กรรม
“เจ้าค่ะนายหญิง”
สือหยูยิ้มหวานหยดไม่ผิดหวังที่เคี่ยวกรำนางตั้งใจฝึกฝนและขยันอดทนเงินทองที่สือหยูให้นางไปเท่าไหร่นางก็ส่งให้กับมารดาเพื่อจุนเจือครอบครัว แววตาหม่นเศร้ากลายเป็นแววตาหวานหยดในแบบที่ควรจะเป็นและควรจะมีในหญิงในหอนางโลมทุกคน
“ข้าให้ช่างตัดเย็บอาภรณ์ชุดใหม่สำหรับเจ้า ข้าคิดว่ามันเหมาะกับเจ้าไม่น้อยแค่เพียงขยับผ้าแพร ใจสั่นบุรุษก็สั่นไหว”
เฟิ่งหลิวก้มหน้าแย้มยิ้ม
แขกคนแรกในคืนมืดมิด เฟิ่งหลิวในชุดผ้าแพรสวยงาม ที่พี่สาวคนหนึ่งในหอนางโลมบรรจงแต่งตัวให้อีกทั้งแต่งหน้าจนสวยสดยืนรอท่าเพื่อจะบรรเลงเพลงพิณ
“ติงติ่ง ติงติงติงติ่ง” เหล่าพี่สาวทั้งหลายในหอนางดลมต่างแอบมองอยู่อีกมุมหนึ่งรอลุ้นว่าเฟิ่งหลิวจะทำได้ดีแค่ไหน
บุรุษผู้นั่นนั่งจิบสุราเบื้องหน้าผ้าม่านโปร่งแสงมองเห็นใบหน้างดงามเพียงเลือนลางตั้งใจปกปิดแต่ไม่ปกปิดยิ่งทำให้กระสันอยากเห็นหน้าคนบรรเลงเพลงพิณม่านกางกั้นเฉพาะหน้าตาแต่ไม่อาจกั้นเสียงเพลงหวานแว่ว เพลงยังไม่ทันจบ คนผู้นั้นก็ขอพบเฟิ่งหลิว
น้ำชาร้อนๆ ในมือถูกรินด้วยมืออันสั่นเทา ปฏิเสธไม่ดื่มสุราเพียงแค่ชามือไม้ยังสั่นเพียงนี้
“แม่นางน้อยผู้นี้ชื่อแซ่เจ้าว่าอย่างไร”
“ข้าน้อย..เฟิ่งหลิว”
เสียงใสปานกระดิ่งทองตามแบบที่ถูกฝึกมาให้ดัดเสียงจีบปากจีบคอพูดให้อ่อนหวานไพเราะ
“เพลงพิณของเจ้าไพเราะสะดุดหู อีกทั้งเมื่อพบหน้าข้าก็อยากจะขอเป็นแขกประจำของที่นี่เสียแล้ว นี่คือเงินสำหรับเจ้าข้ามัดจำเวลาค่ำคืนของที่นี่เพื่อให้ได้พบเจ้า” เหล่าพี่สาวต่างยิ้มดีอกดีใจเฟิ่งหลิวทำไดได้ในครั้งแรกและทำได้ดี
“ฮ่าาาาาดีดีดี ในที่สุดเจ้าก็ทำได้ เงินมากมายเหล่านี้เห็นไหมเจ้าได้มาง่ายดายเพียงใด”แบ่งเงินออกเป็นสามกอง
“นี่ส่วนของเจ้าส่วนนี่คือของข้าแลฃะนี่คือค่าเหนื่อยของพวกพี่สาวเจ้าที่ช่วยกันเคี่ยวกรำเจ้ามาตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา” เฟิ่งหลิวยิ้มอก้มปริเงินกองหนึ่งไม่น้อยมารดาจะต้องสบายไปอีกนาน
ไเฟิ่งหลิวเจ้าคือความหวังของพวกเรามิใ่แคต่เจ้าจะไำด้เงินได้ทองเป้นกอบเป็นกำเท่านั้นแต่เจ้ายังจะสร้างชื่อเสียงให้หอเทียนถางของเราเพราะชื่อเสียงของเจ้าและความงามของเจ้า”เฟิ่งหลิวยิ้ม
“เห็นๆไหมข้าบอกแล้วเฟิ่งหลิวนางงดงามที่สุดในใต้หล้าเราช่วยกันเสกนางให้สมบูรณ์แบบจะช่วยให้เงินทองมากองที่หอเทียนถาง”
“ต่อไป เพียงชื่อเสียงของเจ้าขจรขจายรายได้ก็ยิ่งทวีคุณ เจ้าจะต้องทำให้ดีเข้าใจไหมเฟิ่งหลิว”
เฟิ่งหลิวพยักหน้าพูดอะไรไม่ออกดีใจที่จะมีเงินไปมอบให้มารดามากมายเพียงนี้
ชื่อเสียงของหอเทียนถาง ขจรขจายใครบุรุษหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ต่างต่อคิวเพื่อจองเวลาค่ำคืนที่นี่กับเฟิ่งหลิว
“เตรียมตัวไว้ให้ดีเฟิ่งหลิวค่ำนี้ข้าได้ข่าวคุณชายบ้านเหรินจะแวะมาที่นี่”
“คุณชายบ้านเหริน”พี่สาวพยักหน้าขึ้นลง
“คุณชายบ้านเหรินร่ำรวยที่สุดในแคว้นเหนือเป็นคหบดีที่ยิ่งใหญ่ เจ้าเอาใจเขาหน่อย เงินทองก็จะมากองตรงหน้า เขาชอบเดินหมากเจ้าจะต้องเดินหมากให้ชนะเขาให้ได้คุณชายบ้านเหรินเขาชื่นชอบการเดินหมากฝึกปรือจนเก่งกาจ หาตัวจับยาก และชอบวางเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่มากมาย”เฟิ่งหลิวยิ้ม เดินหมากเฟิ่งหลิวถนัดไม่น้อย
“ไปเถอะข้าจะช่วยแต่งตัวให้เจ้า”พี่สาวดึงมือเฟิ่งหลิวหายไปยังด้านในหอเทียนถาง
ค่ำคืนมืดมิด
เฟิ่งหลิวกรีดนิ้วไปบนผีผาเสียงบรรเลงเพลงหวาน คุณชายบ้านเหรินที่ผึ่งผายลุกขึ้นยืนปรบมือเสียงดังลั่น
“ติงติง ตึงตึง ติง ติ๋งติงติง ตึงติ๋ง” เพลงบรรเลงจบลงแล้ว
“เจ้า งดามเพียงนี้เชียวหรือเจ้าไปอยู่ตรงไหนมาข้าถึงเพิ่งได้พบเจ้า”สายตาหวานส่งมาที่เฟิ่งหลิว
“ดื่มด้วยกันกับข้า”รินสุราลงในจอกสุรายกส่งให้เฟิ่งหลิว ทว่าเฟิ่งหลิวกลับยิ้มกว้าง
“เตรียมกระดานหมาก”สาวใช้ในหอเทียนถางวางกระดานหมากและตัวหมากตรงหน้าเฟิ่งหลิวและคุณชายบ้านเหรินที่หล่อเหลาองอาจ
“ฮะฮ่าเจ้าเดินหมากเป็นด้วยหรือ”
สายตาที่จับจ้องมาที่เฟิ่งหลิวมีทั้งความชื่นชมและแววตาที่บ่งบอกว่าตกหลุมรักเฟิ่งหลิวในครั้งแรก
“คุณชายวางเดิมพันด้วยจะดีไหม”
“เดิมพันดีเลยข้าชอบเอาแบบนี้หากข้าแพ้เจ้า ข้าจะจ่ายเงินซื้อเวลาค่ำของเจ้าสามเท่าในเวลาหนึ่งปี และเจ้าจะมาปรนนิบัติข้าหรือไม่ข้าก้จ่ายให้ไม่มีบิดพลิ้ว แม้มันจะเป็นเงินจำนวนมหาศาลก็ตามดีไหม”เฟิ่งหลิวพยายามสะกดกลั้นความดีใจไว้เงินทองมหาศาลเพียงเพื่อเดินหมากชนะ
“แล้วหากเฟิ่งหลิวแพ้คุณชายเล่า”จีบปากจีบคอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานหยด
“หากเจ้าแพ้ข้า ค่ำคืนนี้เจ้าจะต้องปรนิบัติข้าบนแท่นนอน”เฟิ่งหลิวยิ้มบางๆ
“ตกลง”คุณชายบ้านเหรินยิ้มตาเป็นประกาย
สองชั่วยามผ่านไป
“ฮ่าๆๆๆๆๆเจ้านี่เป็นอี้จีที่สุดยอดจริงๆ”
“เด็กกลับไปที่บ้านเหรินนำทองคำในห้องสินเดิมของข้ามามอบให้กับอี้จีเฟิ่งหลิว”เฟิ่งหลิวยิ้มกว้างสดใสดวงตาเป็นประกายทองในหีบ มองเห็นแต่ทองในหีบ
“เจ้าเก่งจริงข้าขอคาราวะเจ้าข้าไม่เคยเดินหมากแพ้ใครหรือหญิงใดมาก่อน และไม่เคยคิดว่าอี้จีจะเก่งด้านการเดินหมากเพียงนี้”
เฟิ่งหลิวยิ้มหวาน
“ขอบคุณคุณชาย”
“คนของข้านำทองมาแล้วเจ้าดื่มกับข้าถือว่าเป้นการคสวรวะเจ้าอีกชึั้นต่อไปข้าคงแวะเวียนมาที่นี่บ่อยๆเพื่อให้เจ้าได้ชี้แนะด้านการเดินหมาก”
ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำใด
หากแต่สวรรค์กลับกลั่นแกล้งกันแน่
“เฟิ่งหลิวแย่แล้วบัดนี้ทัพของแคว้นใต้บุกเข้ามาแล้ว”พี่สาวที่แสนดี วิ่งเข้ามาไม่สนใจแขกผู้นั้น กระชากแขนเฟิ่งหลิวให้วิ่งตาม