[3.2] 'มันจะง่ายถ้าเธอง่าย’
[3.2]
'มันจะง่ายถ้าเธอง่าย’
ช่วงดึก @โรงแรม Insep Roman
“เชิญทางนี้ครับ”
ลูกน้องของจินเกอพาตัวกะทิมาที่ห้องของจินเกอที่อยู่ในโรงแรมหรู เด็กสาวกวาดสายตามองความสวยงาม ยิ่งใหญ่และหรูหราตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นแบบเกิดมาเธอไม่เคยมาเหยียบโรงแรมหรูแบบนี้หรอกถ้าจิ้งหรีดค่อยว่าไปอย่าง
“แล้วไงต่อคะ?” กะทิหันไปถามลูกน้องของจินเกอ
“เชิญนั่งรอก่อนครับ ตอนนี้คุณจินเกอกำลังอาบน้ำอยู่”
“อ๋อค่ะ”
“งั้นผมขอตัวนะครับ”
“ค่ะ”
ลูกน้องของจินเกอเดินออกไปจากห้องทิ้งให้กะทิยืนเคว้งในห้องที่ใหญ่กว่าบ้านเธออีก เด็กสาวเลือกจะเดินไปนั่งที่โซฟา ก้นงอนค่อยๆ หย่อนตัวลงไปนั่งด้วยท่าทีเคอะเขินไม่น้อยเพราะไม่ชินกับการนั่งอะไรแพงๆ แบบนี้ “นุ่มจังเลย ต่างกับของที่ร้านลิบลับ”
“มีขนมด้วย”
มือบางเอื้อมไปหยิบขนมมัฟฟินจากถาดตรงหน้ามากินด้วยความหิวหรือตละกะก็ไม่รู้เพราะเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยพอเห็นของน่ากินแบบนี้เลยอดใจไม่ไหว อีกอย่างมันท่าจะแพงด้วยขอชิมของแพงให้เป็นบารมีฟากเสียหน่อย
“ไม่มีมารยาท”
“อ๊ะ! แค่กๆ”
เสียงเข้มของจินเกอดังขึ้นจนกะทิถึงกับตกใจขนมที่กำลังเคี้ยวลื่นลงคอติดคอเลยทีเดียว เด็กสาวรีบทุบอกตัวเองยกใหญ่จนจินเกอต้องเดินเข้ามาช่วยทุบที่หลังให้ดังปึกแบบปึกใหญ่จนหลังกะทิถึงกับแอ่นเลยทีเดียวพร้อมกับขนมมัฟฟินที่กระเด็นออกมาจากปาก ไวกว่าแสงก็จินเกอเนี้ยแหละที่คว้าถังขยะไปรองตรงปากของเด็กสาวเอาไว้จนแทบจะเอาถังขยะครอบหน้าเธอเลย
“ไม่มีมารยาทไม่พอยังตะกละอีก” จินเกอวางถังขยะลง
“ตะกละอะไรเพิ่งกินไปชิ้น”
กะทิเงยหน้ามองเตรียมจะเถียงจินเกอแต่เสียงทั้งหมดทั้งมวลที่มีมันกลับหายไปทันทีเมื่อเบื้องหน้าของเธอคือหุ่นอันล่ำบึกเต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้อของอีกฝ่ายที่แน่นเปี๊ยะเลยทีเดียวเพราะจินเกอนุ่งเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวแบบผ้าจะหลุดอยู่แล้วอ่ะใส่ต่ำขนาดนั้นแก้ผ้าเดินดีกว่า แต่ก็นะหุ่นแซ่บอะไรแบบนี้ แซ่บจนอยากจะเป็นลมแล้วให้เขาช่วยผายปอดเธอแบบปากสู่ปากเหลือเกิน แต่เดี๋ยวนะนี่เธอกำลังคิดบ้าบออะไรอยู่ ทำไมสมองถึงคิดแบบนั้นออกมาได้
ให้ตายสินังกะทินี่หล่อนกำลังก้าวเข้าสู่บาป รีบออกมา!
“ตะกละอะไรหนูเพิ่งกินไปชิ้นเดียวเองแล้วที่มันติดคอก็เพราะคุณนั่นแหละที่มาเงียบๆ” กะทิดึงสติตัวเองกลับมากระโดดออกจากหลุมบาปอย่างรวดเร็ว
“กินของคนอื่นมันเสียมารยาทนะ”
“คนมันหิวนิ ถ้าหนูเสียมารยาทงั้นคุณก็ไม่มีน้ำใจ” กะทิเถียงอย่างไม่ยอมเป็นคนผิดง่ายๆ
“เธอนี่มันเถียงเก่งจริงๆ เลย เด็กดื้อด้าน”
“ดื้อแล้วคุณจะมายุ่งกับหนูทำไม?”
“ฉันไม่ได้อยากจะยุ่งกับเธอสักนิด”
“อ๋อเหรอ?” กะทิเอียงคอทำสีหน้ากวนประสาท
“อย่ามากวนประสาทฉันนะ”
“หึ! ไม่อยากยุ่งกับหนูแต่มาลวนลามหนู จับก้นหนูเนี้ยนะไม่อยากยุ่ง มือแทบจะล้วงเข้ามาจับนมหนูอยู่แล้วยังจะมาปากแข็งอีก แต่ก็เข้าใจนะว่าหนูสวยคุณเลยอดใจไม่ไหว” กะทิยกแขนขึ้นกอดอกอย่างมั่นอกมั่นใจในตัวเอง
“อย่ามั่นใจหน่อยเลย ตัวก็เตี้ย นมก็แบน หุ่นอย่างกับไม้เสียบผี เนี้ยเหรอสวยแถมบ้านฉันไม่เรียกสวยนะหรือที่ไทยเขานิยมแบบนี้?” จินเกอมองกะทิตั้งแต่หัวจรดเท้า
“โอ๊ย! แบบนี้เขาเรียกตัวเล็กต่างหาก ผู้หญิงตัวเล็กอ่ะไม่ใช่เตี้ย”
“ตัวยังไม่ถึงไหล่ฉันเลยเนี้ยนะ ยอมรับเถอะว่าเธอมันเตี้ย นี่คนหรือคนแคระ?”
จินเกอยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อวัดระดับความสูงของกะทิแล้วก็ขำออกมาอย่างเหยียดอีกฝ่ายในความตัวเล็กจนมองเป็นเตี้ยไปอย่างชัดเจนเลย
“จริงๆ จะตัวเล็กตัวใหญ่มันก็ไม่สำคัญหรอก” กะทิเขยิบตัวเข้าไปหาจินเกอก่อนจะวางมือลงบนหน้าอกหนาแล้วลูบวนมันด้วยรอยยิ้มยั่วยวน “เพราะเวลานอนบนเตียงตัวก็เท่ากันอยู่ดี จริงไหมคะ?”
คำถามของกะทิทำให้จินเกอหุบยิ้มลงแต่สายตากับแวววาวขึ้นมาอย่างชัดเจน มือหนาเลื่อนลงมาจับมือบบางเอาไว้แล้วกระชากร่างบางเข้ามาจนแนบชิดกับเขา ใบหน้าหล่อคมก้มลงมองคนตัวเตี้ยกว่าในอ้อมแขน
“อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ งั้นลองไปพิสูจน์ไหมล่ะ? ”
“หึ!” กะทิผลักอกของจินเกอออกไปก่อนก้าวถอยหลังออกมา ดวงตาคู่สวยจ้องมองหนุ่มใหญ่ที่มองเธอตาเป็นมันเชียว ปากบอกไม่อยากยุ่งกับเธอแต่ดูตอนนี้สิอยากจะกินเธอใจจะขาดแล้วมั้ง
“ขอโทษที หนูไม่ได้มาที่นี่เพื่อบริการคุณแต่มาเพื่อขอโทษคุณเท่านั้น อยากได้คู่นอนข้างถนนมีเยอะแยะถ้ามันหิวโซนักก็เชิญไปทำกับคนอื่นที่ไม่ใช่หนูเพราะหนูไม่ได้ง่าย”
“หึ!”
“อ๊ะ!” เด็กสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกจนเกอคว้าแขนแล้วกระชากเธอเข้าไปหาเขา มือหนาโอบรัดเอวบางอย่างรวดเร็ว จองจำร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหนาแบบที่กะทิไม่อาจจะหลุดออกมาได้ง่ายๆ
“แต่ฉันมีวิธีที่ทำให้เธอง่ายนะ ซึ่งมันก็เป็นวิธีง่ายๆ ของฉันเหมือนกัน นี่มันถ้ำเสืิอนะยัยหนู คิดว่าเดินเข้ามาในถ้ำเสือแล้วจะเดินออกไปได้ง่ายๆ เหรอ คงมีแต่ในนิทานหลอกเด็กเท่านั้นแหละ”
