บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 18 หนุ่มเลี้ยงควาย ที่ชอบตะไบเขาตัวเอง!

ตอนที่ 18 หนุ่มเลี้ยงควาย ที่ชอบตะไบเขาตัวเอง!

พริบตาทีเดียว เวลาก็ผันผ่านไปไวเหมือนโกหก หนึ่งเดือนต่อมา...

ระหว่างนี้นักเรียนใหม่ ก็เริ่มปรับตัวเข้าได้กับบรรยากาศใหม่ ๆ สถานที่ใหม่ และครูคนใหม่ “วิธีชีวิตที่ต้องเติบโตขึ้นนั้นเป็นธรรมดาของมนุษย์ กฎธรรมชาตินั้นดำรงอยู่ไม่แปรเปลี่ยน”

สำหรับเสือน้อยพริบตาเดียว เพียงเดือนเดียวเขาก็รู้สึกโตขึ้นเยอะมาก ‘ทั้งความคิดและจิตใจ’

ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ตัวของเขาก็ได้สนทนากับพ่อพูดถึง “ละคร” อย่างสนุกสนาน “เขารู้สึกตื่นเต้นกับความเจ้าเล่ห์ และอุบายมากมายของมนุษย์ ที่สุดจะพรรณนาออกมาได้”

ครั้นเมื่อครั้งตอนประถมบทกลอนท่านภู่ ในเรื่องพระอภัยมณีนั้นกลับ ดังขึ้นทันทีที่เขาเริ่มดูละครชุดสามก๊กไปเรื่อยครึ่งเรื่อง มันออกมาจากส่วนลึกของจิตใจที่บรรยายได้หมดจดเสียเหลือหลาย

“แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด

ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน”

‘สามก๊ก’ เป็นวรรณกรรมที่นำมาทำเป็นละคร ซึ่งเต็มไปด้วยแผนการ การใช้เล่ห์เพทุบาย การชักเย่อกับจิตใจคน เล่นกับจิตใจคน …เสือน้อยเหมือนตื่นรู้จากปัญญาเทียบกับในอดีตแล้วที่บ้าพลัง แม้จะมีลูกล่อลูกชน แต่หลังจากดูสามก๊กจบ “เขาเป็นเหมือนเสือติดปีก!”

พ่อผันเคยบอกว่า “มีคนพูดเปรียบเปรยไว้ ถ้าอ่านสามก๊กจบ…คบไม่ได้” ที่ตอนเด็ก ๆ พ่อไม่ได้เปิดให้ดูก็ด้วยเพราะรู้ว่าเสือน้อยยังไม่ถึงวัย...และดูไปก็ไม่เข้าใจ เปรียบดั่งวิชาคณิตศาสตร์ที่ซึ่งเริ่มต้นจากเรียนรู้ตัวเลข หากข้ามขั้นมาเรียนบวกลบคูณหาร หรือการยกกำลังเลย ย่อมทำไม่ได้

เพราะด้วยไม่มีพื้นฐานซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำไปใช้คำนวณ และนี่คือตรรกะง่าย ๆ ที่พ่อผันคิดว่าควรสร้างรากฐานไปทีละเล็ก ทีละน้อย…

พ่อรู้ดีว่าความรู้ประเภทนี้เหมือนดาบสองคม “…หากมองในแง่ดีก็ใช้ประเทืองปัญญา กระตุ้นสมอง หลักคิด ความเป็นไปของโลก หากมองในแง่ร้ายก็คล้ายสอนคนให้กลายเป็นโจร ชี้โพรงให้กระรอก”

สำหรับพ่อผันก็เตรียมใจเผื่อไว้ทั้งสองกรณีแล้ว โดยเฉพาะกรณีหลัง...ยิ่งกับเด็กวัยรุ่นที่มักเป็นขบถในตัวเอง ชอบตั้งคำถามกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ และพร้อมที่จะแหกคอกกับกฎเหล่านั้น

.....

‘เรื่องของผู้หญิง’ เสือน้อยก็ไม่เคยละเลย ตอนแรกแม้จะขัดเขินบ้าง แต่พอปรับตัวได้ก็ดีขึ้นเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น “พ่อบอกว่าอย่าผลีผลาม รีบเร่งกับความรัก และคาดหวังว่าต้องได้เป็นแฟนนักเลย”

เขาสอนให้ตัวของเสือน้อยรู้จักคุณค่าตัวเอง พอมีความมั่นใจในตัวเองถึงจะสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ออกมาได้ดี

“ที่โรงเรียนเขามักจะบังเอิญไปเจอเธออยู่บ่อย ๆ”

เสือน้อยเริ่มชวนคุยเก่งขึ้น มีลูกล่อลูกชน แต่กับฝ่ายหญิงเองไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวที่ตามจีบ เธอเป็นดาวเด่นยามเมื่อไปไหนมาไหน รัศมีที่แผ่ซ่านออกมานั้น ชวนให้คนเคลิบเคลิ้ม เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์แม้แต่กับเพศเดียวกัน

คนที่รุกหนักที่สุดก็คือ ‘พีรพัฒน์’ ห้องแปด

ไอ้หนุ่มคิ้วหนาที่มาชน เสือน้อยกระเด็นในสัปดาห์แรก

อีกฝ่ายคล้ายกับหมาบ้า เที่ยวขู่ใครต่อใครไปทั่ว และพร้อมที่จะกัดทุกคนที่จะไปแย่งอาหารมันกิน ทั้งที่จริงแล้วฝ่ายหญิงเองก็ยังไม่นับว่าเป็นอะไรกับเขาเสียด้วยซ้ำ ทำเอาหลายคนไม่พอใจ!

ในทุกวันเสือน้อยจะส่ง SMS หรือไม่ก็ทักแช็ต MSN เป็นหลัก ภาษิตว่า “น้ำหยดทุกวันหินมันยังกร่อน” สำหรับเขาแล้วก็ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป

ส่วนตัวเขาก็มีสาวทักมาจีบเสือน้อยบ้างเหมือนกัน เสือน้อยก็พูดคุยอย่างเป็นกันเอง ไม่ได้ปฏิเสธขับไล่ไสส่ง “เพราะผูกมิตรไว้ดีกว่ามีศัตรู!”

เวลาโดยมากหลังเลิกเรียน เขามักจะอาศัยอยู่ร้านเกมกับเพื่อน ๆ “นี่คือกิจกรรมหลักของเสือน้อยช่วงนี้ คือการสานสัมพันธ์ผ่านเกม” ทำให้เดือนนี้เสือน้อยแทบไม่ค่อยได้ไปช่วยแม่ขายกับข้าวเลย

ผิดกับลูกหมีที่เสมอต้นเสมอปลาย แม่ชบาก็บ่นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้สนใจเขามากนัก “วันไหนไม่มีเงินใช้…มันก็กลับมาตายรังเองนั่นแหละ!”

และที่สำคัญช่วงนี้อารมณ์แม่ไม่ค่อยจะดีนัก ไม่ใช่เพราะวัยทองหมดประจำเดือนหรืออะไร แต่เป็นเพราะเธอโดนโกงเงินต่างหาก และคนที่โกงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นคนต้อนวัวควายปลูกผักสวนครัวอยู่หน้าบ้านนี่เอง รู้จักกันมาหลายสิบปี ไม่คิดว่าจะทำกันได้ลงคอ!

เรื่องมันก็เริ่มจากสองสามีเพื่อนบ้าน…เอาโฉนดมาวางค้ำประกันขอกู้เงิน ซึ่งเป็นราคาที่มากกว่ากรมที่ดินประเมินราคาไว้เสียอีก ตอนนั้นแม่ชบาสองจิตสองใจ เพื่อนบ้านสองคนนี้ก็รู้จักมักจี่กันดี เห็นกันมาก็นมนาน

พอเห็นว่าเดือดร้อนเรื่องเงินจึงเอาโฉนดมาวางค้ำประกันไว้ แถมพูดเกลี้ยกล่อมแม่จนใจอ่อน พวกเขางัดสารพัดวิธี จนแม่ชบาทำสัญญากู้ยืมโดยมีการพูดคุยร่างสัญญากัน อย่างฉุกละหุกผ่านทางโทรศัพท์กับทนายดำรง จากนั้นก็จ่ายเงินสด ให้ไปเก้าแสนบาทถ้วน

แต่แล้วสัปดาห์ก่อน ปรากฏว่าแม่รู้ข่าวจากเพื่อนบ้านว่า “ลูกชายสองผัวเมีย…ติดพนัน จนไปยืมเงินบ่อนมาเล่นทั้งที่หมดตัวแล้ว จนโดนอุ้มไปขู่เตรียมเผานั่งยาง เดือดร้อนคนเป็นพ่อแม่รีบวิ่งหาเงินไปใช้คืน และเงินที่ว่าก็คือเงินของแม่ชบาคนสวยแห่งตำบลบ้านใหม่”

ทั้งครอบครัวรู้ว่าตัวเองตกอยู่ในอันตราย ทั้งที่ใช้คืนเงินแล้วแต่อีกฝ่ายอ้างว่ายังต้องหาดอกเบี้ยมหาโหดมาคืนด้วย จึงพากันเผ่นหนีกลับต่างจังหวัด กลับไปที่บ้านเกิดกันหมด

พอแม่ชบารู้ข่าวก็ถึงกับโกรธควันออกหู ถามทนายว่าจะได้เงินคืนมั้ย ทางทนายบอกว่า “คงไม่มีหวัง แต่ถ้ายึดที่ดินก็ต้องฟ้องแพ่งขึ้นโรงขึ้นศาลอีกนาน…”

แม่ชบาหัวฟัดหัวเหวี่ยง เสือน้อยจึงพยายามหลบหน้าไม่ไปให้เห็น เพื่อจะได้ไม่เพิ่มอารมณ์หงุดหงิดของคุณแม่ ที่กำลังหัวร้อนเป็นอย่างมาก ทั้งวันเธอนั่งกดโทรศัพท์บ้างก็ส่งข้อความ บ้างก็โทรออก

ทางทนายเสนอว่าให้มีแต่ยอมเสียเปรียบถึงพอจะได้ทุนคืนมาบ้าง โดยเจรจาให้มาโอนที่ดินกัน จนอีกฝ่ายยอมใจอ่อนไว้หน้าหล่อน จึงแอบกลับมาจากต่างจังหวัดเงียบ ๆ นัดแนะกันไปโอนที่ดิน

อีกฝ่ายไหว้ขอโทษอย่างจริงใจ พร้อมกับยกสิ่งปลูกสร้างกับวัวควายให้ด้วย เพราะเขาไม่มีปัญญาหารถมาขนไป และก็กลัวพวกนักเลงบ่อนมันตามมาเล่นงาน!

พอโอนเสร็จพวกเขาก็นั่งรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดในทันที...

ทางด้านเสือน้อยพอรู้ว่าที่ดินจะเป็นของตนแล้ว แม่ยังบอกว่า “วัวควายที่อยู่ในนี้…ก็ตกเป็นของเขา จึงเดินไปหาลุงก้านกลางทุ่งชวนคุย” อันที่จริงเขาก็รู้จักมักจี่กับลุงก้าน แถมยังเคยไปขโมยมะม่วงบ้านแกอยู่เลย

ลุงก้านถูกเพื่อนร่วมก๊งเหล้าฝากให้เลี้ยงวัวควาย เป็นอาทิตย์พอรู้ว่าเพื่อนหนีหนี้ก็รู้สึกสับสนบอกไม่ถูก

แม่ชบาจึงจ้างลุงแกมาช่วยดูอยู่พักหนึ่ง ส่วนตัวลุงแกเองนั้นก็ปลูกสวนทำไร่อยู่ห่างไปหลายร้อยเมตรจากบ้าน และเคยเลี้ยงวัวเลี้ยงควายมาก่อนจึงต้องพึ่งลุงแก หาคนมาขัดตาทัพไปก่อน

ไม่กี่วันต่อมา แม่ชบากับพ่อตัดสินใจขายวัวควายทั้งหมด เพราะพวกเขาเลี้ยงมันไม่เป็น ด้วยเกิดมาก็ไม่เคยทำไร่ทำนามาก่อน หรือต้อนวัวต้อนควาย

วัวควายพวกนี้ส่วนใหญ่เจ้าของเก่าก็เลี้ยงขุนไว้ส่งโรงเชือด แต่ก็มีบางตัวที่มันยังโตไม่ได้ที่

ภายในที่ดินที่ได้มามีการปลูกพืชผักสวนครัวหลากหลาย ซึ่งเป็นอาชีพหลักของทั้งสอง ส่วนวัวควายเหล่านี้พึ่งมาหัดเลี้ยงได้ไม่กี่ปี ปกติมักกันอยู่ในคอก

นอกจากนั้นก็เป็นบ้านไม้สองชั้นแบบง่าย ๆ ทรัพย์สินมีค่าที่มีอยู่ภายในก็ขนออกไป กลางดึกวันที่หนีแล้ว นอกจากนั้นก็มีแต่เปลผูกเสาทั้งสองที่แกว่งไปมา มองเผิน ๆ นึกว่าบ้านร้าง

ช่วงนี้จึงเห็นรถบรรทุกมาขนวัวควายเหล่านี้ไป บ้างก็เอาไปเลี้ยงเพาะพันธุ์ ไม่ก็เอาไปขุนส่งโรงเชือด ชาวนาในละแวกใกล้เคียงก็มาขอซื้อในราคาตลาด แม่ชบาก็ปล่อยขายไป

ส่วนที่เหลืออยู่ก็ได้แต่ฝากพ่อผันช่วยถามเพื่อนฝูง แนะนำให้คนมาซื้อไปหน่อย

เย็นวันหนึ่งเสือน้อยกลับมาเจอวัวควายที่ถูกต้อนขึ้นไปบนรถบรรทุก เป็นชุดสุดท้ายโดยมีลุงก้านคอยดูแลให้

ในระหว่างนั้นเสือน้อยก็เดินไปหาลุงก้าน เขายืนดูอย่างอยากรู้อยากเห็น

จนกระทั่งควายตัวน้อยตัวหนึ่ง เดินเอาจมูกมาถูกับหน้าแข้งของเขา เสือน้อยก็หันไปลูบหัวมันอย่างเอ็นดู เจ้าควายน้อยก็ออดอ้อนไม่หยุดส่งเสียงร้องออกมาบ้าง จนลุงก้านหันมามองก่อนยิ้มให้เสือน้อยพร้อมถามว่า “จะเก็บไว้สักตัวมั้ยล่ะ?”

เสือน้อยกะพริบตาใสใส่ลุง “เป็นเชิงว่าเลี้ยงควายเนี่ยนะ!?”

จากนั้นจึงหันไปมองไอ้ตัวน้อยที่กำลังแลบลิ้นเลียขาของเขา ก่อนคิดว่า “ที่ดินก็ต้องกว้างไม่มีใครอยู่เลยก็กระไรอยู่ เอาไว้สักตัวก็ได้วะ!”

ก่อนหันไปมองลุงก้าน “ผมเลี้ยงควายไม่เป็นนะลุง ถ้าลุงสอนผมเลี้ยง ว่าง ๆ ช่วยผมดูมันหน่อยผมก็จะเก็บไว้สักตัว” เสือน้อยเปรย ๆ แบบมีเล่ห์กล

ลุงหัวเราะตอบสบาย ๆ “ได้เลย! แค่เลี้ยงควายตัวเดียว ถ้าทำไม่ได้ก็แย่แล้ว!” ลุงตบอกยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ

แม่ชบากลับมาถึงก็สวดยับในทันที ตัวเสือน้อยฟังจนหูชา ก่อนที่จะบอกแม่ว่า “ถ้าไม่งั้นเดี๋ยวเรียกรถมาขนใหม่มั้ยล่ะแม่?” เสือน้อยตอบแบบยอม ๆ แม่ไปก่อน

และหลังจากนั้นก็พูดขึ้นว่า “เห็นที่มันว่าง ๆ อยู่ เลี้ยงควายไว้เล็มหญ้าก็เข้าทีอยู่นะแม่ แถมลุงก้านก็จะมาช่วยสอนเลี้ยงมันด้วย”

แม่ชบาก็ได้เดินไปดูลูกควายตัวน้อย “เจ้าตัวดีก็แสนรู้เข้ามาออดอ้อนถูหัวกับขาแม่ชบา ในทำนองว่าประจบเอาใจ”

จนสุดท้ายทำเอาเธอใจอ่อนเข้าให้เสียแล้ว เธอพึมพำในใจ “อย่างมากถ้าเลี้ยงไม่ไหว ก็ยกให้กับคนอื่นก็แล้วกัน...”

หลังจากนั้นเป็นต้นมา “ครอบครัวร่มไม้เย็น” ก็มีสมาชิกใหม่ เพิ่มมาอีกหนึ่งตัว!

“อย่างน้อยก็ได้ที่ดินกับบ้านหนึ่งหลัง แถมควายมาหนึ่งตัว...เฮ้อ” แม่ชบาถอนหายใจยาว บทเรียนราคาแพงสำหรับเธอ

ซึ่งอันที่จริงแล้วทางทนายความก็แนะนำแม่ว่า “มีอีกวิธีคือการฝากขาย เพียงแค่ไปที่สำนักงานที่ดินจังหวัด ซึ่งมันปลอดภัยกว่าการจำนอง ไม่ต้องยื่นฟ้องคดีเป็นเวลานานกว่าจะบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินที่จำนองได้”

แต่ว่าวันนั้นแม่ชบาเล่าเรื่องให้ทนายฟังไม่หมด เพียงคุยผ่านโทรศัพท์เท่านั้น อีกทั้งสองสามียังรีบร้อน ทำเอาเธอตั้งตัวไม่ถูกเช่นกัน

เสือน้อยฟังแม่คุยกับทนายก็เห็นความสำคัญของกฎหมาย เมื่อลองคิดดูดี ๆ ถ้าทำถูกกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่บัญญัติขึ้นก็จะมีหลักประกันให้ตัวของเขาเอง ทั้งกฎโรงเรียน กฎหมาย และใหญ่สุดก็คือรัฐธรรมนูญ

“ซึ่งสามารถใช้มันเป็นอาวุธหรือเกราะคุ้มภัย ได้เป็นอย่างดี!”

เสือน้อยนึกถึงกฎโรงเรียนขึ้นมาอย่างฉับพลัน ต่อไปนี้เวลาเขาทำอะไรผิดจะได้เถียงได้ถูก “เพราะเถียงแบบมีเหตุผล กับเถียงข้าง ๆ คู ๆ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว”

โดยที่ไม่รู้ตัวความคิดของเสือน้อยมันก็เริ่มเฉียบคมขึ้นทุกที กลยุทธ์มากมายที่ดูมาจากละครในตอนนี้ตัวเขายังไม่มีโอกาสได้ใช้มันมากนัก

เพราะในตอนนี้ยังไม่ได้จะไปสู้รบตบมือกับใคร เพียงแต่สุภาษิตว่าไว้ “รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม” ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย

พอเสือน้อยไปอ่านกฎของโรงเรียน ซึ่งได้เขียนไว้กว้าง ๆ อีกทั้งยังคลุมเครือเป็นอย่างมาก พอได้ไปคุยกับพ่อผันเรื่องนี้

พ่อผันก็ได้บอกเขาว่า “กฎต่าง ๆ น่ะ มันมีช่องโหว่อยู่ เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเขียนทุกตัวอักษรยัดมันเข้าไป ซึ่งมันมีไว้ใช้เป็นกรอบ…ตีกรอบให้นักเรียนเพื่อไม่ให้ออกนอกกรอบมากจนเกินไป”

“ส่วนช่องโหว่อันนี้ก็อยู่ที่ว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมันยังไง และใช้ไปในทางไหน ทางที่ดีหรือทางที่เลว ถ้าคิดจะใช้ช่องโหว่ก็ต้องคิดให้รอบคอบ เพราะถูกและผิดของช่องโหว่นั้น…แต่ละแบบก็ไม่เท่ากัน”

“ถ้าหากจะเปรียบถูกผิดกับช่องโหว่ให้เป็นสีสันต่าง ๆ สีขาวก็คงแทนความหมายว่าถูก ส่วนสีดำก็แทนความหมายว่าผิด ส่วนสีเทาก็แทนความหมายของช่องโหว่ เพราะว่ามันก็ก้ำกึ่งกันมาก ๆ” พ่อผันอธิบายในมุมมองของเขาที่รวมไปถึงประสบการณ์ของตัวเอง

อีกทั้งยังดึงเอาข่าวสารจากบ้านเมือง ที่นักการเมืองชอบใช้ช่องโหว่ของทางกฎหมายมาทำในสิ่งที่ผิดบ้าง หรือถูกบ้างผสมผสานรวมกัน เล่าให้เสือน้อยฟัง

“คล้ายคนสูบกัญชา…ถ้าหากตำรวจรู้ เขาย่อมถูกจับใช่มั้ย? แต่คำถามที่น่าสนใจก็คือแล้วถ้าไม่มีใครเห็นล่ะ? แบบแอบสูบเงียบ ๆ จะถูกจับมั้ย?” พ่อผันตั้งคำถาม และตอบด้วยตัวเองให้เสือน้อยฟัง

ก่อนจะพูดว่า “และนี่แหละคือโลกแห่งความเป็นจริง เรื่องอื่น ๆ ก็มีอีกมากมาย…” พ่อผันพยายามอธิบายให้มันง่าย ๆ เข้าไว้ “ยกตัวอย่างเรื่องโน้นเรื่องนี้ขึ้นมาประกอบฉาก”

ตัวเขาพูดเรื่องนี้พร้อมเกากีตาร์ไปพลาง ๆ ท่ามกลางสายลมที่พัดโชยในตอนกลางคืน

ในที่มุมระเบียงด้านข้าง แม่ชบาก็นั่งหาวอยู่หลายรอบ เพราะเธอชอบมาแอบฟังสามีตัวดี ที่กำลังสั่งสอนลูกชายแสบอยู่เป็นประจำ

-------------------

จากนี้จะมันขึ้นในทุก ๆ ตอน ฮึฮึ!

ปล.อย่าลืมกดหัวใจ และสามารถคอมเมนต์ ติชม พูดคุยกันได้นะครับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel