บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ผมไม่ได้เลวนะครับ

ผมอุ้มพี่จันทร์มาวางที่เตียงพร้อมกับจูบเธอ แต่เธอไม่ได้รอให้ผมทำฝ่ายเดียว เธอพลิกตัวมาอยู่ข้างบนและจัดการทำผม เรียกได้ว่าเซ็กส์ของผมกับเธอเร่าร้อนแบบที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน พี่จันทร์เก่งมากๆและนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวผมในวันนี้มีความสุขที่สุด

ผมได้กระทำกับพี่จันทร์แบบคนที่ไม่น่าให้อภัย ผมร่วมหลับนอนกับพี่จันทร์โดยลืมนึกถึงมนไปเลย ผมมีความสุขมาก ผมเราทำกันทั้งในห้องน้ำ ที่โซฟา และบนเตียงซึ่งการทำแบบนี้มนไม่เคยทำให้ผมได้อาจจะเป็นเพราะมนไม่ได้คิดเรื่องเซ็กส์ว่ามันคือเรื่องสำคัญก็ได้มั้งครับ และหลังจากที่ผมกับพี่จันทร์ร่วมรักกันจนพอใจ ผมก็ลุกไปเตรียมตัวเพื่อกลับบ้าน 

“จะกลับแล้วเหรอวัษ”พี่จันทร์ค่อยๆเข้ามากอดผมจากทางด้านหลังด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าซึ่งตอนนี้มันก็ทำให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นมาอีก แต่ว่ามันไม่น่าจะต่อได้เพราะตอนนี้มันเลยเวลากลับบ้านของผมมามากแล้ว

“ครับพี่จันทร์ พอดี แฟนผมน่าจะรอแล้ว”

“อืมเหรอ แย่จัง  แล้วพี่จะเจอเธอได้เมื่อไหร่อีกละ”

ผมค่อยๆหันไปมองพี่จันทร์ที่แม้หน้าสดก็ยังสวยมากๆ

“ผมจะมาหาพี่ทุกวันเลยครับ”

“จริงเหรอ”

“ครับ”

“สัญญานะ”

“ครับผมสัญญา”

พอได้ยินคำตอบของผมพี่จันทร์ก็เข้ามาหอมผมซ้ายขวา เธอดูถูกใจและต้องการผมมากๆซึ่งก็ไม่ต่างจากผมที่ก็ต้องการเธอเหมือนกัน 

“อืม แล้วแบบนี้แฟนเธอจะไม่ว่าเอาเหรอ ถ้าจะมาทุกวันอ่ะ”

“ไม่หรอกครับ เพราะเราจะไม่ให้เธอรู้ เราจะมีแค่เรา และมีความสุขกันแค่เรา 2 คนเท่านั้น แบบว่า อย่าให้เธอเข้ามาในกรอบของเรา”

“น่ารักที่สุดเลย วัษของพี่”

ผมกับพี่จันทร์กอดกัน จนจำเป็นจะต้องจัดกันไปอีก 1  รอบ และหลังจากนั้นผมก็ขับรถกลับบ้าน โดยเจอมนนอนรอที่โซฟา ผมยืนมองผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ผมไม่ได้มีความสุขที่ได้เจอเธออีกแล้ว ตอนนี้ผมอยากอยู่กับแค่พี่จันทร์แค่คนเดียว แต่กับมน มันเฉยๆไปแล้ว ผมไม่ได้เลวนะครับ แต่คนเรามันก็ต้องเลือกสิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุข ไม่ใช่เหรอครับ และผมก็ค่อยๆเดินขึ้นไปข้างบนโดยไม่ได้สนใจมนและปล่อยให้มนนอนอยู่อย่างนั้น ผมไลน์หาพี่จันทร์ว่าผมถึงบ้านแล้ว เพื่อให้เธอจะได้ไม่ต้องห่วงผม

เช้ามาผมเดินลงมาก็ยังเห็นว่ามนยังคงนอนอยู่ที่เดิม ทำไมถึงได้ทำตัวเละเทะแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะ ผมไม่อยากคุยกับมนผมเลยเลือกที่จะเดินออกมาเลย

“อ้าว วัษ จะไปแล้วเหรอ”มนค่อยๆลุกขึ้นมาแล้วทักทายผม

“อืม”

“กี่โมงแล้วละ วัษจะกินข้าวมั้ย”

ถามผมเวลานี้ผมคงไดกินหรอก แม้แต่ข้าวก็ยังไม่ได้หุงเนี้ยนะ

“ไม่อ่ะ วัษจะไปกินข้างนอก”

“อะไรนะวัษ”

“อยากนอนก็นอนไปเลยมน ผมขี้เกียจคุยกับคุณแล้ว”

มนแลดูงงแต่ก็ช่างผมขี้เกียจอยู่คุยกับเธอแล้ว ผมคิดว่า ผมไปจากตรงนี้ไวๆเลยจะดีกว่า

และผมก็ไปหาพี่จันทร์ทุกวันหลังเลิกงานเรามีเซ็กส์กันอย่างสะใจ มีความสุขมากครับ จนมาวันนี้แหละที่มนย้ำผมเรื่องแต่งงาน ผมอยากจะบอกเธอจริงๆว่าผมขอยกเลิก เพราะผมไม่อยากแต่กับเธอแล้ว เพียงแต่มันยังไม่มีจังหวะที่จะพูดก็เท่านั้น 

มนเพตรา

วันเวลาล่วงเลยไปจนใกล้จะถึงวันหยุดที่เราตั้งเป้าไว้ว่าจะชวนวัษไปทะเล แต่มันกลับต้องชะงักเพราะว่าที่โรงเรียนดันจัดทัศนศึกษาตรงกันไปอีก บ้าจริงๆเลย เราเลยต้องเปลี่ยนแผนที่วางไว้หมดเลย เรียกได้ว่า บอกวันนี้ไปพรุ่งนี้แล้วอะไรแบบนั้น โคตรเซ็ง

“หมายความว่าไงที่บอกว่าไปเที่ยวไม่ได้แล้ว”

เราที่กำลังนั่งจัดกระเป๋าใหม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นไปมองวัษที่ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ก็พอดีที่โรงเรียนจัดทัศนศึกษาตรงกันไปอีกอะดิ นี่ก็พึ่งรู้เห็นบอกว่ามีสปอร์นเซอร์ด้วยในงานนี้เลยพึ่งได้วัน”

“โรงเรียนมนนี่ไร้สาระเนอะ”

“เอาน่าวัษ มนขอโทษ เอาไว้ มนจะชดเชยให้วันอื่นนะ”

“ชดเชยเหรอพูดง่ายนะมน แล้ววันลาที่วัษลาไว้ละ ไหนจะพวกโรงแรมที่จองไว้ ทริปที่จองไว้อีกจะเอาไง”

“อืม เอาเป็นว่าวัษนอนเล่นอยู่บ้านไปก่อนแล้วกันนะ แล้วเดี๋ยวมนจะชดเชยให้วันหลัง นะวัษนะ อย่าโกรธมนนะ”

เราพยายามง้อวัษ เพราะเรื่องทั้งหมดมันผิดที่เราเอง วัษถึงต้องลางานเก้อแบบนี้

“ก็ได้ แต่ทริปที่จองไว้ เดี๋ยววัษจะเอาไปให้พี่ที่ทำงาน แต่ให้เฉยๆนะ ไม่เอาตังเขา เพราะมนโง่เอง”

“อืม แล้วแต่วัษเลย วัษจะทำอะไรก็ตามใจ ผนตามใจวัาหมดเลย แต่ขออย่างเดียว อย่าโกรธมนนะ นะวัษ” เราลุกขึ้นไปกอดวัษที่ทำหน้าตาแบบว่าเซ็งมาก เรารู้แหละว่าคราวนี้เราผิด

“ก็ได้ ไม่โกรธก้ได้”

“วัษน่ารักที่สุดเลย”

เราโผลเข้ากอดวัษแน่น ซึ่งวัษก็ทำหน้าเซ็งๆ เราเข้าใจวัษแหละ และซักพักเราก็มานั่งจัดกระเป๋าต่อเพราะต้องออกเดินทางพรุ่งนี้แล้ว 

“เอ่ออ มน เดือนนี้วัษช่วยมนไม่ได้นะเรื่องค่าเช่าบ้านกับค่าน้ำค่าไฟ  เพราะวัษเงินก็ไม่พอเหมือนกัน”

เราไปไม่เป็นเลย เพราะว่าเงินเราก็เกือบจะไม่พออยู่  คือผิดแผนแบบไม่น่าเชื่ออ่ะ แต่ทำไงได้วัษก็เคยช่วยเรามาหลายเดือนเหมือนกัน คราวนี้ก็คงต้องตอบรับว่าไม่เป็นไรนั่นแหละ

“อืม ไม่เป็นไร”

“อืม งั้นวัษไปนอนนะ”

“จ้ะ”

แล้วพอวัษก็ล้มตัวนอน และพอเราเสร็จเราก็รีบไปอาบน้ำและเข้านอนเหมือนกัน เรามองดูเงินในบัญชีที่ขึ้นอยู่ที่หน้าจอมันแทบจะไม่เหลือแล้วอ่ะ เพราะไหนจะบัตรเครดิตอีก วุ่นวายไปหมดด้วยความคิดหนัก เราจะทำไงดีละ ในเมื่อ เราต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน 4 พัน  ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ก็ราวๆ 5000 และก็ค่าบัตรเครดิตอีก 5000  แล้วก็ค่ารถอีก 6800  สารพัดค่าเลยที่ต้องจ่ายเลย ปวดหัวจังเลย และจะเอาเงินที่เตรียมไว้แต่งงานมาใช้มันก็ไม่ได้อีก เพราะว่างานแต่งมันใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว เกิดเราไม่มีเอาไปคืนจุดนั้นมันต้องแย่แน่ๆ

และเราก็นอนทั้งที่คิดไม่ตกนั่นและ จนเช้าเรารีบขึ้นรถแท็กซี่มาเพราะเราต้องไปอยู่หลายวันจะเอารถมาไว้ที่โรงเรียนก็เป็นห่วงอีก  พวกเรานั่งรถบัสมากันจนถึงที่ชลบุรี ที่นี่เป็นรีสอร์ทที่มีสวนดอกไม้ที่ใหญ่มากๆตั้งล้อมรอบอยู่เราไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย

“ไร่สิงหราช”เราพึมพำอ่านชื่อไร่ที่ตั้งตระง่านอยู่ด้านหน้า เราเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนนะ ทำไมนึกไม่ออกเลย

“สวัสดีครับ คณะครูและนักเรียนของโรงเรียน เบญจมพฤก”เสียงของทางรีสอร์ทร้องดังขึ้นพวกเราจึงพากันมารวมตัวอยู่ที่ด้านหน้าเพื่อรับฟังทางรีสอร์ทว่าเขาจะบอกอะไร

“ผมได้รับรายชื่อของครูและนักเรียนแล้วนะครับ และแต่ละห้องก็จะมีชื่อของบุคคลนั้นๆติดอยู่ ผมจะแจกคีย์การ์ดให้ ขอให้ทุกท่านเดินไปยังห้องพักที่มีชื่ออยู่บนคีย์การ์ดนั้นได้เลยนะครับ”

ซักพักคีย์การ์ดก็มาถึงมือเรา ชลบุรี นี่คือชื่อคีย์การ์ดของเรา เราจึงเดินไปยังห้องที่เขียนไว้บนคีการ์ด แต่ว่าพอเรามาเจอมันกลับมีชื่อเราอยู่บนหน้าห้องแค่คนดียวผิดกับแต่ละห้องที่เราผ่านมามันมีห้องละ 2-3 คน แปลกจัง แต่ก็ช่างเหอะ เอาของไปเก็บก่อนละกัน เราเลยเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับเอาคีย์การ์ดวางในที่ของมันปรากฎว่าห้องที่เราได้มันโคตรสวยเลย สวยมากจริงๆ  นี่ถ้าได้มากับวัษ มันคงรู้สึกดีกว่านี้แน่ๆเราถอนหายใจให้กับชีวิตตัวเอง  จนเราเอาเสื้อผ้าเก็บเสร็จเราก็เดินออกมาด้านนอกเพื่อรวมตัวนักเรียน ซึ่งตอนนี้พวกเด็กๆก็กำลังตื่นเต้นกับอาหารที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ มันดูอลังการเพราะมันมีแต่ของแพงๆทั้งนั้น  แต่คนที่น่าห่วงสุดก็คงจะเป็นจีมนั่นแหละที่ตอนนี้กำลังนั่งพิมพ์โทรศัพท์โดยไม่ได้สนใจอาหารพวกนี้เลย 

“จีม”เราเดินไปนั่งข้างๆทำเอาจีมสะดุ้งเลย

“ครูมน”

“อืม ครูเอง ทำไมไม่ไปนั่งกับเพื่อนๆละ”

“มันก็เรื่องของหนูปะ ไม่เกี่ยวกับครูซักหน่อย”

“เกี่ยวซิ เพราะเธอเป็นนักเรียนของครู อย่างน้อยมาพักผ่อนแบบนี้เธอก็ควรใช้เวลากับเพื่อนให้มีความสุขถึงจะถูก เพราะต่อไปถ้าเธอได้ไปเรียนต่อ นี่มันอาจจะเป็นการเที่ยวครั้งสุดท้ายที่เพื่อนทั้งหมดมาเที่ยวด้วยกันก็ได้นะ”

เราหันไปมองจีมที่ค่อยๆละสายตาจากโทรศัพท์ และมองไปที่เพื่อนๆ

“แต่มันน่าเบื่อ”

“ไม่น่าเบื่อหรอก ลองก้าวออกมาจากพื้นที่ส่วนตัวซิ ครูเชื่อนะว่าจีมนะ จะมีความสุขกับมันแน่ๆ”

“แล้วถ้าพวกเขาไม่คุยด้วยละ”

“เราก็ยิ้มให้เขาก่อนซิ เพราะรอยยิ้มมันมักสร้างมิตรภาพเสมอ ลองดูนะ”

เราค่อยๆลูบหัวลูกศิษย์ตัวน้อย ก่อนที่เธอจะค่อยๆลุกเดินไปหาเพื่อนๆ ทีแรกทุกคนก็ดูตกใจนะ แต่พอจีมค่อยๆยิ้ม เพื่อนๆเลยต่างยิ้มให้จีมและพาจีมไปเดินเลือกกินอาหาร เฮ้อ ดีจัง อย่างน้อยเราก็สามารถทำให้จีมลูกศิษย์หัวรั้นคนนี้ยอมเข้ากับเพื่อนได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel