ตอนที่ 4 ขาดความยับยั้งชั่งใจ
พศวรรษ
ผมได้ยินทุกอย่างที่มนบอกนะ แต่ผมไม่อยากตอบอะไรเธอ เอาจริงๆก่อนหน้านี้ที่ผมกับมนกำหนดงานแต่งงาน ตอนนั้นผมรู้สึกมีความสุขมากๆเลยนะ ผมอยากใช้ชีวิตร่วมกับมนไปตลอด แต่มันกลับมีจุดเปลี่ยนเมื่อผมได้เจอกับผู้หญิงคนนึง มันเป็นวันที่ผมได้ไปงานเลี้ยงฉลองที่บริษัทจัดขึ้น ซึ่งคราวนี้มันต่างจากทุกครั้ง คือ ที่บริษัทเปลี่ยนร้านจากคาราโอเกะธรรมดา มาเป็นร้านอาหารคลาสดี ที่มีเด็กนั่งดริ้งค์คอยบริการ ซึ่งผมก็นั่งกินตามปกติกินเพราะพวกพี่ๆยื่นส่งให้ ตอนแรกผมก็ว่าจะกินแค่แก้ว 2 แก้วแล้วก็กลับเลย เพราะว่ามนน่าจะทำอาหารรอผมแล้ว เดี๋ยวมนจะรอนาน แต่ที่มันทำให้ผมไม่อยากไปจากที่เลยก็เพราะเธอคนนี้เดินเข้ามา
“เป็นยังไงกันบ้างคะ อาหารรสชาติถูกปากรึเปล่า”
มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นผมที่กำลังจะขอตัวกลับถึงกับชะงักเพราะเธอดูดีและสวยสง่ามากๆ ราวกับนางพญาก็ไม่ปาน และมันก็ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวที่ตาค้างแต่พวกพี่ๆที่มากับผมนี่ซิ ถึงกับอ้าปากพูดอะไรไม่ออก คงเป็นเพราะเธอสวยมากจริงๆ
“ถูกปากมากๆครับ ไม่น่าเชื่อว่าร้านนี้จะทำให้พวกผมรู้สึกดีมากๆขนาดนี้”พี่หนึ่ง พี่ใหญ่ในสายงานของผมเอ่ยขึ้น แกดูกระปี้กระเปร่าขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้
“ดีค่ะ งั้นวันนี้ จันทร์ขอแถมเมนูพิเศษให้อีก2เมนูเลยนะคะ เผื่อวันหน้า อยากมาทานที่ร้านนี้อีก”
“ขอบคุณครับ”
ทุกคนต่างพากันยิ้มดีใจ แต่ผมสังเกตุเห็นนะว่าเธอหันมาสบตาผมแล้วก็ยิ้ม
“ว่าแต่ คุณจันทร์นี่คือเจ้าของร้านนี้ใช่มั้ยครั้บ”พี่เอสถามขึ้นมา ทุกคนจึงหันไปมองเธออีกครั้ง
“ใช่ค่ะ ร้านนี้ชื่อเสน่ห์จันทร์ โดยมีจันทร์เป็นเจ้าของ”
รอยยิ้มของพี่จันทร์ทำเอาผมต้องยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มเพื่อดับความร้อนวูบวาบในตัว ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครเลยนะ แม้แต่กับมนผมก็ไม่เคย
จนเวลาผ่านไปพวกพี่ๆเริ่มเมา และมีผู้หญิงเป็นของตัวเองมาครอบครองกัน มันจึงเหลือแค่ผมที่นั่งกินอยู่คนเดียว และแล้วพี่จันทร์ก็ค่อยๆเข้ามานั่งข้างๆผม เธอนั่งไขว่ห้างทำให้กระโปรงที่แหวกข้างนั้นแหวกสูงมากขึ้นไปอีก ใจผมสั่นมากเลยครับตอนนี้
“ทำไมนั่งคนเดียวละคะ หรือว่าผู้หญิงในร้านของพี่ไม่มีใครถูกใจเลย”น้ำเสียงอันเย้ายวนของพี่จันทร์ทำให้ผมเคลิ้มตามไปเลย
“เอ่อ ถูกใจครับ แต่ไม่มีใครสวยสู้พี่จันทร์ได้เลยต่างหาก”ผมเลือกที่จะพูดความจริงและหันไปมองพี่จันทร์ที่ชะงักไปเพราะคำตอบของผม
“อย่างงั้นเหรอคะ ดีใจจังที่คิดเหมือนพี่ เพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครถูกใจพี่เท่าเธออีกแล้ว”
ผมเหมือนกับโดนสะกด ผมค่อยๆโน้มตัวไปจูบพี่จันทร์เบาๆ มันอาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอออลด้วยรึเปล่าก็ไม่รู้มันถึงทำให้ผมกล้าทำอะไรบ้าๆแบบนี้ลงไป จนผมเริ่มรู้สึกตัวผมจึงค่อยๆถอยห่างและกล่าวของโทษเธอเบาๆ
“ผมขอโทษครับพี่จันทร”
“ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไม่ถือ ว่าแต่ชื่ออะไรนะ ไม่เห็นบอกพี่เลย”
เธอร้องถามชื่อผม เธอไม่ได้โกรธผมเลยที่ผมล่วงเกินเธอ แต่เธอกลับยิ้มให้ผม นั่นก็แปลว่าเธอไม่ได้ติดใจกับการจูบนั้น
“ผมชื่อวัษครับ”
“ชื่อวัษเหรอ ชื่อเพราะนะ ว่าแต่วัษมีเวลาให้พี่ซัก 5 นาทีมั้ยละ”
“ทำไมครับพี่จันทร์มีอะไรรึปล่า”
“คือว่า พอดี เครื่องทำน้ำอุ่นที่ห้องพี่นะซิมันไม่ร้อน วัษช่วยขึ้นไปดูให้พี่หน่อยได้มั้ย”
สีหน้าและแววตาของพี่จันทร์ดูขอร้องผมมากๆ ผมจึงพยักหน้าตอบรับเธอ
“ได้ครับ แต่ผมเมานิดนึงนะครับพี่ ไม่รู้ว่าจะดูให้พี่ได้รึเปล่า”
“ไม่เป็นไรจ้ะ ลองดูก่อนก็ได้ เผื่อมันได้”
“ครับ”
แล้วพี่จันทร์ก็ลุกเดินไปยังด้านหลังโดยมีผมเดินตามไปติดๆ ผมเดินขึ้นไปชั้น 3 ของตึก ซึ่งที่นี่น่าจะเป็นห้องพักของพี่จันทร์เพราะมันตกแต่งได้ดูเซ็กซี่เหมาะสมกับพี่จันทร์มากๆ
“เดี๋ยวผมขอเข้าไปดูก่อนนะครับ”
“ได้จ้ะ”
ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำ และพยายามเเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นดูซึ่งมันก็ร้อนปกตินะ ไม่ได้เป็นอะไรเลย
“พี่จันทร์ครับ มันใช้ได้ปกติครับพี่”
ผมร้องบอกพี่จันทร์ออกไป
“เหรอจ้ะ สงสัยมันคงเจอช่างดีละมั้ง”
เสียงพี่จันทร์ดังขึ้นใกล้ผมมากๆและพอผมหันไปผมก์เจอพี่จันทรที่มีแต่เรือนร่างที่เปลือยเปล่าเข้ามาอยู่ข้างๆผม ผมตกใจมากนะ จนเกือบจะล้มเลย
“เอ่ออ พี่จันทร์ครับผมว่า”
“ทำไมเหรอ รังเกียจพี่เหรอ หรือว่าพี่ไม่สวย”
ผมพยายามหลยสายตาไปทางอื่น แต่พี่จันทร์ก็จับใบหน้าผมให้หันมามองเธอจนได้ตอนนี้ผมเห็นเรือนร่างพี่จันทร์แบบเต็ม2 ตาเลย
“ตอบพี่มาซิว่า พี่ไม่สวยเหรอ” พี่จันทร์ถามย้ำผมอีกครั้งด้วนำเสียงที่น้อใจเล็กๆ
“สะ...สวยครับ สวยมาก”
“งั้น ถ้าพี่สวย ทำไมวัษถึงไม่สนใจพี่ละ พี่เสียใจนะ”
พี่จันทร์ค่อยๆลูบไล้ไปที่ร่างกายของผมช้าๆ อย่างเบามือ มันเลยทำให้ผมตอนนี้ขาดความยับยั้งชั่งใจในทันที