10 ครั้งแรกคือคืนนี...ไม่ใช่คืนนั้น
พรึ้บบ!!!
เสียงชินอิจิดึงร่างของเมนิลาเข้ามาแล้วผลักเธอลงบนโซฟาก่อนจะขึ้นคร่อมร่างเอาไว้ ริมฝีปากหยักกระแทกลงไปบดจูบอย่างแรงด้วยความป่าเถื่อน ทำให้คนตัวเล็กที่นอนตัวเกร็งอยู่ใต้ร่างสั่นเหมือนผีเข้า
ปลอบใจตัวเองว่ามันจะไม่เจ็บ เพราะเมื่อคืนมีอะไรกับชินอิจิไปแล้ว เขาได้พรากความบริสุทธิ์ของเธอไปแล้ว อดทนอีกแค่ห้าครั้งจะเป็นไรไป
“เธอเป็นฝ่ายยื่นข้อเสนอเองนะ” เขากระซิบบอกอีกรอบเหมือนต้องการย้ำเพื่อความแน่ใจ
เมนิลาที่นอนหลับตาปี๋ค่อยๆลืมตาขึ้น เห็นใบหน้าหล่อเหลาอยู่ห่างแค่คืบและเขากำลังมองหน้าเธออยู่ แต่ทันใดนั้นหัวใจเจ้ากรรมก็เต้นรัวสนั่นเพียงแค่สบตาทั้งๆที่เขากำลังจะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอ
สิ่งที่เสียไปแล้วคงเอากลับคืนมาไม่ได้อีก หญิงสาวจึงตอบกลับด้วยความมั่นใจ
“ใช่ นายก็รีบๆทำสิ ฉันจะไปทำงานต่อ”
“อย่ามาเสียใจทีหลังละกัน”
ชินอิจิพูดทิ้งท้ายก่อนจะฝังจมูกโด่งลงที่ซอกคอหอมกรุ่น ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความป่าเถื่อนเหมือนเขาต้องการปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างออกมา ทำให้เมนิลาใจเต้นโครมครามด้วยความระทึก กระทั่งเสื้อผ้าของเธอถูกถอดออกจากร่าง
เมนิลานอนตัวเกร็งด้วยความเขินอายไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมา ทำให้เธอไม่รู้ว่าตอนนี้สายตาของชินอิจิเต็มไปด้วยความพึงพอใจ เพราะเรือนร่างของเธอสวยสดงดงามเกินจะบรรยาย ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงที่สวยซ่อนรูปได้ขนาดนี้ เพราะเธอชอบใส่เสื้อตัวใหญ่บดบังสรีระ
ชายหนุ่มกวาดตามองทั่วเรือนร่างขาวเนียนด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเลื่อนมือไปขย้ำหน้าอกอวบอย่างรุนแรงทำให้คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ได้แต่นอนข่มความกลัวเอาไว้ไม่กล้าลืมตาขึ้นมามองภาพอันแสนโหดร้าย
“อะ....” หญิงสาวเผลอร้องออกมาหลังจากที่เรียวขาถูกแยกออกจากกัน เธอเริ่มต่อต้าน แต่ก็สู้แรงมหาศาลของอีกฝ่ายไม่ได้
คงไม่เจ็บมากหรอกมั้ง เพราะเรากับเขาเคยมีอะไรกันแล้วนี่...หญิงสาวคิดในใจ
และร่างของเธอก็เริ่มเกร็งขึ้นเรื่อยๆเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างที่มีลักษณะแข็งใหญ่ กำลังถูอยู่ที่บริเวณกลีบเกสร
แม้จะไม่เห็นกับตา แต่เธอก็สามารถรับรู้ได้ว่าสิ่งนั้นมันใหญ่มากๆ ใหญ่จนอยากหยุดอยู่แค่นี้
ใบหน้าหล่อร้ายกระตุกยิ้มมุมปาก ใช้ปลายหัวเห็ดบานใหญ่สะกิดขึ้นลงที่ติ่งเกสรสีชมพูวาวใส แต่คนตัวเล็กยังนอนตัวเกร็ง หลับตาปี๋ เขาค่อยๆดันแท่งเอ็นร้อนเข้าไปข้างในแต่ก็รู้สึกว่ามันเข้ายากมาก จึงใช้พลังกำลังทั้งหมดดันเข้าไปรอบเดียวจนสุดลำ ก่อนที่เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจะดังขึ้น
“กรี๊ดดด!!! ทะ...ทำไมมันเจ็บแบบนี้!” เมนิลาลืมตาขึ้นมา น้ำตาค่อยๆไหลทะลักลงมาทางหางตาด้วยความเจ็บปวด เจ็บเหมือนส่วนล่างกำลังจะแยกออกจากกัน
ทั้งๆที่เคยมีอะไรกับเขาไปแล้ว แต่ทำไมถึงเจ็บขนาดนี้
“อยู่นิ่งๆ” ชายหนุ่มบอกเสียงเรียบ หยุดการกระทำทันที แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายเริ่มดิ้นเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว “อย่าเกร็งสิ ยิ่งเกร็งเธอก็จะยิ่งเจ็บ”
“อย่าเพิ่งขยับนะ ฉันเจ็บ...ฮึก! ฉันไม่ไหว ทำไมมันเจ็บขนาดนี้ ทั้งๆที่เราสองคนเคยมีอะไรกันแล้วไม่ใช่หรอ”
“...” ชินอิจิไม่ตอบ ปรายตามองเธอด้วยสีหน้านิ่งๆ ทั้งๆเขาอยากกระแทกให้หนำใจ แต่ก็ต้องรอคนตัวเล็กก่อนเพราะเธอยังปรับตัวเข้ากับขนาดแก่นกายยาวใหญ่ไม่ได้ “ผ่อนคลายแล้วเธอจะรู้สึกดี”
“ฉันพยายามแล้ว แต่มันเจ็บ อ๊ะ!! ยิ่งนายขยับฉันก็ยิ่งเจ็บ” เมนิลากัดริมฝีปาก ข่มความเจ็บปวดจนห้อเลือด สองมือขยุ้มผ้าปูที่นอนเพราะต้องการระบายความเจ็บปวด
ชินอิจิเมื่อเห็นภาพนั้นก็ทนดูต่อไปไม่ไหว ก้มลงมาประกบปากกับเธอแล้วขยับสะโพกทันที
พั่บ!พั่บ!พั่บ!
“กรี๊ดดด!! เจ็บ...อึก!...” เมนิลาได้แต่นอนกำผ้าปูแน่น
เจ็บปวดเหมือนส่วนนั้นกำลังจะฉีกออกจากกัน แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่สนเพราะเขากระแทกลงมาอย่างดุดัน สักพักความเจ็บปวดก็ค่อยๆคลายออก กลายเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ทั้งเจ็บปวดและมีความสุขในเวลาเดียวกัน
“บะ...เบาๆหน่อย”
“ฉันห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว ขอหนักๆละกัน” ชินอิจิตวัดขาเล็กขึ้นพาดบ่าแล้วกระแทกกระทั้งลงมาถี่ๆ ทำให้เมนิลาจุกจนเบ้หน้า
และมันก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“แน่นเป็นบ้าเลย…อา...”
เมนิลายังคงหลับตาพริ้มในขณะที่ชินอิจิร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
เขาจงใจทำให้เธอเข้าใจผิดว่าคืนนั้นมีอะไรกันแล้ว แต่ความจริงหลังจากที่เธอเป็นลม เขาก็ไม่ได้ทำอะไรต่อ
แก่นกายยาวใหญ่กระแทกใส่เมนิลาอย่างหนักหน่วงจนชินอิจิไม่สามารถหยุดความต้องการของตัวเองได้ อาจเป็นเพราะเขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ และเมนิลายังไม่เคยผ่านชายใดมาก่อน ทำให้ความรู้สึกแตกต่างออกไปจากผู้หญิงที่ผ่านๆมา
“แน่นเป็นบ้าเลย เธอกำลังทำให้ฉันคลั่ง”
เขาจับขาเรียวแยกออกจากกันให้กว้างกว่าเดิม ก่อนจะกระแทกเข้าใส่ด้วยความหนักหน่วงครั้งแล้วครั้งเล่า
พั่บ!พั่บ!พั่บ…
มือทั้งสองข้างของเมนิลาเปลี่ยนจากกำผ้าปูเป็นจิกเล็บลงบนต้นแขนของชายหนุ่ม เพราะการร่วมรักค่อนข้างรุนแรงจนจุกหน่วงไปหมด แต่ก็ต้องข่มความเจ็บปวดเอาไว้เพราะเธอเป็นคนยื่นข้อเสนอเอง
...เหลืออีกแค่สี่ครั้งเท่านั้น อดทนหน่อยนะ
พั่บๆๆๆ!
“จะเสร็จแล้ว! แน่นอะไรขนาดนี้” เสียงของเขาสบถออกมาด้วยความหงุดหงิดเหมือนใกล้จะถึงเส้นชัย กระแทกเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่เสียงแห่งความสุขจะดังออกมา
“อ้าาา!!”
สิ้นเสียงนั้นร่างของชินอิจิก็กระตุกเกร็งอยู่สองรอบก่อนจะปล่อยน้ำรักตัวเองเข้าไปข้างใน ทำให้เมนิลาที่นอนหลับตาพริ้มเบิกตาโพลงด้วยความไม่พอใจ แล้วผลักร่างสูงออก
แต่ก็ไม่ทัน เพราะน้ำเชื้อส่วนหนึ่งได้เข้าไปข้างในแล้ว
“ทำบ้าอะไรของนาย!! ทะ...ทำไมถึงไม่ปล่อยข้างนอก”
“โทษที เอาออกไม่ทัน” เขาตอบหน้านิ่ง
เมนิลาชักสีหน้าใส่ด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเบิกตาโพลงเป็นรอบที่สอง และครั้งนี้ทำให้หัวใจของเธอตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะที่กลีบกุหลาบบวมเป่งมีเลือดสีแดงสดไหลเยิ้มออกมา
ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคือเลือดอะไร
“นะ...นี่มัน....” ดวงตากลมโตสั่นระริกตวัดมองชายร่างสูง เขานั่งนิ่ง ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆออกมาก
มิน่าล่ะทำไมถึงได้รู้สึกเจ็บขนาดนี้ เจ็บจนแทบทนไม่ไหว ที่แท้เมื่อคืนเธอกับชินอิจิไม่ได้มีอะไรกัน แต่ครั้งแรกของเธอคือวันนี้ต่างหาก!
“แสดงว่าเมื่อคืน....ฉะ....ฉันกับนาย ไม่ได้มีอะไรกันใช่ไหม”
“แล้วฉันบอกตอนไหนว่ามี เธอคิดเองเออเองทั้งนั้น”
“นายมัน...ไม่ใช่ลูกผู้ชาย!!”
“เธอเป็นคนเสนอเองนะ แถมยังให้ฉันถึงห้าครั้ง”
“สะใจนายแล้วใช่ไหมที่ได้ย่ำยีฉัน สะใจมากใช่ไหมที่ได้ทำลายฉัน ฮึก! ฉันไม่น่าเจอคนอย่างนายเลย ฮื้อๆๆ!!” หญิงสาวปล่อยโฮออกมาทันทีที่รู้ว่าตัวเองเสียรู้ชินอิจิ
เมนิลาคนเดิมที่ยังไร้เดียงสานั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อชินอิจิใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกล่อให้เธอเสนอตัวเป็นของเขา เพียงแค่ไม่กี่นาที เขาก็ได้พรากความบริสุทธิ์ไปอย่างหน้าตาเฉย
เธอเคยบอกกับตัวเองว่าจะไม่เป็นของเล่นของพวกคนรวยเด็ดขาด แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“เสียใจขนาดนั้นเลยหรอ ที่ผู้ชายคนแรกของเธอเป็นฉัน”
“ใช่! ฉันเสียใจที่ถูกผู้ชายเฮงซวยหลอก เพราะฉันไม่อยากเป็นของเล่นของพวกคนรวยแต่จิตใจสกปรก นายน่ะมันชอบรังแกคนไม่มีทางสู้ ถึงฉันจะจน แต่ฉันก็มีศักดิ์ศรี นายมันน่าขยะแขยงที่สุด!”
ชินอิจิอึ้งจนพูดไม่ออก ที่ผ่านไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าโวยวายแบบนี้ พวกเธอล้วนอยากเป็นของเขา แต่กับผู้หญิงคนนี้ช่างแตกต่าง
“เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...ฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเอง” เมื่อเมนิลาได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับชินอิจิ มองด้วยความเกลียดชัง
“ฉันไม่ต้องการ ไม่ต้องมาสงสารฉันหรอก ยังไงเราก็เหลืออีกตั้งสี่ครั้งไม่ใช่หรอ ฉันจะคิดว่าทำบุญทำทานให้หมาก็แล้วกัน!”
ทันทีที่เธอพูดจบน้ำตาที่ถูกกลั้นเอาไว้ก็ทะลักออกมาไม่ขาดสาย ก้มลงหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่แล้ววิ่งออกจากห้องนี้อย่างรวดเร็วโดยไม่หันหลังกลับมา
ชินอิจินั่งมองภาพนั้นด้วยสายตานิ่งเรียบ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกๆแล้วรู้สึกพอใจที่ได้เป็นคนแรกของเธอ แถมยังเหลืออีกตั้งสี่ครั้ง
นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน ไม่เห็นเก่งเหมือนปากเลย
“ร้องไห้ไปเถอะสาวน้อย เพราะเธอกับฉันยังต้องเจอกันอีกยาว”