บท
ตั้งค่า

[1] ‘สมชายเอ๊ย สมชาย!’

[1]

‘สมชายเอ๊ย สมชาย!’

“สมชายเอ๊ย สมชาย! อยู่ไหน ทำไมไม่ส่งข่าว จากท้องนาป่าเขา กับนักเต้นสาวที่เป็นแด๊นเซอร์ เขาได้อยู่วงดนตรี เขามีที่หน้าอำเภอ สมชายนั้นไม่เคยเจอ นุ่งสั้นแด๊นเซอร์ ไปบวชเณรเสียนาน.....”

เพลงตามหาสมชาย ร้องโดย แมงปอ ชลธิชา

เสียงดนตรีทำนองสามช่าดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องใสหวานของนักร้องเบอร์หนึ่งประจำร้านอาหารที่ตกแต่งภายในเป็นสไตล์บ้านๆ ที่มีความลูกทุ่งในตัว บนเวทีใหญ่ที่ถูกแต่งในสไตล์เวทีรำวงย้อนยุคมีเด็กสาวในชุดทองกวาวสีสันฉูดฉาดชวนแสบตากระโปรงแสนบานเป็นสุ่มไก่จนแทบจะครอบหัวแขกผู้มีเงินที่เอาพวงมาลัยแบงค์หนักๆ มาให้

ร่างบางหมุนตัวเต้นไปตามจังหวะเดียวกับแดนเซอร์มือก็ถือไมค์ร้องเพลงอย่างชำนาญ เสียงหวานดุจนักร้องมืออาชีพทำให้แขกในบาร์แห่งนี้ต่างหลงใหลในเสียงของเธอดูได้จากพวงมาลัยเงินที่คล้องบนคอของเธอมากมายก่อนจะหยุดลงด้วยท่าเต้นจบเพลงที่แสนเพอร์เฟ็คจนแขกทั้งร้านต่างตบมือให้เด็กสาวจนเสียงดังก้องสนั่นกลบทุกเสียงจนหมด

“ขอบคุณนะคะ” เด็กสาวพูดขอบคุณเหล่าแขกกระเป๋าหนักทุกคน

“น้องกะทิมานั่งกับเสี่ยมา”

“น้องกะทิมานั่งกับป๋าดีกว่า”

“พี่ดีกว่าน้องกะทิ”

“ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เอ็นดูกะทิ แต่วันนี้กะทิมีแขกแล้วค่ะ ไม่ทะเลาะกันนะคะ แบ่งกันนะ”

เด็กสาวเจ้าของชื่อ กะทิ พูดด้วยรอยยิ้มหวานสดใส รอยยิ้มที่ดึงดูดใจของแขกเหมือนถูกศรรักยิงปักอกเข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอไม่ได้รอให้แขกตอบอะไรเลือกจะหันตัวเดินลงมาจากเวทีเพราะเธอมีแขกที่นัดเอาไว้ ร่างบางเดินเข้ามาหลังเวทีก่อนจะจัดการเปลี่ยนชุดใหม่เป็นชุดผ้าซาตินสีดำที่เปิดโชว์แผ่นหลังขาวเนียนเซ็กซี่น่าค้นหา

“นี่กะทิแขก VIP มาแล้วนะ” เพื่อนในร้านเดินเข้ามาบอก

“อืม เดี๋ยวฉันออกไปนะขอแต่งหน้าเพิ่มหน่อย”

“อืม ไวๆ ล่ะ เดี๋ยวกัปตันดุ”

“อืม”

กะทิหยิบเอาลิปสติกสีแดงออกมาทาที่ริมฝีปากบางของตัวเองแล้วเติมแป้งกับบลัชออนอีกนิดหน่อยให้หน้าดูมีชีวิตชีวาเสียหน่อย อาชีพของเธอมันจะหน้าสดไปทำก็ไม่ได้ด้วยสิเพราะยิ่งสวยยิ่งเรียกเงินได้มากกว่าเลยต้องสวยทุกวันไม่งั้นพวกเด็กใหม่ๆ หรือแม้กระทั่งเด็กเก่าจะแย่งตำแหน่งเบอร์หนึ่งไปจากเธอพอดี

@ห้อง V.I.P

“น้องกะทิมาแล้วค่ะ!” เสียงลากยาวของ เจ้เดซี่ กัปตันประจำร้านอาหารแห่งนี้พูดขึ้นพร้อมกับดึงตัวของกะทิเข้ามาภายในห้องที่เป็นห้องคาราโอเกะแบบส่วนตัว

“สวัสดีค่ะ”

กะทิยกมือขึ้นไหว้แขกตรงหน้าก่อนเป็นอย่างแรกแบบยังไม่ทันได้มองหน้ามือก็ยกขึ้นพนมก่อนแล้วเพราะระลึกเสมอว่าแขกคือผู้มีพระคุณอันล้นเหลือที่ทำให้เธอมีกินมีใช้แบบทุกวันนี้ เด็กสาวเงยมองหน้าแขกด้วยรอยยิ้มหวานแต่กลับต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อพบว่าภายในห้องมีแค่เธอกับแขกแค่สองคนเท่านั้น

“แขกมาคนเดียวเหรอเจ้” กะทิหันไปกระซิบถามเดซี่

“อืม คนเดียวแต่เงินหนักมาก”

เดซี่กระซิบกระซาบตอบพอได้ยินคำว่าเงินกะทิก็ตาโตขึ้นมาทันที เด็กสาวรีบเดินเข้าไปหาแขกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ อีกฝ่ายเบียดเสียดร่างกายให้แนบชิดกับร่างสูงที่ยังคงนั่งขรึมไม่พูดไม่จาอะไรเลย ที่สำคัญไม่เห็นมีท่าทีตื่นเต้นที่ได้เจอเธอเลย ปกติลองเป็นพวกหัวงูโต๊ะข้างนอกสิแค่เธอเดินผ่านงูบนหัวก็แทบจะฉกเธออยู่แล้ว

“นี่อายุถึง 18 หรือยังเนี้ย?” หนุ่มใหญ่ถามเป็นภาษาอังกฤษ

“นังกะทิเขาถามว่าอะไร?” เจ้หันไปถามกะทิเพราะเด็กสาวพูดภาษาอังกฤษ

“เขาถามว่าหนูอายุถึง 18 หรือยัง” กะทิตอบเดซี่ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มหวานให้หนุ่มใหญ่ “หนูอายุถึง 18 แล้วค่ะ จริงๆ อายุ 20 แล้วด้วย”

“ห๊ะ? 20 เนี้ยนะ หน้ายังกับเด็ก 15”

หนุ่มใหญ่จ้องมองกะทิที่ตอบเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างฉะฉานอีกต่างหากไม่น่าเชื่อว่าเด็กร้านอาหารแบบนี้จะพูดภาษาอังกฤษได้แถมยังใช้คำและสำเนียงถูกต้องอีกต่างหาก

“ดูบัตรประชาชนไหมคะ?” กะทิเอียงคอถาม

“ไหนเอามาดูสิ”

“นี่เอาจริงเหรอคะ?”

“ก็จริงไง ฉันจะต้องแน่ใจว่าเธออายุถึง 18 แล้ว พอดียังไม่อยากเอาชีวิตไปฝากไว้ที่คุก”

“เจ้ไปหยิบกระเป๋าให้หน่อยสิ” กะทิหันไปพูดกับเดซี่

“เอามาทำไม?” เดซี่ขมวดคิ้ว

“ก็เขาขอดูบัตรประชาชนหนูน่ะสิ บอกจะได้แน่ใจว่าหนูอายุเกิน 18 แล้ว”

“จริงดิ?”

“ก็จริงน่ะสิเจ้ รีบๆ ไปเอามาเร็ว”

“เออๆ รอแป๊บนะระหว่างรอก็เอาใจเขาเยอะๆ ท่องไว้เงิน เงิน เงิน” เดซี่พูดย้ำกะทิเพราะอีกฝ่ายเป็นชาวต่างชาติเลยคิดว่าน่าจะฟังภาษาไทยไม่ออกงั้นก็พูดไทยให้เต็มที่ไป

“เจ้กำลังไปเอามาให้ค่ะ รอสักครู่นะคะ ระหว่างรอดื่มกันดีกว่านะคะ”

กะทิหันไปหยิบขวดไวน์มาเทใส่แก้ว ดูจากยี่ห้อแล้วคนนี้น่าจะกระเป๋าหนักจริงๆ แต่น่าแปลกที่อีกฝ่ายดันมากินอาหารร้านสไตล์คันทรี่ลูกทุ่งๆ แบบนี้แทนที่จะไปกินร้านอาหารหรูๆ อยู่บนตึกสูงเห็นวิวสวยๆ อะไรแบบเนี้ย

“ว่าแต่คุณชื่ออะไรเหรอคะ หนูจะได้เรียกถูก” กะทิพยายามชวนหนุ่มใหญ่คุย

“ฉันชื่อ โจว จินเกอ” หนุ่มใหญ่แนะนำตัวเองเสียงเรียบ

“แซ่โจวนี่เอง คนจีนใช้แซ่โจวเยอะเหมือนกันนะคะ”

“อืม” จินเกอ ตอบเพียงสั้นๆ

“มาแล้วๆ” เดซี่วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกระเป๋าของกะทิ “อ่ะหาเลยแล้วรีบๆ ให้เขาดูจะได้เลิกวุ่นวายสักที”

กะทิรับกระเป๋ามาจากเดซี่ก่อนจะค้นหาบัตรประชาชนตัวเองแล้วยืนให้กับจินเกอดู “นี่ค่ะบัตรประชาชนหนู เชิญดูตามสบายเลย”

จินเกอรับบัตรประชาชนมาดูพอคำนวณจาก พ.ศ. เกิดแล้วอีกฝ่ายก็อายุ 20 แล้วจริงๆ ด้วย แต่ทำไมหน้าเด็กจังตัวก็เล็กนิดเดียวอย่างกับเด็กอายุ 15 ตอนเข้ามาตอนแรกเขายังตกใจเลย คิดในใจงานนี้คงได้ติดคุกเมืองไทยข้อหาพรากผู้เยาว์แน่ๆ

“สบายใจแล้วสินะคะ งั้นขอคืนนะคะ” มือบางแบออก

“บอกให้คนของเธอออกไปด้วย ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว” จินเกอคืนบัตรประชาชนให้กะทิ

“เจ้อออกไปได้แล้ว เขาไล่แล้ว” กะทิหันไปพูดกับเดซี่ที่ยืนหน้าสลอนอยู่

“เออดูแลแขกดีๆ นะอย่าไปฟันศอกใส่เขาล่ะ”

“อืม ออกไปได้แล้วน่า”

“เออๆ” เดซี่รีบหันตัวเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูให้ด้วย

“คราวนี้เสี่ยก็สบายใจแล้วใช่ไหมคะ?” กะทิหันกลับมาสบตากับจินเกอ

“อืม”

“อ๊ะ!” จินเกอไม่ได้ตอบเปล่าแต่มือหนายังวางลงบนต้นขาขาวจนกะทิเองยังตกใจ

“ว่าแต่เธอชื่ออะไร?”

“กะทิค่ะ K A T I กะทิ” กะทิสะกดให้ด้วยเพราะกลัวว่าจินเกอจะออกเสียงเพี้ยน

“อ๋อ กะทิ แบบที่ใส่แกงเขียวหวานใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ”

“ชื่อกะทิผิวก็ขาวแบบกะทิเลยนะ” มือหนาลูบไปตามเรียวขาบางจนกะทิเริ่มรู้สึกหวั่นๆ เด็กสาวพยายามเขยิบตัวออกมาทีละนิด

“จะหนีไปไหนล่ะ นั่งใกล้ๆ ฉัน จริงๆ นั่งตกฉันเลยดีกว่า”

“ว้ายยย!”

กะทิร้องออกมาเสียงหลงเมื่อจินเกอพยายามจะดึงตัวเธอให้ไปนั่งบนตักของเขา “นี่เสี่ยจะทำอะไรคะ แบบนี้มันลวนลามกันนะคะ กฎของร้านอาหารก็มีอยู่ว่าห้ามลวนลามพนักงานไม่ได้อ่านก่อนเข้าเหรอคะ?”

“เอาน่าอย่างน้อยฉันก็ไม่ติดคุกข้อหาพรากผู้เยาว์ เต็มที่ก็คงข้อหาลวนลามมากกว่าเสียค่าปรับก็จบเรื่องแล้ว”

“อ๊ะ! หนูบอกให้หยุดไงคะ” กะทิพยายามปัดมือของจินเกอที่กำลังลวนลามเธอออก “อ๋อที่คุณถามหาบัตรประชาชนของหนูก็เพราะเหตุผลนี้สินะคะ”

“ว้ายยย!”

จินเกอกระชากแขนกะทิจนเด็กสาวเสียหลักล้มลงไปนอนคว่ำหน้าบนตักหนา มือหนาวางลงบนก้นงามอย่างทันควันพร้อมกับบีบขย้ำมันอย่างมันมือในขณะที่ใบหน้าก็ยื่นไปกระซิบแผ่วที่ใบหูบาง

“ฉันชักอยากชิมกะทิกล่องนี้แล้วสิว่าจะหวานมันสักแค่ไหน”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel