บังเอิญโลกกลม
ตอนที่3
ณ ผับดัง xxx
เจไดเดินเข้ามาที่ผับและเดินเลี่ยงขึ้นไปบนโซนวีไอพีเพื่อไปตามที่ได้นัดกันกับเพื่อน ๆ ไว้ ซึ่งผับแห่งนี้ก็เป็นของคีตภัทร หรือคีตะเพื่อนของเขานั่นเอง
“มาแล้วหรอไอ้เสือ กว่าจะมาให้พวกกูเห็นหน้าได้นะ” คีตะทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามา
“ไหนละเด็กมึงไอ้คีย์ ที่บอกว่าเด็ด” เจไดพูดสวนขึ้นพร้อมมองหาเด็ก ๆ ที่เพื่อนเขาพูดถึง
“เพิ่งมาถึงก็จะจัดเลยรึไงวะ” อาชาพูดขึ้นบ้าง
“เออ นั่นดิไอ้ห่านี่ มาหาไรดื่มพูดคุยกันก่อนสิ มาถึงก็จะจัดเรื่องอย่างว่าเลยหรือไง อยู่อเมริกามึงตายอดตายอยากมารึไงวะ” คีตะพูดทีเล่นทีจริงพร้อมส่ายหัวเบา ๆ ให้กับเพื่อนของเค้า
“ก็เห็นว่าเด็ดจนกูจะต้องขอบคุณมึงไง”
“เอาน่า ใจเย็น ๆ เดี๋ยวได้ชิมน้อง ๆ ทุกคนแน่” คีตะพูดตัดบท
“แล้วเรื่องของมึงกับแม่สาวน้อยร้อยเอ็ดคนนั้นเป็นไงบ้าง คืบหน้าหรือยัง?” อาชาถามขึ้น
“ยัง!” เจไดตอบสั้น ๆ เพียงแค่นั้นพร้อมกระดกแก้วเหล้าขึ้นดื่มกรึบสองกรึบ
“อะไรยังไง ใครคือเธอแล้วเธอคือใคร แม่สาวน้อยร้อยเอ็ด พูดซะกูนึกอยากกินลาบร้อยเอ็ดเลย ฮ่า ๆ ๆ”
คีตภัทรพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะชอบใจเสียงดัง เจไดหันมามองหน้าเพื่อนอย่างเบื่อหน่าย พร้อมกับกรอกตามองบนแล้ววางแก้วเหล้าเสียงดัง ปึก!!!! จนคีตะนั่งอึ้งไปห้าวินาที
“อะไรของมึงวะ หัวเราะแค่นี้ทำเป็นไม่พอใจ แค่บอกว่านึกอยากกินลาบร้อยเอ็ดเอง กูพูดอะไรผิดตรงไหนวะ??” คีตะพูดขึ้นก่อนจะหันหน้าไปถามอาชาที่กำลังนึกขันกับท่าทางเพื่อนทั้งสอง
“ที่มึงบอกว่ายังนี่มันยังไงวะ? อย่าบอกว่าเค้าไม่สนใจคนอย่างมึงนะ กูจะขำเข้าให้” อาชาพูดขึ้นทีเล่นทีจริงพร้อมรอฟังคำตอบจากเจได
“ไม่รู้ดิ ตั้งแต่วันนั้นกูก็เพิ่งจะโทรหาเขาเมื่อตอนเช้านี่เอง” เจไดตอบ
“แล้ว…??” อาชาถามและรอคำตอบจากเพื่อนอย่างตั้งอกตั้งใจฟัง
“ก็กำลังจะหาเรื่องชวนคุยและชวนเค้ามาทำงานที่บริษัท เพราะเห็นว่าเค้ากำลังหางานทำ แต่โดนเขาปฏิเสธ แล้วแถมกูยังพูดไม่จบ เขาก็รีบกดวางสายไปเลย” เจไดตอบพร้อมทำหน้าเซ็งๆ
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” อาชาหัวเราะชอบใจที่สาวน้อยร้อยเอ็ดคนนั้นทำเอาเพื่อนรักของเขาเซ็งได้ขนาดนี้
“มึงโดนผู้หญิงปฏิเสธ? ฮ่า ๆ ๆ กูอยากจะขอคาระวะแม่สาวน้อยร้อยเอ็ดคนนั้นจัง ที่ทำให้คนอย่างมึงหัวเสียได้ขนาดนี้ สงสัยแม่สาวน้อยคนนี้คงจะเป็นผู้หญิงคนเดียว และเป็นคนแรกที่กล้าปฏิเสธคนแบบมึงที่ทั้งหล่อทั้งรวย แถมทั้งเอาเก่งแบบมึงเนี่ย ฮ่า ๆ ๆ” อาชาหัวเราะชอบใจ
“กูก็ชักอยากจะเห็นแม่สาวน้อยลาบร้อยเอ็ด เอ้ยยย!! สาวน้อยร้อยเอ็ดคนนี้ของมันซะแล้วสิ!” คีตภัทรพูดขึ้นบ้าง
~~ครืด ครืด ครืด~~
เสียงโทรศัพท์เจไดดังขึ้นมาเพื่อขัดจังหวะการสนทนา
#เจได : (ว่าไง)
#พยัคฆ์ : (ตอนนี้เด็กคนนั้นกำลังจะเข้าไปข้างในผับที่นายน้อยอยู่ครับ)
#เจได : (เธอมากับใคร)
#พยัคฆ์ : (มากับเพื่อนผู้หญิงสี่คนและเพื่อนผู้ชายสามคนครับน่าจะเป็นเพื่อนใหม่ในที่ทำงานที่เธอไปสมัครงานมาวันนี้ครับ)
#เจได : (อืม)
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!! เจไดวางสายทันทีหลังจากลูกน้องคนสนิทรายงานความเคลื่อนไหวของผู้หญิงที่เขาสนใจเสร็จ
“ใครโทรมาวะ..?” อาชาถามขึ้น
“พยัคฆ์” เจไดตอบสั้น ๆ เพียงแค่นั้น
“มีเรื่องไรเหรอวะ?” คีตะถามขึ้นบ้าง
“เปล่า แค่คนที่พวกมึงพูดถึงและอยากเจอ ตอนนี้เธอกำลังเข้ามาในผับนี้แล้ว” เจไดพูดขึ้นพร้อมกระดกเหล้าเพียว ๆ ลงคอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“อะไรกันวะ นี่มึงถึงขั้นให้ลูกน้องคนสนิทตามติดชีวิตเธอขนาดนี้เลยหรอ กูว่ามึงชักจะยังไง ๆ กับเด็กคนนี้แล้วนะ อย่าบอกว่ามึงจริงจังกับคนนี้นะเว้ย!!” อาชาตั้งคำถามขึ้นมาอย่างสงสัย
“ถ้าเป็นอย่างที่ไอ้อาชาพูด แล้วว่าที่คู่หมั้นมึงละวะ จะยังไง จะเอาไปไว้ไหน?” คีตะถามขึ้นบ้าง
“ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ กูเคยบอกพวกมึงหรอ ว่ากูจะแต่งงานกับยัยนั่น” เจไดพูดสวนกลับไปบ้าง
“อ้าวไอ้นี่!!” ทั้งอาชาและคีตะต่างก็อึ้งกับคำตอบของเพื่อนสนิท ก่อนจะหันไปมองหน้ากันอย่างอึ้ง ๆ กับคำตอบของเพื่อน
“นั่นไง คนที่พวกมึงอยากเจอ มาโน่นละ” เจไดพูดขึ้นก่อนจะปลายสายไปมองแม่สาวน้อยที่เขาสนใจ
“คนไหนวะ?” อาชาถามก่อนจะหันไปมองกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชายซึ่งมาด้วยกันประมาณ6-7คนได้ คีตะและอาชาต่างสนอกสนใจว่าหญิงสาวที่เพื่อนสนิทเขาสนใจจะมีหน้าตาแบบไหน จะสวยสะบึ้ม อกเป็นอก เอวเป็นเอว ตูดเป็นตูดหรือไม่
ลูกหว้าและกลุ่มเพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ทำงานแต่งตัวกันสบาย ๆ ไม่ได้เซ็กซี่โชว์อกโชว์เอวอะไรมากนัก ลูกหว้าใส่เสื้อสายเดี่ยวสีดำและกางยีนส์ขาเดฟพร้อมกับรองเท้าส้นสูงนิด ๆ เพียงแค่นี้ก็ทำให้สาวต่างจังหวัดแบบเธอดูดีน่ารักในแบบฉบับของเธอแล้ว ยิ่งเสื้อสายเดี่ยวสีดำที่เธอใส่ยังช่วยขลับผิวขาว ๆ ของเธอให้ดูเด่นขึ้นและเธอดูเหมือนจะเป็นจุดสนใจของหนุ่ม ๆ ในผับแห่งนี้ไม่เบาเลยทีเดียว
การที่พวกเธอและเพื่อนเข้ามาในผับนี้ได้ทั้งที่เธออายุเพียง18ปีย่าง19ปีเท่านั้น นั่นเป็นเพราะเส้นสายของบิ๊กเอ็ม ผู้จัดการร้านนั่นเอง
“ถ้าจะให้กูทายคงเป็นน้องเสื้อสายเดี่ยวสีดำนั้นใช่ไหมวะ” อาชาพูดขึ้น พร้อมเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มรอฟังคำตอบจากเพื่อน
“อืม” เจไดตอบสั้น ๆ ด้วยใบหน้าเรียบฉย
“สวย น่ารัก น่าเอาว่ะ” เจไดหันขวับ!!ไปมองหน้าเพื่อนทันที คีตะพูดขึ้นอย่างลืมตัว กว่าจะนึกขึ้นได้และหันหน้าไปหาเพื่อนซึ่งเจไดก็กำลังถลึงตาใส่กับคำพูดของคีตะเมื่อสักครู่อยู่
“เออ กูก็พูดไปงั้นแหละ ของของเพื่อนกูไม่กล้าเอาหรอก มึงไม่ต้องมาทำท่าทางหวงก้างใส่กู” คีตะพูดอย่างอารมณ์เสียใส่เพื่อนทีเล่นทีจริง
ทางด้านลูกหว้าและกลุ่มเพื่อพนักงานด้วยกันก็ต่างสนุกสนาน และไม่ได้สังเกตว่ามีคนมองดูพวกเธออยู่ตลอดเวลาซึ่งอยู่โซนวีไอพีด้านบน และมีสายตาคู่หนึ่งที่มองมายังลูกหว้ากับบิ๊กเอ็มแบบไม่พอใจเท่าไหร่นัก ที่ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษ
“น้องลูกหว้าจะรับแค่น้ำส้มแค่นี้จริง ๆ หรอครับ มาถึงผับทั้งทีจะจบแค่น้ำส้มไม่ได้นะครับ ต้องลองนี่ด้วย” บิ๊กเอ็มพูดขึ้นและยื่นแก้วเหล้าให้ลูกหว้า
“จะดีหรอคะพี่บิ๊ก ลูกหว้าไม่ค่อยได้ดื่มเท่าไหร่ กลัวพรุ่งนี้จะไปทำงานไม่ไหวค่ะ”
“เอาน่านิดดหน่อยเองหว้า นาน ๆ ที ถ้ามาผับแล้วไม่ดื่มแอลกอฮอลล์เลย ถือว่ามาไม่ถึงผับนะแก ใช่ไหมคะทุกคน..!!” กฐินหาแนวร่วม
“ใช่ ๆ ดื่มเลยลูกหว้า สู้เขาหน่อย ดื่มเลย ดื่มเลย ดื่มเลย” เพื่อนที่ทำงานต่างเชียร์ให้ลูกหว้าดื่ม ลูกหว้าทนแรงกดดันไม่ไหวเลยจำใจต้องคว้าแก้วเหล้ามาดื่ม
“งั้นลองสักแก้วก็ได้ค่ะ” ลูกหว้าคว้าแก้วเหล้ามากระดกลงคอแบบกรึบเดียว แล้วกลั้นหายใจดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ว…
“เย้ๆ ๆ !!~~ เก่งมากเลยลูกหว้า มันต้องอย่างงี้สิถึงจะเรียกได้ว่ามาเที่ยวผับ” พี่ที่ทำงานร้านคาเฟ่พูดขึ้นชมลูกหว้า ลูกหว้าได้แต่ยิ้มตาหยี ๆ ส่งให้
“ไม่เป็นไรนะครับน้องลูกหว้า คิดซะว่านาน ๆ ครั้งมาเที่ยวที่แบบนี้ เราต้องปลดปล่อย หาความสุขให้ตัวเองบ้าง” บิ๊กเอ็มผู้จัดการหนุ่มรูปหล่อเอ่ยขึ้น
“ค่ะพี่บิ๊ก” ลูกหว้าตอบและส่งยิ้มให้ผู้จัดการหนุ่ม
“ขอโทษนะคับ” บิ๊กเอ็มรวบปอยผมลูกหว้าที่หลุดลงมาปิดบังใบหน้าขึ้นทัดใบหูให้ โดยที่ลูกหว้ายังไม่ทันตั้งตัวและอนุญาต ลูกหว้าเองก็ตกใจไม่น้อยที่ผู้จัดการหนุ่มทำแบบนี้
“ขอบคุณนะคะพี่บิ๊ก” ลูกหว้าพูดขอบคุณและเขินอายกับสิ่งที่ผู้จัดการหนุ่มนั้นทำแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“แหม ๆ จะดูแลกันเกินกว่าคำว่าลูกน้องคนใหม่มากเกินไปแล้วนะคะผู้จัดการ” น้องพนักงานในร้านคาเฟ่คนหนึ่งเอ่ยแซวขึ้น ทำให้ลูกน้องคนอื่นพูดขึ้นแซวบ้าง
“ใช่ ๆ แบบนี้ไม่แฟร์เลยเนาะ ถ้าจะดูแลเทคแคร์เฉพาะลูกหว้าดีขนาดนี้ น้องลูกหว้าต้องดื่มให้กับพวกเราอีกแก้ว ว่าไหมพวกเรา!!!” พนักงานในร้านคนหนึ่งพูดขึ้น
“ใช่ๆ ๆ ดื่มเลย ดื่มเลย ดื่มเลย” เมื่อทนแรงกดดันอีกครั้งไม่ไหว ลูกหว้าเลยจำใจดื่มอีกแก้วแล้วแก้วเล่า จนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมึน ๆ หนัก ๆ หัวซะแล้ว….
@ทางด้านบนโซนวีไอพี
“หึ!! เธอมันก็เหมือนพวกผู้หญิงทั่ว ๆ ไป” เจไดสบถออกมาอย่างดูแคลน
“มึงจะเอาไงต่อวะไอ้เสือ ดูท่ามึงจะเจอก้างขวางคอชิ้นใหญ่เลยนะ ดู ๆ แล้วหมอนั่นก็หล่อและน่าจะรวยซะด้วย!!” คีตะพูดขึ้น
“นั่นสิ มันคงจะชอบสาวน้อยร้อยเอ็ดคนนี้ไม่เบาเลยทีเดียว มือไวเป็นปลาหมึกอีกต่างหาก ท่าทางอยากจะเอาแม่สาวน้อยร้อยเอ็ดจนจะแย่แล้วกูว่า!” อาชาพูดสมทบขึ้นบ้าง
เจไดเอาลิ้นแตะกระพุ้งแก้มก่อนจะยกเหล้าเพียว ๆ ลงคออีกแก้ว
“ถ้ากูไม่ได้เอาก่อน ใครก็ไม่มีสิทธิ์มาเอา!”
พูดจบก็กระดกเหล้าเพียว ๆ ลงคออีกกรึบ สายตาคมกริบทอดมองไปยังลูกหว้าและบิ๊กเอ็มอย่างไม่วางตา…..