บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 0 ปฐมบท [โก๋xเก๋า] 

ตอนที่ 0 ปฐมบท [โก๋xเก๋า] 

ตอนสาย ๆ ณ สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งออกกำลังกายไปตามถนนที่แบ่งสัดส่วนทางวิ่ง ทางจักรยาน อย่างเป็นระบบระเบียบ รอบด้านมีผู้คนบางตา อาจเป็นเพราะด้วยเป็นช่วงเวลาทำงาน จึงทำให้ผู้คนบางตามากเป็นพิเศษ นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ชายหนุ่มเลือกที่จะวิ่งในช่วงเวลานี้

อาจเป็นเพราะเขาอยากอยู่กับตัวเอง อยากใช้เวลาในช่วงนี้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ทำให้ได้มีเวลาที่จะครุ่นคิดอะไรต่อมิอะไร

จวบจนกระทั่ง ใกล้ครบรอบตามที่ตนกำหนดไว้ พลันปรากฏเสียงหอบหายใจอย่างถี่ ๆ ชายหนุ่มเป่าปากเสียงดัง “ฟู่ว” ระบายความเหนื่อยล้าที่สะสมออกมา พลางเหลือบไปมองนาฬิกา เจ้าตัวก็ค่อย ๆ ลดความเร็วในการวิ่งลง

หลังจากที่วิ่งเสร็จ เขาก็ยืดเส้นยืดสายตามปกติ ถึงแม้ว่าเหงื่อไหลไคลย้อย ทำให้เสื้อผ้าเปียกปอนไปด้วยเหงื่อ เสมือนพึ่งได้วิ่งตากฝนมาอย่างไรอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวรู้สึกอึดอัดแต่ประการใด เขายังคงเพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงจากหูฟังที่ปลุกเร้าอารมณ์

ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ผู้คนไม่มากจนเกินไป ประจวบกับแสงแดดอ่อน ๆ สาดส่องลงมากระทบกับพื้นดินผิวน้ำ จนกระทั่งเกิดเป็นกลิ่นอายซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ยามเมื่อมีสายลมอ่อน ๆ พัดพลิ้วโชยมา มันก็ได้หอบเอากลิ่นหอมลอยไปทั่วทั้งบริเวณ เป็นความรู้สึกที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติอีกครั้งหนึ่ง นี่ยิ่งทำให้เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก

“บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ” ทั้งสองสิ่งที่เป็นใจทำให้ชายหนุ่มยืนดื่มด่ำไปกับธรรมชาติรอบตัว ทำให้ความเมื่อยล้าที่สะสมมาค่อย ๆ มลายหายไป

ชายหนุ่มเดินเตร็ดเตร่ไปตามเส้นทางเพื่อชมทัศนียภาพ ที่ริมทะเลสาบปรากฏ “เก้าอี้ม้านั่งสนาม” ซึ่งตั้งวางอยู่เรียงราย เทศบาลได้ตั้งไว้เพื่อให้ประชาชนผู้คนที่มาวิ่งออกกำลังกาย ใช้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

...

“กริ๊ง ๆ” เสียงกดกริ่งจากรถจักรยานตราจระเข้ ฟัง ๆ ไปคล้ายกับรถไอติมกดกริ่งเรียกลูกค้าตามตอกซอกซอย บนจักรยานเห็นชายชรากำลังปั่นรถจักรยานอย่างมีความสุข 

บนใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอันอบอุ่น มองดูมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง ผมสีดอกเลาพัดไปตามแรงลม ส่วนมือซ้ายก็คอยกดกริ่งทักทายคนรู้จัก ที่วิ่งอยู่ตลอดทางที่ขี่ผ่าน

ในยุคปัจจุบันที่นิยมขี่จักรยานเสือหมอบเพื่อออกกำลังกายตามสวนสาธารณะ

ภาพที่เห็นจักรยานจ่ายตลาด ขี่ออกกำลังกาย มีให้เห็นลดน้อยลงไปทุกที จึงทำให้ชายชราพร้อมกับจักรยานสุดเก๋โดดเด่นสะดุดตา มากที่สุดท่ามกลางสวนสาธารณะ

บริเวณข้างริมทะเลสาบ ใต้ต้นก้ามปูต้นใหญ่ มีเก้าอี้ม้านั่งสนามตั้งอยู่สองสามตัว 

ทำให้บรรยากาศร่มรื่นชุ่มชื่นเป็นอย่างยิ่ง หากจะเปรียบทำเลที่ตั้งสำหรับค้าขาย ใต้ต้นก้ามปูต้นนี้ถือเป็นทำเลทองเลยก็ว่าได้

“เอี๊ยด” เสียงเบรกของรถจักรยานคันเก๋ จอดอยู่ใต้ก้ามปูต้นใหญ่ ชายชราใช้ผ้าเช็ดหน้าและบิดยืดตัวไปมา ด้วยท่ากายบริหารตามปกติ 

หลังจากที่ทำกายบริหารเสร็จแล้ว ตัวเขาก็หมุนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความสุขใจ 

ครู่หนึ่งหลังจากเหงื่อได้หยุดไหล เขาก็ฮัมเพลงด้วยท่าทีที่ผ่อนคลาย มือเท้าขยับไปตามเสียงเพลงอย่างมีจังหวะ ดูเหมือนว่าหากมีเครื่องดนตรีสักชิ้น ก็คงสามารถเล่นดนตรีเปิดหมวกได้เลย

...

ชายหนุ่มในชุดออกกำลังกายเต็มรูปแบบ เขาเดินเอามือไพล่หลัง พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่แสนจะสุขสงบ ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ จวบจนกระทั่งเจอกับต้นก้ามปูต้นหนึ่ง พร้อมกับชายชราที่กำลังฮัมเพลงเบา ๆ 

แต่ที่เด่นสะดุดตาเหมือนจะเป็นจักรยานคันเก๋…พร้อมกับเครื่องแต่งกายสุดจ๊าบ

“มีรสนิยม” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเขาเอื้อนเอ่ยกับตัวเองออกมา พร้อมสังเกตเห็นรองเท้าผ้าใบสีขาวกับถุงเท้าสองสี… 

ข้างหนึ่งเป็นสีฟ้าโทนพาสเทล อีกข้างเป็นสีชมพูโทนพาสเทลเช่นกัน มอง ๆ ไปคล้ายไอติมหวานเย็นยามเด็ก ๆ “ส่วนผมสีดอกเลาก็ยิ่งขับให้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ…”

ในระหว่างนั้น ชายชราก็ยังคงกระดิกเท้า จนกระทั่งหันมาสังเกตเห็นชายหนุ่ม รูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาคมเข้ม ซึ่งมีหนวดเคราเล็กน้อย ดูคล้ายพระเอกหนังอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย 

ผู้เฒ่าผมสีดอกเลาหันมามองชายหนุ่ม พร้อมยักคิ้วหลิ่วตา ทั้งยังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้...

ชายชราหัวเราะในใจ “ฮึฮึ ตอนเราหนุ่ม ๆ ก็ไม่แพ้มันหรอกว่ะ” 

จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกชายหนุ่มที่ยืนจ้องมองเขาอยู่ ท่าทีประมาณว่าเชื้อเชิญให้มานั่งด้วย

ชายหนุ่มไม่รีรอที่จะได้พบสหายต่างวัย จึงเดินเข้าไปนั่งตามคำเชื้อเชิญ “เขาหยิบมือถือขึ้นมาปิดเพลง พร้อมถอดหูฟังทั้งสองข้างออก” จากนั้นก็นั่งลงข้าง ๆ ชายชราผมสีดอกเลาคนนี้

“สวัสดีครับคุณตา!” ชายหนุ่มยกมือไหว้ตามธรรมเนียมมารยาท

“เฮอะ!” ชายชรายักคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง มองค้อนชายหนุ่ม จากนั้นก็ฮัมเพลงขึ้น 

♪ “เรียกพี่ได้ไหม แล้วพี่จะให้กินขนมหมื่นห้า ถ้าเรียกอา ลดมาห้าพัน…” ♪

“นั่นแน่ะ...เรียกพี่ได้ไหม ของเสรีรุ่งสว่างก็มา...ยียวนเสียจริงนะท่านผู้เฒ่า” ชายหนุ่มคิดในใจตน 

ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ ร้องเพลงตอบ ♪ “เรียกลุงแล้วกัน ไม่เอาสักพันแน่นอน...” ♪ เขาแปลงเนื้อเพลงร้องหยอกเย้าผู้เฒ่าคนนี้คืน

ชายชราระบายยิ้มออกมา เขาถูกอกถูกใจกับลูกคอของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก และพูดขึ้นต่อว่า “ก็ยังดีนะเรียกลุง แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้เรียกอาก็แล้วกัน...”

“เอาเป็นว่าลุงดีกว่าครับ อย่าบอกผ่านเลย!” ชายหนุ่มทำท่าทางประกอบ ลักษณะคล้ายอย่าต่อสินค้าอีกเลย

“รุ่นนี้เขาเรียกพี่กันทั้งนั้น แต่ก็ยังดีเรียกลุงก็พอ…อีกอย่างเอ็งนี่ต้องไปเรียนรู้มารยาทในการเข้าสังคมนะ”

“สังคม? สังคมผู้สูงอายุใช่มั้ยครับลุง! อ๋อ…ใช่ ๆ ประเทศไทยเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุแล้วนี่เนอะ” ชายหนุ่มแซวกลับไปทีหนึ่ง

“แถวนี้เขาเรียกข้าว่าพี่จ๊อดทั้งนั้นแหละไอ้หนุ่มเอ๊ย เอ็งเคยเห็นคนเรียกพี่เบิร์ดมั้ยล่ะ? นั่นแหละ…นั่นแหละ ก็ให้ข้าเป็นพี่จ๊อดหน่อยไม่ได้หรือ?” ชายชราได้ทีก็แอบคุยโวสักรอบหนึ่ง

ตัวเขาเริ่มรู้สึกถูกชะตากับชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านข้างคนนี้แล้ว จึงเอ่ยปากถามต่อไป “ว่าแต่เอ็งชื่ออะไรล่ะ?”

“เอ่อ...” ชายหนุ่มทำท่าทีอึกอัก มีท่าทีลังเลเล็กน้อย จึงยิ้มแห้ง ๆ ก่อนที่จะเริ่มบอกชื่อและก็แนะนำตัวเองไป…

มาเริ่มเรื่องกันครับ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel