บทที่ 3 ถ้าไม่หยุด…ผมจะจูบ 2
“ผมยังไม่รู้เลยนะว่าคุณชื่อเล่นว่าอะไร” เขามองเธอวางหลานเขาลงบนเปลเด็กพร้อมกับถามออกมา
“แฟน” หญิงสาวตอบสั้นๆ
“ฮ๊ะ!”
“อะไรล่ะ” เธอหันมาถามพร้อมไกวเปลเบาๆ
“คุณชื่อว่าอะไรนะ ผมได้ยินไม่ถนัด”
“แฟน”
“แฟน?”
“ใช่” หญิงสาวพยักหน้ารับ
“คุณชื่อเล่นว่าแฟนเหรอ”
“ค่ะ มีแต่พ่อแม่ฉันนั่นแหละที่เรียกฉันว่าแฟน ส่วนเพื่อนๆหรือคนอื่นๆก็เรียกฉันว่าพิณ มาจากชื่อประภาพิณของฉัน”
“อ๋อ” ธัศไนยพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินมาหยุดยืนซ้อนหลังหญิงสาวพร้อมหลุบตาลงมองเมธากรที่หลับปุ๋ยอยู่บนเปลใหญ่ด้วยสายตาระอา
“แล้วคุณล่ะคะ ชื่อเล่นว่าอะไร” ประภาพิณหันมาถามเขาก่อนจะอุทานออกมาเบาๆเมื่อหันมาเจอชายหนุ่มในระยะประชั้นชิดเข้าพอดี
“อุ้ย!” เธออุทานเบาๆอย่างตกใจ ในขณะที่มือใหญ่จับต้นแขนเธอรั้งเอาไว้ ดวงตาคู่คมมีแววประหลาดผ่านเข้ามาวูบหนึ่งก่อนจะจางหายไปอย่างรวดเร็ว
เอ๊ะ แล้วนี่เธอตาฝาดไปหรือเปล่า ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นรอยแดงๆฉาบขึ้นบนแก้มทั้งสองข้างของเขานะ
“คุณเป็นไข้หรือเปล่าคะ” มือเรียวยกขึ้นมาอังที่หน้าผากเขา เล่นเอาชายหนุ่มรีบผงะถอยหลังพร้อมกับปล่อยมือออกจากต้นแขนเธออย่างรวดเร็ว
“เอ่อ เปล่า ผมสบายดี”
“จริงเหรอคะ ทำไมหน้าคุณแดงๆ” หญิงสาวยังไม่หายสงสัย
“ผมร้อน”
“แต่ฉันว่าในบ้านคุณอากาศเย็นสบายนะ”
“เอ๊ะ ก็ผมเป็นคนขี้ร้อนอ่ะ ขี้ร้อนมากด้วย คุณได้ยินมั้ย” เขาเริ่มขึ้นเสียงดังอย่างหงุดหงิดเหมือนคนที่มีอะไรปิดบังอยู่ในใจ
“เหรออออคะ” ประภาพิณลากเสียงยาวเหมือนไม่เชื่อ ทำเอาธัศไนยฟิวส์ขาด
“คุณทำเสียงแบบนี้แสดงว่าคุณไม่เชื่อผมใช่มั้ย ฮ๊ะ!! ผมบอกแล้วไงว่าร้อนๆๆๆ ร้อนวูบวาบไปหมดแล้วเนี่ย” เขาโวยวายก่อนจะถอดเสื้อยืดออกเพื่อยืนยันกับเธอว่าเขา‘ร้อน’จริงๆ
“ว้าย!” ประภาพิณรีบยกมือขึ้นปิดตาทันทีพร้อมกับพูดเสียงสั่นว่า
“ไม่เห็นจะต้องถอดเสื้อเลยนี่คะ”
“ก็คุณทำเหมือนไม่เชื่อว่าผมร้อนจริงๆ”
“อีตานิสัยประหลาด” หญิงสาวบ่นอุบอิบ ก่อนจะอุทานออกมาอีกครั้งเมื่อมือร้อนๆจับข้อมือเธอออกจากการปิดตา
“ว้าย!”
“คุณ!!” อยู่ๆชายหนุ่มหน้าโหดก็หรี่ตาลงพร้อมกับเรียกเธอเสียงเข้ม ทำเอาประภาพิณสะดุ้งเฮือก
“อะ อะไรคะ”
“ผม…”
“มีอะไรก็พูดมาสิ” หญิงสาวพูดออกมาด้วยเสียงติดจะขัดๆ รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาเสียดื้อๆเมื่อสายตามองเรื่อยจากลำคอแข็งแรงจนมาถึงบ่ากว้าง แผงอกหนั่นแน่นที่มีไรขนอ่อนๆเห็นเป็นทิวระลงมาจนถึงหน้าท้องและหายลับไปในขอบกางเกง
“อย่าจ้องนมผมนักสิ”
“อีตาทุเรศ ใครจะไปอยากดูนมคุณกัน” ประภาพิณสะบัดหน้าพรืดไปอีกทาง ในขณะที่ชายหนุ่มยกมือขึ้นกอดอกแล้วสาวเท้าก้าวเข้ามาใกล้ๆเธอขึ้นเรื่อยๆ และเรื่อยๆ
“จะเดินเข้ามาทำไม ออกไปห่างๆเลยนะ” หญิงสาวก้าวถอยหลังหนีเขาจนแผ่นหลังชิดติดกับผนังห้องที่ทาสีฟ้าสดใสผิดกับท่าทางโหดๆของเจ้าของบ้านเสียลิบลับ
“คุณแฟน” เขาเรียกชื่อเธอด้วยเสียงกริ่มๆจนหญิงสาวชักจะรู้สึกแปลกๆปนขัดเขินอย่างบอกไม่ถูก แต่หน้าก็ยังคงเชิดเอาไว้อย่างหยิ่งๆ
“อะไรคะ”
“คือว่าผม”
“มีอะไรก็พูดมาสิ อย่ามัวอ้ำอึ้ง” เธอพูดเสียงสะบัดๆ ในขณะที่แขนแข็งแรงยกขึ้นมาท้าวผนังห้องข้างๆเธอเอาไว้ ใบหน้าคมก้มลงต่ำเรื่อยๆจนลมหายใจร้อนๆเป่าอยู่แถวๆหน้าผากมน
“ผม”
“ผมเป็นรังแคเหรอไง” หญิงสาวพูดติดตลก แค่เขากลับตีหน้าเคร่งอย่างไม่รับมุก
“นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ ผมไม่มีอารมณ์ขัน”
“คนหน้าโหดๆอย่างคุณจะยิ้มเป็นด้วยเหรอ เมื่อไหร่จะมีอารมณ์ขันล่ะคะ” เธอถามกระเซ้า ทั้งๆที่ใจเต้นโครมครามเพราะอยู่ใกล้ชิดเขาถึงขนาดนี้
“เมื่อผมเกิดเป็นไก่ วันนั้นผมถึงจะมีอารมณ์ขัน” เขาพูดหน้าตาย
ชิ้ง!
ประภาพิณนิ่งค้างเมื่อได้ยินคำตอบจากเขา ก่อนที่เธอจะปล่อยเสียงหัวเราะออกมาดังสนั่น
“ฮ่าๆๆ ก๊ากๆๆๆๆ”
“หัวเราะอะไรของคุณ” เขาถอยห่างออกจากเธอพร้อมยกมือขึ้นปิดหู
“หัวเราะคำพูดคุณไง ตลกหน้าตายนะคะ คุณน่ะ ฮ่าๆๆๆๆ” หญิงสาวพูดพร้อมเอามือกุมท้องแล้วหัวเราะจนตัวงอ
“หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะ” เขาสั่งเสียงเหี้ยม แต่มีหรือที่คนอย่างประภาพิณจะเกรงกลัว“ก๊ากๆๆๆ”
“ถ้าไม่หยุด ผมจะจูบ”
เงียบ…
สิ้นคำขู่ เธอก็เงียบเสียงลงทันทีราวกับปิดสวิตซ์ ทำเอาชายหนุ่มต้องส่ายหน้าไปมาอย่างแสนจะผิดหวัง
“นี่ไม่อยากโดนผมจูบถึงขนาดนี้เชียวเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิคะ ใครจะไปอยากโดนผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รักจูบกัน” เธอตอบเสียงเรียบ ทั้งๆที่รู้สึกใจแกว่งๆชอบกลยามที่นึกถึงรสจูบอันดูดดื่มของเขา
“เหรอ แต่ถึงผมจะไม่ได้รักคุณ ผมก็อยากจูบคุณนะ” เขาพูดพร้อมทำตาซึ้ง ก่อนจะอุทานออกมาเมื่อโดนมือเล็กๆผลักที่อกอย่างแรงจนเขาเซ
“เบาๆหน่อยสิคุณ ผมยิ่งบอบบางอยู่ด้วย ผู้หญิงอะไร…ถึกเป็นบ้า”
“ฮ้ะ!!” หญิงสาวอ้าปากค้างก่อนจะเตรียมเปล่งเสียงกรี๊ดออกมา แต่ร่างสูงโผนร่างเข้าหาเธอพร้อมเอามือร้อนๆมาปิดปากเธอไว้ได้ทันเสียก่อน
“อย่ากรี๊ดนะ เดี๋ยวไอ้เมก็ตื่นหรอก”
“อ๋อยอั๋นอะ (ปล่อยฉันนะ)”
“ได้ ผมปล่อยคุณก็ได้ แต่คุณต้องสัญญานะว่าจะ…” เขาเว้นวรรคไปชั่วครู่ก่อนจะพูดออกมาเสียงอ่อนว่า “ไปทำกับข้าวให้ผมกินหน่อยนะ เรื่องนี้แหละที่ผมอยากจะบอกคุณตั้งแต่เมื่อกี้”
“อ้าย (ด้าย)”
เมื่อเห็นว่าเธอพยักหน้ารับอย่างยอมตกลงแล้ว เขาจึงยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ ในขณะที่ประภาพิณรีบยกมือขึ้นถูๆแก้มที่ชาเป็นแถบๆเพราะโดนเขากดมือลงมาแรงเกินไป ก่อนจะเดินหันหลังให้เขา
“จะไปไหน ครัวอยู่ทางโน้นนะ” ธัศไนยเรียกเธอพร้อมชี้นิ้วไปทางห้องครัวที่ถูกแยกออกอย่างเป็นสัดส่วน
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเหมือนกิ้งก่าผงกหัวเป็นเชิงเข้าใจ ก่อนจะออกเดินต่อเพื่อตรงไปยังห้องครัว แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงทุ้มๆเรียกเธอเอาไว้
“เดี๋ยวสิ คุณแฟน”
“อะไรคะ” เธอเอี้ยวหน้าไปถามเขาตาแป๋ว ในขณะที่เขายิ้มให้เธอนิดๆ แล้วกล่าวขอบคุณเธอออกมาจากใจจริงว่า…
“ขอบคุณนะ คุณคูโบต้า!!”