ตอน 3
“แก...แกเป็นอะไรนางหนูเจ็บตรงไหนจู่ๆ ก็ร้องลั่น” รินจงปราดเข้ามาดูอาการตุ๊กตาสกปรกซึ่งก้าวเท้าลงจากแคร่ ด้วยอาการโอนเอน
“ปวดหัว...ปวดมาก” มือบางยกขึ้นกุมขยับพร้อมกับแสดงสีหน้าเหยเกจากอาการร้าวทั่วศีรษะ
“ไหนๆ ข้าขอดูหน่อย เรียกข้าว่าป้ารินนะ” รินจงแนะนำตัว
“ป้าริน” หญิงสาวทวนชื่ออีกฝ่าย
“ใช่ป้าชื่อริน เป็นหัวหน้าแม่บ้านบนเกาะนี้ ส่วนผัวป้าชื่อดิษ”
หญิงสาวเอียงหน้าราวกับไม่รู้จักคนไหนสามีรินจง ด้วยเห็นว่ามีผู้ชายตั้งสามคน
“ก็คนตัวดำๆ ผมหยิกใส่เสื้อลายดอกนั่นล่ะ มันชื่อดิษผัวป้าเอง เรียกว่าลุงดิษ ส่วนอีกคนไอ้พฤตคนงานบนเกาะใต้จันทร์นี้ล่ะ” รินจงค่อยๆ อธิบายด้วยความใจเย็น นางเป็นคนใจเย็นด้วยต้องทำหน้าที่ดูแลคนงานหญิงทุกคนบนเกาะแห่งนี้
“อ๋อ...ค่ะ” หญิงสาวที่ยกมือกุมศีรษะเพราะเพิ่งรู้สึกเจ็บขึ้นมาอย่างกะทันหันแสดงสีหน้าบ่งบอกว่าเข้าใจ
รินจงพาหญิงสาวพลัดถิ่นหรือตุ๊กตาสกปรกไปอาบน้ำที่น้ำตก
“ผลัดผ้าซะนางหนู” รินจงยืนผ้าถุงลายดอกซึ่งทางใต้เรียกว่าผ้าปาเต๊ะ ไปตรงหน้าหญิงสาวซึ่งอยู่ในชุดราวกับคุณหนูลูกคนใหญ่คนโตในตัวเมือง แต่ชุดนั้นคงไม่มีค่าอีกต่อไป เมื่อมันสกปรกหนำซ้ำยังฉีกขาดหลายจุด คงต้องถอดทิ้งและลงมืออาบน้ำชำระล้างตัวให้เป็นผู้เป็นคนกว่านี้
“อะไรคะป้าริน” ตุ๊กตาสกปรกที่ยังไม่มีชื่อเอ่ยถามรินจง
“อ้าว...ก็ผ้าถุงไงเอ็งไม่รู้จักหรือนางหนู” รินจงมองหญิงสาวยิ่งพิศมองก็ยิ่งเหมือนตุ๊กตาเสียกบาลเก่าๆ ที่ถูกทิ้งท่ามกลางสายฝนจนดินโคลนเกาะตามตัว
“ผ้าถุง ?” หญิงสาวมอมแมมทวนคำรินจง พร้อมกับก้มลงมองผ้าถุงในมืออีกฝ่าย อย่างไม่คุ้นเคยไม่รู้จัก
“อย่าบอกว่าเอ็งใช้มันไม่เป็น” รินจงเอ่ยถามนี่ถ้าแม่ตุ๊กตาเสียกบาลตัวนี้จะเป็นคุณหนูจากตระกูลมั่งคลั่งสักตระกูลอย่างแน่นอน
คนถูกถามไม่ตอบด้วยคำพูดหากแต่พยักหน้ารับ ก็คนใช้ไม่เป็นจริงๆ นี่นา ไม่เพียงแต่ไม่เคยใช้ หรือใช้ไม่เป็นที่สำคัญไม่เคยเห็นด้วย
“งั้นมานี่ป้าจะสอน” รินจงคว้าร่างบอบบางมอมแมมหายเข้าไปหลังพุ่มไม้ แล้วลงมือจับนั่นถอดนี่บนร่างระหงตรงหน้า
“ป้าจะทำอะไร”
“ถอดเสื้อผ้าเอ็งน่ะสินางหนู”
“ป้า...ไม่เอานะเดี๋ยวฉันทำเอง” ตุ๊กตาสกปรกดวงหน้าแดงก่ำ ด้วยความอายที่จะต้องถอดผ้าต่อหน้าคนอื่น ร้องห้ามรินจงที่หวังดีจะผลัดผ้าให้
“จะเอาอย่างนั้นใช่มั้ยนางหนู”
“ค่ะ ฉันอาย” หญิงสาวเชื่อว่าตัวเองไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าใครมาก่อน ด้วยความรู้สึกกระดากอายแล่นขึ้นมาโดยไม่ต้องอาศัยความเคยชินใดๆ
ดังนั้นรินจงจึงสอนวิธีการสวมผ้าถุงให้กับหญิงสาวคร่าวๆ เพื่อจะได้ลงอาบน้ำชำระล้างร่างกาย จะได้เป็นผู้เป็นคนซะที จากนั้นจะได้ไปทำแผลที่ศีรษะ รินจงเห็นแล้วว่าตุ๊กตาสกปรกมีแผลเป็นทางยาวใต้ตีนผม ตั้งใจจะพาไปทำแผลที่บ้านพักนายหัว แต่เมื่อทำแผลแล้วก็ต้องอาบน้ำอยู่ดี สู้อาบเสร็จแล้วค่อยทำแผลน่าจะดีกว่า
หญิงสาวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดเดิมแล้วก้าวออกจากพุ่มไม้ ด้วยผ้าถุงกระโจมอกซึ่งนุ่งสะเปะสะปะรุงรัง พอรินจงเห็นก็อดขำไม่ได้ จึงเดินเข้าไปตรงหน้าตุ๊กตาสกปรก
“จะทำอะไรป้าริน”
“นุ่งผ้าให้เอ็งใหม่สินางหนูนุ่งแบบนี้ได้หลุดตั้งแต่ยังไม่ก้าวลงลำธารแน่” รินจงจัดการนุ่งผ้าผูกปมให้กับหญิงสาวซะใหม่ แน่นหนากว่าเดิม พร้อมกับส่งเครื่องอาบน้ำให้กับเธอแชมพูสบู่ในขันพลาสติก
“อะไรคะ”
“อย่าบอกอีกนะว่าไม่รู้จักแชมพูสระผมกับสบู่อาบน้ำน่ะ”
“อ๋อ...นี่เขาเรียกสบู่” มือบางจิ้มนิ้วชี้ลงที่ก้อนสบู่สีเขียวรูปนก “แล้วนี่เรียกแชมพูใช่มั้ยคะ”
“ใช่เอ็งเข้าใจถูกแล้ว เอาไปอาบซะ สระผมที่ยุ่งเป็นรังนกนี้ซะด้วยแชมพูขวดนี้” รินจงหยิบขวดแชมพูสีเขียววางบนมือบางมอมแมม “ส่วนไอ้สบู่ใช้ถูตัว”
“ค่ะได้ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับคำแนะนำจากนั้นจึงรับขันในมือรินจงมาถือไว้ พร้อมกับก้าวลงไปในลำธารใสแจ๋ว แหย่เท้าลงไปก่อนเพื่อสัมผัสอุณหภูมิน้ำ น้ำใสเย็นสดชื่นมากตุ๊กตาสกปรก หันกลับไปยิ้มบางให้กับรินจง จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับลงไปทีละน้อยกระทั่งรู้สึกว่ามันเย็นสบายมาก ดังนั้นวินาทีต่อมาหญิงสาวจึงเริงร่าท่ามกลางลำธารใสแจ๋ว ราวกับปลาแหวกว่ายในธารา
รินจงเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงแยกจากไป ปล่อยให้ตุ๊กตาสกปรกไร้นามได้ชำระล้างร่างกาย และเริงร่ากับความเย็นสดชื่นของน้ำตามลำพัง
ตุ๊กตาสกปรกเมื่อเจอกับน้ำก็เริ่มเผยผิวผุดผ่อง อีกทั้งยังเริงร่าอยู่ท่ามกลางสายน้ำด้วยรอยยิ้ม ผ่อนปรนความเจ็บปวดและความร้าวทั่วร่างกายได้มากทีเดียว
“อ่า...สบายตัวจังเลย” พร้อมกับเอื้อมมือหยิบแชมพูที่อยู่ในขันพลาสติกวางอยู่บนโขดหินริมฝั่ง เทลงฝ่ามือละเลงลงบนเส้นผมดกดำที่แข็งยิ่งกว่าไม้กวาดด้วยไม่รู้ผ่านอะไรมาบ้าง แล้วก็ก้าวลงน้ำไปตามเดิม จังหวะที่แชมพูหอมกรุ่นไหลลงไปตามไหล่มนลงไปตามร่องอกอิ่มสล้าง ความลื่นของแชมพูจึงแสดงปฏิกิริยาปมผ้าถุงค่อยๆ เลื่อนหลุดจากอกอิ่มโดยเจ้าตัวไม่รู้ตัว
นายหัวที่เดินมาพร้อมกับบนร่างที่มีเพียงโสร่งลายตารางพันกาย ตั้งใจว่าจะมาอาบน้ำที่น้ำตก พลันสายตากลับปะทะกับภาพนางไม้ล่อนจ้อนโดยไม่ทันได้ตั้งสติ ร่างกายแข็งแรงยืนแข็งทื่อขาก้าวไม่ออก พลันดวงตาเย็นชาทรงอิทธิพลเบิกกว้างกับภาพงามเบื้องหน้า หัวใจดวงแกร่งหนักแน่น ไม่ได้แน่นหนักอีกต่อไป ตอนนี้จวนหลอมละลายไปกับภาพสามเอ็กซ์เบื้องหน้า
ตุ๊กตาสกปรกที่กลายร่างเป็นตุ๊กตาขาวผ่องเย้ายวน ยังคงเพลินอยู่กับการขยี้ฟองฟูฟ่องบนเส้นผม หลับตาเพื่อกันฟองไหลเข้าตา ร่างงดงามผิวขาวผ่องยืนอยู่ระดับน้ำแค่ช่วงเอวคอดเท่านั้น จึงเผยให้เห็นหน้าอกคู่งามขนาดไม่ใช่เด็กเล็กแต่โดดเด่นชูช่อไม่ต่างกับนางแบบถ่ายภาพนู๊ดไม่ปาน สวรรค์ช่างสร้างสรรค์ นายหัวจ้องมองภาพนั้นจนเพลินตา ความรู้สึกหลากหลายที่ไม่เคยรู้สึกนานมากแล้วตั้งแต่คนรักเก่าจากไป ได้ผุดขึ้นแผ่กระจายไปทั่วร่างโดยเฉพาะจุดกลางกาย
ร่างสูงใหญ่ผิวสีทองแดงขยับปลายเท้าก้าวไปตรงหน้า อย่างไม่รู้ตัวพลันในเวลานั้นเองเท้ากลับเหยียบกิ่งไม้บนพื้น เกิดเสียงดังกรอบแกรบ
หญิงสาวที่เพลินอยู่กับการสระผม ชะงักมือที่ขยี้เส้นผมพร้อมกับเอียงหน้า เพื่อฟังเสียงที่ได้ยินพลันมือลนลานวักน้ำล้างหน้าเพื่อล้างฟองแชมพู ทันใดนั้นจึงได้รู้ตัวว่าบนร่างไม่มีผ้าถุงปกปิดกายแล้ว
“ว้าย !!” กรีดร้องอย่างตกใจผสานความอาย กวาดสายตามองรอบกาย เกรงมีใครเดินผ่านมาแถวนี้ แล้วที่ได้ยินเสียงกรอบเมื่อกี้คืออะไร “ป้าริน ป้ารินใช่มั้ย” จึงตะโกนถามออกไป เผื่อเป็นรินจงคนที่คอยดูแล กลับไร้เสียงตอบรับใดๆ ร่างบางจึงถอยร่นลงไปในน้ำเพื่อใช้ผืนน้ำปิดบังร่างกาย ลนลานดำผุดดำว่ายควานหาผ้าถุงที่ลอยห่างออกไป “ค่อยยังชั่วไม่มีใครเห็น”
เมื่อได้ผ้าพันกายแล้วจึงรีบอาบน้ำให้เสร็จ แล้วก้าวขึ้นจากลำธารเดินกลับเรือนพักคนงานทั้งยังตัวเปียกแม้รินจงจะทิ้งผ้าถุงกับผ้าเช็ดตัวทิ้งไว้ให้ หญิงสาวก็ไม่ได้ผลัดเปลี่ยนเพราะนุ่งไม่เป็น
ฝ่ายนายหัวเวหาที่แอบซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ รู้สึกกายใจสั่นสะท้านไปหมดกับภาพนางฟ้าในสายน้ำที่มีผิวขาวผ่องเป็นยองใย เขาพยายามระงับความรู้สึกที่ก่อเกิด ไม่คิดไม่สนสตรีเพศเพราะเคยเจ็บจากผู้หญิงแทบไม่เป็นผู้เป็นคนมาครั้งหนึ่ง ดังนั้นจึงท่องไว้ให้ขึ้นใจผู้หญิงคือตัวอันตรายต่อชีวิตทุกๆ ด้าน แต่แม่ตุ๊กตาสกปรกที่เปลี่ยนไปแล้วนั้น กลับมีผลต่อร่างกายและหัวใจที่เต้นโครมครามอยู่ในอกอย่างไร้จังหวะจะโคนใดๆ
นายหัวถึงกับเผลอยกมือลูบหน้าอกตัวเอง เพื่อสั่งให้หัวใจสงบนิ่งซะบ้าง สุดท้ายนายหัวต้องสงบตัวเองด้วยวิธีกระโดดลงน้ำเสียงดังตูม พร้อมกับแหวกว่ายในท้องน้ำ ผุดขึ้นผุดลงราวจะใช้สายน้ำเย็นฉ่ำดับอุณหภูมิในร่างกายรวมไปถึงความคิดฟุ้งซ่านกลางกาย
“นางหนูอาบน้ำเสร็จเร็วจัง แล้วนั่นทำไมไม่ผลัดผ้าซะล่ะ”
“เอ่อ...ทำไม่เป็นค่ะป้าริน”