานไม่ใช่หรือยังไงกัน รีบๆ เข้า เดี๋ยวผมไปไม่ทัน เจ้านายด่าตายเลย”
“ไปไหนคะ?” กันตายังคงย้อนถาม แต่รถนี้เป็นรถของโรงแรมที่นี่นี่นา หรือว่าแผนกเธอต้องไปอบรมอะไรนอกสถานที่หรือเปล่า? ขณะที่กันตากำลังยืนงง อีกฝ่ายก็ร้อนใจจนทนไม่ไหว เมื่อเห็นว่าคนที่เขามารับยืนทำเก้กัง จะทำให้เวลาชักช้าไปเสียเปล่าๆ คืนช้ามากล่ะก็ ไม่ทันขึ้นมา เจ้านายต้องเล่นงานเขาอานแน่ๆ
นายพันถึงกับเปิดประตูรถ แล้วชิงไปยกของให้เธอไปโยนโครมไว้บนรถตู้ ก่อนจะดึงเธอให้ขึ้นไปนั่งบนนั้นด้วย กันตาตามแรงลากของอีกฝ่ายไปราวกับว่าว เพราะทั้งงงและสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว แต่ก่อนที่เขาจะกระชากประตูรถปิด หญิงสาวก็มองเขาตาแป๋ว แล้วถามอีกรอบอย่างงงๆ
“ตกลงว่านี่เราจะไปไหนกันคะ”
“ไปทำงานยังไงล่ะครับคุณ โอ๊ย! จะมาถามอะไรมากมายกัน เจ้านายผมยิ่งรีบๆ อยู่ เดี๋ยวผมจะซวยโดนไล่ออกไปด้วยถ้าเราสองคนช้า”
“อ๋อ...ค่ะ” แม้จะงง แต่ประตูก็ปิดลงเสียแล้ว แถมด้วยรถที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว กันตายังคงมึนไม่หาย แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าคนขับรถเอาของที่เธอรับฝากไว้โยนขึ้นรถมาด้วย เธอจึงรีบบอกเขาทันที
“พี่ค่ะ เมื่อกี้มีคนฝากของหนูไว้ แต่พี่เขาของเขาขึ้นมาด้วย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอกค่ะ”
“ช่างมันก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะขับรถเอามาคืนเอง ตอนนี้รีบไปให้ทันก่อนเถอะ เดี๋ยวเราจะซวยกันทั้งคู่ คุณอินยิ่งดุๆ อยู่นะครับ นี่ให้เราล่วงหน้าไปก่อน แล้วเดี๋ยวท่านจะตามไป”
“คุณอิน” เธอทวนคำอย่างยังงงไม่หาย จำได้ว่าหัวหน้าแผนกเธอชื่อ ธราธรไม่ใช่หรือ แล้วคุณอินนี่เป็นใครกัน
“ก็คุณอินทัช อดิเรกนุกุล นายจ้างของพวกเรายังไงล่ะครับ” พันตอบอย่างหงุดหงิด ก่อนจะทำเสียงดุๆ ส่งท้าย “ผมต้องตั้งสมาธิขับรถ เพื่อให้พวกเราไปถึงให้เร็วที่สุด กรุณาอย่าถามอะไรอีกเลยนะครับ เพราะผมต้องใช้สมาธิมากๆ ขืนเราสองคนไปไม่ทันนี่ เรื่องใหญ่เลยนะครับ”
“เอ่อ...ค่ะ” กันตาถึงกับอ้าปากหวอ เมื่อได้ยินชื่อ อินทัช อดิเรกนุกุล นั่นถ้าจำไม่ผิด เป็นชื่อของเจ้าของโรงแรม แกรนด์ รอยัล เบส และโรงแรมในเครือนี่นา เธอหุบปากและนิ่งเงียบตามคำสั่งของคนขับรถทันที ก็ระดับเจ้าของโรงแรมสั่งให้ทำงานเองแบบนี้ ไม่ทำได้ยังไงเล่า ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ เธอก็ยอมล่ะงานนี้