ตอนที่ : 06 เจอกันอีกครั้ง
ร้านอาหารไทยเล็กๆ แห่งนึง
หลังเลิกงานเหมยลี่มาทำงานที่ร้านอาหารเหมือนอย่างเช่นเคย ส่วนลูกสาวตัวน้อยนั้นก็ฝากไว้ให้เพื่อนสนิทได้ดูแล
เธออาจจะดูเป็นแม่ที่เห็นแก่ตัว ที่ทุกอย่างที่เธอทำนั้นก็เพียงแค่พยายามรักษาและดูแลสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ เท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะทำได้ก็เท่านั้น
“เหมยเสร็จงานตรงนี้แล้วไปล้างของตรงนั้นให้เสร็จด้วยนะ”
“ค่ะเจ๊”
“อ้อ เลิกงานแล้วอย่าเพิ่งกลับล่ะ มีงานให้ช่วยนิดหน่อย”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
เพราะเป็นลูกจ้างเขาเธอจึงทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับทุกคำสั่ง แม้จะอยากบอกเหตุผลมากเท่าไหร่ แต่เพราะเธอยังต้องการเงินจึงไม่อยากมีปัญหาอะไรกับใครเลย
หลังเลิกงาน....
เหมยลี่ต้องไปช่วยยกของขึ้นรถทั้งที่มันก็ไม่ใช่หน้าที่อะไรของเธอเลย แต่ก็ขัดคำสั่งเจ้านายไม่ได้เหมือนกัน
“อ่ะ...นี่ค่าแรงล่วงเวลาของเธอ ขอบใจมากนะเหมย”
พอได้เงินสองร้อยตรงหน้าก็ทำเอาเธอถึงกับตาลุกวาวเลย ก่อนจะรีบขอบคุณเจ้านายและรับเงินมา เพราะสองร้อยที่ได้มานับว่าเธออยู่ได้ไปอีกหลายวันเลย
หญิงสาวเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่จอดอยู่ใต้ร่มไม้ เตรียมใส่หมวกและกำลังจะกลับบ้าน
“เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“.....” เสียงทักทายที่ดังขึ้นทำให้เหมยลี่นั้นหันกลับไปมอง แต่คราวนี้เพียงแต่ยิ้มตอบรับเล็กน้อยก็จะหันไปเตรียมตัวต่อ
“ทำไมวันนี้กลับดึกล่ะครับ?”
“แล้วคุณล่ะคะทำไมยังไม่กลับ ร้านปิดตั้งนานแล้วนี่คะ คงไม่มานั่งกินข้าวจานเดียวหลายชั่วโมงหรอก ใช่ไหมคะ?” เธอเห็นตั้งแต่ช่วงหัวค่ำแล้วว่าเขามาที่ร้านอาหารและสั่งอาหารมานั่งกิน แม้จะนั่งอยู่โต๊ะมุม สังเกตุเห็นได้ยาก แต่เธอก็เห็นอยู่ก่อนแล้วว่าคือเขา
“แหะๆ เห็นด้วยเหรอครับ?”
“ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ ดึกแล้ว”
พูดจบเหมยลี่ก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ขับออกไปทันที และซิลวานเองก็รีบไปขึ้นรถหรูของตัวเองขับตามเธอไปเหมือนกัน
เหมยลี่มองผ่านกระจกมองหลังก็เห็นรถคันหรูกำลังขับตามเธอมาอยู่ห่างๆ เธอจำรถของเขาได้ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขานั้นขับรถตามมาทำไม
ไม่นานเธอก็มาถึงที่บ้านของเธอ หลังจากนั้นก็รีบขับรถออกไปรับลูกสาวที่บ้านของเพื่อนที่อยู่ไม่ไกลกัน
“เหมย...”
“ขอโทษนะมาลี พอดีเจ้านายให้ช่วยยกของอ่ะ ก็เลยมาดึกหน่อย” เธอรีบขอโทษเพื่อนสนิทอย่างจริงใจ แค่ต้องเอาลูกมาฝากทุกวันเธอก็เกรงใจจะแย่แล้ว แต่จะให้เธอทำยังไงได้ล่ะ เธอไม่มีทางเลือกแล้วนี่นา เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว เป็นหัวหน้าครอบครัว ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ขนาดพ่อแท้ๆ ของลูกที่ยังเห็นมีตัวตนอยู่ก็ยังช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย
“น้องถิงถิงหลับไปตั้งแต่หัวค่ำแล้ว ปลุกตอนนี้ก็น่าจะยังไม่ตื่นหรอก” เพื่อนสนิทพูดพร้อมกับมองไปยังด้านหลังที่เด็กหญิงตัวน้อยกำลังหลับปุ๋ยนอนกอดตุ๊กตาตัวโปรดอยู่แน่น
“ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวฉันพาแกกลับเอง เธอก็ขึ้นไปนอนเถอะ ท้องอยู่อย่านอนดึก”
“จ้ะ กลับบ้านดีๆ ล่ะ”
เหมยลี่อุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้น เธออยากจะปลุกแต่ก็กลัวว่าแกจะงอแงขึ้นมา แต่ถ้าจะขับรถกลับด้วยก็ลำบากเหมือนกัน
“คุณเหมย...”
“คุณ! ทำไมยังไม่กลับอีกคะ?” เธอรู้ว่าเขาตามมา แต่ก็ไม่คิดว่าเขานั้นจะตามเธอมาที่บ้านของเพื่อนด้วย
“คุณขับรถไปสิ เดี๋ยวผมอุ้มน้องถิงถิงให้”
“......” เธอสองจิตสองใจ เพราะจะให้กลับเองสภาพแบบนี้ก็ยากอยู่เหมือนกันแต่อีกใจนึงก็เกรงใจเขาและก็ไม่อยากยุ่งกับเขาเท่าไหร่ด้วยเพราะกลัวว่าจะเจอเรื่องแบบวันนี้อีก
แต่สุดท้ายก็ต้องยื่นลูกสาวให้กับเจ้านายที่ตามมาถึงที่นี่และเธอก็เป็นคนขับรถกลับเอง
...........
ผ่านไปสักพัก
“ขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่เป็นอะไรครับ” ซิลวานตอบกลับขณะที่กำลังเดินลงมาจากบ้านของเธอ และก็ใช้โอกาสนี้สำรวจมองไปรอบๆ บ้านของเธอด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้เข้ามาในบ้านของเธอ ทุกอย่างถูกเก็บเป็นระเบียบเรียบร้อย ข้าวของเครื่องใช้ก็มีประปราย แถมสะอาดสะอ้านน่าอยู่
“คุณกลับเถอะค่ะ ทางที่ดีอย่ามาที่นี่จะดีกว่านะคะ”
“ทำไมล่ะครับ?”
“คุณจะถูกมองไม่ดีเอาได้ ฉันเป็นแม่หม้ายมีลูกติด คุณเข้ามาพัวพันแบบนี้มีแต่จะเสียหายเปล่าๆ”
“ผมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นสักหน่อยนะครับ”
“......” เหมยลี่เลือกที่จะเงียบ เพราะเธอรู้ดีว่าต่อให้เธอจะพูดอะไรไปมันก็เท่านั้น
“บ้านของคุณน่าอยู่ดีนะครับ”
“กลับเถอะค่ะ ฉันจะออกไปส่ง” เธอต้องกดดันเขาด้วยวิธีนี้เพื่อให้เขายอมกลับไปสักที เธอไม่ได้กลัว แต่เพราะเธอรู้ตัวดีและเจียมตัวอยู่ตลอดเวลา
“ครับ...” ซิลวานได้แต่ยิ้มตอบรับและยอมเดินออกจากบ้านไปอย่างง่ายดาย
“ขอโทษนะคะ ที่ต้องพูดตรงๆ แต่คุณไม่ควรที่จะมาที่นี่จริงๆ ค่ะ”
“ครับ แต่ผม...”
“คุณทำแบบนี้กับพนักงานทุกคนหรือเปล่าคะ แบบว่าใส่ใจเป็นพิเศษ ตามติดไปแทบทุกที่ เรียกขึ้นไปพบและให้ของราคาแพงๆ” เธอถามในสิ่งที่เธออยากจะรู้ เพราะมันคาใจเธอมาตลอด เธอไม่อยากถูกมองเหมือนตัวประหลาดอีกแล้ว
“ของราคาแพง มันคืออะไรครับ?”
“ก็ยาหลอดนั้นไงคะ”
“อ๋อ...ผมให้เพราะเห็นแขนคุณเป็นแผลเฉยๆ น่ะครับ ปกติผมก็ใช้แบบนี้อยู่แล้วเวลาตัวเองเป็นแผลแบบคุณ ก็เลยเอาให้คุณใช้บ้าง สองสามวันก็น่าจะดีขึ้นแล้วครับ”
“......” เธอไม่ได้ตอบ และก็คงไม่ได้ใช้ เพราะถูกเลขาของเขายึดเอาไปแล้ว
“เลิกทำงานแบบนี้ไม่ได้เหรอครับ?”
“คะ?”
“ผมหมายถึงเลิกทำงานดึกๆ แบบนี้น่ะครับ คุณกลับบ้านคนเดียว ถนนก็เปลี่ยว แถมยังต้อง...ฝากลูกไว้กับคนอื่นอีก มันอันตรายสำหรับผู้หญิงนะครับ”
“ถ้าเลือกได้ ฉันก็จะทำแบบที่คุณพูดแหละค่ะ แต่ฉันเลือกไม่ได้”
“......”
“ขอบคุณมากๆ นะคะ ขับรถปลอดภัยค่ะ” เธอรีบเดินหันหลังกลับไปที่บ้านของตัวเองทันที
ไม่รู้หรอกว่าทำไมเขาถึงได้พูดแบบนั้น แต่ถ้าใครไม่มาเจอแบบเดียวกับเธอก็จะไม่มีทางรู้เลยว่ามันกดดันยังไงบ้าง และอะไรที่ทำให้เธอต้องทำงานหนักแบบนี้ คนรวยมีเงินอย่างเขาจะไปคิดมากอะไร ไม่ต้องคิดว่าหากเดือนนึงเงินไม่พอใช้จะทำยังไง ไม่ต้องคิดว่าจะกินอะไรให้ประหยัดที่สุด
เหมยลี่ยืนแอบอยู่ข้างต้นไม้ในบ้านของตัวเอง จนกระทั่งรถของซิลวานขับผ่านหน้าบ้านของเธอไปอย่างช้าๆ และจนเธอแน่ใจแล้วว่าเขากลับไปแล้วจริงๆ เธอถึงกลับเข้าไปในบ้าน และก็รีบจัดการตัวเองรีบเข้านอน
..............
เช้าวันต่อมา
“คุณแม่...”
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะ”
“คุณแม่กลับมาเมื่อไหร่คะ?”
“กลับมาตอนหนูหลับไปแล้วน่ะ แม่ก็เลยพาหนูกลับมา หนูยังไม่ตื่นเลย”
“เมื่อคืนคุณแม่...กลับดึกจังค่ะ”
“แม่มีงานต่อพอดีน่ะค่ะก็เลยกลับผิดเวลานิดหน่อย แม่ขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ”
“ตื่นแล้วต้องไปทำอะไรเป็นอย่างแรกคะ?”
“ล้างหน้าแปรงฟันค่ะ”
“เก่งมาก ไปล้างหน้าแปรงฟันนะคะ เดี๋ยวแม่จะเตรียมกับข้าวไว้รอ”
“ค่ะคุณแม่”
บทการสนทนาระหว่างแม่ลูกจบลงและน้องถิงถิงก็รีบขึ้นไปด้านบน ทำความสะอาดตัวเองเหมือนอย่างที่เคยทำในทุกๆ เช้า และก็รีบลงมาหาผู้เป็นแม่
“วันนี้วันหยุด คุณแม่ไปทำงานไหมคะ?”
“ไปค่ะ ไปตอนเย็น กลับเวลาเดิม”
“งั้นวันนี้...ไปเที่ยวกันได้ไหมคะ?”
“ได้สิคะ แต่...”
“ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แม่ไป” น้องถิงถิงรีบพูดแทรก เพราะที่บ้านมีแค่รถคันเดียวเท่านั้น หากจะพาลูกสาวไปไหนเธอก็จะใช้รถคันนี้นี่แหละ
“ใช่ค่ะ”
“เย้!~”
“กินข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวสายๆ เราค่อยไปกัน”
“โอเคค่ะ”
“กินเยอะๆ นะคะ”
“ค่ะ”
ครืด ครืด ครืด
โทรศัพท์ของเหมยลี่ดังขึ้นมาขณะที่เธอนั้นกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับลูก ร่างบางรีบลุกขึ้นและเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือมากดรับสายทันที
“ว่าไงมาลี?”
( เธออยู่บ้านเหรอ? )
“อื้ม วันนี้จะพาน้องถิงถิงไปเที่ยวน่ะ” ที่บอกแบบนั้นเพราะมาลีเพื่อนสนิทจะได้ไม่ต้องคอยท่าเธอจะเอาลูกไปฝากตอนไหน
( เหมย... )
“หืม?”
( พี่สันเขาเข้าโรงพยาบาลน่ะ ช่วงสองสามวันนี้คงรับน้องถิงถิงมาดูแลให้ไม่ได้ ) ปลายสายดูเสียงเอื่อยๆ
“ตายจริง! เกิดอะไรขึ้น!?”
( ไส้ติ่งแตกน่ะ ตอนนี้ปลอดภัยแล้วล่ะ แต่ต้องรอดูอาการก่อน )
“ไม่เป็นอะไรนะ เธอดูแลพี่สันไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้นะ”
( จ้ะ แค่นี้ก่อนนะ )
“โอเคจ้า”
เหมยลี่กดวางสายและนั่งกินข้าวต่อ ระหว่างนั้นเธอก็คิดไปด้วยเหมือนกัน ว่าจะหยุดทำงานช่วงเย็นดีไหม จะได้ดูแลลูกเพียงอย่างเดียว เพราะมาลีเองก็กำลังท้องด้วย ต้องดูแลสามีดูแลลูกของตัวเองอีก
บรืน~
เสียงรถดังอยู่ทางหน้าบ้าน เพราะบ้านค่อนข้างเงียบสงบ เลยได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถที่จอดอยู่ใกล้ๆ ตัวบ้าน
เด็กน้อยรีบเดินออกไปดู เพราะคิดว่าเป็นป้ามาลีเหมือนกับทุกๆ วัน แต่รถคันนั้นมันไม่คุ้นเอาซะเลย
จนกระทั่งเจ้าของรถลงมา พอได้เห็นเจ้าของบ้านตัวน้อยเดินออกมาต้อนรับก็ยิ้มออกมาทันทีพร้อมกับโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อสนทนากับแก
“น้องถิงถิง”
“คุณอา สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ แม่ของหนูอยู่ไหมครับ”
“อยู่ค่ะ อยู่ในห้องครัว”
“เหรอ หนูไปบอกแม่ของหนูได้ไหม ว่าอาคนที่หล่อๆ มาหา”
“ได้ค่ะ”
น้องถิงถิงหันหลังกลับและรีบเดินเข้าไปในบ้าน เด็กน้อยรีบเดินตรงไปยังห้องครัวที่แม่ของตนเองนั้นกำลังยืนล้างจานอยู่
“คุณแม่ขา”
“ขา ว่าไงลูก ใครมาล่ะหืม?”
“คุณอาสุดหล่อคนนั้นค่ะ คุณอาให้มาบอกคุณแม่”
“.....” พอได้ยินอย่างนั้นแล้วเหมยลี่ที่กำลังล้างจานอยู่ก็รีบล้างมือของตัวเองและรีบเดินออกไปทันที
เธอได้เห็นซิลวานนั้นยืนรออยู่หน้าบ้านจริงๆ
“ฉันบอกคุณแล้วไงคะ ว่าอย่ามาที่นี่อีก”
“ผมทำไม่ได้หรอก”
“......”
“เราจะยืนคุยอยู่ตรงนี้กันจริงๆ เหรอครับ?”
“.....” เหมยลี่หันไปมองลูกสาวที่ยืนอุ้มตุ๊กตาอยู่ข้างหลัง เพราะไม่อยากให้ลูกสาวเห็นว่าเธอนั้นเป็นคนใจร้าย เธอเลยต้องเปิดรั้วให้ซิลวานนั้นได้ขับรถเข้ามา
“คุณแม่ขา คุณอาคนนั้น...”
“เขาเป็นเจ้านายของแม่เองค่ะ”
“อ๋อค่ะ”
เหมยลี่รู้จักลูกสาวของตัวเองดี ด้วยความที่ยังเป็นเด็กอายุเท่านี้ ก็ต้องขี้สงสัยอยากรู้เป็นธรรมดา
ซิลวานลงมาจากรถพร้อมกับของมากมายรวมถึงถุงกระดาษที่คิดจะเอามาให้ลูกสาวของเธอตั้งแต่ตอนนั้นแล้วด้วย
“คุณ!”
“อย่าว่าผมสิครับ ผมตั้งใจให้นะครับ”
“......” ถึงตอนนี้แล้วเธอก็คงจะห้ามเขาไม่ได้แล้วสินะ เพราะต่อให้ห้ามไปเขาก็ไม่คิดจะฟังอยู่ดี
“น้องถิงถิงครับ อาซื้อขนมกับตุ๊กตามาฝากด้วยครับ เยอะแยะเลย”
“หูย ขอบคุณค่ะคุณอา” ความเด็กแหละนะ ขนม นม ของเล่น มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่จะชอบกันเอามากๆ
“คุณเหมย...ผมขอคุยด้วยหน่อยสิครับ”
“ค่ะ”
ทั้งสองพากันเดินออกไปทางห้องครัว ตรงที่เหมยลี่กำลังล้างจานอยู่ ปล่อยให้ลูกสาวของเธอนั้นได้เล่นของเล่นใหม่อยู่คนเดียวไปก่อน
“คุณมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ?”
“ผมจะคุยกับคุณเรื่องงาน”
“ฉันคิดว่าจะลาออกแล้วล่ะ ตอนนี้อะไรๆ มันก็วุ่นไปหมดเหมือนกัน เพื่อนสนิทที่พาน้องถิงถิงไปฝากประจำก็ต้องดูแลสามีที่อยู่โรงพยาบาล ไหนตัวเองจะกำลังท้องอีกต่างหาก ฉันก็เลยคิดว่า...จะเลิกทำงานช่วงเย็นน่ะค่ะ แล้วก็มาอยู่กับลูก”
“ผมกำลังจะชวนคุณไปทำงานให้ผมน่ะครับ ถ้าคุณสนใจ ผมให้คุณพาน้องถิงถิงไปอยู่ด้วยได้”
“งาน?”
“ผมอยู่คอนโดน่ะครับ อยู่คนเดียว อีกอย่างเป็นผู้ชายแบบนี้ก็ไม่เก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนอะไรเลย ถ้าคุณสนใจผมก็ให้คุณเริ่มงานได้เลยครับ”
“คุณซิลวาน...”
“ผมพูดจริงๆ นะครับ ถือซะว่าผมเห็นแก่น้องถิงถิงก็ได้ครับ แกน่ารักนะครับ”
“ทำไมคุณถึงได้ดีกับฉันขนาดนี้คะ” น้ำเสียงของเธอสั่นเครือ แววตาเริ่มสั่นไหวเหมือนคนที่กำลังจะร้องไห้ออกมาเต็มทีแล้ว
“เพราะผมคง...ถูกชะตากับคุณมั้งครับ” เขาคิดว่าหากจะยื่นเงินให้กับเธอเลยเธอคงไม่รับอย่างแน่นอน ก็เลยยื่นข้อเสนอให้เพื่อแลกกับการที่เธอนั้นจะหยุดทำงานตอนดึก
“.....”
“ดีซะอีกนะครับ คอนโดผมกว้าง ให้น้องถิงถิงเล่นได้สบายเลย คุณเองก็จะได้ไม่ต้องคอยห่วงด้วย งานของผมมันไม่ได้เยอะ เสร็จแล้วก็กลับ ไม่ดึกด้วย”
“ขอบคุณนะคะ ฉันรับงานนี้ค่ะ”
“เยี่ยมเลยครับ”