บทที่ 14 จอมมารผู้น่าหวาดผวา
มารอ้วนเอ่ยออกมาโดยไม่ทันคิด คำพูดของเขาทำให้ฮวาเย่ห์หยวนตาโต
“เจ้ารู้หนทางหรือ” ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหวัง
“นายหญิงเอ่อ...”
“หากเจ้าไม่บอกข้าจะฟ้องหัวหน้าหวังว่าเจ้าแอบกินไก่และแอบกินมานานเท่าใดแล้ว เจ้าก็รู้ว่าหัวหน้าหวังกับข้าสนิทสนมกันเพียงใด”
“โถ่นายหญิง”
“หากอยากอยู่ที่นี่ต่อก็จงบอกข้ามาแต่โดยดี”
หลิ่วจงคอตกยอมจำนนด้วยประการทั้งปวง
ดังนั้นในคืนต่อมาฮวาเย่ห์หยวนจึงปีนภูเขาเพื่อตรงไปยังที่พำนักของจอมมาร โดยมีมารอ้วนเป็นคนคอยดูต้นทางและบอกทางที่เขาบังเอิญรู้เพื่อให้นางเข้าไปสู่ตำหนักจอมมารได้
ฮวาเย่ห์หยวนถึงจะไม่ใช้ไอเซียนวิชายุทธ์ของนางก็ล้ำเลิศร่างกายคล่องแคล่วนางปีนได้ไม่นานก็ถึงจุดหมาย เส้นทางด้านบนเป็นเหมือนที่มารอ้วนบอกไม่มีผิด
"ในตอนที่ข้ามาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ ข้าหิวมากในคืนนั้นจึงไล่ตามไก่ป่าจนมาพบเส้นทางนี้เข้าโดยบังเอิญ"
ฮวาเย่ห์หยวนนึกถึงคำพูดของมารอ้วนแล้วอดหัวเราะไม่ได้เพราะความตะกละของมารอ้วนจึงทำให้เขาบังเอิญพบเส้นทางนี้เข้า และสิ่งนั้นก็เกิดประโยชน์ต่อนางอย่างไม่น่าเชื่อ
ฮวาเย่ห์หยวนแอบลอบเข้ามาจนถึงตำหนักจอมมาร จู่ๆ ก็มีลำแสงพุ่งตรงเข้ามาปะทะร่าง นางหลบอย่างว่องไวองครักษ์มารกลุ่มหนึ่งราวห้าคนกำลังล้อมร่างของนางอย่างรวดเร็ว ฮวาเย่ห์หยวนไม่มีเวลาได้อธิบายเมื่อไอสังหารพวยพุ่งอยู่รอบกายพวกเขา นางต่อสู้กับองครักษ์มารหนีเอาตัวรอดเพราะพลังขององครักษ์มารแข็งแกร่งกว่ามารชั้นต่ำที่หุบเขาด้านล่างมาก ฮวาเย่ห์หยวนจึงพลาดท่าถูกกระบี่มารฟันเข้าที่แขนไปหนึ่งแผล
นางเผลอใช้พลังเซียนเพื่อพาตนเองหลบหนีเป็นไปตามคาดกระบี่นับร้อยนับพันที่อยู่บนข่ายอาคมด้านบนได้กลิ่นอายเซียนจึงพุ่งปลายกระบี่เข้าหานางทันที ฮวาเย่ห์หยวนหลบหนีกระบี่ทันอย่างหวุดหวิดก่อนที่ร่างของนางจะกลายเป็นสุสานของกระบี่ปราบเซียน
กระบี่ปราบเซียนหันปลายกระบี่พุ่งตามไอเซียนมาราวกับสุนัขดมกลิ่น ฮวาเย่ห์หยวนหนีหัวซุกหัวซุนอย่างไม่คิดชีวิต จนมาโผล่ยังที่แห่งหนึ่งน่าแปลกที่กระบี่ปราบเซียนกลับหยุดอยู่ด้านหน้าสถานที่แห่งนี้
องครักษ์มารตามมาอย่างไม่ลดละพวกเขาชะงักอยู่ด้านหน้าสถานที่แห่งนี้เช่นกันไม่กล้าก้าวตามฮวาเย่ห์หยวนเข้าไปภายใน พวกเขาจึงวนเวียนเฝ้าอยู่ด้านนอกโดยไม่ละสายตา
ฮวาเย่ห์หยวนเข้าไปภายในกำแพงสีขาวขมุกขมัว ด้านหน้าดูคล้ายเป็นหลุมศพตกแต่งอย่างงดงามแต่ดูแห้งแล้งโดดเดี่ยว มีดอกไม้ที่เหี่ยวแห้งตายปลูกอยู่รายรอบหลุมศพ
ป้ายหน้าศพเขียนไว้ว่า
ข้าจะอยู่กับท่านตลอดไป
ฮวาเย่ห์หยวนมองหาป้ายอื่นก็หามีไม่ ไร้ป้ายชื่อบ่งบอกว่าเป็นหลุมศพของผู้ใดช่างแปลกประหลาดนัก ฮวาเย่ห์หยวนก้มลงดูแขนที่โดนกระบี่แทงเมื่อสักครู่เลือดไหลออกมาราวน้ำพุ ความเจ็บปวดพุ่งเข้าทำร้ายจนนางขมวดคิ้ว ฮวาเย่ห์หยวนฉีกอาภรณ์ของตนพันแขนไว้เพื่อห้ามเลือดอย่างทุลักทุเล
กระบี่ทั่วไปทำอันตรายนางไม่ได้แต่กระบี่ปราบเซียนทำร้ายวิญญาณและร่างกายของนางได้
จู่ๆ ฮวาเย่ห์หยวนก็สัมผัสถึงพลังมารรุนแรงพุ่งตรงเข้ามา ลำคอของนางถูกกำรอบร่างบางถูกยกขึ้นฮวาเย่ห์หยวนดิ้นรนขัดขืนแต่เรี่ยวแรงของคนผู้นี้ช่างมหาศาล นางตาเหลือกพยายามมองคนที่กำลังทำร้ายพบเพียงหน้ากากเหล็กที่เขาสวมส่องประกายล้อแสงจันทร์แวววาวจนดวงตาของนางพร่าเลือน
เขาโยนนางลงบนพื้นโครมใหญ่ ร่างของฮวาเย่ห์หยวนถลาตามแรงเหวี่ยงกระแทกเข้ากับหลุมศพอย่างแรง ดูคล้ายคนผู้นั้นจะตกใจเมื่อเห็นว่าร่างของนางโดนหลุมศพแม้นางจะไม่รู้ว่ามันเสียหายแต่เขาดูโกรธจนร่างกายสั่นเทา
บุรุษผู้อยู่ภายใต้หน้ากากเงินอำพรางใบหน้าไว้กว่าครึ่ง ผมสีดำยาวสยาย เขาสวมชุดสีดำคาดผ้าแดงประดับตรามารไว้บนศีรษะ ใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ชุดสีดำที่ใส่อยู่ทำให้เขาดูน่าหวาดหวั่นกลืนกินร่างใหญ่โตไว้ภายในความมืด แววตาของเขาคมกริบเหมือนกระบี่มารที่พร้อมจะแล่เนื้อผู้คน
"บุกรุกเขตหวงห้ามมีโทษตายสถานเดียว" เสียงเย็นเยียบตัดขั้วหัวใจเอ่ยขึ้น