บทที่ 6 ต่อลอง
ด้านพรีนหลังจากที่ร่างบางแต่งตัวเสร็จอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีดำอีกตัวแล้วนั้น ก่อนหน้านี้หลังจากที่เดินตามพี่ก้อยผู้จัดการร้านมาขณะที่ไม่ทันระวังตัวกับเจอลูกค้าเมาชนเข้า บรั่นดีในมือทั้งแก้วเลอะชุดของฉันเปียกถึงชั้นใน แต่ดีหน่อยที่ฉันสำรองชุดไว้ในห้องเลยต้องขึ้นมาอาบน้ำและเปลี่ยนชุดใหม่ เชื่อไหมว่าพอซวยวันนี้ฉันก็เจออะไรที่ซวยซ้ำๆ ซากๆ ซวย ทั้งวัน จะว่าไปไม่ใช่ความผิดฉันนะที่ถูกลูกค้าชน ลูกค้าต่างหากที่ผิดมาชนฉัน แต่ก็นั่นแหละ ฉันเลิกคิดเรื่องนั้นเพราะนี่ก็ได้เวลาที่จะไปดูความเรียบร้อยของร้านแล้ว ร่างบางเหลือบมองไปยังประตูห้องน้ำแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าคนด้านในนั้นจะออกมาสักที นี่เขาไม่ได้เป็นอะไรไปใช่ไหม แต่ขณะที่ร่างบางจะเคาะเรียกเขาอีกครั้งนั้น
!! แก๊ก !! ร่างสูงกับเปิดประตูและเดินออกจากห้องน้ำ ด้วยสภาพมีเม็ดเหงื่อไหลตามใบหน้าของเขา จะว่าไปนี่ห้องฉันก็เปิดแอร์อยู่นะ ฉันสบตาเข้ากับคนตัวสูงด้วยสีหน้าสงสัย
“เออ นายเป็นไรหรือเปล่า” ร่างบางเอ่ยถาม
“ป่าว”
“ฉันจะไปแล้ว แฟนคลับนายคงไปแล้วแหละ” เธอเอ่ยกับเขา แต่ขณะที่ร่างบางกำลังจะเปิดประตูออกจากห้องนั้นกับมีเสียงแว่วๆ ที่ดังมาจากห้องของเธอ พรีนที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับชะงัก
“หึ...นี่อย่าบอกนะ ว่าแฟนคลับที่ตามนายยังอยู่หน้าห้องฉัน” คนตัวเล็กไม่พูดเปล่าแต่กับส่องที่ตาแมว เห็นมีกลุ่มสาวๆ ยืนดักรอเขาที่หน้าประตูหลายคน พรีนที่เห็นเช่นนั้นดวงตาเรียวสวยถึงกับเบิกกว้างออกมาด้วยท่าทีตกใจ
“ชัดเลย พวกเขายังอยู่อ่ะ ตามขนาดนี้ พวกนี้เป็นแฟนคลับหรือปาปารัสซี่กันกันเนี่ย” เธอหันไปเอ่ยกับเขา
“ช่วยหน่อย”
“ช่วยอะไร” ใบหน้าสวยเอ่ยพร้อมกับขมวดคิ้วด้วยสีหน้าสงสัย
“พาฉันออกไปจากตรงนี้” แทคิณไม่พูดเปล่า แต่ร่างสูงกับก้าวขาตามเธอ จนแผ่นหลังติดกับผนังห้อง นัยน์ตั้งสองคู่ประสานเข้าหากัน
“ฉันจะลืมสิ่งที่ฉันเห็นเมื่อครู่” ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับสายตาสำรวจคนตัวเล็ก ชุดที่ใส่นี่มันล่อตาล่อใจเขานักหน้าอกสะบึ้มแบบนี้น่าขย้ำ คงเต็มไม้เต็มมือน่าดู แต่นั้นพรีนกับไม่ชอบสายตาตอนนี้ของแทคิณเอาเสียเลย
“เห็นเมื่อครู่” เธอเอ่ย นี่อย่าบอกนะว่าเขาหมายถึงเรื่องที่ฉันผ้าหลุดเมื่อครู่ ยิ่งแทคิณเอ่ยมาเช่นนั้น
พรีนกับยิ่งอายจนหน้าแดง ให้ตายเถอะนี่เห็นอะไรไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย
“อืม...น่ามองมาก แต่ฉันจะพยายามลืมมัน ถ้าเธอช่วยฉัน” แทคิณไม่พูดเปล่า ใบหน้าอันหล่อเหลาผุดรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากหยัก ให้ตายเถอะ ยิ้มร้ายๆ แบบนี้เขาดูอันตรายต่อสายตาของฉันนัก บอกเลยยิ่งใกล้ในระยะประชิดเช่นนั้น นายนี่หล่อมาก หล่อเวอร์วัง ก.ไก่ล้านตัวไปเลย ถึงน่าจะขรึมๆ หน่อยๆ แต่ทุกอย่างที่อยู่บนตัว ไม่ว่าจะเค้าโครงหน้า จมูกโด่งคมสัน ผิวขาวอ่อร่า ทุกอย่างตรงหน้าฉันลงตัวสุดๆ ยิ่งผู้ชายบอกน่ามองก็เขินๆ อยู่นะ แต่เดี๋ยวหลุดนิ่งสิคะนิ่งให้ดูน่าสนหน่อย
สายตาที่พรีนมองมาที่เขา ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนนานิลบอกเลยผมคิดว่ายัยนี่เป็นแฟนคลับผม สายตาแบบจะจับผมกินตรงนี้ให้ได้เลย สายตาที่มองนั่นธรรมดาที่ไหน ดูสิ แต่นั้นก็ดูน่าสนใจ ยัยนี้แปลกดี ตั้งแต่เอาชายกระโปรงมาเช็ดมือผมแล้ว สนิทกันเหรอก็ไม่นะ แต่ของแปลกแบบนี้แหละคับผมชอบ ยิ่งเห็นใบหน้าสวยจิ้มลิ้มปากอวบอิ่มอยากลงลิ้นกัดชิบหาย ปากแบบนี้น่าจะละมุนลิ้นผมน่าดู แค่เห็นภาพเธอผ้าหลุดน้ำผมยังไหลอ่ะคิดดู ถ้าได้มากกว่าที่ผมจิตนาการไว้จะสุดมากขนาดไหนกันเชียว ยิ่งเห็นแก้มแดงระเรื่อของเธอที่เอาแต่จ้องผมมาแม่ง ยิ่งควบคุมอารมณ์ยากมากๆ และแสงไฟสลัวๆ ภายในห้องนอนเป็นสีน้ำเงินอ่อนๆ บอกเลยถ้าไม่ใช่เพื่อนนานิลคิดว่าเธอเป็นพวกขายอ่ะ
“ฮืม...จะเลิกมองฉันด้วยสายตาแทะโลมแบบนี้ได้ยัง” เสียงเข้มที่เอ่ยขึ้นมาทำให้คนที่ตกภวังค์ในความหล่อเหลาของไอดอลหนุ่มนั้นได้สติ
“ช่วย ให้ฉันช่วยไรเหรอ” เสียงหวานเอ่ยกับเขา แต่เมื่อกี้เขารู้งั้นเหรอว่าฉันแอบมองเขา ก็หล่ออ่ะมองหน่อยไม่ได้เหรอ พรีนได้แต่คิดในใจ
“ช่วยพาฉันออกไปจากตรงนี้” แทคิณไม่พูดเปล่า แขนหนาค้ำยันกับผนังใบหน้าอันหล่อเหลาโน้มเข้าหาคนตัวเล็ก เธอสบตาเข้ากับนัยน์ตาคมเข้ม
“แล้วฉันจะได้อะไรจากนาย” พรีนต่อลองกับเขาคนหน้าขรึม
“เธอ....” สายตาคมคู่ดุจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครมาต่อลองกับเขา จู่ๆ เขากับรู้สึกไม่พอใจให้กับคนหัวดื้อซะงั้น เขาเสียเวลาที่เธอต่อลองกับเขา
“เหอะ คิดว่าหล่อ เป็นไอดอลแล้วไง ใช่ว่าสาวๆ จะชอบนายทุกคนหรอกนะ” พรีนเอ่ยพร้อมเชิดหน้าใส่แทคิณ ไอดอลแล้วไง เมื่อกี้ที่แอบมองนั้นอ่ะแค่หลุด ถึงนายนี่จะหล่อตรงสเปกฉันมากก็เถอะ เล่นตัวไปสิคะ ใบหน้าอันหล่อเหลาโน้มเข้าหาคนตรงหน้า พร้อมกับหลุดรอยยิ้มอันร้ายกาจที่มุมปาก
“ไม่ชอบ เกลียดฉัน” เขาแสยะยิ้มถามคนตรงหน้า
“ก็ไม่ขนาดนั้น” เธอเอ่ยพร้อมหลบสายตาที่จ้องมา
“จะช่วยไม่ช่วย” เขาเอ่ยเสียงเข้ม แต่นั้นภายในหัวของพรีนกับคิดอะไรขึ้นมา
“ฉันไม่เคยช่วยใครฟรี อะไรดีน๊า นาฬิกานั่นก็แบรนด์หรู แหวนที่นิ้วนายนั่นก็สวย” นัยน์ตาเจ้าเล่ห์ของคนใบหน้าสวยจงใจเหลือบมองที่แขนและข้อมือของเขามาอย่างตั้งใจ นาฬิกานั้นก็สวย แหวนที่ใส่ในนิ้วนั้นก็แบรนด์ดังด้วยสิ แต่น่าเสียดายที่เธอมีมันหมดแล้ว
“อะไร ดีน๊า ที่สาวๆ ทั้งประเทศอยากได้จากนาย แหวน นาฬิกา หรือว่า...” เธอเอ่ยอย่างเชิดหน้า เหอะเขาคงคิดว่าฉันอยากได้ อย่างสาวๆ คนอื่นๆ อยากได้ล่ะสิ
“จะเอาไร รีบเลือกมา” ถ้าเธอพาเขาออกไปจากห้องนี้ ไม่ว่าจะนาฬิกาแหวนก็พร้อมถอด แต่นั่นเธอก็ยังลีลาเรื่องมาก ไม่ยอมเลือก
แทคิณในเมื่อเขาให้โอกาสแล้ว แต่เธอกับไม่เลือกมัน ได้ เขานี่แหละจะยัดเยียดสิ่งนี้ให้กับเธอเอง ก็เห็นมองนักหนาคงอยากได้จากเขามากแล้วสิ
!! พรึบ !! มือหนากระชากแขนคนตรงหน้าเข้าแนบชิดตัว ตาจ้องตา จมูกโด่งคมสันโน้มแตะเข้าที่จมูกเรียวคนตัวเล็ก เธอเองก็ตกใจที่จู่ๆ เขาก็กระชากเอวเธอเข้าหาในท่าตัวฉันประชิดกัน ทั้งสองสบตารับรู้ลมหายใจอุ่นๆ ตาคมสบตาเข้ากับนัยน์ตาคู่สวยเปล่งประกายตรงหน้า
“ในเมื่อไม่ยอมเลือก ฉันจะเลือกให้เธอเอง” รอยยิ้มอันร้ายกาจผุดขึ้นมาบนใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ริมฝีปากอันร้ายกาจประทับลงที่ปากอวบอิ่มนุ่มนิ่มลงรวดเร็ว ร่างบางที่ถูกไอดอลหนุ่มแทรกเรียวลิ้นร้อนเข้าโพรงปากหวานพรีนถึงกับตากลมเบิกกว้างออกมาด้วยท่าทีตกใจ แท...แทคิณ จูบ...เขาจูบฉัน จูบที่มันทั้งนุ่มนวลและอ่อนโยน ให้ตายเถอะใครก็ได้ตบหน้าฉันที ว่านี่คือเรื่องจริง คนที่ฉันกำลังส่งลิ้นเกี่ยวลิ้นหนาๆ ตอนนี้คือแทคิณไอดอลหนุ่มคนดัง สิ่งที่เธอเลือกไม่ใช่แหวน นาฬิกาแบรนด์หรู แต่เธอจูบกับเขา ไม่ไหวโดนคนหล่อทั้งฮอตทั้งดังจูบ จูบแบบดูดดื่มที่ผู้ชายคนไหนก็ให้ฉันไม่ได้ จูบแบบนี้ฉันจะลืมเขาลงได้ไง ช่วยด้วยจาวูบ
ฉันทั้งช็อกและอยากจะกรี๊ดดังๆ ที่ถูกคนดังจูบ ถึงนายนี่จะปล้นจูบฉัน ก็เค้าหล่อใบหน้าเทพบุตรมีคนตามในไอจีหลักล้าน จูบแซ่บแบบนี้ ยอมค่ะฉันยอมให้เขาจูบเต็มประตู