บท
ตั้งค่า

บทที่ 18 อย่าหาว่าข้าร้ายกาจ

"จื่อชิงมานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนข้าหน่อย"

"ไม่ได้เจ้าค่ะ นายบ่าวแยกกันชัดเจนกฎนี้จื่อชิงไม่กล้าเจ้าค่ะ"

จื่อชิงปฏิเสธเสียงแข็งฮวาเย่ห์หยวนคอตกคีบผัดผักเข้าปากอย่างไร้รสชาติกฎของหุบเขามารเคร่งครัดจนนางอึดอัดที่สุด

หลังกินอาหารเสร็จนางก็หยิบตำราวังวสันต์มาอ่าน อ่านไปก็ไม่ค่อยเข้าใจ เสียงร้องครางในตำราที่เขียนเอาไว้ การแต่งกายที่เปิดเผยตามภาพที่วาดนี้แลดูน่าเกลียดนัก รูปร่างของนางหากวาดออกมาแล้วเป็นเช่นนี้หรือ

เมื่อมองสำรวจตนเองแล้วฮวาเย่ห์หยวนไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนมัดใจผู้ใดได้ ภาพความลี้ลับของชายหญิงอยู่ใกล้กันแบบนั้นสุขหรือทุกข์ไม่รู้ชัด ทุกคนในภาพถึงได้ทำหน้าเหยเกเหมือนเจ็บปวดปางตายแลดูน่าอนาถนัก ฮวาเย่ห์หยวนรู้สึกหงุดหงิดยิ่งจึงทิ้งอารมณ์พลางปาหนังสือวังวสันต์เล่มนั้นลงบนพื้น

จื่อชิงหยิบหนังสือที่นางปาทิ้งมาไว้ในมือของฮวาเย่ห์หยวนดังเดิมปากเอ่ยอย่างเข้มงวดประดุจผู้คุมกฎ

"นายหญิงเจ้าคะตั้งใจหน่อย กว่าบ่าวจะได้เล่มนี้มาต้องเสียพลังมารไปบางส่วนเลยนะเจ้าคะ"

อันที่จริงจื่อชิงก็ไม่รู้หรอกว่าหนังสือนี้คือสิ่งใดเพียงแต่เคยได้ยินพวกบุรุษในแดนมารคุยกันว่าหากสตรีใดอ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะสามารถมัดใจชายได้ จื่อชิงจึงได้เสาะหามาให้นายหญิงของนางหวังว่านายหญิงจะตั้งใจศึกษาอย่างดี แต่ดูสตรีผู้นี้สิเหมือนจะรู้สึกเบื่อหน่ายมันนัก จื่อชิงต้องออกแรงเคี่ยวเข็ญนายหญิงเสียแล้ว

"ข้าขอโทษแต่มันน่าเบื่อและไม่รู้ว่าจะใช้ได้จริงหรือไม่"

"จริงหรือไม่เราต้องลองเจ้าค่ะ นายหญิงไม่เคยลองอย่าได้ตัดสิน"

“เพียงข้าสงสัยว่าต้องอ่านไปอีกนานเท่าใดทุกสิ่งรู้หมดแล้วแต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจนัก”

“นายหญิงเจ้าคะรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งต้องมีสักครั้งที่ชนะเจ้าค่ะ”

“ดูเหมือนว่าข้าจะแพ้อยู่เรื่อย” ฮวายเย่ห์หยวนส่ายหน้าคอตก

“ไม่แน่สักวันนายหญิงอาจชนะ เช่นนั้นต้องเตรียมตัวเจ้าค่ะนี่หนังสือนายหญิงเจ้าค่ะ อ่านให้ละเอียดสักสิบรอบบ่าวไม่รบกวนแล้ว”

กล่าวจบอาชิงก็ยัดหนังสือลงในมือของฮวาเย่ห์หยวนพลางถอยห่างมาหลายก้าวเหมือนไม่ต้องการรบกวนนาง

ฮวาเย่ห์หยวนรู้สึกเหมือนตนเองเป็นมนุษย์ที่กำลังเข้าสอบจองหงวน โอกาสมีหรือไม่ต้องเตรียมตัวให้พร้อม นางจึงพยักหน้าเข้าใจนางพยายามจดจำทุกท่าทางการยั่วยวนในหนังสือวังวสันต์แม้โอกาสที่จะได้ใช้ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ส่วนเดียวถือว่าเห็นแก่ความพยายามของสาวบริสุทธิ์เช่นจื่อชิงที่แบกหน้าตนเองไปเสาะหามาแล้วกัน

จวบจนหลายวันผ่านมาในขณะที่นางนั่งกินข้าวเย็นอย่างเงียบเชียบเช่นเคย เงาสีดำก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าฮวาเย่ห์หยวนนางเงยหน้าขึ้นมองครั้นเห็นว่าเป็นผู้ใด ด้วยความตกใจนางถึงกับทำตะเกียบหลุดมือ ฮวาเย่ห์หยวนอ้าปากค้างเมื่อเขานั่งลงตรงข้ามกับนางอาหารถูกนำมาวางอยู่ตรงหน้าเพิ่มอย่างรวดเร็ว จื่อชิงรีบนำตะเกียบคู่ใหม่มาให้นายหญิง ลอบยิ้มมุมปากเมื่อในที่สุดจอมมารก็ปรากฏกายแล้ว

จอมมารนั่งกินข้าวเงียบเชียบไร้เสียงอันใด ฮวาเย่ห์หยวนเกร็งไปทั่วร่างมือไม้วางแทบไม่ถูก แต่สายตาของเขาที่กำลังบังคับให้นางกินข้าวต่อทำให้นางจำใจฝืนกลืนอาหารลงคอจวบจนในที่สุดความอึดอัดของนางก็ดูจะคลายลงเล็กน้อยเมื่อจอมมารวางตะเกียบลง

"ทะ ทะ ท่านจอมมาร" นางเอ่ยปากชวนคุยเสียงสั่น

"คุยกับข้าให้มองหน้าข้า" เขาเอ่ยเสียงเย็น

ฮวาเย่ห์หยวนเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"ทะท่านสบายดีนะ"

ครั้นเงยหน้าขึ้นสบตาเขาฮวาเย่ห์หยวนรู้สึกหวาดกลัวคล้ายตนเองกำลังจะเป็นลม ปากแข็งประดุจมันได้หายวับไปแล้วนางกำลังใบ้กิน

จอมมารขมวดคิ้ว ฮวาเย่ห์หยวนอยากจะตีปากตนเองนางหวาดหวั่นจนคิดคำพูดอื่นไม่ออกนี่นา ดูสายตาเขาสิ สีดำสนิทจ้องแล้วเหมือนตกลงไปในบ่อน้ำ รอยสีดำเป็นทางยาวที่โผล่ออกมานอกหน้ากากนั่นทำให้นางหวาดผวา

"หากเจ้าเรียกอาเซี่ยนมาที่สุสานต้องห้ามอีก อย่าได้หวังว่าจะมีลมหายใจอยู่อีก"

เสียงเย็นประดุจน้ำแข็งนั่นทำให้นางรู้สึกเหมือนกำลังเป็นสัตว์ตายแล้วที่ถูกแช่แข็งขึ้นมาทันที

"ทะ..ท่านรู้"

"มีสิ่งใดที่ข้าจะไม่รู้ในดินแดนข้า"

"ขะข้าไม่รู้ท่านไม่เคยบอกข้า"

นางแก้ตัวน้ำขุ่นๆทั้งที่ปากยังคงสั่นด้วยความกลัว

"ดูเหมือนว่าเจ้าจะเก่งเรื่องหาเรื่องตาย"

คำว่าตายของเขาช่างเอ่ยออกมาได้โดยไม่แยแสผู้ใด ฮวาเย่ห์หยวนกลืนน้ำลายเอ่ยเบาๆ

"ข้า..ท่าน..ข้าขอโทษ"

ท้ายสุดแล้วฮวาเย่ห์หยวนก็ไม่รู้ว่าต้องเอ่ยคำใดออกมาอยู่ดี คนผู้นี้เพียงนั่งใกล้ๆ นางก็หายใจไม่ออกเสียแล้วกลิ่นความตายลอยอบอวลโอบล้อมเขาเอาไว้จนทำให้ผู้คนหวาดผวาได้เพียงนี้ นี่สินะจอมมาร สมแล้วที่เป็นจอมมาร

เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมดึงแขนของนางอย่างแรงฮวาเย่ห์หยวนเสียหลักเข้าไปในอ้อมกอดของเขามองคนตัวโตอย่างตกตะลึง

"ทะท่านจะทำอะไร"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel