บท
ตั้งค่า

หากเธอตบฉันก็จะจูบ (100%)

“ทนไม่ไหวแล้วโว้ย นี่มันบ้าอะไรกันวะ มีแต่คนมากวนอารมณ์ให้ขุ่นอยู่ได้” ตั้งใจว่าจะเคาะประตูแต่มือดันพลาดกลายเป็นผลักเข้าไปเต็มแรง

ปัง!!!

ประตูที่ไม่ได้ลงกลอนให้สนิทเปิดออกเสียงดังโครมคราม ดีที่เจ้าของร่างใหญ่เบี่ยงตัวหลบทันจึงไม่โดนบานประตูฟาดเข้าใส่ลำแขนแกร่ง ภาพที่ปรากฎแก่สายตาทำให้มณีญาถึงกับใบหน้าร้อนผ่าว อายแทนคนทั้งคู่ แต่เธอก็ยังจ้องตาไม่กะพริบ

“กรี๊ด…อีบ้าแกเปิดเข้ามาทำไมห๊ะ!” เบลล่ากรีดร้องสุดเสียง เมื่อเห็นสาวแว่นมายืนยังก้าเบิ่งตามองทั้งสองไม่กะพริบ

“ยังมีหน้ามาแหกปากด่าคนอื่นอีก ช่างไม่อายเลยที่มาทำอะไรต่ำๆ แบบนี้ในห้องน้ำ” มณีญาเหยียดยิ้มหยันด้วยความสมเพช ก่อนจะต่อว่าอย่างไม่ไว้หน้า

เมื่อมีบุคคลที่สามทะเล่อทะล่าเข้ามาขัดจังหวะ มาร์เวลก็รีบติดกระดุมกางเกง เสยผมที่ยุ่งเหยิงให้เข้าทรงอย่างลวกๆ ก่อนจะค่อยๆ หันมาหาคนที่ต่อว่าอย่างฉุนๆ

“ต่ำงั้นเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ” ทุกคำล้วนลอดไรฟันออกมา ชายหนุ่มมองคนที่ยืนเท้าสะเอวด่าตัวเองฉอดๆ อย่างตกตะลึง คาดไม่ถึงว่าจะมาเจอเธอที่นี่อีก

“ยัยเชย เธออีกแล้วเหรอเนี่ย” อุทานด้วยความตกใจ แต่ท้ายประโยคของเขากลับทำให้มณีญาแอบตะหงิดๆ อย่าบอกนะว่าสิ่งที่เธอแอบคิดมันจะเป็นความจริง

“อ้าว…นึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่นี่เอง ว่าไงล่ะคะท่าน ไปไงมาไงถึงได้มาทำอะไรบัดสีบัดเถลิงกับคู่ขาในห้องน้ำแห่งนี้”

“ปากดีไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ ปากแบบนี้มันน่านัก” เขายังคิดถึงรสจูบบนเครื่องไม่หาย หากไม่ติดที่ว่ามีเบลล่าอยู่ด้วยแล้วล่ะก็ มาร์เวลคงไม่พลาดโอกาสที่จะได้สั่งสอนคนปากดีอย่างมณีญาด้วยวิธีของเขาเป็นแน่

“ฉันก็ไม่อยากจะทำปากดีเท่าไรหรอก แต่เห็นแล้วมันทนไม่ไหว อืม…ฉันก็เพิ่งรู้นะว่ามาเฟียอย่างคุณเป็นพวกชอบเปลี่ยนบรรยากาศ แต่ถ้าชอบเปลี่ยนบรรยากาศขนาดนั้น ก็ควรจะเลือกที่ที่มันเหมาะสมกว่านี้หน่อยนะ หรือว่าต้องการประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ ถึงได้เลือกเอาห้องน้ำของสนามบินมาทำเรื่องอย่างว่า”

“ฮึ่ม…ยัยเด็กบ้า เดี๋ยวเถอะ!” มาร์เวลกำหมัดแน่น พยายามระงับอารมณ์ไม่ให้ตัวเองกระโจนเข้าไปลงโทษเธอ ที่กล้ามายืนเท้าสะเอวตำหนิติเตียนและทำเหมือนสั่งสอนเขา

“อีบ้า แกกล้าดียังไง ถึงพูดกับมาร์เวลแบบนี้ มาร์เวลขาจัดการมันเลยค่ะ” เบลล่าชี้หน้าด่ามณีญาอย่างโกรธจัด แล้วบอกให้ชายหนุ่มเล่นงานเธอ

“จัดการอะไรไม่ทราบ ฉันไปทำอะไรให้คุณ หรือจะจัดการที่ฉันมาขัดจังหวะคุณสองคน ความจริงพวกคุณสองคนสมควรจะขอบคุณฉันด้วยซ้ำที่อุตส่าห์มาขัดจังหวะ ก่อนที่จะมีใครมาเห็นบทพิศวาสบาดจิตไปมากกว่านี้” มณีญาลอยหน้าแดกดันอย่างไม่กลัวเกรง

“ไปเถอะเบลล่า อย่าไปสนใจเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลย” เจ้าของใบหน้าเรียบสนิทรั้งข้อศอกนางงามสาวให้เดินตามออกมาจากห้องน้ำ

มณีญาได้ยินคำที่เขาตั้งใจกระทบกระเทียบก็เกิดอาการทนไม่ไหว อยากให้เด็กอย่างเธอสั่งสอนนักใช่ไหม ได้เลย คิดได้ก็กล่าวออกไปอย่างไม่คิดจะยั้งปาก

“เดี๋ยวอย่าเพิ่งไปสิคุณมาเฟีย ทีหลังก็รู้จักหาที่ที่มันมิดชิดกว่านี้หน่อยนะ ประเดี๋ยวจะกลายเป็นพระเอกเอวีโดยไม่รู้ตัว” มาร์เวลชะงักเท้า แล้วหันขวับกลับมามองต้นเสียงตาดุวับ เธอทำเหมือนตักเตือนด้วยความหวังดี แต่แววตาคู่นั้นกลับไม่ใช่เลย มันเต็มไปด้วยความสมเพชอย่างเปิดเผย

“เบลล่าคุณออกไปรอผมข้างนอกก่อนนะ ผมขอจัดการกับยัยเด็กปากจัดนี่ก่อน” พูดกับแม่ก้านยาวเสียงนุ่มหูน่าฟัง เบลล่าจึงเขย่งเท้าหอมแก้มสากหนึ่งที ก่อนจะยื่นหน้ายกนิ้วทำท่าเชือดคอข่มขู่มณีญาอย่างสะใจ แล้วสะบัดสะโพกดินระเบิดเดินออกไปจากห้องน้ำ

“เฮอะ…จัดการ ใครจะจัดการใครกันแน่ไม่ทราบ ถ้ามาทำซ่ากับฉันนัก ฉันก็จะสับศอกตอกหมัดเอาให้ลงไปนอนนับดาวไปเลย” ยัยเชยจอมซ่ามองอีกฝ่ายอย่างฉุนๆ จากนั้นก็ลอยหน้าลอยตาท้าทายด้วยท่าทางก๋ากั่น

“นี่เธอ มันจะมากไปแล้วนะ จะพูดจะจาอะไรหัดรู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ซะบ้าง” มาร์เวลโกรธจนตัวสั่นที่เธอยังไม่เลิกต่อปากต่อคำกับเขา ผู้หญิงบ้าอะไรขยันยั่วโมโหเขาอยู่ได้

“โอ๊ย…มากอะไรกัน ฉันก็แค่เตือนคุณด้วยความหวังดี กลัวจะเสียชื่อมาเฟียซะหมด อุตส่าห์สั่งสมบารมี เก๊กหน้าโหด เข้าโหมดดิบเถื่อน มาได้ตั้งนานสองนานไม่ใช่เหรอ” ยิ้มยั่วใส่หน้ามาร์เวล พร้อมเอ่ยด้วยวาจายียวนกวนประสาท จนคนฟังอยากจะกระชากคนปากดีมาจูบสั่งสอนให้หลาบจำ

“เตือนเหมือนคนเป็นเมียที่กลัวผัวจะเสียภาพพจน์เลยนะคุณเชย เอ๊ะ…หรือว่าเธอเกิดอยากเป็นเมียฉันขึ้นมาจริงๆ แต่อย่างเธอเนี่ยคงยากที่จะได้ตำแหน่งนั้น เพราะไม่ผ่านมาตรฐานสักอย่าง ดูยังไงก็ไม่เจริญหูเจริญตา แบนราบจนแยกไม่ออกว่าอันไหนข้างหน้าอันไหนข้างหลัง” นัยน์ตาสีสนิมไล่กวาดตั้งแต่หัวจรดเท้าของคนตรงหน้าอย่างจาบจ้วง เป็นเหตุให้เธอหน้าร้อนวูบ

“บ้า…ใครเขาอยากเป็นเมียคุณไม่ทราบ ให้ฟรีแถมตำแหน่งคุณนายมาเฟียฉันยังไม่แล อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย เสน่ห์แบบเถื่อนดิบของคุณใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก” มณีญารีบออกตัวเร็วไว

“แล้วอะไรล่ะถึงจะใช้กับเธอได้ผล หรือว่าจูบแบบดุเด็ดเผ็ดมันเหมือนบนเครื่องบินเมื่อสักครู่ ถึงจะทำให้เธอหลงเสน่ห์จนต้องมาสยบอยู่แทบเท้าฉัน” คำพูดย้ำเตือนความทรงจำ ตาคมกริบมองหน้าเธออย่างมีเลศนัย

“ไอ้หน้าหนวดที่อยู่บนเครื่อง เป็นคุณเองเหรอเนี่ย” ชี้หน้าชายหนุ่มด้วยความตกตะลึง เธอว่าแล้วว่าทำไมสัมผัสเหล่านั้นถึงได้ดูคุ้นเคยนัก ที่แท้ก็ไอ้มาเฟียขี้เก๊ก ปากเสียนี่เอง

“เริ่มฉลาดขึ้นมาแล้วนี่” แดกดันเธอในที ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท เล่นเอาคนฟังถึงกับเจ็บใจที่เสียรู้ให้ไอ้มาเฟียหื่นกาม เขาแค่ปลอมตัวนิดหน่อยทำไมเธอถึงจำไม่ได้นะ มณีญาได้แต่แอบหัวเสียอยู่คนเดียว

“อี๋…ฉันโดนปากสกปรกของมาเฟียจูบเหรอเนี่ย” ยกมืขึ้นเช็ดปาก ทำท่าขยะแขยงจนมาร์เวลทั้งหมั่นไส้ทั้งโมโหในเวลาเดียวกัน ยัยเชยกล้ารังเกียรสจูบของเขาได้ยังไงกัน

“เธอหาว่าปากฉันสกปรกอย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นลองโดนสั่งสอนจากปากสกปรกนี่อีกสักครั้งหน่อยเป็นไร” เห็นเธอทำหน้ารังเกียจสัมผัสของตน มาร์เวลก็เกิดความไม่พอใจอย่างมากมายมหาศาล

“นี่คุณคิดจะทำบ้าอะไร!” มณีญาร้องเสียงหลง สีหน้าแตกตื่น ร่างบางถอยกรูดออกมาให้ไกลห่างจากสัญญาณอันตราย

“หึๆ แล้วเธอคิดว่าฉันจะทำยังไง กับคนปากดีอย่างเธอล่ะ” เสียงหัวเราะในลำคอดังอยู่เหนือศรีษะ ทำให้มณีญาถึงกับรู้สึกสั่นสะท้าน

“ถอยออกไปนะ ไอ้มาเฟียบ้ากาม!” ใช้มือดันร่างองอาจจนเขาเสียหลัก เธอจึงได้จังหวะถอยออกมาตั้งหลักในระยะห่างกันพอหายใจหายคอได้ทั่วท้องกว่าเดิม

