Chapter .1 **ทายาทอสูรตัวร้าย** 3/3
หญิงสาวกระซิบเสียงเข้ม เธอนึกแบบนั้นในใจเช่นกัน ผู้ปกครองของเด็กชายต้องได้รับการอบรม เขาจะได้รู้วิธีกำหลาบบุตร ไม่ใช่ปล่อยปละ ละเลยจนเขากลายเป็นเด็กกร้าวร้าวเช่นนี้
“แด๊ดงานเยอะ!! เค้ายังไม่ค่อยได้เจอเลย”
เสียงหงอยๆ นั่นและแววตาที่สลดลง มณีรินจับสังเกตได้ เด็กคนนี้แค่อยากเรียกร้องความสนใจจากผู้ปกครองแค่นั่นเอง...
หญิงสาวลองเสี่ยง ยื่นข้อเสนอให้ หากเธอทำสำเร็จ จะได้เด็กชายที่น่ารักจนโลกต้องชื่นชมเพิ่มอีกหนึ่งคน
“แล้วถ้าครูทำให้แด๊ดหันมาสนใจวินเซ้นต์มากขึ้นได้ล่ะ จะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ แบบนี้ไหม?”
หล่อนย้ำ!!
“จริงป่าว!! อย่ามาโกหกนะ โกหกตกนารกด้วยขอบอก...แด๊ดยุ่งมาก...ขนาดโทร. ไปยังไม่อยากรับสายเลย” เด็กชายบ่นเบาๆ ขยับเข้าใกล้มณีรินอีกนิด เขาบ่นๆ เมื่อการติดต่อบิดาเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เพราะแอลเจลโร่งานยุ่งแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว หากอยากเจอบิดาอย่างน้อยต้องแจ้งล่วงหน้า3 วันเป็นอย่างต่ำ...
“ถ้าทำได้ล่ะ จะเชื่อที่ครูพูดไหม?...การทำตัวเป็นเด็กดี เด็กน่ารัก พ่อแม่จะได้รักมากขึ้นกว่านี้ไง”
“เค้าไม่มีแม่ มีแต่แด๊ดคนเดียว” น้ำเสียงขึ้นจมูกตอบเสียงสะบัดเมื่อพูดถึงคนในครอบครัว
หญิงสาวพยักใบหน้ารับรู้ อืม...มีปัญหาครอบครัว พ่องานยุ่ง ไม่มีแม่เป็นคนคอยอบรม อยู่กับพี่เลี้ยงและบอดี้การ์ด เด็กตัวเท่านี้มีบอดี้การ์ดเพื่อ? สงสัยเธอจะต้องคุยกับผู้ปกครองของเด็กชายวินเซ้นต์เป็นการส่วนตัวสักครั้ง เพื่อที่เด็กจะได้มีพัฒนาการดีๆ ไม่ใช่ฉุนเฉียวเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้
“ครูก็ไม่มีแม่อยู่ด้วยหร๊อก!! แต่ครูไม่เห็นเป็นไรนี่นา อยู่มาได้จนถึงตอนนี้ ไม่เกเร ไม่งอแงด้วยค่ะ”
“จริงอ่ะ...ทำไมไม่มีล่ะ”
เด็กชายเผลอตัว เมื่อคุณครูคนสวยหลอกล่อด้วยเรื่องที่เขาคิดถึง
“จริงสิ!! แม่ครูอยู่ไกล...ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลแสนไกล”
มณีรีนยิ้มกว้าง เธอทรุดนั่งเบื้อหน้าเด็กชาย ยกมือขึ้นเกลี่ยรอยน้ำตาให้พร้อมกับยิ้มกว้างขวาง เมื่อวินเซ้นต์ขยับตัวหนี
“แต่แม่เค้าไม่ได้ตายนะ... แค่ไม่ได้อยู่ด้วย อยู่คนล่ะที่...แต่เค้าก็ไม่อยากเจอแม่หรอก แม่ชอบแต่งตัวโป้ๆ ชอบออกเที่ยวกลางคืน”
หญิงสาวอุทานในใจ เห้ย!! ผู้ปกครองของเด็กนี่ทำไมประพฤติตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เท่าที่ฟังมณีรินไม่อยากจะนึก หากเธอโตมาแบบนี้ คงไม่แคล้วเป็นแบบเด็กชายคนนี้แน่ๆ พ่อไปทาง แม่ไปทาง อีกคนบ้างาน อีกคนบ้าเที่ยว โอ้ย!! อยากจะจับทั้งพ่อและแม่มาอบรมเสียใหม่ เด็กๆ เหมือนผ้าขาว มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะแต้มสีอะไรลงไป ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีหลากสีเพราะครอบครัวขาดๆ เกินๆ นี่เอง ชักอยากเจอผู้ปกครองของวินเซ้นต์ทั้ง2 คนเสียแล้วสิ!!
“วินเซ้นต์ มาให้ครูกอดทีสิ”
ความสงสารพุ่งพรวดๆ เธออ้าแขนออกและพยักหน้าเรียกเด็กชาย แม้เขาจะฝืนปั้นหน้าว่าข้าไม่แคร์!! ข้าอยู่ได้แม้จะไม่มีใคร? แต่เด็กก็คือเด็ก เขาปรารถนาอ้อมกอดที่อบอุ่นจากคนรอบข้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาอ้างว้างอยู่กับความเหงาและเดียวดาย
วินเซ้นต์มีท่าทีลังเลเล็กน้อย มือเล็กๆ นั่นกำแน่น...เขามองสบสายตากับมณีรินนิ่งๆ เมื่อเธอคลี่ยิ้มเต็มหน้า ร่างเล็กๆ นั่นก็ถลาเข้ามาซุกอก พร้อมทั้งสะอื้นฮักๆ จนตัวโยน เธอวางมือบนแผ่นหลังเด็กน้อย ลูบขึ้นลูบลงและกระซิบปลอบใจ รู้สึกเห็นใจเด็กชาย เขาคงสะสมความเดียวดายอยู่ในใจเป็นนาน คงโหยหาอ้อมกอดแสนอบอุ่น แต่กลับแสดงออกด้วยความแข็งกระด้างแทน เพื่อตบตาทุกๆ คน แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่หัวใจอ่อนแอ ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ!!
เธอคงต้องทำอะไรสักอย่าง!! เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของวินเซ้นต์ และต้องหาทางไปคุยกับผู้ปกครองเขา สร้างความเข้าใจเสียใหม่ งานสำคัญสำหรับการยังชีพก็จริง แต่คนในครอบครัวสำคัญกว่า ยิ่งเขายังเป็นเด็กน้อยยิ่งต้องการความอบอุ่นและการปกป้องดูแล ไม่ใช่การปล่อยปละละเลยเหมือนอย่างที่วินเซ้นต์ได้รับ ไม่เช่นนั้น เหล่าผู้ปกครองทั้งหลายจะเสียใจภายหลัง หากบุตร หรือหลานเกิดความผิดพลาดเดินทางผิด เพราะตั้งใจประชดประชันโลก