ตอนที่ 5 ข้าเข้าเรียนด้วยวิธีพิเศษนิดหน่อย (1)
ตอนที่ 5 ข้าเข้าเรียนด้วยวิธีพิเศษนิดหน่อย (1)
หลังจากแนะนำชื่อจนครบห้อง ก็แทบจะหมดชั่วโมงเรียนแล้ว…
ปรากฏว่าทั้งห้องมี 52 คน เพียงแค่เช็กชื่อ…อีกทีก็ใช้เวลาจนหมดชั่วโมงแล้ว ครูวันเพ็ญจึงบอกว่า “เอาล่ะเด็ก ๆ ‘คาบ’ ต่อไปเป็นวิชาอะไร?”
“สมชาย ไหนลองบอกครูมาสิ!?”
สมชายที่ยังไม่ทันตั้งตัวก็หันไปหยิบกระเป๋า “เอ่อ...” ครู่หนึ่งเขาก็หยิบเอาตารางเรียนขนาดเท่ากับแผ่น A4 “วิชาคณิตศาสตร์ครับ”
“ประเดี๋ยวครูจะสอนดูตารางเรียนนะ…ทุกคนหยิบตารางเรียนขึ้นมาดูพร้อมกันค่ะ ‘คาบ’ ต่อไปเรียนที่ตึก 2 อยู่ด้านหน้าโน่นเลย”
….
ตอนออกจากในห้อง คำศัพท์ใหม่ก็ผุดขึ้นมาในหัวเขา ‘คาบ’ มันคืออะไรวะ? เสือน้อย สงสัยเขานึกโยงใยไปถึง “ใบคาบ ในเกมแร็กนาร็อก” ตั้งแต่ประถมมาก็มีแต่คำว่า “วิชาถัดไป” เด็กหนุ่มเก็บความสงสัยไว้ ค่อยไปถามคนที่รู้เรื่อง…
ทุกคนเดินตามสมชายที่สวมบทเป็นหัวหน้าห้องชั่วคราว บรรยากาศในโรงเรียนเต็มไปด้วยความคึกคักมีชีวิตชีวา กว่าจะเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกก็หมดเวลาไปเกือบสิบนาทีกว่า ๆ เห็นจะได้ จนถึงวิชาถัดไป ร่วมกับเช็กชื่อทั้งหมด 52 คน ก็หมดเวลาไปแล้ว 20 นาที
ช่วงวิชาอื่น ๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี สำหรับเสือน้อยขอแค่ไม่ให้แนะนำตัวใหม่ ก็ไม่ต้องหวั่นอะไรทั้งนั้น
“จากนั้นเองไม่นานก็ถึงเวลาพักเที่ยง และนี่คือช่วงเวลาที่เฝ้ารอคอยสำหรับเสือน้อย…”
เพราะตั้งแต่อยู่ประถมมาหกปี กินข้าวแต่ถาดหลุดที่โรงเรียนเตรียมไว้ให้ ไม่ได้ให้อิสระในการเลือกซื้ออาหารตามใจแบบมัธยม “ชีวิตมัธยมมันดีอย่างนี้นี่เอง…ที่อยากกินอะไรก็ได้กิน!”
ขอแค่มันมีอยู่ในโรงอาหารเอาเป็นว่าซื้อได้หมด และในโรงอาหาร มี 20 กว่าร้านค้า ให้เลือก ชีวิตเดิม ๆ ที่อยู่ตอนประถมเปลี่ยนไป เสือน้อยรู้สึกเหมือนตัวเองโตขึ้นมาแล้วหน่อยหนึ่ง อย่างน้อยก็ได้สิทธิ์เลือกกินอาหารกลางวันเองแล้ว!
เสือน้อยจับกลุ่มกับเพื่อน 3 คนที่นั่งอยู่รอบข้างในห้องเรียน
ชวนกันไปโรงอาหาร คนหนึ่งอ้วนตุ้ยนุ้ย ชื่อเอส ส่วนคนตัวเล็กหน้าแหลมเหมือนหนู ชื่อ สิงหา ส่วนอีกคนหน้าเป็นสิวเล็กน้อย รูปร่างสูงกว่าคนวัยเดียวกัน ชื่อต่าย พวกเขาเป็นเด็กหลังห้องที่แท้จริง
สามคนก็ตื่นเต้นเหมือนกัน พวกเขาต่างก็มาจากโรงเรียนวัดเช่นเดียวกัน ตลอดทางที่คุยกันไปคุยกันมา ก็เล่าให้ฟังว่ารุ่นพี่บอกไว้ ฯลฯ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่น่ารู้เกี่ยวกับโรงเรียน
ระหว่างทางนั้นเอง…เสือน้อยเผอิญเจอ หญิงสาวผู้ที่เดินออกมาจากในความฝัน!
เธอก็คือเหมือนฝันนั่นเอง หนุ่มน้อยหัวใจเต้นตึกตัก จากที่ยืนนำหน้าอยู่ก็หยุดไปครู่หนึ่ง ทำเอาเพื่อน ๆ ที่ตามมาด้านหลังสังเกตเห็น พร้อมใจกันมองไล่ไปตามที่สายตาเสือน้อยจับจ้อง
เอสพูดขึ้นว่า “โอ้โฮ น่ารักฉิบเป๋งเลยว่ะ!”
ต่ายพยักหน้า สายตาก็จับจ้องไปที่คนในกลุ่มนั้น ซึ่งมีแต่คนน่ารัก ๆ ทั้งนั้นเลย ส่วนของสิงหานั้นก็ยิ้มร่า และพูดออกมาว่า “เฮ้ยในนั้นมีเพื่อนเก่าข้าเอง”
ทุกคนที่เจอกันก็ตีสนิทกันทันทีเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าต้องอยู่กันอย่างนี้ไปอีก 3 ปี
ทั้งกลุ่มมองไปที่เสือน้อยที่ยืนนิ่งค้าง ก่อนที่ไอ้ต่ายจะสะกิด “เฮ้ยไอ้เสือน้อย เอ็งเป็นอะไรไปวะ?” เสือน้อยที่จมอยู่ในภวังค์อีกครั้ง ก็ตื่นขึ้นจากเสียงเรียกของเพื่อน เขาหันไปมองเหมือนฝัน…จึงพูดขึ้นว่า “เมื่อเช้าข้าก็เข้าไปถามชื่อเขามาแล้ว แต่ยังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย”
สิงหา “อ๋อ...เหมือนฝัน เพื่อนเก่าข้าเองอยู่โรงเรียนเดียวกัน”
พอได้ยินสิงหาพูดขึ้น เสือน้อยก็แววตาเปล่งประกายระยิบระยับ ก่อนจะหันไปคล้องคอเพื่อนใหม่ทันที และกอดคอพลางเดินเข้าไปหากลุ่มผู้หญิงตรงหน้า
ทำเอาเอสกับต่าย ยืนงงอยู่กับที่ ก่อนมองหน้ากันเลิ่กลั่กและเดินตามไปด้วยกันเสียเลย
“สวัสดีเหมือนฝัน...เจอกันอีกแล้วนะ” เสือน้อยฉีกยิ้มกว้าง พลางโบกมือไปมา
เหมือนฝันหันมามองเห็นเด็กหนุ่มเมื่อตอนเช้า ก่อนจะเห็นอดีตเพื่อนร่วมห้องอย่างสิงหา ซึ่งเธอโบกมือทักทายสิงหาคลี่ยิ้มให้เล็กน้อย
ก่อนหันไปพูดกับเด็กหนุ่มตรงหน้า “สวัสดี! ว่าแต่เธอรู้ชื่อเราแล้วแต่เรายังไม่เห็นรู้ชื่อเธอเลย?” อันที่จริงเธอก็สงสัยตั้งแต่เช้าแล้วเช่นกัน แต่ต่างคนต่างขวยเขินจนลืมเสียสนิท
เสือน้อย กล่าวอย่างเหนียมอาย “เอ่อ... เราชื่อเสือน้อย ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
เหมือนฝันยิ้มกรุ้มกริ่ม “เสือน้อย? อุ๊ย…ชื่อน่ารักจังแฮะ!”
เสือน้อยตอบกลับไปว่า “อันที่จริงคนก็น่ารักเหมือนกันนะ”
ทำเอาเพื่อน ๆ ทั้งสองฝ่ายฉีกยิ้มกว้าง หัวเราะคิกคักกันอยู่ครู่หนึ่ง …แต่เสือน้อยไม่รีรอจึงพูดต่อไปว่า “นี่เราขอเบอร์เหมือนฝันได้มั้ย หรือไม่ก็ MSN”
เหมือนฝันยิ้มและมองผู้ชายตรงหน้า อีกฝ่ายก็ไม่ได้หล่อเหลาอะไร และก็ไม่มีอะไรสะดุดตานอกเสียจากชื่อจึงครุ่นคิดครู่หนึ่ง
พร้อมพูดขึ้นว่า “ถ้างั้นก็ถามสิงหาดูสิ เขามีเอ็มของเรา” เธอตอบแบบขอไปที ก่อนจะขอตัวไปกินข้าว เพราะว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษกับเขามากนัก มีเพียงแค่ชื่อเท่านั้นที่จำไม่ลืม กระทั่งตอนนี้เธอยังยิ้ม ๆ อยู่เลย
ทันใดนั้นสิงหาก็กลายมาเป็นเพื่อนรักของเสือน้อยในทันที “เฮ้ย! ไอ้สิงหาเอ็งมีเบอร์โทรศัพท์กับ MSN ของเหมือนฝันด้วยเหรอ!?” เขาเข้าไปตีสนิทโดยพลัน
สิงหาก็คลี่ยิ้มตอบ “ใช่น่ะสิ! เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน ก็ต้องมีเบอร์ มี MSN กันหมดนั่นแหละ”
“ไหน ๆ ข้าขอเบอร์หน่อยสิวะ?” เสือน้อยตัดสินใจแน่แน่ว เขาเซ้าซี้ไม่แล้วไม่เลิก
จนสิงหาเสนอเงื่อนไข “เอางี้…เดี๋ยวเอ็งเลี้ยงข้าวข้า เดี๋ยวข้าค่อยบอก โอเคเปล่าล่ะ?”
เสือน้อยพูดขึ้น “ได้สิ! ไอ้เพื่อนรัก…” เขาจึงคล้องคอพาสิงหาเพื่อนรักคนใหม่ไปกินข้าว
ก่อนจะถามถึงความหลัง เมื่อครั้นตอนอยู่ประถม…สิงหาก็เล่าเรื่องราวให้ฟังอย่างไม่ปกปิด รู้อะไรก็พูดไปอย่างนั้น เพราะปากก็กินข้าวที่เสือน้อยทำหน้าที่บริกร ไปยกมาให้ถึงที่
…เรียกได้ว่าแค่สิงหากระดิกนิ้ว อ้าปาก อาหารก็ลอยเข้ามา “นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายคงป้อนข้าวป้อนน้ำให้กันแล้ว” สิงหายิ้ม
สิงหาเล่าเรื่องเกี่ยวกับเหมือนฝันให้เสือน้อยฟัง เด็กหนุ่มก็พยักหน้า ฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ เพื่อนรัก คนนี้บอกว่า เหมือนฝันน่ะมีคนมาจีบมันเยอะมาก ก็อย่างที่เอ็งเห็นสวย น่ารักเสียขนาดนั้น ตอนเด็ก ๆ ได้ถือพานไหว้ครูทุกปี
ประกวดอะไรเด่น ๆ เธอก็เข้าร่วมหมด โดยเฉพาะวิชาภาษาอังกฤษ…ดูเหมือนเธอจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ กวาดรางวัลมาแล้วหลายเวทีเลย
พ่อแม่ของเธอก็ค่อนข้างมีฐานะ ตัวของสิงหาเองก็เคยเจอไม่กี่ครั้ง เพียงแต่เขารู้ว่าบ้านเธออยู่ไหน เพราะอยู่ห่างกันไปไม่ไกลกัน ตอนเด็ก ๆ พวกเพื่อนผู้ชาย ก็พากันขี่จักรยานผ่านไปแถวหน้าบ้านของ เหมือนฝัน อยู่เป็นประจำ เข้าข่าย “ไม่ได้เห็นหน้า…เห็นหลังคาบ้านก็ยังดี”
พอหาอะไรกินกันเสร็จสรรพแล้ว สิงหาก็ให้เบอร์มือถือของเหมือนฝันไป “ก็เจ้าตัวเขาอนุญาตแล้วนี่เนอะ”
ส่วน Hotmail ของเหมือนฝันที่ใช้เป็นเมล MSN ตัวของเสือน้อยยังไม่ได้ เพราะไอ้สิงหามันจำไม่ได้ แต่ว่าเดี๋ยวค่อยไปเพิ่มเพื่อนตอนกลับถึงบ้าน
หลังจากกินอิ่มทุกคนในกลุ่มก็รอคาบเรียนถัดไป แต่ปรากฏว่าเป็นวิชาว่าง คาบว่าง ซึ่งหมายความว่า ไม่มีเรียนในชั่วโมงนี้นั่นเอง แต่พวกเขาก็ไปหาที่นั่งบริเวณละแวกตึกเรียน เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการเข้าเรียนให้ตรงเวลา
และดูเหมือนเพื่อนร่วมชั้นเรียนก็คิดไปในทำนองเดียว กันจึงปรากฏกลุ่มของ สมชาย ที่นำเพื่อนอยู่หัวขบวนเข้ามานั่งทักทาย จนทุกคนแนะนำตัวกันอีกที
เปิดเรียนวันแรกคงยากที่จะจำเพื่อนทั้ง 52 คนได้ จึงได้แต่ จำหน้าคร่าว ๆ กันเท่านั้น
กลุ่มผู้ชายในห้องมีประมาณ 27 คน ผู้หญิงอีก 25 คน ทำให้เวลาเดินไปไหนมาไหนดูราวกับกลุ่มนักเรียนที่พร้อมจะไปตีรันฟันแทง ดังนั้นทุกคนจึงกระจายกันและแยกตัวกันออกไป
กลุ่มของสมชายมีประมาณ 10 คน พวกเขาก็คุยเรื่องทั่ว ๆ ไป จนกระทั่งมาถึงเรื่องเข้าเรียนยังไง? สมชายเปิดปากพูดขึ้น “เฮ้ยพวกเอ็ง สอบเข้า จับฉลากหรือฝากวะ?”
_____________
ใครรู้จัก “ใบคาบ/ดอกคาบ” ในเกมแร็กนาร็อก…คุณไม่เด็กแล้วนะครับ ในส่วนตัวของผมนั้น คาบไปร์ท
ปล.ดักแก่