ลาออก【1】
พระพายนอนร้องไห้คลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่มจนหลับ เมื่อตื่นมาก็ต้องตกใจกับสภาพตาของตัวเองที่บวมแดงจากการร้องไห้อย่างหนัก พระพายล้างหน้าล้างตาเดินลงไปที่ข้างล่างหาน้ำแข็งมาประคบตาของตัวเอง เผื่อว่าจะลดอาการบวมแดงได้บ้าง เดินลงมาก็ไม่เห็นพ่อกับแม่คงเข้าไปที่ไร่แล้วล่ะมั้งเพราะนี้ก็เจ็ดโมงครึ่งแล้ว เมื่อเขาเดินเขามาที่ห้องครัวก็ตรงไปที่ตัวเย็นเปิดหาผ้าเย็นที่เขาจำได้ว่าแช่อยู่ในช่องฟรีซ และเมื่อปิดตู้เย็นลงก็เห็นโพสอิดสีส้มที่ติดอยู่หน้าตู้เย็น
"วันนี้ลูกไม่ต้องทำงานน่ะพ่อทำเรื่องลาออกให้แล้ว อย่าลืมกินข้าวน่ะครับอยู่ในตู้กับข้าวพ่อกับแม่เป็นห่วงลูกมากเลยน่ะครับ"
จาก พ่อพล
และแถมอิโมจิรูปยิ้มมาให้มันทำให้พระพายยิ้มออกมาเขารู้สึกดีทุกครั้งไม่ว่าเขาจะทำอะไรพ่อกับแม่ก็คอยอยู่ข้างเขาทุกช่วงเวลาของชีวิตเป็นครอบครัวเล็กที่อบอุ่นมากครอบครัวหนึ่ง พระพายแกะผ้าเย็นออกจากห่อพลาสติกประคบตาทั้งสองจ้างเพื่อบรรเทาอาการบวดจากการร้องไห้อย่างหนัก เมื่อคิดถึงเรื่องร้องให้ก็ลามไปคิดถึงพ่อเลี้ยงที่กำลังจะมีลูกเป็นของตัวเองเขาคงจะรักลูกมาก พระพายฝืนยิ้มให้กับตัวเองทั้งที่ในใจมันเจ็บเจียนตาย
เมื่อคืนเขาคิดว่าจะไปทำงานที่เมืองหลวงเมื่อคิดได้อย่างนั้นพระพายก็กดเข้าเว็บไซต์หางาน และเมื่อเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ก็เห็นกับโพสประกาศรับพนักงานฝ่ายการตลาดสองตำแหน่งเป็นบริษัทที่ใหญ่พอสมควรในประเทศไม่รู้ว่าจะเข้าได้ไหมเขาไม่ควรคาดหวังมากไปคนต้องสมัครไปเยอะมากแน่ๆ ถึงแม้ว่าเพื่อนและอาจารย์จะบอกว่าเขาเก่งเกียรตินิยมอันดับหนึ่งแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนที่เก่งมากกว่าเขา และลองสมัครที่บริษัทอื่นๆ บ้างเผื่อเขาเรียกไปสัมภาษณ์งาน และก็ต้องหาที่อยู่ใหม่ พระพายนั่งเลื่อนโทรศัพท์ดูที่ห้องที่ปล่อยเช่าไว้ไม่นานก็ลุกขึ้นไปหาข้าวกิน
ระหว่างที่กินข้าวอยู่ๆ ในหัวก็รู้สึกว่าพ่อเลี้ยงคงดีใจมากที่แกมีลูกเป็นของตัวเอง ก่อนหน้านี้พระพายก็พยายามที่จะลองตัดใจจากพ่อเลี้ยงแต่ก็ทำไม่ได้เหมือนเดิม เขาควรจะถอยออกมาเพราะคุณอันหนิงนั้นมาก่อนเขา ไม่หวังที่จะได้รับความรักความเอ็นดูจากพ่อเลี้ยงแล้ว คอยดูเถอะครั้งนี้เขาจะตัดใจจริงๆ และจะไม่กลับมาที่นี้อีกถ้าเขายังลืมพ่อเลี้ยงไม่ได้ พระพายให้คำปฏิญาณกับตัวเองครั้งนี้เขาต้องทำได้
พ่อเลี้ยงธารา
เมื่อวานตอนเช้าหลังจากที่รู้ว่าอันหนิงภรรยาที่แต่งงานกันมาเข้าสู่ปีที่สิบห้า แล้วท้องเขารู้สึกเอะใจว่าทำไมถึงท้องเขาไม่ได้มีอะไรกับเธอมาหลายเดือนแล้ว แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดออกไปและเขาเริ่มสงสัยพฤติกรรมของเธอที่เริ่มเปลี่ยนไปจากเดิมเอาแต่เล่นโทรศัพท์ทั้งยิ้มและหัวเราะอย่างอารมณ์ดี และที่สำคัญพวกเขาแยกห้องนอนกันได้มาสองเดือนแล้วเขาแน่ใจว่าลูกที่อยู่ในท้องนั้นไม่ใช่ลูกของเขาแน่ๆ ตั้งแต่ที่พฤติกรรมของภรรยาที่อยู่กินกันมานานเปลี่ยนไปเขาก็ใจหายเหมือนกัน เพราะอันหนิงอยู่กับเขามาตั้งแต่อายุยี่สิบสามจนตอนนี้เขาอายุสามสิบแปดแล้ว เพราะรู้ว่าสิ่งที่ภรรยาทำนั้นมันไม่ถูกต้อง เขาให้ทุกคนในไร่ช่วยดูว่าอันหนิงนั้นออกไปที่ไหนกับใครหรือไม่เขาพยายามเก็บหลักฐานมามัดตัวเธอเอาไว้ฟ้องหย่า
และเมื่อเข้ามาที่ออฟฟิตก็เจอเอกสารต่างๆที่รอการอุนุมัติ และมีใบลาออกที่วางอยู่บนโต๊ะก็ต้องแปลกใจ เพราะคนที่จะลาออกนั้นนานๆ ทีจะมีมาให้เห็น มือหนาหยิบใบลาออกขึ้นมาอ่านและวางลงบนโต๊ะดังเดิมสงสัยเป็นลูกของพลหัวหน้าคนงานที่ไร่องุ่นเพราะดูจากนามสกุลที่เด่นสะดุดตา จากนั้นก็นั่งทำงานไปเรื่อยๆ และก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์แปลกๆ รีบวิ่งออกจากห้องทำงานขับรถตรงไปที่บ้านที่เพิ่งออกมาไม่นาน เขาจอดรถที่หน้าบ้าน และไม่ไกล้จากตัวบ้านของเขามีรถยนต์คันหรูจอดอยู่ขายาวก้าวเข้าไปข้างในบ้านให้เงียบที่สุด ตอนนี้เขามาอยู่ที่หน้าห้องของอันหนิงได้ยินเสียงพูดจาหยอกล้อของสองคนที่ดังเข้าหู
"ปิงอย่าทำค่ะ อื้ออ"
ธาราล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาและบิดลูกบิดแงมออกเบาๆ ประตูเปิดนิดหนึ่งให้ทั้งสองคนนั้นไม่รู้ตัว และกดอัดวิดีโอจนพอใจแล้วก็เปิดประตูเข้าไป
"ทำอะไรกัน"