บท
ตั้งค่า

[2] ‘This is a ฟันศอก!’

[2]

‘This is a ฟันศอก!’

“ฉันชักอยากชิมกะทิกล่องนี้แล้วสิว่าจะหวานมันสักแค่ไหน”

“ไอ้แก่เอ๊ย! ไอ้เฒ่าหัวงู ปล่อยฉันนะ”

กะทิร้องโวยวายออกมาเสียงดังลั่นพยายามจะดิ้นเพื่อให้หลุดจากมือของเฒ่าหัวงูคนนี้แต่ก็ไม่เป็นผลเลยเพราะอีกฝ่ายก็ยังคงพยายามบีบก้นของเธอไม่หยุดถามยังถกกระโปรงเธออีกแบบนี้เธอคงจะยอมไม่ได้แล้วมัวแต่ร้องโวยวายมีหวังได้โดนถอดเสื้อผ้าจนหมดแน่

ปึก!

“โอ๊ย!”

ศอกบางของกะทิฟันเข้าที่หน้าของจินเกอเต็มแรงจนอีกฝ่ายถึงกับหน้าหงายเลยทีเดียว เด็กสาวรีบใช้โอกาสนั้นลุกออกมาจากหนุ่มใหญ่ทันทีก่อนจะชี้นิ้วเรียวสวยไปยังใบหน้าที่ขึ้นรอยแดงของอีกฝ่าย “ไอ้บ้าเอ๊ยอยากตายมากนักเหรอไงห๊ะ?”

“เธอนั่นแหละอยากตายมากนักเหรอไง กล้าดียังไงมาตีฉันแบบนี้” จินเกอลุกขึ้นยืนร้องโวยวาย

“ตีบ้าบออะไรคนไทยเขาเรียกฟันศอกย๊ะ” กะทิยกศอกขึ้นฟันไปในอากาศอีกรอบเพื่อโชว์ให้จินเกอดู “รู้จักไหมมวยไทยอ่ะ ฉันเรียนมา 3 ปีเพราะฉะนั้นอย่ามาซ่าไอ้เฒ่าหัวงู”

“ฉันจะฟ้องผู้จัดการร้าน เป็นแค่พนักงานกล้าดียังไงมาทำร้ายแขกห๊ะ?”

“มันไม่ได้เรียกทำร้าย ตามกฎหมายเขาเรียกป้องกันตัว กฎของร้านก็มีนิว่าห้ามลวนลามพนักงานแต่คุณกำลังทำ”

“เสียงดังอะไรกันคะเนี้ย” เจ๊เดซี่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตื่นตกใจเพราะเสียงของทั้งสองคนดังไปยันข้างนอกเลย “ว้าย! หน้าไปโดนอะไรมาคะนั้น?”

“ก็โดนฟันศอกไงเจ๊” กะทิหันไปพูดกับเจ๊เดซี่

“นังกะทิแกไปทำแบบนั้นได้ยังไง แกนี่มันจริงๆ เลย”

“เอ้าก็เขาจะลวนลามหนูนะเจ๊ใครจะนั่งเฉย บ้าบอ!”

“ฉันไม่ยอมนะ ทางร้านจะรับผิดชอบยังไง?” จินเกอจ้องมองกะทิด้วยสายตาไม่พอใจ

“เขาพูดว่าอะไรนังกะทิ?” เดซี่หันไปถามกะทิอย่างไม่รู้ภาษาอังกฤษ

“ก็พูดว่าไม่ยอมไงเจ๊ ให้ร้านรับผิดชอบ”

“โอ๊ย! ตายๆ แล้วฉันจะรับผิดชอบยังไงล่ะเนี้ย ข้อหาทำร้ายร่างกายนี่ค่าปรับเท่าไหร่เนี้ยแล้วร้านจะโดนปิดไหมเนี้ย”

“โธ่เจ๊มันไม่เป็นอะไรหรอกน่าแค่ฟันศอกไม่ได้เอามีดฟันหัวสักหน่อย” กะทิส่ายหัวไปมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจในความตื้นตูมของเดซี่

“คอยดูนะฉันจะแจ้งตำรวจ ฉันจะจับเธอ จะสั่งปิดร้านนี้” จินเกอพูดออกไปด้วยความโมโห

“อะไร โพลิสอะไรฉันได้ยินโพลิส โพลิสมันแปลว่าตำรวจนิ เขาว่าไงนังกะทิ!” เดซี่เริ่มประสาทแดกเมื่อได้ยินคำว่าตำรวจหลุดออกมาจากปากของจินเกอ

“เขาพูดว่าจะแจ้งตำรวจ พูดว่าจะแจ้งจับเรา และพูดว่าจะปิดร้านเรา”

“กรี๊ดดดด! อกกะเทยจะแตก” เดซี่ถึงกับกรี๊ดเสียงดังลั่น “บอกเขาใจเย็นๆ ก่อนนังกะทิ”

“ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหม แค่ฟันศอก ตำรวจไม่จับหรอกน่า” กะทิหันไปพูดกับจินเกอ

“เธอคิดว่าคนแบบฉันทำไม่ได้เหรอ เธอรู้จักฉันน้อยไปเด็กน้อยเดี๋ยวเธอจะรู้เลยว่าฉันทำอะไรได้บ้าง เตรียมคำขอโทษดีๆ เอาไว้ให้ฉันเลยนะหนู”

ว่าจบจินเกอก็เดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างชัดเจนจนเดซี่ต้องรีบเดินตามออกไปพูดให้อีกฝ่ายใจเย็นถึงแม้ว่าจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ก็ตาม ต่างกับกะทิที่ยืนนิ่งเฉยไม่คิดจะออกไปแก้ตัวอะไรทั้งนั้นก็เธอไม่ผิดอ่ะ ทำไมเธอจะต้องไปขอโทษผู้ชายแบบนั้นด้วย เขามาลวนลามเธอก่อนเองนะเธอมาทำงานเป็นนักร้องไม่ได้มาทำงานเป็นโสเภณีจะได้นั่งให้ผู้ชายลวนลามแบบนี้ได้ คำขอโทษอะไรเธอไม่เตรียมไว้ทั้งนั้นแหละเพราะเธอจะไม่มีวันขอโทษผู้ชายแบบนั้นเด็ดขาด

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

“นังกะทิทำไมหล่อนแบบนี้ห๊ะ แขกเขาโมโหมากเลยนะ” เดซี่เรียกกะทิเข้ามาด่า

“โธ่เจ๊ก็เขาลวนลามหนูอ่ะ ไม่ใช่แค่แตะเนื้อต้องตัวเปล่านะจะถอดเสื้อผ้าหนูอยู่แล้วเจ๊จะให้หนูอยู่เฉยเหรอ?” กะทิพยายามอธิบายให้เดซี่เข้าใจเธอว่าเหตุการณ์ตอนนั้นเธอจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเธอ

“แกก็เลยฟันศอกใส่หน้าเขาจนช้ำเลยเนี้ยนะ”

“แหมเจ๊แค่ครั้งเดียวเอง หน้าเขาอ่อนแอเองมากกว่าพวกคนรวยก็เงี้ยหน้าบางโดนอะไรนิดหน่อยก็ช้ำแล้ว หนูก็ไม่ได้ทำแรงด้วยนะแต่เขาเล่นใหญ่อย่างกับหนูเอารองเท้าไปตบหน้าเขาอย่างงั้นแหละ”

“โธ่กะทิผู้ชายอ่ะเป็นเพศที่รักในศักดิ์ศรีตัวเองมากนะบางคนเขาแทบจะกินศักดิ์ศรีแทนข้าวอยู่แล้ว ในฐานะที่ฉันเคยเป็นผู้ชายอ่ะนะ ผู้ชายบางคนเขาก็ยอมไม่ได้หรอกที่จะมาโดยผู้หญิงทำร้ายแบบนี้เขาอับอาย เสียหน้า หล่อนเข้าใจไหม?”

“เจ๊เคยเป็นผู้ชายด้วยเหรอ แบบเจ๊เนี้ยเคยมีความรู้สึกแบบผู้ชายด้วย?” กะทิเอียงคอถามอย่างกวนประสาท

“โธ่อีกะทิมันใช่เวลาที่แกจะมากวนประสาทฉันไหมเนี้ย”

“ก็เจ๊ด่าหนูอยู่ได้ หนูไม่ผิดนะเจ๊ เจ๊หัดมองความรู้สึกหนูบ้างไม่ใช่มองแต่เงิน”

“เอ้าฉันก็ต้องมองเงินสิถ้าไม่มีเงินจะเอาที่ไหนมาจ้างพวกแกล่ะ ชื่อเสียงร้านเสียหายคนก็หายไปด้วย แกอยากแดกแกลบเหรอไงอีกะทิ ทุกวันนี้ที่แกมีกินมีใช้ก็เพราะร้านฉันไหมล่ะ”

“ทุกวันนี้ที่หนูยังอยู่ที่นี่ยังคอยร้องเพลงเรียกแขกให้เจ๊ทั้งๆ ที่หนูมีที่ไปถึงขนาดมีค่ายเพลงมาติดต่อหนูแต่หนูก็ยังอยู่กับเจ๊ที่นี่ไม่ไปไหนก็เพราะหนูสำนึกในบุญคุณเจ๊นั่นแหละ ตอนนี้ก็ชดใช้บุญคุณให้เจ๊อยู่ไงยังจะเรียกร้องอะไรจากหนูอีก แค่นี้ยังไม่พอเหรอไง?”

“ฉันก็ไม่ได้ขอแกมากหรอกนะ แค่ขอให้แกขอโทษเขาก็พอ ฉันไม่อยากเสี่ยง”

“หนูไม่ขอโทษ” กะทิลุกขึ้นยืนก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า “ถ้าเขาอยากได้รับเกียรติเขาก็ควรจะให้เกียรติคนอื่นก่อน”

ว่าจบเด็กสาวก็สะบัดบ็อบเดินออกมาในทันทีโดยไม่สนใจเสียงร้องเรียกของเดซี่สักนิด เธอยังคงยืนยันคำเดิมว่าเธอจะไม่ขอโทษเพราะเธอไม่ผิดจะมาเรียกร้องให้เธอให้เกียรติเขาเหรอไม่มีทางหรอกในเมื่อเขายังไม่ให้เกียรติเธอเลย ทำไมเธอจะต้องให้เกียรติเขาด้วยมันดูไม่แฟร์สำหรับเธอสักนิด คนเราจะได้รับเกียรติจากผู้อื่นก็ต่อเมื่อเขาคนนั้นมอบสิ่งนั้นให้ผู้อื่นด้วยเช่นกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel