บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 แอวลั่นปั๊ด

ทุกอย่างได้ดำเนินไปตามเนื้อเรื่องที่นักเขียนกำหนดไว้ แต่ที่ดูแปลกไปอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เบลเข้ามาอยู่ในร่างของหนิงเซียน ร่างกายที่เคยอ่อนแอขี้โรคตากแดดได้เพียงไม่กี่ชั่วยามต้องจับไข้นอนซมไปหลายวัน บัดนี้มันกลับแข็งแรงขึ้นมาก ไม่ว่าจะต้องลม ตากแดดร้อน ๆ หรือแม้แต่ตากฝนจนตัวเปียกโชกก็ไม่เป็นไร มิหนำซ้ำนางยังสามารถเดินขึ้นเขาเพื่อหาของป่าได้อย่างสบาย

หลายวันมานี้หนิงเซียนเริ่มรู้สึกว่าตนเองเอาแต่อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน ถึงเวลาที่จะต้องออกไปยืดเส้นยืดสายแก้เบื่อสักหน่อย อีกทั้งในโลกแห่งนี้มิได้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พอจะช่วยแก้เบื่อได้บ้าง การออกหาของป่าจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่แก้เบื่อได้ดีที่สุด

ร่างบางคว้าเอากระบุงสะพายขึ้นหลังเตรียมตัวเข้าป่า ของที่ได้จะนำมาเก็บไว้ขายและกินในแต่ละวัน ถึงแม้จะมีพืชผักที่ปลูกไว้ในสวนหลังบ้านไม่จำเป็นต้องลำบากเข้าป่า แต่ครั้นจะให้อยู่เฉย ๆ ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะตนนั้นเคยชินกับการต้องทำงานไปเสียแล้ว จากเดิมคิดว่าจะเอาแต่นอนและกินอยู่อย่างสตรีเกียจคร้าน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็สรรหางานมาทำให้ลำบากตนเองเสียทุกที

ความเป็นจริงแล้วตั้งใจจะทำตัวเป็นสตรีเกียจคร้าน ไม่ทำการทำงานอะไรเลยในแต่ละวัน แต่ก็ต้องคิดใหม่เพราะเมื่อทะลุมิติมา สิ่งที่นางต้องพบเจอแต่ความยากจน โลกเดิมญาติพี่น้องตายจากอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใครให้พึ่งพิง แต่ก็ยังมีบ้านเป็นของตนเองให้กลับไปนอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจ ส่วนหนิงเซียนที่ตนเข้ามาสวมร่างแตกต่างก็ตรงที่ เจ้าตัวไม่มีแม้แต่บ้านให้ซุกหัวนอน มิหนำซ้ำยังถูกสามีตัวร้ายเฉดหัวออกจากจวนอย่างไม่แยแส ไม่มีแม้แต่เงินสักตำลึงให้ติดตัว

ตามเนื้อเรื่องหลังจากที่หนิงเซียนถูกพามาทิ้งไว้ที่หมู่บ้านหนานชุน อีกสองเดือนพ่อตัวร้ายก็จะกลับมาอีกครั้ง และครั้งนั้นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่นางและเขาจะได้พบหน้ากัน เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าหลังจากนั้นนางและเขาจะได้ร่วมหอกันอีกครั้งด้วยพิษยากำหนัด แล้วจากนั้นนางก็ตั้งครรภ์

อีกไม่ช้าจะได้พบกับท่านอ๋องเหลียงเฟิงสามีจอมร้ายกาจ ที่ในสายตาเขาไม่มีผู้ใดสำคัญไปกว่าแม่นางเอก หากหลีกเลี่ยงการร่วมหอเหมือนในนิยายไม่ได้ นางก็ได้เตรียมแผนสำรองเพื่อรับมือไว้แล้ว

หนิงเซียนได้เตรียมยาห้ามครรภ์เอาไว้แล้ว หลังจากร่วมหอนางก็จะดื่มมันทันที เพียงแค่ไม่ตั้งครรภ์ตามเนื้อเรื่องก็จะไม่ตกเลือดตาย และหลังจากการร่วมหอคืนนั้นตัวร้ายก็จะทิ้งไปอย่างไม่ไยดีอีกครั้ง นั่นจึงเป็นโอกาสดีที่นางจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ทำตัวจืดจางราวกับไม่มีตัวตนในโลกใบนี้ ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดอีก

พวกเจ้าเหล่าตัวเอกทั้งหลายเอ๋ย เชิญแก่งแย่งกันเสียให้พอ ส่วนตัวข้าจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ในร่างนี้แทนหนิงเซียนก็แล้วกัน

หญิงสาวคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนเดินมาใกล้ลำธาร สายตาอันแหลมคมและว่องไวของนางก็ดันเหลือบไปเห็นผลแอปเปิลเขียวเข้าพอดีดิบพอดี เห็นแล้วก็ให้น้ำลายสอ ไวเท่าความคิดร่างบางรีบปรี่เข้าไปเก็บทันที ผลใหญ่ ๆ สีเขียวมันวาวช่างน่างกินเสียเหลือเกิน

“หืมมม มีแต่ลูกสวย ๆ ทั้งนั้นเลย” หนิงเซียนเอื้อมมือขึ้นไปเด็ดมาหนึ่งผล จัดการเช็ดทำความสะอาดเล็กน้อย จากนั้นจึงกัดเข้าเต็มปากคำโต

รสเปรี้ยวอมหวานนิด ๆ ทำเอาหนิงเซียนชอบใจเป็นการใหญ่ หากได้พริกเกลือจิ้มคงจะดีไม่น้อย

“ซี๊ดดด เปรี้ยวสะใจข้ามาก ดีเลยกลับถึงบ้าน ข้าจะจิ้มพริกเกลือกินให้หายอยากไปเลย” หญิงสาวเก็บใส่กระบุงให้มากหน่อย เผื่อว่าวันหลังอยากกินขึ้นมาอีก จะได้ไม่ต้องลำบากเดินไกลมาเก็บถึงในป่า แต่เมื่อกำลังเก็บผลไม้อย่างเพลิดเพลิน นางบังเอิญเหลือบไปเห็นผักกูดขึ้นตามริมลำธารเต็มไปหมด ช่างเป็นวันดี ๆ โดยแท้ ไม่ว่าจะมองไปทางใดก็เจอแต่ของกิน

“เจอของดีเข้าแล้วเรา แบบนี้ต้องเก็บไปเยอะ ๆ” ที่บ้านยังเหลือปลาอีกสองสามตัว คืนนี้จะทำผักลวกจิ้มน้ำพริกปลากินดีกว่า

หลังจากที่เก็บแอปเปิลได้ตามต้องการ สิ่งที่หมายตาต่อไปคือผักกูดต้นอวบอ้วนที่กำลังแตกยอดอ่อนน่าทาน ยอดอ่อนที่ใหญ่และกรอบ ยิ่งเด็ดก็ยิ่งมันมือเผลอแป๊บเดียวนางก็ได้ผักมาหอบใหญ่ เมื่อนำผักเก็บใส่กระบุงเรียบร้อยแล้ว ร่างบางก็เตรียมออกเดินทางต่อ ส่วนในมือก็ยังคงมีแอปเปิลสุกกำลังดีกัดกินไปตลอดทางอย่างเอร็ดอร่อย แม้มันจะเปรี้ยวมากกว่าหวานเจ้าตัวก็ยังคงกินไม่หยุด พร้อมกับซู้ดปากเพราะรสเปรี้ยวไปตลอดทาง

“หืม ตรงนั้นมันต้นอะไรน่ะ คุ้น ๆ” หญิงสาวปรี่ตรงเข้าไปหาสิ่งที่หมายตาไว้ทันที พอเมื่อเข้าไปใกล้จึงได้รู้แน่ชัดแล้วว่าคือต้นอะไร หนิงเซียนแทบจะอยากกรีดร้องออกมาด้วยความดีใจ

“กรี๊ดดดด นี่มันต้นมะยมนี่ ลูกใหญ่มาก ข้าเจอของดีอีกแล้วไหมเล่า” หญิงสาวรีบวางกระบุงลงทันที พร้อมกับปีนขึ้นไปเก็บลูกมะยมอย่างว่องไว เมื่อถึงกิ่งที่ตนหมายตาก็ได้เก็บมะยมพวงใหญ่ใส่ชายเสื้อ นางพยายามให้ผลช้ำน้อยที่สุด เวลานำไปดองและแช่อิ่มจะได้ไม่เละเสียของ

ไม่คิดไม่ฝันว่าในโลกนิยายจะมีพืชผลและสิ่งของบางอย่างเหมือนโลกที่ตนจากมา แต่ก็มิได้แปลกใจอะไรมากในเมื่อผู้แต่งนิยายเป็นคนไทย นักเขียนก็อาจจะรังสรรค์เอาของบางอย่างที่รู้จักและคุ้นเคย หยิบยกขึ้นมาเขียนก็ได้มิใช่หรือ แบบนี้ไงเล่านางถึงชอบเข้าป่า เพราะว่าด้านในมันมักจะมีสิ่งที่คาดไม่ถึงได้ตลอดเชียวล่ะ

เสียอยู่อย่างเดียวจะให้ของวิเศษติดตัวมาบ้างไม่ได้หรืออย่างไร เหตุใดถึงให้นางมาแบบตัวเปล่า อีกทั้งยังส่งมาเป็นอนุของตัวร้ายที่ใจคอโหดเหี้ยมอำมหิต เหอะ!! ดีนะที่ข้าอ่านนิยายเรื่องนี้จบ อย่างน้อยก็รู้ว่าควรจะหลีกเลี่ยงความตายได้อย่างไร

หลังจากที่เอาแต่บ่นให้นักเขียนจนพอใจ หนิงเซียนจึงได้แบกกระบุงขึ้นหลังเตรียมกลับบ้าน ด้วยของที่อยู่ในกระบุงเป็นผลไม้ เสียเป็นส่วนใหญ่ทำให้เริ่มหนักแบกไม่ไหว หญิงสาวจึงพอแล้วสำหรับวันนี้ เอาไว้คราวหน้าค่อยเข้าป่าลึกไปอีกสักหน่อย เผื่อจะได้เจอของป่าใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยเจอ

แต่ก่อนจะเดินพ้นออกจากแนวป่า นางก็ยังอุตส่าห์พบเห็ดหูหนูดำขึ้นเต็มขอนไม้ มีหรือจะปล่อยให้มันหลุดมือไป หนิงเซียนจึงจัดการเก็บมาจนหมดไม่ให้เหลือสักดอก พอนึกถึงเมนูของวันพรุ่งนี้ก็ทำเอาน้ำลายสอขึ้นมาอีก พลางนึกถึงสมัยเด็กที่คุณยายมักจะทำให้ทาน เป็นอาหารจานโปรดของนางเลยเชียวล่ะ แกงหน่อไม้ใส่เห็ดเยอะ ๆ

“อุ๊ย เจอใบย่านางพอดีเลย แหม! อะไรมันจะเหมาะเจาะขนาดนี้เนี่ย” หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยกมือขึ้นเปิดปากหัวเราะคิกคัก ไม่คิดว่าเพียงนึกถึง ก็ได้เจอวัตถุดิบเข้าพอดี

เมื่อได้ของที่ต้องการจนครบแล้ว หนิงเซียนจึงได้ตรงกลับบ้านทันทีโดยไม่แวะที่ใดอีก เดินฮัมเพลงแอวลั่นปั๊ดเพลงฮิตติดปากอย่างสบายอารมณ์ พร้อมกับออกลวดลายท่าทางตามจังหวะมัน ๆ ภายในหัวก็เอาแต่คิดถึงรายการอาหารที่จะทำกินคืนนี้และวันพรุ่งนี้อย่างมีความสุข

“เสียงเอวมันลั่นนนนน....”

แกร๊บ

“โอยยยย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel