5
หวังเจียงเป็นคนของพ่อบ้านแล้ว หวังจือนั้นเป็นนางทาสไปแล้ว ในเรือนดอกเหมยกลับมาสงบอีกครั้งแม้สินเดิมจะได้ไม่ครบก็มิเป็นไร
สามแฝดมองมารดาคนใหม่บัดนี้มารดามิได้แต่งกายสีสันฉูดฉาดเหมือนแต่ก่อนแล้ว ใบหน้าของมารดาปกปิดด้วยผ้าขาวบาง
"เป็นอันใดเล่า มองแม่เช่นนั้น" น้ำเสียงหวานเอ่ยถามบุตรสาวทั้งสามคน สายตาพลันมองหน้าผากของเจ้าก้อนแป้งทั้งสามเต็มไปด้วยรอยบาดแผล
"พวกเจ้ารอแม่ตรงนี้ ประเดี๋ยวแม่จะหายามาทาที่หน้าผากพวกเจ้า" สามแฝดมองมารดาเดินเข้าไปหลังฉากกั้นห้องนอน
ชั่วพริบตาเดียวมารดาพร้อมขวดยากระเบื้อง เสิ่นชีนั่งลงที่ตั่งเตี้ย เมื่อกี้นางเข้าไปในแหวนจิตวิญญาณนำเอายาทาแผลสมัยใหม่ออกมา
"แม่จะทายาสมุนไพรให้พวกเจ้า" สามแฝดเชิดหน้าผากไปให้มารดา มือที่อ่อนโยนสัมผัสหน้าผากลูก ๆ ทั้งสามด้วยความรักและห่วงใย แม่นมจินไม่เคยเห็นภาพนี้มาก่อนพลันน้ำตาไหล
พระชายาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ เปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อคืนสงสัยพระชายาจะคิดได้ว่าสามแฝดรักพระชายามาก
"ข้ารักท่านแม่ที่สุดเลย" สามแฝดเอ่ยพร้อมกัน นับแต่คลอดสามแฝดมามารดาไม่เคยใส่ใจพวกนางพี่น้อง แต่แม่นมจินได้แต่พร่ำบอกว่าให้รักและกตัญญูต่อมารดามากที่สุด
"แม่ก็รักพวกเจ้า" สามแฝดหอมแก้มมารดาคนละทีแล้วไปวิ่งเล่นที่สวนหน้าเรือน
"พระชายาเปลี่ยนไปแล้ว" เสิ่นชีมองแม่นมจินเดินมาเรียกนางว่าพระชายา
"แม่นมเรียกข้าว่าคุณหนูหรือนายหญิงก็ได้" เสิ่นชีไม่ชอบคำว่าพระชายา
"บ่าวเรียกคุณหนูแล้วกันเจ้าค่ะ วันพรุ่งครบรอบที่วันที่อดีตเสิ่นฮูหยินจากไปสุสานนางอยู่นอกเมือง ไม่ไกลจากวัดเซิ้งหลายปีมานี้คุณหนูไปยอมไปทำพิธีเซ่นไหว้มารดา ปีนี้ท่านไปนะเจ้าคะ" นับตั้งแต่ที่เหยาเมิ่งมารดาของเสิ่นชีสิ้นไป
เสิ่นชีก็ไม่เหมือนเดิมนิสัยแปลกไปมาก จากกุลสตรีที่เรียบร้อยกลายเป็นสตรีที่หน้าหนาแต่งหน้าจัดจ้านวิ่งไล่ตามบุรุษอย่างชินอ๋อง
เคยเรียนศิลปะทุกแขนงได้ทีหนึ่ง เพลงพิณ หมากล้อม ภาพวาด กลอน พอมารดาเสียไปคุณหนูของนางเล่นศิลปะมิได้ราวกับว่าไม่เคยเรียน
"ข้าจะไป แม่นมข้าโดนวางยาพิษคาดว่าเป็นเวลาห้าปีแล้ว ตั้งแต่ท่านแม่จากไป งานวันคล้ายวันเกิดท่านปู่ วันนั้นที่ข้าตื่นมาได้เสียกับชินอ๋อง" ไม่ต้องบอกว่าเป็นมือผู้ใด
แม่นมจินก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ความทรงจำทุกอย่างไหลเข้าสมองของเสิ่นชี ไม่มีทางที่คุณหนูอย่างเสิ่นชีถูกเหยาเมิ่งสอนมาอย่างดีจะกลายเป็นสตรีโคมเขียวไปได้
มีเพียงเสิ่นชีโดนแม่เลี้ยงอย่างสวีเนียนวางยาพิษถึงได้กลายเป็นคนโง่เขลาเช่นนั้น ในยามนั้นบุตรสาวคนรองอย่างเสิ่นอีอีอายุเพียงสิบปีเท่านั้น ยามนี้เสิ่นอีอีก็สิบห้าปีแล้วถึงยามได้ออกเรือนแล้ว
"แม่นมไม่ต้องห่วงของของข้ายังไงข้าก็จะทวงคืนจากสวีเนียนแน่นอน" ยามนี้ปล่อยคนพวกนั้นได้ใจไปก่อน นางคือเสิ่นชีแพทย์ทหารมาจากโลกอนาคตหาใช่เสิ่นชีคนก่อนที่จะให้คนพวกนั้นรังแกได้
ในโลกแห่งนี้หนทางการเป็นพระชายาชินอ๋อง เสิ่นชีคิดว่านางไม่ต้องการคนไร้หัวใจอย่างชินอ๋องมาเป็นสามีจริง ๆ แม้แต่สามแฝดเขายังไม่ยอมรับเลย นางจะหาทางหย่ากับเขา ส่วนบ้านเดิมนางจะกลับไปขอโทษท่านปู่และบิดา
เช้าวันถัดมาแม่นมจินไปแจ้งกับชินอ๋องว่าวันนี้ครบกำหนดมารดาของเสิ่นชีกระนั้นชินอ๋องให้นางยืมรถม้าไปที่สุสานนอกเมือง
"ท่านอ๋องใจดีเกินไปแล้วนะเพคะ" ชูเยียนใบหน้าปกปิดด้วยผ้าขาวบาง เนื่องจากนางโดนตบจนใบหน้าบวม ในใจยังมีความแค้นต่อเสิ่นชีอย่างมาก
"ให้นางไปเถอะส่วนเจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ" เขาไล่ชูเยียนออกไป
หวังจือคิดร้ายต่อเสิ่นชีมันก็สมควรแล้วหญิงจิตใจชั่วร้ายปานนั้น...
เสิ่นชีมองสุสานมารดาป้ายวิญญาณเหยาเมิ่ง นางกับสามแฝดเผากระดาษเงินกระดาษทองให้มารดา
"ท่านแม่ดูเจ้าแฝดทั้งสามคนนี่สิเจ้าคะ พวกนางน่าชังมาก"
"เสี่ยวเจียคารวะท่านยาย" เสี่ยวเจียวางจอกน้ำชาลง
"เสี่ยวเม่ยเมยคารวะท่านยาย" วางจอกน้ำชาลงเช่นกัน
"เสี่ยวซานเม่ยคารวะท่านยาย" จอกน้ำชาใบที่สามวางลงไป
"ท่านแม่ปีนี้เป็นปีแรกที่ข้าพาหลานสาวทั้งสามมาคารวะท่านหวังว่าท่านจะให้อภัยบุตรสาวอกตัญญูเช่นข้า" เสิ่นชีกับสามแฝดโขกศีรษะให้ป้ายวิญญาณของเหยาเมิ่งสายลมพัดหวีดหวิวทำให้ใบไผ่หล่นลงมาเป็นอันว่ามารดาของนางรับรู้แล้ว
ภายในรถม้าสามแฝดพลันหลับอย่างสบายเสิ่นชีไม่คิดว่าชินอ๋องผู้ใจดำจะให้นางยืมรถม้า ซึ่งในตอนนั้นนางคิดว่าจะเช่ารถม้า แม่นมจินในตอนนั้นเดินมาด้วยความดีอกดีใจที่ชินอ๋องให้ยืมรถม้ามาสุสานนอกเมือง
"คุณหนูจะไปหาท่านปู่วันไหนเจ้าคะ"
"ไม่นานหรอก"
"วัดเซิ้งบ่าวได้ยินมาว่าหากผู้ใดขอพรที่วัดเซิ้งจะสมหวังทุกประการ คุณหนูไม่ลองไปขอพรดูบ้างรึเจ้าคะ"
ขอพรอย่างนั้นรึนางจะขอพรให้นางเป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงที่สุดในใต้หล้า คิดได้กระนั้นนางจึงสั่งสารถีมุ่งหน้าไปที่วัดเซิ้ง