บทที่ 4 (ยัง)ไม่ชิน
พิจิกาออกมาจากรถได้แล้ว แต่กลายเป็นว่าแข้งขาสั่นผับๆ จนทรงตัวเองไม่อยู่ พลันตัวแข็งทื่อเมื่อท่อนแขนแข็งแรงของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สอดรอบเอวของหล่อนไว้
“ขอบคุณนะครับที่มาช่วยไว้ทัน ผมจะพาเขากลับบ้านก่อน เพราะดูท่าจะไม่ไหวแล้ว ส่วนรถคงต้องทิ้งไว้ พรุ่งนี้คนของผมจะมาจัดการเอง”
อายุธบอกเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย หากพวกเขาไม่มาเจอพิจิกาก่อนที่ตนจะตามมาถึงก็ไม่รู้ว่าป่านนี้หญิงสาวจะเป็นอย่างไร
“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวผมจะให้รถอีกคันที่กำลังจะตามมาลากรถของเจ๊ออกห่างจากริมคลองอีกสักหน่อย ทิ้งไว้อย่างนี้ยังวางใจไม่ได้ เผื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน น้ำในคลองสูงขึ้น รถจะไหลลงคลองไปซะก่อน”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ผมฝากด้วยนะครับ”
อายุธบอกให้คนขับรถที่มาด้วยกันนั้นอยู่จัดการแทนเขา ส่วนตัวเขาก็พาหญิงสาวเดินไปยังรถที่จอดอยู่บนไหล่ทาง
พิจิกาหนาวสั่นเพราะอยู่ในสภาพเปียกปอน อีกทั้งคำพูดของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเมื่อสักครู่ก็ยิ่งทำให้หล่อนหนาวจนถึงขั้วหัวใจ
‘...เผื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน น้ำในคลองสูงขึ้น รถจะไหลลงคลองไปซะก่อน’
ถ้าเจ้าหน้าที่กลุ่มนั้นไม่สกัดรถของหล่อนไว้...และถ้าอายุธไม่ตามมาทีหลังแล้วช่วยให้หล่อนออกมาจากรถ พิจิกาไม่กล้านึกถึงชะตากรรมของตัวเองต่อจากนี้เลย
“เดินไหวไหม”
เสียงจากเจ้าของร่างแข็งแรงที่เดินประกบอยู่นั้นถามขึ้น พิจิกาพยักหน้า หล่อนพยายามเปล่งเสียงบอก แต่กลับไม่มีเสียงออกมา นอกจากเสียงฟันกระทบดังกึกๆ
กระทั่งเข้ามานั่งในรถของอายุธแล้ว หญิงสาวก็ยังคงนิ่งงัน หล่อนนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้ข้างคนขับโดยไม่ขยับเขยื้อน
“พริกเป็นอะไร ยังตกใจอยู่หรือเปล่า”
พิจิกาพยายามบอกว่าตนไม่เป็นไร แต่หล่อนเปิดปากพูดออกมาไม่ได้ พอรู้ตัวอีกที หล่อนก็ร้องไห้โฮ
อายุธดึงแจ็กเก็ตสูทของตนที่แขวนอยู่ในรถมาห่อกายให้หญิงสาวเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น หล่อนคงขวัญเสียอย่างหนัก เขาจึงสตาร์ตรถเพื่อจะพาหล่อนออกไปจากบริเวณนี้ก่อน
รถยุโรปคันสีตะกั่วเคลื่อนผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านจัดสรรที่เพิ่งสร้างเสร็จ และบางหลังก็ยังอยู่ระหว่างการขาย โชคดีที่พิจิกาเริ่มรู้สึกตัว หล่อนจึงบอกเขาได้ว่าบ้านของหล่อนอยู่ตรงไหน เพราะเขารู้ผ่านอาทิตย์เพียงว่าหล่อนมาซื้อบ้านในโครงการนี้ไว้ แต่จะเป็นหลังไหนนั้น เขาก็ไม่รู้
“จอดตรงนี้ค่ะ”
พิจิกาชี้ไปยังบ้านชั้นเดียวที่ตั้งอยู่ในซอยแรกของหมู่บ้าน ซึ่งเพียงขับผ่านป้อมยามไม่กี่สิบเมตรก็มาถึง...และทันทีที่หล่อนขยับตัว ชายหนุ่มก็ปรามไว้
“นั่งรอในรถนี่แหละ แล้วเอากุญแจมา”
“นาย เอ่อ...คุณส่งแค่นี้พอ ปลดล็อกประตูรถให้ด้วย”
พิจิกาอึกอัก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอุบัติเหตุเมื่อครู่...หรือผู้ชายที่อยู่ข้างตัวกันแน่
“กุญแจอยู่ในกระเป๋าใช่ไหม”
อายุธไม่รอฟังคำค้าน เขายังตั้งหน้าตั้งตาทำตามความตั้งใจของตัวเอง มือแข็งแรงฉวยกระเป๋าสะพายบนตักของหญิงสาวจนหล่อนต้องรีบดึงกลับ ซึ่งเขาก็ยอมปล่อย
“เดี๋ยวหยิบให้”
พิจิกาบอกเสียงอุบอิบ ทั้งที่จริงแล้วหล่อนตั้งใจทำเสียงแข็งใส่เขาด้วยซ้ำ แต่ผลก็ออกมาแบบนี้
อายุธยื่นมือไปรับกุญแจทั้งพวงแล้วเปิดประตูรถออกไป เขาไขกุญแจประตูรั้วบ้าน ก่อนจะดันให้มันเปิดกว้าง จากนั้นจึงกลับเข้ามานั่งในรถ
“คุณจะเอารถเข้าบ้านเหรอ” พิจิกาอดถามไม่ได้เมื่อเห็นท่าทางของเขา
“ผมจะกลับก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าพริกโอเคดีแล้ว”
“แต่ฉัน...”
“อยู่เฉยๆ เถอะ”
อายุธสวนเสียงเรียบ ทำเอาเจ้าของบ้านต้องกะพริบตางุนงง เพราะหล่อนไม่ชินกับการมีใครเข้ามาดูแลจัดการให้ขนาดนี้
รถคันใหญ่เคลื่อนผ่านประตูรั้วเข้าไปจอดในที่จอดรถ ซึ่งเป็นเพียงพื้นที่หน้าบ้านที่มีกันสาดยื่นออกมาคุ้มแดดคุ้มฝน และปกติที่ตรงนี้จะมีรถของหล่อนจอดอยู่
“รถของฉันจะเป็นอะไรไหม”
พิจิกาเปรยถามอย่างลืมตัว ต่อเมื่อนึกได้ว่าตนเพิ่งถูกอายุธดุตอนตัดสินใจทุบกระจกรถว่ามัวแต่ห่วงรถ ทำให้หล่อนต้องเหล่มองเขาอย่างประเมินท่าที
“ไม่เป็นไรหรอก มันซ่อมได้”
พอได้ยินอย่างนี้ พิจิกาก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก หากพอหล่อนจะไขกุญแจเปิดประตูบ้าน พลันนึกเอะใจขึ้นมา
หญิงสาวกวาดสายตามองรอบๆ แล้วเห็นว่าบริเวณที่พ้นจากรัศมีแสงไฟนั้นมีเพียงความมืด และตอนนี้หล่อนกำลังอยู่กับผู้ชายตามลำพังสองคน แม้เขาจะเป็นน้องชายของเพื่อนสนิท แต่หล่อนก็รู้สึกแปลกอยู่ดี
“คุณกลับไปเถอะ ฉันอยู่ได้”
“ผมยังไม่กลับ”
น้ำเสียงของเขาเรียบเรื่อย ฟังดูคล้ายธรรมดา แต่ทำให้คนฟังถึงกับมุ่นคิ้วงุนงง
พิจิกาไม่ได้รู้จักตัวตนของอายุธนักหรอก หล่อนไม่รู้ว่าพื้นฐานนิสัยของเขาเป็นอย่างไร แม้จะเห็นเขาตั้งแต่เรียนระดับมัธยมในโรงเรียนเดียวกัน เขาเป็นรุ่นน้องของหล่อนหนึ่งปี แต่ให้ตายสิ หญิงสาวจำได้ว่าคนคนนี้ไม่เคยเรียกหล่อนว่า ‘พี่พริก’ สักครั้ง หล่อนเองก็ไม่เคยยุ่งกับเขา เพราะสัมผัสได้ว่าอายุธเป็นคนที่เข้าถึงยาก ซึ่งต่างจากอาทิตย์โดยสิ้นเชิง
สำหรับอาทิตย์ ใครๆ ก็รู้ว่ารายนั้นยอมลงให้หล่อนแทบทุกครั้ง เรียกได้ว่าไม่เคยขัดใจกัน แต่กับน้องชายของเขา...ไม่มีสักขณะจิตที่พิจิกาคิดจะทำแบบนั้นด้วย
“อั๋นฝากให้ผมดูแลพริก แม่ก็รู้เรื่องนี้ด้วย ผมเลยต้องมั่นใจก่อนว่าพริกปลอดภัยดี”
อ๋อ! มาดูแลเราตามคำสั่งของพี่ชายกับแม่