ตอนที่8.ไม่ยอมแพ้1
เช้านี้พนิดาแต่งตัวด้วยชุด ที่สุภาพเรียบร้อยและค่อนข้างรัดกุม เพราะต้องเดินทางไปยังบริษัทเงินทุน ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ในนั้น หลังจากให้เลขาติดต่อไปยังบริษัทที่ปล่อยสินเชื่อ รอไม่นานทางนั้นก็ตอบรับ และให้เธอเข้าพบเพื่อพูดคุยรายละเอียด หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำด้วยความดีใจ อย่างน้อยก็ยังมีหวัง
บริษัทนี้กว้างขวางใหญ่โต จนพนิดาหายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นความหรูหราจากภายนอก หลังจากนั่งรออยู่พักใหญ่ เลขาหน้าห้องก็มาแจ้งว่าท่านประธานอนุญาตให้เธอเข้าไปพบ หญิงสาวสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง อยู่ ๆ ก็รู้สึกประหม่าขึ้นมา ข้อมูลที่เตรียมมาเริ่มขาดหาย เมื่อต้องเข้าพบกับเจ้าของบริษัท ที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อน
“ขอบคุณค่ะ” ขอบคุณเลขาที่ช่วยเปิดประตูให้
“ท่านประธานรออยู่ข้างในครับ” ขนอ่อนพากันเรียงตัว เมื่อก้าวเข้ามาในห้องที่มีอุณหภูมิเย็นจัด เหงื่อซึมฝ่ามือเมื่อเห็นแผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อสูทราคาแพง ของผู้ชายร่างสูงใหญ่ที่นั่งหันหลังให้เธอ บังคับขาไม่ให้สั่นรวบรวมความกล้า แล้วก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
“สวัสดีค่ะ ดิฉันพนิดา ศิริวิมล ตัวแทนจาก CCL
ที่ท่านอนุญาตให้เข้าพบค่ะ” แนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อมาหยุดอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของเขา รู้สึกแปลกใจที่ไม่เห็นคนอื่นในห้องนี้ เธอมาขอกู้เงินแล้วไหนล่ะทีมผู้บริหาร
“เชิญนั่งครับ ผมภูริ บริรักษ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ทันทีที่เก้าอี้ตัวใหญ่หมุนกลับมา พนิดาก็แทบล้มทั้งยืน ถอยห่างออกจากโต๊ะทำงานของเขา ภูริ บริรักษ์ เจ้าของบริษัทเงินทุนรายใหญ่ คือผู้ชายคนนั้น
“ไงถึงกับสติแตกเลยเหรอ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งนะครับ ผมภูริ บริรักษ์ เรียกสั้น ๆ ว่ารบก็ได้ครับ คุณนิด!” จงใจเน้นคำว่านิด เพื่อบอกให้รู้ว่าเขารู้จักเธอเป็นอย่างดี
“นั่งสิครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ขยับมาตรงที่เดิม เมื่อได้สติ
หย่อนสะโพกลงบนเก้าอี้ช้า ๆ คงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น คนที่นั่งบนเก้าอี้ตัวนั้นได้ ต้องเป็นผู้บริหารจริง ๆ ที่ผ่านมาเธอไม่รู้สักนิดว่าเขาชื่ออะไร รู้แค่ว่าเขาขายบริการมีหน้าที่ให้ความสุขกับคนที่มาใช้บริการ ก็แค่นั้นเอง
“ไหนดูสิมีอะไรมาขาย ออ...ผมหมายถึงมีอะไรมาค้ำประกัน” คำพูดทีเล่นทีจริงของเขาทำให้พนิดาหน้าตึง แต่ก็ยังฝืนเอาไว้
“ดิฉันมีที่ดินมาเสนอให้คุณพิจารณาค่ะ เป็นที่ว่างแถว...” คำพูดที่เหลือค้างไว้แค่ริมฝีปาก เมื่อภูริขัดขึ้น
“มีอย่างอื่นอีกไหม” ตาคมเข้มจ้องหน้าหญิงสาวเขม็ง เมื่อถามคำถามนี้ออกมา พนิดาอึดอัดจนแทบจะหยุดหายใจ เมื่อเห็นการมองของเขา
“มีโฉนดที่ดินอาคารพาณิชย์ แล้วก็...”
“ผมหมายถึงตัวคุณ” มือที่กำลังเปิดแฟ้มสั่นระริกด้วยความโกรธ เมื่อได้ยินประโยคนี้จากปากของเขา ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมเขาถึงอนุญาตให้เธอเข้ามาพบอย่างง่ายดาย เพราะมีการเตรียมการไว้แล้วนั่นเอง เขารู้ว่าเธอเป็นใคร
“นาผืนน้อยของคุณยังพอหากินได้ เอามาค้ำประกันสิ!”
“คุณภูริ!” ตวาดออกมาอย่างลืมตัวเมื่อถูกหยามเกียรติ
“คุณก็รู้ว่าผมต้องการอะไร” ภูริย้ำคำพูดเดิมที่เคยพูดกับเธอซ้ำ ๆ เขาต้องการตัวเธอและมันคือเหตุผลที่เขาลงมือทำร้าย จนเธอหมดหนทางทำมาหากิน
“ขอตัวนะคะ” เมื่อเข้าใจจุดประสงค์และเจตนาของเขา ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ เขาเหนือชั้นกว่าเธอทุกอย่าง คงรู้ว่าเธอกำลังจนตรอกถึงได้ดูถูกกันขนาดนี้
“ได้ข่าวว่ากำลังจะถูกยึดทรัพย์” เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตกลงภูริก็ขยี้ตรงจุด เพราะต้องการให้เธอเจ็บและยอมจำนนให้เขาแต่โดยดี
“แค่ของนอกกายค่ะ” ตอบพร้อมกับรวบแฟ้มเอกสารขึ้นมากอดเอาไว้ เธออดหลับอดนอนเพื่อเตรียมเอกสารมากมาย แต่เขาไม่ดูมันเลยสักนิด
“จะทำให้มันยุ่งยากทำไม ก็เคย ๆ กันอยู่ ขึ้นเตียงกับผม แล้วจะได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ” เจ็บเหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดศีรษะ เมื่อเขาเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำ ๆ เขาเป็นคนเข้าใจอะไรยาก หรือแค่ต้องการทำให้เธอเจ็บปวด ถึงได้คอยขุดคุ้ยเรื่องนี้มาตอกย้ำเธอ
“แค่ถ่างขา ผมว่ามันคุ้มจะตาย คุณเองก็ถนัดอยู่แล้วนี่ ไม่เห็นต้องคิดนาน” พูดพร้อมกับกวาดตามองไปตามเนื้อตัวของเธอ พนิดาหน้าชาเมื่อสบเข้ากับตาของเขา ที่มีแววเย้ยหยันปนอยู่ในนั้น
“กรุณาให้เกียรติดิฉันด้วยค่ะ” ตั้งสติแล้วพูดออกไปอย่างใจเย็น เธออยู่ในพื้นที่ของเขา คงไม่ดีแน่ถ้ามีเรื่องกัน
“หรือไม่จริง”
“คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ ฉันขอตัวนะคะ” การมาของเธอคงสูญเปล่า เพราะผู้ชายคนนี้มองความเดือดร้อนของเธอเป็นเรื่องตลก คงสนุกมากที่ได้แกล้ง ได้เหยียบซ้ำให้เธอจมดิน
“หยุดนะนิดผมยังพูดไม่จบ!” ตวาดลั่นเมื่อเธอหันหลังแล้วเดินไปที่ประตู พนิดาไม่สนใจคำพูดของเขา หมุนลูกบิดก่อนที่หัวใจจะร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เมื่อรู้ว่าประตูถูก
ล็อกจากด้านนอก
“คุณหนีผมไม่พ้นหรอกนิด” ชื่อเล่นของเธอที่หลุดออกมาจากปากของเขา ไม่มีผลกับความรู้สึกของเธอเลยสักนิด มันไม่อบอุ่นและปลอดภัยเหมือนกับครั้งก่อน เพราะคนพูดเปลี่ยนสถานะไปแล้ว มีอะไรที่เธอยังไม่รู้อีกบ้าง บริรักษ์มีธุรกิจมากมาย สถานบันเทิงแห่งนั้นก็คงเป็นของเขา เขาคงสนุกที่ได้สนองความใคร่ให้กลับผู้หญิงบ้าตัณหาอย่างเธอ ไม่คิดเลยว่าคำปฏิเสธแค่ประโยคเดียว จะทำให้เขาผูกใจเจ็บ และเล่นงานเธอหนักขนาดนี้ สถาบันการเงินไม่ได้มีที่นี่ที่เดียว ถือว่าเป็นความซวยของเธอ ที่เลือกที่นี่เป็นอันดับแรก
“บอกให้คนของคุณเปิดประตูให้ดิฉันด้วยค่ะ” กดเสียงต่ำออกคำสั่ง เธอไม่ใช่ลูกหนีของเขา
“ใจเย็น ๆ สิครับ ฟังผมพูดให้จบก่อน”
“ไม่จำเป็นค่ะ ฉันไม่ตกลง”
“จะเล่นตัวไปถึงไหน ฟังข้อเสนอของผมก่อน รับรองคุณจะชอบมัน”
“ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร รู้เอาไว้ว่าฉันไม่ตกลงอะไรทั้ง บอกให้คนของคุณเปิดประตูให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
“เท่าไร!” ร่างบางยืนค้างอยู่กับที่ เมื่อได้ยินคำถามของเขา
“ต้องการค่าตัวเท่าไรก็พูดมา” เมื่อเห็นว่าเธอยังนิ่ง ภูริก็ย้ำให้เธอฟังอย่างช้า ๆ ชัด ๆ
“ไปตายซะ!”
“ถ้าตายแล้วเราจะได้สนุกด้วยกันเหรอ อยากได้เท่าไรก็พูดมา ผมยินดีจ่าย”
“เพื่ออะไรคะ”
“เพื่อทำให้คุณรู้ว่า อย่ามาล้อเล่นกับคนอย่างผม!”
“รู้ตัวไหมว่าสิ่งที่คุณทำมันน่าสมเพชที่สุด อดอยากถึงขนาดต้องใช้วิธีสกปรกบีบบังคับฉันเลยเหรอคะ”
“ผมว่ามันแฟร์ดีออก คุณขายผมจ่ายเงิน สกปรกตรงไหนไม่ทราบ”
“ไม่รู้ตัวจริง ๆ เหรอคะ จะบอกให้เอาบุญ ทุกอย่างที่รวมขึ้นมาเป็นตัวคุณสกปรกที่สุด โดยเฉพาะความคิด เปิดประตูให้ฉันได้แล้ว อย่าให้ฉันเสียเวลาไปมากกว่านี้เลยค่ะ”
“ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกนิด คิดว่าผมจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ” กว่าจะต้อนเธอเข้ากรงได้ เขาต้องเสียทั้งเงินและเวลา คิดว่าเขาจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ อย่างนั้นหรือ
