ตอนที่ 5 เข้าตาจน 1/2
ตอนที่ 5
เข้าตาจน
รถตู้สีขาวขับลัดเลาะเข้ามาในทางเล็ก ๆ ทั้งมืดและเปลี่ยว แดนดินที่ซุกตัวอยู่มุมหนึ่งทั้งหวาดกลัวและเสียขวัญ
แต่หนุ่มน้อยก็พยายามครองสติ และมองหาทางเอาชีวิตรอด
“พวกพี่จะพาผมไปไหน?”
ชายชุดดำเพียงปรายตามอง ก่อนที่มันจะรับสายจากนายของมัน
“ครับเสี่ย”
เสียงแว่วของเสี่ยโจดังเล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ แต่ก็ฟังไม่ได้ศัพท์ว่ามันสั่งลูกน้องว่าอย่างไร
“จอดตรงนั้น”
รถตู้หยุดกึกอยู่บนจุดโค้งบนสะพานข้ามคลอง แล้วพวกมันสองคนก็ช่วยกันลากแดนดินลงมายืนข้างราวสะพาน
อั่ก!
หมัดหนักถูกซัดเข้าที่ท้องของคนตัวเล็ก เสียงร้องของแดนดินดังเพียงแผ่วเบาเพราะเด็กหนุ่มจุกจนร้องไม่ออก น้ำตาเริ่มไหลอีกครั้งเพราะเริ่มหมดทางรอด
“นี่สำหรับที่มึงตีหัวเสี่ยจนต้องเย็บสิบกว่าเข็ม”
หนึ่งในนั้นบอกเหตุผลที่แดนดินต้องเจ็บตัว ก่อนที่มันจะยึดหัวไหล่ข้างหนึ่งของเขา แล้วผลักลำตัวไปเบื้องหน้า
ลำตัวช่วงบนของแดนดินยื่นไปกลางอากาศ เบื้องล่างเป็นน้ำในคลองที่กำลังเชี่ยวกราก เพราะประตูระบายน้ำเพิ่งถูกเปิดจนสุด
“และนี่คือของฝากจากเสี่ยโจโทษฐานที่มึงไม่ยอมเข้าไปกราบขอโทษ”
ชายร่างสูงออกแรงผลักจนเท้าของแดนดินลอยขึ้นจากพื้นสะพาน แต่มันยังไม่ปล่อยให้ร่างเล็กร่วงลงไปในคลอง
ทันใดนั้นแสงสว่างจากไฟหน้ารถคันหนึ่งก็สาดเข้ามา ตามด้วยเสียงตะโกนคุ้นหู
“ดิน!”
แดนดินเบิกตากว้างอย่างดีใจ ในที่สุดเหนือนทีก็ตามมาช่วยเขา แต่ไม่ทันที่เด็กหนุ่มจะร้องเรียกรุ่นพี่ ร่างของเขาก็ถูกผลักจนเสียหลักพลัดตกลงไปในน้ำ แล้วชายชุดดำสองคนก็รีบขึ้นรถตู้ขับออกไป
แม้จะว่ายน้ำเป็นแต่สายน้ำก็แรงมาก และร่างกายของเขาก็บอบช้ำจากการถูกต่อย แดนดินจึงผลุบ ๆ โผล่ ๆ ไปตามกระแสน้ำ
เหนือนทีและมีฟ้ารีบกระโจนลงไปในน้ำ ส่วนอิงครัตกับชวกรก็วิ่งตามอยู่บนแนวตลิ่ง คอยตะโกนบอกว่าข้างหน้ามีสะพาน ให้พยายามลอยตัวไปให้ถึง
กว่าจะช่วยแดนดินขึ้นมาจากน้ำได้ก็ทุลักทุเลกันทั้งสามคน
“น้องดินเป็นอะไรไหม เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ดินโอเคครับพี่เหนือ”
แดนดินรีบตอบ แม้ร่างกายจะปลอดภัย แต่แววตาหวาดกลัวก็ยังฉายออกมาอย่างชัดเจน ทั้งเหนือนที มีฟ้า ชวกร และอิงครัต ต่างพากันจ้องมองรุ่นน้องอย่างสงสัย
“ตกลงน้องดินไปมีเรื่องกับใคร ทำไมพวกมันถึงต้องทำขนาดนี้ นี่มันกะจะเอาถึงตายเลยเหรอ?”
“นั่นสิ นี่ใช่ไหมที่ดินบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา นี่ใช่ไหมปัญหาของดินในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น บอกพี่มาเดี๋ยวนี้” เหนือนทีคาดคั้นอีกคน
“คือ ดิน…”
เมื่อถูกคาดคั้นหนักเข้า แดนดินก็อึก ๆ อัก ๆ แม้ก่อนหน้าตั้งใจจะเล่าให้เหนือนทีฟังอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้อยากให้รุ่นพี่คนอื่น ๆ รับรู้เรื่องนี้ด้วยโดยเฉพาะมีฟ้า
แดนดินช้อนตาขึ้นมองเหนือนที ก่อนจะมองเลยไปที่มีฟ้าที่จ้องมองเขาอย่างสงสัยและจับผิด แดนดินกัดริมฝีปาก สีหน้าขบคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
ระหว่างทางที่ทั้งห้าคนเดินย้อนกลับไปขึ้นรถของเหนือนทีที่จอดทิ้งไว้ที่สะพานแรก แดนดินก็เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน
“บ้านของดินกำลังจะโดนยึด ดินก็เลยอยากหาเงินให้มาก ๆ เพื่อเอาไปไถ่บ้านคืนมา เพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ ๆ ดินถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้น ดินไม่ได้เอาเงินของเสี่ยโจมานะครับ แต่มันคงแค้นที่ดินตีหัวมันจนเลือดอาบ ได้ข่าวว่าเย็บไปหลายสิบเข็ม”
“มันคงเสียหน้าและแค้นมาก” เหนือนทีให้ความเห็นด้วยน้ำเสียงกังวล และเริ่มเป็นห่วงความปลอดภัยของแดนดิน
“พวกที่จับดินมามันบอกว่า ถ้าดินไม่ยอมเข้าไปพบเสี่ยโจ พวกมันจะฆ่าให้ตาย”
“โหดฉิบหาย” ชวกรทำท่าขนลุก ยกสองมือขึ้นถูต้นแขนของตัวเอง “มันไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้างหรือไง”
“พวกมีอิทธิพลก็แบบนี้” อิงครัตขมวดคิ้วมุ่น พอจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ในทางเสีย ๆ ของเสี่ยโจมาบ้าง
“แล้วทีนี้น้องดินจะเอาไงต่อ บอกพ่อเรื่องนี้หรือยัง?” เหนือนทีหันไปถามแดนดิน
“ให้พ่อรู้ไม่ได้นะครับ”
“แล้วไอ้เหนือมันจะช่วยอะไรน้องดินได้” ชวกรถามอย่างสงสัย
“อย่างน้อยชื่อเสียงของวรภัทรก็น่าจะทำให้เสี่ยโจเกรงใจบ้าง” แดนดินหันไปมองหน้าเหนือนทีด้วยสายตาอ้อนวอน “พี่เหนือช่วยรับดินเป็นแฟนได้ไหมครับ ถ้าดินเป็นคนของวรภัทร เสี่ยโจจะได้ไม่กล้ามาทำร้ายดินอีก”
“เดี๋ยว ๆ ๆ ๆ” มีฟ้าได้ยินดังนั้นก็รีบขัดขึ้นทันที “มึงเอาสมองส่วนไหนคิดเนี่ย?” เขาแทรกตัวเข้าไปเดินคั่นกลางระหว่างเหนือนทีกับแดนดิน สองมือยกขึ้นมาเกาะแขนเหนือนทีอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
แต่แดนดินที่คิดว่าตัวเองนั้นไม่มีทางเลือกอื่น ก็ยังยืนยันว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุด
“นะครับพี่เหนือ ดินไม่รู้จะพึ่งใครจริง ๆ มีแต่พี่เหนือคนเดียวที่จะช่วยดินได้ อย่าใจร้ายกับดินเลยนะครับ” แดนดินเสียงเครือเหมือนจะร้องไห้ พลางส่งสายตาอ้อนวอนเหนือนทีอย่างคนหมดหนทาง
เหนือนทีมีสีหน้าหนักใจ เขาเหลือบมองหน้ามีฟ้าสลับกับแดนดิน ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เรื่องไถ่บ้านพี่จะลองปรึกษาป๊าดูว่าพอจะช่วยอะไรได้บ้าง ส่วนเรื่องเสี่ยโจพี่ว่าควรใช้กฎหมายจัดการ”
แดนดินหน้าเศร้าลงในทันที แต่ก็ไม่เซ้าซี้เหนือนทีอีกต่อไป เด็กหนุ่มนั่งเงียบอยู่ในรถมาตลอดทาง ระหว่างที่รุ่นพี่ทั้งสามคนต่างก็พยายามหาทางช่วย ส่วนมีฟ้านั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ซุกร่างกายเปียกชื้นอยู่ข้าง ๆ เหนือนที แดนดินเผลอมองเป็นระยะ แม้จะเจ็บปวด แต่ก็พยายามจะตัดใจ
ไม่นานอิงครัตที่รับหน้าที่คนขับก็พารถมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง