[5] 'ครึ่งราคาได้ไหม'
[5]
'ครึ่งราคาได้ไหม'
“งั้นก็เซ็นต์มาก่อนตอนนี้สิบล้าน”
“ห๊ะ?” จินเกอถึงกับร้องห๊ะหน้าเหวอ
“ก็ถ้าอยากคบกับหนูก็เซ็นต์มาก่อนสิบล้าน” กะทิพูดย้ำอีกรอบ
“สิบล้านเลยเหรอ นี่แค่ค่าคบนะ คบไปแล้วยังต้องเสียเพิ่มอีกจะต้องเท่าไหร่เนี้ย?” หนุ่มใหญ่ขมวดคิ้ว
“ก็คบกันมันก็ต้องมีเบอร์กันถูกไหมเพราะฉะนั้นสิบเลขก็สิบล้าน ตัวล่ะล้านไง ก็บอกแล้วว่าหนูมันของแพง คุณกล้าซื้อไหมล่ะ?” กะทิฉีกยิ้มให้จินเกอ
“จริงๆ ฉันไม่ต้องซื้อเธอก็ได้นะแค่ลากเธอเข้าไปในห้องใช้กำลังนิดหน่อยแค่นี้ก็ได้นอนกับเธอฟรีๆ แล้ว ไม่ต้องเสียเงินสักบาทเดียว”
“งั้นคุณจะได้แค่ตัวแต่ไม่ได้หัวใจหนู” กะทิเชิดหน้าหนีไปทางอื่น
“ดูละครมากไปไหมเนี้ย?”
“ก็จริงนิ ทำแบบนั้นมันก็แค่ได้ตัว แต่หัวใจมันไม่ได้ คุณจะไม่มีวันได้ความรู้สึกดีจากหนูหรอก”
“ถ้าสมมุติฉันอยากได้แค่ตัวเธอฉันก็ไม่ต้องแคร์เรื่องหัวใจเธอ”
“คุณใช้คำว่าสมมุตินั้นแปลว่าคุณไม่ได้อยากได้แค่ตัวหนู”
"อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยยัยเด็กแสบ"
"อย่าเสียเวลาหน่อยเลย บอกมาว่าจะให้ไหมถ้าไม้ให้จะได้กลับบ้าน นอนดึกมากไม่ได้เดี๋ยวหน้าเหี่ยวหมด"
"ก็ได้ ฉันจะให้เธอสิบล้านแต่มีข้อแม้"
"ข้อแม้อะไรคะ?"
"พรุ่งนี้เธอจะต้องมานอนกับฉัน"
"ถ้าแบบนั้นสิบล้านคงไม่พอ"
"อะไรของเธอเนี้ย ตกลงเท่าไหร่กันแน่? " จินเกอเริ่มออกอาการหงุดหงิด
"ก็พรหมจรรย์ของหนูราคาแค่นั้นมันน้อยไปนะ คุณตีค่าหนูทำไปแล้ว"
"แล้วเธอต้องการเท่าไหร่กันแน่ บอกมาเลยอย่าลีลา"
"เท่าไหร่ดีน้า?" กะทิเคาะนิ้วลงบนแก้มตัวเองทำท่าทางพินิจพิจารณาอยู่นานก่อนจะหยุดแล้วหันไปมองจินเกอที่รอคำตอบอยู่
"สามสิบล้าน"
"ห๊ะ? เธอจะบ้าเหรอยัยหนู เงินตั้งสามสิบล้านนะ" จินเกอถึงกับตกใจจนตาแทบถลน
"คุณรวยจะตายเงินแค่สามสิบล้านแค่นี้ทำตกใจจนตาโต" กะทิเบะปากเล็กน้อยกับท่าทางของจินเกอ
"แต่เงินสามสิบล้านฉันไม่ได้เสกมาได้นะก็ต้องทำงานแล้วหามาเหมือนเธอนั่นแหละ กว่าจะได้แต่ล่ะบาทก็ใช้แรงกายทั้งนั้นแหละ
"แค่นี้ทำงก รวยจนเงินมันจะทับตายอยู่แล้ว"
"เอ้าเงินฉันเหนื่อยหามาทั้งนั้นมันก็ต้องงกป่ะ?"
เงินสามสิบล้านมันไม่ใช่น้อยๆ เลยนะ อีกอย่างเขารวยมันไม่ได้แปลว่าเขาจะใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายนิ เห็นแบบนี้ก็งกเป็นนะงกมากด้วยกว่าจะหามาได้แต่ล่ะบาทมันไม่ง่ายเลยใช้หยาดเหงื่อแรงกายแรงใจเข้าแลกทั้งนั้นแหละ เขาจะงกเพราะเสียดายไม่ได้หรือไง
"ขอลดหน่อยสิ เหลือสิบห้าล้านได้ไหม?" จินเกอต่อราคา
"โอ้โห! ลดไปตั้งครึ่งหนึ่ง ต่อราคายิ่งกว่าผักปลาอีกนี่คนนะ"
กะทิถึงกับหน้านิ่วเพราะเธอเสนอสามสิบล้านแล้วดูจินเกอต่อราคามาขอลดไปตั้งสิบห้าล้าน ขนาดต่อราคาผักปลาเธอยังไม่กล้าขอลดตั้งครึ่งหนึ่งแบบนี้เลยเต็มที่ก็ห้าบาทสิบบาทแหละ นี่คือต้องงกถึงขั้นไหนถึงได้ต่อราคากันเสียแทบขาดทุนขนาดนี้
"เอาน่าสิบห้าล้านนะ" จินเกอยังคงตื๊อ
"ไม่ค่ะ ขาดทุนพอดี เต็มที่ 20 ล้านขาดตัว"
"สิบห้าล้านไม่ได้หรือไง เดี๋ยวอนาคตก็ต้องให้อีกเยอะไหม เธอยังสูบเลือดสูบเนื้อฉันได้อีกเยอะนะ"
"ไม่ค่ะ ก็บอกเต็มที่แค่ยี่สิบล้าน ต่ำกว่านี้ขาดทุนแล้ว"
"เออๆ ยี่สิบล้านก็ยี่สิบ" สุดท้ายจินเกอก็ต้องยอมรับราคานี้ก็ยังดีกว่าเสียตั้งสามสิบล้านอ่ะนี่ลดมาตั้งสิบล้าน "รอตรงนี้นะเดี๋ยวจะไปเซ็นต์เช็กมาให้"
"ค่ะ" กะทิตอบเพียงสั้นๆ จินเกิดกันตัวเดินกลับเข้าไปในห้องไม่นานนักก็เดินกลับออกมาพร้อมกับเช็กในมือแล้วยื่นมันให้กะทิแต่ช่วงจังหวะที่กะทิกำลังจะรับเช็กจินเกอก็ดึงเช็กกลับเสียก่อน
"อะไรของคุณเนี้ย ตกลงจะให้ไม่ให้? " เด็กสาวชักสีหน้าไม่พอใจ
"มันต้องมีของมัดจำก่อน" จินเกอแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์
"มัดจำอะไร?"
"มาใกล้ๆ สิ" นิ้วหนากระดิกเรียก
เด็กสาวยอมเดินเข้าไปหาหนุ่มใหญ่จึงถูกแขนหนาคว้าเอวเอาไว้แล้วดึงร่างบางเข้าสู่ร่างกายหนาและตามด้วยริมฝีปากที่ประกบจูบลงมาอย่างหนักหน่วงจนกะทิถึงกับตกใจพยายามจะผลักจินเกอออกไปแต่ยิ่งดิ้นรนปากหนาก็ยิ่งกดทับลงมาจนลมหายใจของเด็กสาวแทบขาด ลิ้นบางพยายามหนีลิ้นหนาที่ล้วงลึกเข้ามาในปากของเธอในขณะที่วงแขนหนาก็กอดรัดร่างบางจนแนบแน่นไม่ให้หนีพ้นจากเนื้อมือได้จนกะทิต้องยอมศิโรราบให้จินเกอจูบเธอจนพอใจเขาแม้ตอนนี้เธอจะเริ่มหายใจไม่ทันจนแทบขาดใจแล้วก็ตามสุดท้ายอีกฝ่ายจึงยอมปล่อยริมฝีปากบางให้เป็นอิสระ
ตุบ!
ร่างบางล้มพับลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรงทันทีเพราะไม่เคยโดนจูบสูบวิญญาณแบบนี้มาก่อน ดวงตาคู่สวยนิ่งเฉยไม่ไหวติงเหมือนกับร่างกายที่นั่งนิ่งเหมือนหุ่นราวกับวิญญาณของเธอได้หลุดลอยออกไปจากร่างแล้วจริงๆ
"เห้ย! ตายยังเนี้ย?"
จินเกอเขย่าตัวกะทิเมื่อเห็นเด็กสาวนิ่งไปเขาไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนเลย แค่จูบนี่ทำให้คนล้มพับได้ขนาดนี้เลยเหรอ
"...ยะ...ยังหรอกน่า เอามานี่เลย" กะทิรีบแย่งเช็กมาจากมือของจินเกอเพราะกลัวอีกฝ่ายจะใช้มันต่อรองเพื่อจูบเธออีกแค่นี้เธอก็จะตายอยู่แล้ว
"รีบจังเลยนะหิวเงินขนาดนั้นเลย?"
"อืม ทำไมล่ะ นี่มันเงินหนู มันเป็นสิทธิ์ที่หนูควรจะได้รับก็ไม่แปลกที่จะหิวโหยมันนิ" กะทิที่ตอนนี้สติกลับมาแล้ว วิญญาณเข้าร่างเรียบร้อยเริ่มเถียงทันที เด็กสาวลุกขึ้นยืนก่อนจะจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย
"งั้นหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ ส่วนนี่นามบัตรหนู"
"นี่มีนามบัตรด้วย?" จินเกอประหลาดใจไม่น้อยที่เห็นกะทิมีนามบัตรแบบเป็นทางการเชียว
"ก็ต้องมีสิคะ งานของหนูต้องพบปะผู้คนมากมายนะคะ นามบัตรเนี้ยเอาไว้แจกลูกค้ากระเป๋าหนักๆ เลยนะ แบบเหงาเมื่อไหร่ก็โทรมาไง" กะทิฉีกยิ้มก่อนจะเลื่อนมือไปลูบแก้มของจินเกอ
"เพราะฉะนั้นเวลาคุณโทรมาก็ต้องแข่งกับคนอื่นหน่อยนะคะ พอดีว่าหนูคิวทองมากๆ "
"เธอเป็นแฟนฉันเธอควรเลิกติดต่อกับผู้ชายคนอื่น" จินเกอทำเสียงเข้มก่อนจะจับมือของกะทิเอาไว้ "ฉันไม่ชอบให้ผู้ชายคนไหนมายุ่งกับแฟนฉัน"
"แหมๆ เพิ่งจะคบกันเมื่อกี้ก็หึงหวงกันแล้วเหรอคะ ใจเย็นๆ สิให้เวลาหนูหน่อยสิ หนูทำงานมานานกว่าคบกับคุณนะคะ" กะทิลูบมือไปตามแขนของจินเกอ
"ฉันให้เวลาเธอเคลียร์ผู้ชายคนอื่นสามวันถ้าเธอยังเคลียร์ไม่ได้ฉันจะเคลียร์ให้เอง รับรองหายเกลี้ยงแบบไม่มีโผล่หัวมาให้เห็นแน่นอน"
"ค่ะ รู้แล้วค่ะ จะรีบเคลียร์ให้เลย" กะทิเลือกจะรับปากเพราะเธอรู้ดีว่าคนแบบจินเกอทำอย่างที่พูดได้แน่นอนถ้าเขาเป็นคนเคลียร์เองลูกค้าเธอคงหายหมดร้านแน่ๆ คราวนี้เดือดร้อนกันอีก
"งั้นหนูขอกลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกัน"
"พรุ่งนี้เช้าฉันจะให้คนไปรับเธอที่บ้าน"
"แล้วคุณรู้จักบ้านหนูเหรอ? "
"ก็เดี๋ยวฉันจะให้คนไปส่งเธอที่บ้านนี่ไง แค่นี้ก็รู้จักแล้วไม่เห็นยากตรงไหนเลย"
"ค่ะ ตามนั้นค่ะ" กะทิเดินเข้าไปหาจินเกอก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยยื่นหน้าขึ้นไปหอมแก้มหนุ่มใหญ่หนึ่งฟอดเพื่อเป็นการบอกลาแบบโรแมนติก
"ฝันดีนะคะเสี่ย"
"อืม เธอเองก็เหมือนกัน"
จินเกอแย้มยิ้มออกมาเล็กน้อยเพราะจะว่าไปก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ได้คบหากับกะทิเพราะกะทิเองก็น่ารักไม่ใช่น้อยเลย
"กลับก่อนนะคะ" กะทิฉีกยิ้มให้จินเกอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหันตัวเดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าไม่คลาย
แต่เมื่อพ้นสายตาจินเกอกะทิก็แอบขำออกมาเบาๆ หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสดี๊ด๊าขึ้นมาเชียวเพราะอยู่ดีๆ ก็ได้เงินยี่สิบล้านมาใช้ฟรีๆ ส่วนไอ้เรื่องที่เธอจะยอมนอนด้วยน่ะเหรอ ฝันไปเถอะเธอไม่ยอมง่ายๆ หรอกแค่ยี่สิบล้านเองนะมันยังไม่มีค่ามากพอให้เธอยอมหรอกน่ามันต้องสูบเลือดสูบเนื้อให้มากกว่านี้ก่อนสิถึงจะสาสมกับสิ่งที่ต้องเสียไป
คอยดูเถอะนังกะทิคนนี้จะสูบให้หมดตัวเลย!