“ถ้าเธอกล้าเรียกฉันว่ามาเฟียอีกแม้แต่คำเดียว เธอเจอดีแน่” มาร์เวลขู่เสียงลอดไรฟัน มองเธอด้วยประกายตาดุวาววับ

“โอ๊ย…กลัวตายล่ะ กลัวจังเลย ไอ้มาเฟียบ้ากาม” เมื่อถอยออกมาจากเขาได้ในระยะที่คิดว่าร่างใหญ่คงตามตะครุบตัวไม่ทัน มณีญาก็เริ่มแผลงฤทธิ์ลอยหน้าลอยตาท้าเหยงๆ

คำพูดของหญิงสาวแสนจะยียวนกวนอารมณ์มาเฟียหนุ่มให้ฟิวส์ขาด แทบจะกระโจนเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขาหมดความยับยั้งชั่งใจ ไม่สามารถควบคุมตัวเอง เพียงแค่คำพูดไม่กี่คำที่เธอจงใจใช้มันกวนประสาทก็ทำเอาเขาของขึ้น อยากจะขยี้ปากสวยๆ แต่คมราวกับกรรไกรนั่นให้รู้สำนึกซะบ้าง ว่าอย่าบังอาจมาต่อกรกับมาเฟียอย่างมาร์เวล ดิมิเทียส

“เธอวอนโดนดีซะแล้วยัยเชย แล้วจะมาหาว่าฉันรังแกเด็กไม่ได้นะ” เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่หญิงสาว ก่อนจะสืบเท้าเข้าหาด้วยใบหน้าถมึงทึง

“คุณจะทำอะไรฉัน หรือจะใช้อำนาจมาเฟียทำถ่อยๆ กับฉัน บอกไว้ก่อนนะว่าคนอย่างฉันไม่กลัวคุณหรอกคุณมาเฟีย” ท้าทายเขาอย่างไม่หวั่นเกรงเลยแม้แต่น้อย

“ก็ทำอย่างนี้ยังไงล่ะ” เสียงห้าวสวนขึ้นทันควัน เดินย่างสามขุมเข้าหาแล้วกระชากแขนเรียวเร็วไว จนร่างบางปลิดปลิวเข้าไปปะทะกับอกแกร่งเต็มแรง

มณีญาดิ้นขลุกขลักเพื่อหวังจะหลุดออกมาจากอ้อมกอดมาเฟีย แต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อมาร์เวลใช้กำลังเหนือกว่ากักเธอไว้ในซอกอก ยิ่งเธอทำท่าดีดดิ้นขัดขืนเขาก็ยิ่งแกล้งรัดให้แน่นแทบเอวขาดหลุดติดมือ กอดรัดร่างแสนพยศแน่นจนร่างกายส่วนหน้าเสียดสีกัน มาร์เวลก้มลงซุกไซ้ลำคอระหง แกล้งใช้ไรเคราจางๆ ครูดผิวเนื้ออ่อนบางบริเวณนั้น แล้วเลยไปงับติ่งหูน้อยอย่างหยอกเย้า จนเธอบังเกิดความซ่านสยิวขนลุกซู่

มืออุ่นสอดเข้าไปในเสื้อตัวโคร่งจนชายเสื้อเลิกขึ้นเล็กน้อย ฝ่ามือร้อนชื้นสัมผัสผิวเนียนละมุนบริเวณหน้าท้องแบนราบ แล้วไต่ขึ้นมาถึงฐานอกเต่งตึง วินาทีนั้นแหละมณีญาถึงได้รู้สึกตัวว่ากำลังยืนให้เขาลวนลาม แสนจะเจ็บใจที่ถูกเขาทำจาบจ้วงหยาบคาย ทั้งที่เธอเพิ่งด่าเขาและผู้หญิงของเขาไปหยกๆ แต่ตนเกือบจะทำเรื่องน่าอายในห้องน้ำแห่งนี้กับเขาซะเอง

“อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวฉันนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไอ้มาเฟียบ้ากาม” มือเรียวยันอกคนที่กำลังคลอเคลีย เสียงสั่นห้ามปรามเขาด้วยความตระหนกตกใจ

“ถ้าฉันจะทำมากกว่าแตะ แล้วเธอจะทำไมไม่ทราบคุณเชย บอกมาซิเด็กน้อยว่าเธอจะทำอะไรมาเฟียอย่างฉันหืม…” กระชากร่างบางเข้าไปกอดรัด ก้มลงกระซิบยียวนข้างแก้มนวล ก่อนจะทำเสียงงึมงำไปพร้อมกับไซ้ซอกคอระหงยั่วเย้า

“ก็ทำอย่างนี้ยังไงล่ะ” ผลักไสกำแพงมนุษย์ตรงหน้าออกเต็มแรง ยกมือขึ้นหมายจะฟาดลงซีกแก้มสาก แต่ชายหนุ่มคว้าข้อมือน้อยไว้ได้ซะก่อน

“จุ๊ๆๆ ไม่เอาน่า ทำแบบนี้ไม่น่ารักเลยรู้ไหม” ทำเสียงจิ๊จ๊ะไม่พอใจ ยักคิ้วให้เธออย่างเป็นต่อ ยิ่งเห็นเธอทำท่าฮึดฮัดขัดใจเขายิ่งอยากจะแกล้งให้หนำใจ อยากจะรู้นักว่าปากหวานๆ นั่นจะด่าเขาฉอดๆ ได้นานมากแค่ไหน หรือจะโดนเขาจูบสั่งสอนเพราะทนวาจาว่าร้ายไม่ได้เสียก่อน

“แล้วใครอยากให้คุณรักไม่ทราบ ปล่อยนะ บอกให้ปล่อยไงไอ้บ้ากาม!” มณีญาสะบัดแขนเท่าไรก็ไม่หลุดจากอุ้งมือใหญ่ แถมยังโดนเขากระตุกจนร่างบางถลาเข้าไปปะทะกับอกแกร่งแบบไม่ทันตั้งตัวอีกครั้ง มือหนาเชยคางมนขึ้นสบตา นัยน์ตาคมกริบคู่นั้นเต็มไปด้วยความหิวกระหายจนมณีญาตัวสั่น

มาร์เวลมองปากอิ่มเต็มทว่าแสนรั้นตาเป็นมัน ไม่ฟังเสียงห้ามหรืออาการต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น ก้มลงแทรกเรียวลิ้วร้ายกาจเข้าไปลิ้มชิมรสหวานยั่วใจในโพรงปากฉ่ำ มณีญาดิ้นอึกอัก ทุบตีสะเปะสะปะไปทั่วแผ่นอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม หวังให้เขาผละห่างแต่ก็ไม่เป็นผล คนตัวโตจูบเอาจูบเอาราวกับอดอยากปากแห้งมาแรมปี ยิ่งเธอออกอาการต่อต้านเขาก็ยิ่งรุกหนัก

ฝ่ายเบลล่าที่ยืนแกร่วรอชายหนุ่มอยู่หน้าห้องน้ำจนขาแข็ง เห็นว่านานเกินไปก็ชักทนไม่ไหว รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แววว่าเขาจะออกมาสักที จึงเดินเข้าไปดู แล้วภาพที่เห็นก็ทำเอานางงามสาวถึงกับปรี๊ดแตก

“กรี๊ดดด…” เบลล่ากรีดร้องด้วยความโมโห อีกทั้งยังเจ็บใจที่เห็นมาร์เวลยืนจูบอยู่กับยัยผู้หญิงเฉิ่มเชย ทั้งที่เขาไม่เคยจูบกับหล่อนมาก่อนเลย แล้วแม่นี่วิเศษวิโสมาจากไหนกันมาร์เวลถึงเผลอไปจูบกับมันได้ แค่คิดเบลล่าก็บังเกิดความร้อนรุ่มในใจ อยากจะตบหน้าจืดชืดนั่นให้หายโมโหนัก

เสียงกรีดร้องแสบแก้วหู ทำให้มณีญาทะลึ่งพรวดหลุดออกจากภวังค์ ดิ้นรนออกจากวงแขนรัดรึง ส่ายหน้าหนีจุมพิตที่เฝ้าติดตามรุกไล่ไม่ลดละ มาร์เวลทำเป็นไม่สนใจอาการขัดขืนอย่างบ้าคลั่ง เฝ้าค้นหาความหวานจากกระพุ้งแก้มนุ่มทุกซอกทุกมุม จนเวลาผ่านไปอึดใจใหญ่เขาถึงได้ยอมปล่อยให้ริมฝีปากแสนหวานเป็นอิสระ คนโดนปล้นจูบไปหยกๆ ถึงกับหอบตัวโยน ใบหน้างามแดงก่ำ มองเขาตาวาววับ แล้วรีบกระถดตัวออกมาให้ห่างไกลจากคนชอบฉวยโอกาส ด้วยท่าทางระแวดระวัง

“นังหน้าด้าน แกกล้าดียังไงถึงคิดจะมาอ่อยผู้ชายของฉัน” เบลล่าชี้หน้าต่อว่าอย่างเดือดดาล แล้วผลักอกมณีญาเต็มแรง เธอไม่ทันตั้งตัวจึงเซไปข้างหลังหลายก้าว พอตั้งหลักได้คนไม่เคยยอมคนก็ผลักอกนางงามสาวคืน แล้วโต้กลับอย่างมีชั้นเชิง

“เอาตาตุ่มมองหรือไง ถึงคิดว่าฉันจะอ่อยผู้ชายของคุณ เห็นอย่างนี้ฉันก็เลือกนะคุณนุ่งสั้น” มณีญาลอยหน้าลอยตาตอบโต้แม่ก้านยาว ด้วยท่าทางยียวนกวนอารมณ์สุดๆ

“อีบ้า แก!” เบลล่ากรีดร้องด้วยความคับข้องใจ ก่อนจะปรี่เข้าไปง้างฝ่ามือหมายจะบันดาลโทสะลงบนใบหน้าเนียนของมณีญา แต่ช้ากว่าแม่สาวแว่นสุดแสบ

“อ๊ะ…อ๊ะ ถ้าคิดจะตบฉัน ทีหลังให้มันไวกว่านี้หน่อยนะคะ” น้ำเสียงกวนอารมณ์กลั้วหัวเราะ มณีญาจับข้อมือของคนที่คิดจะประทุษร้ายตัวเองบิด จนหล่อนทำหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด

มาร์เวลไม่สนใจที่จะช่วยคู่ขาของตน สาวเท้าออกจากห้องน้ำ เพราะไม่อยากเป็นจุดสนใจ และอีกอย่างเขาก็ไม่ชอบเสียงร้องแสบแก้วหูของผู้หญิง

“มาร์เวลคะ รอเบลล่าด้วยค่ะ” เบลล่าสะบัดข้อมือจนหลุด แล้วรีบวิ่งตามหลังชายหนุ่ม ปากสีแดงสดก็ตะโกนเรียกคนที่เดินดุ่มๆ จากไป

“จะรีบไปไหนล่ะคะคุณมาเฟีย รอแม่ปากแดงของคุณด้วยสิ เดี๋ยวนางก็ขาดใจตายหรอก” มณีญายังไม่วายทำซ่า ส่งเสียงไล่หลังไปยียวนกวนประสาทเขา แล้วหัวเราะลั่นด้วยความสะใจ

“ฮึ่ย…ฝากไว้ก่อนเถอะยัยเชยตัวแสบ เจอกันคราวหน้าฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่” เสียงหัวเราะของเธอทำให้เขาต้องกำหมัดแน่น ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าต่อปากต่อคำกับเขาได้เท่ากับเธออีกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel