บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 หวาดกลัว

ถึงจะเป็นคนเอ่ยปากขอให้เขาพาเข้าสู่แดนมาร แต่เมื่อเขากำหนดวันมาชัดแจ้งกลับเป็นนางเสียอีกที่รู้สึกหวาดหวั่น ใจหนึ่งนั้นฉุดรั้งนางเอาไว้ให้อยู่กับเขาตรงนี้ หากนางทำสำเร็จนางต้องกลายเป็นสตรีของจอมมารเช่นนั้นสิ่งที่นางเคยพลั้งเผลอคิดเหลวไหลกับอาเซี่ยนก็จะกลายเป็นเพียงความคิดของนางที่ล่องลอยหายไปโดยที่คนผู้นี้ไม่เคยรับรู้กระมัง เช่นนั้นก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ

"เอ้อ เร็วถึงเพียงนี้" เป็นนางที่หลุดปากออกมา

"หากเจ้าไม่อยากไปก็อยู่กับข้าที่นี่เถิด"

เขาจับมือของนางเอาไว้แล้วไล้เบาๆ พร้อมใบหน้าที่เปล่งประกายไปด้วยความหวัง

"ท่านก็รู้ว่าข้ามาเพื่อสิ่งใดใยจะสามารถทิ้งไปได้ง่ายๆ เล่า"

"แม้จะเพื่อข้าหรือ" เขาเอ่ยเลื่อนลอย

"อาเซี่ยน.." ฮวาเย่ห์หยวนพูดไม่ออกแล้ว หรือว่าเขาจะคิดมีใจให้นางเช่นกัน แต่แล้วคนผู้นี้กลับแย้มยิ้มออกมาแล้วเอ่ยทำลายความคิดของนาง

"เจ้าเป็นเซียนหน้าที่ย่อมต้องทำให้สำเร็จ ไม่ว่าอย่างไรข้าจะคอยช่วยเหลือเจ้าจนสุดความสามารถเข้าใจหรือไม่ อย่าได้กลัวสิ่งใด"

ฮวาเย่ห์หยวนพยักหน้าน้ำตาคลอหน่วย แม้ไม่อาจคิดอย่างอื่นได้แต่อย่างน้อยมีสหายเช่นอาเซี่ยนนับว่าเป็นความโชคดีของนางนัก

เจ็ดวันต่อมาอาเซี่ยนก็พาฮวาเย่ห์หยวนมายังแดนมารอย่างที่รับปาก

"เย่ห์หยวนเจ้าจงดูด้านบนเต็มไปด้วยกระบี่เปรียบเซียนหากเจ้ามีไอเซียนเพียงเล็กน้อยก็จะโดนกระบี่พวกนั้นพุ่งเข้าทำร้าย เช่นนั้นทำสิ่งใดก็จงระวังยาข่มไอเซียนที่ข้าให้เจ้ากินจะยังได้ผลอีกนานข้าจะปรุงมาให้เจ้าเรื่อยๆ เข้าใจใช่หรือไม่"

ฮวาเย่ห์หยวนพยักหน้ารับปาก ก่อนเงยหน้ามองด้านบนเป็นจริงดั่งเขาว่าเมื่อนางพบแสงวิบวับอยู่ด้านบนแสงนั่นเป็นแสงที่เกิดจากกระบี่ปราบเซียนกระทบกับแสงสว่างของข่ายอาคม หากไม่มีผู้นำทางซึ่งเข้าออกเป็นประจำอย่างอาเซี่ยนคอยปกป้องนางคงได้สู้เพียงลำพังกับกระบี่นับล้านแม้จะเก่งกาจเพียงใดก็คงไม่อาจรอดไปได้

บริเวณโดยรอบของที่นี่ดูมืดมนแห้งแล้งและน่าหวาดผวาแม้ต้นไม้ของที่นี่จะเจริญเติบโตก็ผิดรูปร่างดูน่ากลัวทุกครั้งที่นางและอาเซี่ยนก้าวเดินดูเหมือนต้นไม้พวกนั้นจะผินลำต้นมองตามคล้ายมีชีวิต เสียงลมหวีดหวิวฟังแล้วโหยหวนดังขึ้นเป็นระยะ

แดนมารแห่งนี้นับว่าผิดกับแดนสวรรค์ที่หอมกรุ่นงดงามมีชีวิตชีวาอยู่ตลอดปีเปรียบดำกับขาวไม่อาจปะปน สมแล้วที่เป็นแดนมาร จวบจนเขาพานางก้าวผ่านป่าน่ากลัวนั่นฮวาเย่ห์หยวนจึงหายใจหายคอได้สะดวกขึ้น

"เมื่อสักครู่เพียงเดินผ่านป่านั้นข้าก็อึดอัดจนแทบจะทนไม่ไหว" นางเอ่ยเบาๆ เดินตามเขาด้วยความระมัดระวัง

"ถ้าเปลี่ยนใจก็กลับไปกับข้า" เขายิ้มเล็กน้อย

"ไม่ ไม่ ข้าเพียงเล่าให้ฟังต่อให้วิญญาณดับสลายก็ไม่อาจเปลี่ยนใจ" นางส่ายศีรษะ

"เช่นนั้นก็เร่งฝีเท้าเข้าเราใกล้จะถึงทางเข้าที่แท้จริงแล้ว"

ฮวาเย่ห์หยวนกับอาเซี่ยนเดินเร็วดุจลมพัดเขาพานางมาหยุดอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า มารที่เฝ้าประตูมีสองคน ทั้งคู่ใส่ชุดสีดำผูกผมด้วยผ้าแดงใบหน้าแบนดูเคร่งขรึมยืนขวางอยู่ตรงนั้น ครั้นยืนเผชิญหน้ากับบุรุษรูปงามเช่นอาเซี่ยนจึงดูแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

"ท่านอาเซี่ยนนางคือผู้ใด"

หนึ่งในนั้นมองใบหน้างดงามของฮวาเย่ห์หยวนแล้วมองรูปร่างของนางอย่างพึงใจ

"ให้ข้าทายคงเป็นของที่ท่านจะนำมาแลกเปลี่ยนกับท่านหัวหน้าล่ะสิ นางผู้นี้งดงามกว่าที่ข้าเคยเห็นนัก"

มารอีกผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นจ้องฮวาเย่ห์หยวนด้วยดวงตากรุ้มกริ่มใบหน้าหื่นกระหายนั้นเปิดเผยและน่ารังเกียจ

ฮวาเย่ห์หยวนรู้สึกไม่พอใจอยากจะใช้กระบี่ฟันปากคนผู้นี้ที่บังอาจดูถูกนางนักแต่นางไม่สามารถใช้อาคมของเซียนได้หาไม่นางจะถูกกระบี่ในข่ายอาคมพุ่งเข้าเล่นงานทั่วทุกสารทิศ

อาเซี่ยนยิ้มเย็นเขาดีดนิ้วทีหนึ่งมารปากเปราะผู้นั้นก็กลายร่างเป็นสุนัขขี้เรื้อนตัวเล็ก ฮวาเย่ห์หยวนมองอาเซี่ยนด้วยความทึ่งปนนับถือ

"หวังว่าต่อไปเจ้าจะระวังคำพูดและกิริยาให้มากกว่านี้ข้าจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกหัวหน้าของเจ้า" เขาเอ่ยเสียงเย็น ใบหน้าหล่อเหลาดวงตาสีเทาเงินดูเคร่งขรึมจนผู้คนครั่นคร้าม

มารเฝ้าประตูอีกคนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบก้มหน้าหลีกทางให้อาเซี่ยนและฮวาเย่ห์หยวน สุนัขขี้เรื้อนวิ่งวนไปรอบ ๆ ส่งเสียงเห่าไม่หยุด มีมารอีกหลายคนโผล่ออกมาดูแต่หาได้มีผู้ใดสนใจช่วยเหลือและเห็นเป็นเรื่องแปลกประหลาด ฮวาเย่ห์หยวนเห็นดังนั้นก็รู้สึกว่าฐานะของอาเซี่ยนและความสัมพันธ์ระหว่างเขาและแดนมารดูท่าจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว

"คาถากลายร่างของข้าจะคลายออกในสองชั่่วยาม" เขาเอ่ยเสียงดังแล้วหันมาจูงมือนางให้เดินตามมาติดๆ

"ท่านทำร้ายคนของจอมมารในแดนมารแล้วยังรอดมาได้ข้านับถือท่านเสียจริง"

"ข้าหาได้เก่งกาจอันใดเพียงแต่เจอคู่ต่อสู้ที่ด้อยกว่าเท่านั้น ว่าแต่เจ้าเถิดหากอยู่ห่างข้าก็ขอให้ระวังตนให้ดี สิ่งที่ข้าพร่ำสอนเจ้าจงเอามาใช้เมื่อเกิดเรื่องร้ายจำได้หรือไม่"

ฮวาเย่ห์หยวนพยักหน้าซาบซึ้งในบุญคุณและความช่วยเหลือของสหาย

โชคดีที่ฮวาเย่ห์หยวนหัวไวสอนเพียงครั้งเดียวนางก็ขยันฝึกฝนจนคล่องแคล่ว

ฉับพลันในใจของฮวาเย่ห์หยวนก็รู้สึกเศร้าเมื่อรู้ว่านางไม่สามารถสานสัมพันธ์กับอาเซี่ยนได้เกินเลยกว่าคำว่าเพื่อน ภารกิจของนางครานี้หมายความว่าถึงว่านางต้องยอมพลีร่างกายและวิญญาณให้กับจอมมารต้องทำทุกวิถีทางให้เขาลุ่มหลงจนยอมเชื่อฟัง

นางไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเป็นเจ้าของหัวใจตนเอง จะว่าไปแล้วนางช่างเป็นเซียนที่น่าสงสารที่สุดจริง ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel