บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 35 ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าร้อง (1)

ตอนที่ 35 ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าร้อง (1)

ระหว่างนั้นเอง ผอ. ก็พอจะรู้เหตุการณ์โดยคร่าว ๆ แล้ว

ขาดก็แต่พยานหลักฐานหรือคนมาร้องเรียน ส่วนที่เสือน้อยเตือนก็ทำให้เธอต้องหาวิธีรับแรงกระแทกจากบรรดาผู้ปกครองของแต่ละคน

“โรงเรียนเก่าแก่ลูกแต่ละคนก็มีตั้งแต่คนจนไปถึงพวกคุณหนู…มีทุกระดับชั้น!”

เข้มที่รับหน้าที่ถ่ายภาพพร้อมกับกล้องคู่ใจที่เสือน้อยซื้อไว้ให้ ถ่ายภาพหลักฐานไว้เป็นชุด ๆ เตรียมส่งให้พวกรุ่นพี่ ม.6 ที่กำลังหาทางเล่นงานไอ้ทิดอยู่

เสือน้อยส่งสายสืบแฝงตัวเข้าไปคอยชักจูงแผนการ และนั่นก็คือพวกรุ่นพี่ ม.6

โดยให้คนเหล่านี้ได้ทำตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ เพราะไอ้พวกสมองน้อยก็พยายามจะรุมกระทืบท่าเดียว ทำเอาเขาปวดหัวกับไอ้พวกนี้ จึงจำต้องส่งสายสืบแฝงเข้าไป “เพื่อที่จะได้เติมปัญญาให้พวกมันหน่อย”

แน่นอนทั้งหมดที่ทำไปก็เพราะเอาคืนไอ้พีล้วน ๆ ที่วางแผนเล่นงานเขาก่อน มีหรือเสือน้อยจะยอม เขาเองไม่ใช่เพราะอิฐพระปูนเสียหน่อย

มันก็เหมือนกับคำว่า “ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย”

กลุ่มเหล่านั้นพอได้ยินแผนก็ถึงกับตาลุกวาว ไอ้แผนใช้กำลังกระทืบนั่นดูโง่เง่าไปเลย

สายสืบได้พูดขึ้นมาว่า “ปกติแล้วคนซื้อกับคนขาย…ใครมีความผิดมากกว่ากัน?” เขาหันไปถามเพื่อน ๆ และรุ่นน้องทั้งหลาย

มีคนตอบแทนว่า “ก็ต้องคนขายน่ะสิ!?”

สายสืบเริ่มเกลี้ยกล่อมต่อ “ก็ใช่ไงเราแม่งก็แค่ปลายน้ำโว้ย ส่วนไอ้ที่ต้องกลัวน่ะมันต้องเป็นไอ้พวกขายบุหรี่...โทษคนซื้อแม่งปรับไม่กี่บาท แต่คนขายแม่งทั้งจำทั้งปรับเลยนะ...ลองคิดดู” เขาพยายามโน้มน้าวเพื่อนร่วมทุกข์

หลังจากที่เสือน้อยมาบอกว่า “ที่เขาโดนครูฝ่ายปกครองจับได้ก็เพราะมีคนไปรายงาน” พ่อแม่ของเขาก็โกรธที่โดนเรียกมาฝ่ายปกครอง พอกลับไปถึงบ้านก็โดนด่าจนหูชา ดังนั้นจึงยอมเป็นสายลับให้เสือน้อย โดยที่อีกฝ่ายเสนอค่าจ้างเป็นส่วนแบ่ง

ซึ่งพวกเขาทั้งสี่คนก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่เสือน้อยมันการันตีเงินหนึ่งหมื่นบาทเป็นขั้นต่ำ

“ถ้าเรารวมตัวกันแฉขบวนการพวกมัน มีทั้งรูปทั้งหลักฐาน พยาน พวกเราแม่งไม่ต้องเปลืองแรงไปเจ็บเนื้อเจ็บตัว พวกเราคือฝ่ายที่ถูกกระทำนะโว้ย จะไปกระทืบให้พวกมันมีข้ออ้างเพิ่มมาเล่นงานเราทำไม แค่รวมตัวกันไปที่ฝ่ายปกครอง เอาให้เรื่องมันเข้าหูครูฝ่ายปกครอง ผอ. และเพื่อน ๆ นักเรียน” พวกสายสืบพยายามพูดชักจูง

“มีคนรับจ้างตามสืบมันอยู่ แต่ก็ต้องเสียเงินให้มัน…พวกมึงไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวพวกกูทั้งสี่คนออกค่าจ้างเอง พวกกูอยากเล่นงานมันคืน” สายสืบใช้วิธีอัฐยายซื้อขนมยาย ความจริงเสือน้อยเป็นคนเตรียมทุกอย่างให้หมด

“กูจะฉีกหน้ากากพวกผู้ดีจอมปลอมของไอ้พวกนักเรียนฝ่ายปกครอง เล่นงานแม่งให้หนัก แล้วพวกมึงว่าไง?” สายลับอีกคนพูดขึ้น

หลังจากนั้นทุกคนก็เอาด้วยเพราะมีพี่ใหญ่สี่คนออกหน้า จึงได้แบ่งกันไปตามหาเพื่อนที่เคยโดนจับคดีบุหรี่มารวมตัวกัน พอเห็นหลักฐาน เช่น รูปภาพ คลิป ทุกคนจึงพร้อมใจกัน…เตรียมไปเชือดไอ้พวกสารเลวเหล่านั้นทันที!

....

“วันถัดมาที่หน้าห้องปกครอง…ตอนช่วงเที่ยง ๆ”

กลุ่มนักเรียนรวมตัวกันอยู่หน้าห้องปกครองเกือบร้อยคน “โดยมีสี่แกนนำ” นำเอาหลักฐานให้ครูฝ่ายปกครองดู เช่น หลักฐานการล่อซื้อซึ่งเป็นคลิป

“มีเด็กนักเรียนคนหนึ่งเดินมาชี้เป้า จากนั้นก็คุยนัดแนะกับพวกนักเรียนฝ่ายปกครอง พวกมันวิ่งเข้ามาแอบถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน และก็เชิญตัวไปที่ห้องฝ่ายปกครอง เพราะมีหลักฐานอยู่ในกล้อง ยากที่จะปฏิเสธ!”

พอเห็นคลิปแรก ครูฝ่ายปกครองก็อึ้งพูดอะไรไม่ออก นี่ยังไม่รวมภาพถ่ายอื่น ๆ ที่อยู่ในแฟ้มภาพของทั้งสี่คน “ครูฝ่ายปกครองจินตนาการได้ถึงผลที่ตามมา ทั้งพวกนักเรียนที่กรูพากันมาร้องเรียน” โชคยังดีที่ ผอ.นัยนา เตรียมใจไว้ก่อนแล้ว

จึงได้เรียกพวกกลุ่มแกนนำไปคุย พวกที่คุยส่วนใหญ่ก็เป็นรุ่นพี่สายลับ ม.ปลายทั้งนั้น เพราะถ้าเอาเด็ก ม.ต้นไป “กระดูกอ่อนเคี้ยวง่าย”

ผอ.นัยนาพูดขึ้นว่า “สรุปพวกเธอต้องการให้ทางโรงเรียนดำเนินการกับคนเหล่านี้ และจะแจ้งความด้วย?”

“ใช่ครับ ผอ. เพราะตอนที่พวกผมโดนก็โดนแบบนี้…แถมโดนกันร้อยกว่าคน มันคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วนะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น

“เอ่อ…งั้นเธอรอฟังมาตรการ ของทางโรงเรียนก่อนดีมั้ย? ค่อยไปแจ้งความ ถ้าไม่พอใจในมาตรการค่อยมาว่ากันอีกทีเป็นไง?” ครูนัยนาพยายามเป็นอย่างยิ่งไม่ให้เรื่องไปไกล

จากนั้นก็เรียกประชุมครูเป็นการด่วนโดยเฉพาะครูฝ่ายปกครอง

และวันนั้นทั้งวันกลายเป็นว่าครูหายไปจากห้องสอนหนังสือ นักเรียนบางส่วนก็หายไปอย่างเห็นได้ชัด

ผลการสืบสวนปรากฏว่าเป็นจริงดังคาด ต่อให้พวกเขาไม่สารภาพหลักฐานก็มัดตัวแน่นเสียขนาดนั้น “ครูบอกว่าใครที่สารภาพย่อมได้รับโทษเบา…” ส่วนใครที่ปากแข็ง ก็จับแยกไปอีกห้อง ในระหว่างขั้นตอนนี้นักเรียนสี่คนที่เป็นแกนนำก็อยู่ด้วยตลอด

นักเรียนแกนนำทั้งสี่พอเห็นไอ้พวกปากแข็ง ก็พูดขึ้นว่า “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”

“ทางโรงเรียนให้พวกทำผิดเหล่านั้นซัดทอดกัน ใครที่ให้ข้อมูลได้มากที่สุด เป็นประโยชน์มากที่สุด…ก็จะได้รับโทษสถานเบา ผลปรากฏว่าทุกคนแย่งกันพูดจนครูต้องค่อย ๆ ปราม”

ต่างฝ่ายต่างซัดทอดกันไปมาจนเละตุ้มเป๊ะ ทั้งบ่ายจึงสรุปผลสืบสวน ส่วนนักเรียนที่พากันมาร้องเรียน ด้านนอกก็ไม่ออกหน้าเองแค่แสดงตัวพวกเขาให้รุ่นพี่ทั้งสี่คน ออกหน้าเพราะหลักฐานส่วนใหญ่พวกเขาออกเงินหามา

พวกเขาไม่มีหลักฐานอะไร แค่ตามมาผสมโรงเอาคืนพวกนักเรียนฝ่ายปกครอง กับพวกตัวต้นเรื่องแค่เท่านั้น!

ผลปรากฏว่า “สืบสาวราวเรื่องไปถึงใครก็ให้เพื่อนในกลุ่มโทรตามมา และถ้าไม่โทรตาม ก็เตรียมรับโทษ ทั้งจากทางโรงเรียนและโรงพัก เพราะพวกที่อยู่ข้างนอกไม่ยอมแน่ ๆ” พวกครูได้พูดขู่เอาไว้

นักเรียนที่นั่งสุ่มหัวคุยกันอยู่ในห้องเรียน บางคนโทรศัพท์ดังขึ้น และก็โดนเรียกไปฝ่ายปกครอง “พร้อมคำขู่ถ้าไม่มางานใหญ่แน่ ๆ”

ตอนนี้นายพีกับนายทิด ทั้งสองคนกระวนกระวายอยู่ไม่เป็นสุข พวกเขารู้ตัวแล้ว เพราะคนที่หายตัวไปบางคนได้แอบโทรมาบอกพวกเขา ซึ่งตอนนี้ก็โดนเรียกไปทีละคน และในตอนนี้เพียงแค่รอถึงคิวเขาก็เพียงเท่านั้น

เสือน้อยที่นั่งอยู่ชั้นบนดูนักเรียนเถียงกันวุ่นวาย ครูทุกคนก็ไปช่วยกันแยกสอบปากคำเด็กนักเรียนที่เป็นผู้ต้องสงสัย

ท้ายที่สุด “ทิดกับพี” ก็หนีไม่พ้นผิด ทุกคนซัดทอดไปที่เขาสองคนเป็นหลัก จนสุดท้ายเพื่อน ๆ ได้โทรศัพท์ไปเรียกพีมาในท้ายที่สุด ซึ่งก็เป็นไปตามที่เด็กหนุ่มได้คาดการณ์เอาไว้

เขาเดินหน้าซีดเข้ามาในห้อง ผอ. โดยที่มีครูอยู่คนสองคนเป็นหัวหน้าครูฝ่ายปกครอง...

จากนั้นก็มีครูบอกว่า “มีคนกล่าวหาว่าเธอเป็นหัวหน้าขบวนการ รีดไถนักเรียนเรื่องบุหรี่ และขายบุหรี่...เธอมีอะไรจะแก้ตัวหรือเปล่า?”

พีก็ได้แต่อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่กล้าสบตาใครคล้ายวัวสันหลังหวะ แต่ก็ได้แต่กัดฟันพูด

“เป็นพี่ทิดครับ พี่เขาเป็นคนคิด พี่มันชวนผมมาร่วมขบวนการครับ พี่ทิด ม.5” พีโยนขี้ให้เพื่อนรุ่นพี่ทันที ขอแค่เขารอดเขายอมทำทุกอย่าง

“ผมเองก็โดนขู่ไว้เช่นกัน เลยต้องทำตามน่ะครับ ตอนแรกผมแค่ไปขอซื้อบุหรี่ม้วนเดียว แต่มันจับผมถ่ายรูปในมือถือไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นผมก็หลวมตัวไป…” เขาทำท่าทีหวาดหวั่นก่อนจะบอกที่มาที่ไป โกหกหน้านิ่ง ยืนกระต่ายขาเดียว

“นายทิดเหรอ? ที่เป็นหัวหน้า เป็นตัวตั้งตัวตี!” ผอ.ถาม

“งั้นเดี๋ยวแยกสอบปากคำนายทิดทีหลัง เธอออกไปนั่งรอก่อนไป...” พีพยักหน้ารับก่อนเดินออกไปเอง

……

ก่อนเข้าห้องมาพีเห็นท่าไม่ดี “จึงโทรไปสารภาพผิดกับพ่อของเขาทั้งหมดแล้ว พ่อก็โกรธอย่างมาก พยายามเค้นสมองช่วยลูกชายเต็มกำลัง จึงบอกให้โยนความผิดไปให้ไอ้ทิด ซึ่งไอ้ทิดเป็นลูกชายของลูกน้องเขาเอง!”

“เอาเบอร์โทรศัพท์ไอ้ทิดมา เดี๋ยวพ่อโทรไปคุยกับมัน” พาทีที่กำลังร้อนรนโทรศัพท์ไปหาทิดโดยด่วน “ไอ้ทิดเอ็งรู้แล้วใช่มั้ยว่าจะเกิดอะไรขึ้น...”

“ครับ…ผมพอรู้ครับน้า” เขาเสียงอ่อน

“จากนี้เอ็งต้องสารภาพผิดบอกว่าตัวเองเป็นคนทำ เป็นคนขู่ไอ้พีให้มันทำ” จากนั้นพาทีก็บรรยายแผนการอันลึกล้ำให้เขาฟัง

“ถ้างานนี้เอ็งถูกไล่ออกจากโรงเรียน น้าสามารถหาโรงเรียนสำรองให้เองได้ในทันที งานนี้ไม่ต้องห่วงนะว่าจะเป็นอะไร พวกเงินทองน้าให้ไม่ขาดแน่ไอ้หลานเอ๊ย ขอแค่ให้ผ่านเหตุการณ์ไปด้วยดี ตายคนเดียวดีกว่าตายเป็นหมู่…เอ็งเข้าใจมั้ย!?”

พีพอได้รับโทรศัพท์จากพ่อก็โล่งใจจึงทำตามที่เตี๊ยมกันไว้ “...ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ”

-------------------

ทบต้นทบดอก จัดหนักในคราวเดียว!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel