บท
ตั้งค่า

ตอน "ฝากรัก ฝากรอย(2)" 3

เมษาย่อตัวลงเล็กน้อยใช้แขนอันแข็งแกล่งซ้อนตวัดร่างแน่งน้อยอุ้มขึ้นแนบอกพร้อมทั้งก้าวพาเดินไปยังลานจอดรถ โดยที่ไม่ได้ห่วงหญิงสาวอีกคนเลยที่ได้แต่วิ่งบ้างเดินบ้างตามหลังนิรุตติ์

“นายขับรถเป็นไช่ไหม” คุณน้าที่ยังอุ้มร่างบางหันมองนิรุตติ์เปล่งเสียดุๆ ถาม

“เปะ…เป็นครับ” นิรุตติ์เอ่ยรับเสียงติดขัด เกรงกลัวชายหนุ่มรุ่นพี่อยู่บ้าง เพราะเอขยังมีความผิดอยู่ กลัวป้านวลฉวีจะดุเอาเสียเหลือเกิน

“ไปขับรถ !!…ษานั่งหน้ากับนายรุตติ์นะครับ” เมษาโยนกุญแจรถให้นิรุตติ์แล้วหันไปมองหน้าอรอุษาที่ยื่นทำตัวไม่ถูกอยู่ข้างๆ

“ครับ / ค่ะ” นิรุตติ์และอรอุษารับคำโดยไม่มีข้อแม้ ส่วนนิรุตติ์เดินอ้อมไปฝังคนขับแล้วเปิดประตูรถสี่ประตูด้านข้างฝั่งหลังให้เมษาที่ยังอุ้มกังสดาล

“นะ…หนาว” กังสดาลยังสะลึมสะลือตาแทบจะลืมไม่ขึ้นเปรยเสียงสั่นๆ อยู่ในวงแขนของน้าชาย

“ชู่วว…ไม่หนาวนะครับ” วงแขนอันแข็งแกล่งกระชับโอบกอดร่างน้อยที่บอกว่าหนาวสั่นสะท้านนั้นไว้แน่นและให้ความอบอุ่นยิ่งขึ้น เรียวปากหนากระซิบบอกตรงกะหม่อมบางเรือนผมนุ่มนิ่มที่ยังมีความเปลียกชื้นนั่นก็โดนจูบสัมผัสด้วยเรียวปากหยักปลอบใจหลานรัก

“ฮืออ…แม่จ๋ากั้งหนาว” หญิงสาวพร่ำเพ้อละเมอเปรยเสียงอันสั่นเครือ เรียวตาหลับสนิทแต่มีน้ำใสๆ ไหลรินออกมาตามหางตา

เมษายิ่งปวดใจเมื่อก้มหน้าแววตาแดงก่ำจ้องมองสำรวจร่างบางที่มีแค่เสื้อยืดและกางเกงยีนส์ขาสั่นทำให้มองเห็นเนื้อหนังขาวซีดสั่นเล็กน้อย เขาไม่อยากจะคิดเลยถ้าเกิดมาช้ากว่านี้ ร่างน้อยที่กอดอยู่นี้จะมีเสียงพูดให้เขาได้ยินไหมนะ ไม่อยากคิด เมษายกเรียวมือยาวยื่นเข้าไปเช็ดน้ำตาที่ไหลมาตามปลายหางตาออกให้กับหลานสาวผู้ที่ได้ครองหัวใจของเขาไปนานแล้ว เธอคงจะเสียขวัญน่าดูเลยทีเดียว ในใจของเขาก็ภาวนาขออย่าให้แม่กระต่ายน้อยเป็นอะไรเลย ถ้าเธอเป็นอะไรไปเขาคงอยูไม่ได้ถ้าไม่มีเธอคนนี้ คนที่เขารักและเฝ่าเลี้ยงดูถนุถนอมมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เขามีใจให้เธอและรักเธอคนเดียว มันจะผิดไหมถ้าหัวใจของน้าและหลานตรงกันและรักกันซึ่งกันและกัน…

สามปีต่อมา…

หญิงสาววัยยี่สิบสองอยู่ในชุดนิสิตนักศึกษาปีสี่ ใบหน้าเรียวพริ้งพราวรูปไข่ปากนิดจมูกหน่อยรับกับทรงผมยาวสลวยถูกเครือบให้เป็นสีน้ำตาลอ่อนถูกปล่อยสยายยาวเยียดตรงถึงเอวคอด สาวเจ้ามีใบหน้าบูดบึ้งเล็กน้อยยามก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือนี่จะหกโมงแล้วนะ น้าเมฆยังไม่มารับเธออีก

กังสดาลอยู่ในชุดนิสิตกะทัดลัดแนนเนื้อจนมองเห็นรูปร่างสมส่วน เธอยืนชะเง้อคอยาวเป็นยีราฟอยู่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง มือหนึ่งสะพายกระเป๋าอีกมือหนึ่งยังถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบไม่ใหญ่นัก

“น้าเมฆนะน้าเมฆไหนว่าจะมารับกั้งไง นัดไม่เป็นตามนัด” หญิงสาวได้แต่ขมุมขยิมเรียวปากบ่นให้กับน้าชาย น้อยใจที่สุด สามปีที่เธอไม่เคยกลับบ้านเพราะต้องการที่จะศึกษาและตั้งใจภาคเรียนให้จบเร็วๆ แต่เพราะความคิดถึงมารดา เธอจึงโทรศัพท์ไปบอกทางบ้านว่าจะขอกลับไปเยี่ยมบ้านพร้อมนิรุตติ์ที่เป็นอดีตรุ่นพี่มหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่และยังเป็นพี่ชายที่ไม่เคยทิ้งเธอเลยตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

กังสดาลยิ้มเล็กน้อยเมื่อน้าชายรู้ว่าเธอจะกลับบ้านพร้อมนิรุตติ์ ชายหนุ่มก็รีบขันอาสาจะขึ้นมารับเอง แต่นี่ดูสิดูคนที่เธอคิดจะฝากชีวิตไว้กับยังไม่มีวี่แววจะมารับเธอเอาเสียเลย กังสดาลยืนนึกคำพูดของเขาที่ห้ามปรามและขอร้องเธอเมื่อสามปีที่แล้วว่าอย่าติดตามและทำอะไรที่ให้ความหมายกับนิรุตติ์มากนัก น้าชายของเธอบอกว่าหวงและหึงด้วย เขาและเธอต่างให้คำมั่นสัญญารักต่อกันก่อนที่เธอจะมาเรียนต่อที่กรุงเทพ

“ตั้งใจเรียนหนังสือนะคนดีของน้า” เมษากึ่งนั่งกึ่งนอนบนที่นอนหนานุ่มผ้าปูสีชมพูเป็นห้องของหลานรัก อีกไม่กี่ชั่วโมงเขาก็จะไม่ได้เข้ามนอนกอดหลานรักอีกแล้ว ชายหนุ่มขยับร่างเล็กน้อยแผ่นหลังอันแกล่งพักผิงหัวเตียงมีใบหมอนสีชมพูรองรับ

“ฮืออ…กะ…กั้งไม่เรียน” กังสดาลนอนนอนตะแคงข้างช่วงบนของร่างน้อยทับอยู่บนร่างหนา เรียวแขนสลวยยกขึ้นผาดไว้บนหน้าอกแน่น เธอเปรยเสียงสะอื้นน้ำตาไหลริน

“อย่าร้องไห้เลยคนดีของน้า” เมษาเอ่ยเสียงเข้มปลอบขวัญ ทรมานแค่ไหนที่จะต้องจากกัน พรุ่งนี้เช้ากังสดาลก็ต้องเดินทางไปเรียนต่อที่กรุ่งเทพ ใจไม่อยากให้ไปแต่เพื่ออนาคตของสาวเจ้า

“น้าเมฆขา…ขอแม่ให้กั้งหน่อยนะ กั้งไม่ไปเรียนที่กรุงเทพ” ใบหน้านวลที่นองไปด้วยน้ำตาแหงนมองปลายคางหนาที่เต็มไปด้วยหนวดเคราขึ้นเป็นต่อๆ ประปราย น้าชายของเธอดูหล่อเหลาไปอีกแบบ

“ดวงใจของน้าอย่าขัดใจแม่เลยนะ” ผงกรศีรษะขึ้นจากหัวเตียงแล้วก้มมองหน้าหลานสาวที่ยังแหงนมอง ส่งแววตาประสานกัน ต่างรับรู้ความรู้สึกของกันและกัน

“แต่กั้งไม่อยากไปนี้ค่ะ กั้งไม่อยากจากน้าเมฆจากที่นี่จากทุกคน ทำไมทุกคนต้องผลักใสให้กั้งไปเรียนไกลๆ ด้วย” ดวงตากลมโตเอ่อล้นไปด้วยน้ำตายังจับจ้องใบหน้าของน้าชายนั่นสั่นระริก กังสดาลร้าวรานใจไม่อยากไปไกลชายหนุ่มปวดใจสุดๆ เธอระบายความเจ็บโดยยกมือขึ้นกำเป็นกำปั้นน้อยทุบลงไปบนอกแข็งแกล่งนั่นสองสามที

“ซู่วว…ไม่ร้องนะคะ ไม่มีใครผลักใสกั้งหรอกนะ ทุกคนอยากให้กั้งได้เรียนสูงๆ” คนตัวโตรั้งมือบางให้หยุดทุบพร้อมทั้งยกกำปั้นนั่นแตะลงตรงริมฝีปากของตัวเอง เขาใช้ลำแขนข้างเดียวรั้งอุ้มร่างแน่งน้อยที่นอนอยู่ข้างๆ เปลี่ยนท่าให้ขึ้นมานั่งทับบนหน้าตัก ช่วงลำขาทั้งสองข้างที่เยียดยาวนั่นยกชันเข่าขึ้นกักขังเธอไว้อีกรูปแบบ

“ทำไมแม่ต้องให้กั้งไปเรียนที่กรุงเทพด้วยที่บ้านเราก็เรียนได้” คนร่างน้อยนั่งอยู่บนร่างของชายหนุ่ม เปรยกระซิบถามเสียงสั่นเครือ

“ไม่เอานาอย่าดื้อนะคนดี ที่แม่ต้องการให้กั้งไปเรียนต่อที่กรุงเทพเพราะอนาคตของกั้งนะคะ” เมษาลุกนั่งแผ่นหลังพิงหัวเตียง ลำแขนกำยำทั้งสองข้างโอบกอดรอบเอวคอดไว้ ไม่ให้ขยับออกจากหน้าตัก

“กั้งไม่อยากมีอนาคต ถ้าตรงนั่นไม่มีน้าเมฆ นี้น้าเมฆก็อยากให้กั้งไปไกลหูไกลตาใช่ไหม?” กังสดาลจ้องมองหน้าชายหนุ่ม น้ำตาไหลนองพวงแก้ม น้อยใจที่เห็นคนที่เธอรักไม่อยากให้เธออยู่ไกล้

“กั้งทำไมพูดแบบนั้นคะ? รู้ไหมน้าก็ปวดใจทรามานหัวใจแค่ไหนเมื่อรับรู้ว่ากั้งจะไปเรียนต่อที่กรุงเทพ” คนตัวสูงขยับตัวเล็กน้อยแขนข้างขวายังโอบกอดร่างน้อย เรียวมือหนายังลูบไล้แผ่นหลังนวลนิ่ม ส่วนมืออีกข้างยื่นเข้าไปเกรื่อเช็ดน้ำตาให้กับหญิงสาว

“แล้วทำไมน้าเมฆไม่ขอแม่ให้กั้งล่ะคะ” กังสดาลยกมือขึ้นปัดมือหนาออกจากพวงแก้ว เธอใช้หลังมือของตัวเองเช็ดน้ำตาแทน แล้วรีบสะบัดใบหน้าหนีแววตาสีเข้มที่เอาแต่จ้องมองเธอ

“น้าอยากให้กั้งได้เรียนสูงๆ จบแล้วจะได้เอาความรู้มาช่วยน้าทำงานที่ไร่และที่รีสอร์ทของเราไงค่ะ” เมษาถึงจะเสียใจและไม่สามารถทำตามขอของคนตัวบางได้ แต่เขาก็ยังกระตุกยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย เรียวมือใหญ่ยื่นเข้าไปเชยคางมนให้หันกลับมามอง แววตาของคนทั้งสองประสานกัน

“น้าเมฆออกจะเก่งทำไมต้องให้กั้งช่วยทำงานด้วยค่ะ…”

“ไปเรียนแค่สามปีเอง จบกลับมาน้าจะพูดเรื่องของเรากับแม่นะคะ กั้งเรียนจบเมื่อไรเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของน้านะคนดี…”

“น้าเมฆขา กั้งรักน้าเมฆค่ะ…”

“น้าก็รักกั้ง ไปอยู่กรุงเทพอย่ามีสายตาแบบนี้มองหนุ่มๆ นะ โดยเฉพราะนายรุตติ์นั่น…”

“กั้งจะมองใครได้ล่ะคะ หัวใจของกั้งเป็นของน้าเมฆแล้ว ว่าแต่น้าเมฆเถอะอย่าแอบมีใจให้น้าษาละกั้งไม่ยอมด้วย” กังสดาลหัวใจหวิวๆ เจ็บจุก ยามได้เอ่ยชื่อของอรอุษา ตากลมโตสั่นระริกๆ เอาแต่จ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเข้มคู่นั่น

“น้าไม่มีใครแน่นอน เพราะทุกสี่ห้องหัวใจมันเป็นของกั้งตั้งนานแล้ว น้าจะขอกั้งกับพี่นวลแต่งงานกับน้าทันทีเมื่อกั้งเรียนจบนะคนดี…”

“ค่ะ…กั้งจะแต่งงานกับน้าเมฆ...”

“กั้งต้องตั้งใจเรียนนะ อีกสามปีเตรียมตัวเป็นเมียน้าได้เลยนะคนดี” เมษาโน้มใบหน้าเข้าหา เรียวปากหยังจูบตั้งแต่ดวงตากลมโตไล่จูบสัมผัสตามพวงแก้มสีชมพูเม็มเล็กเม็มตามหยุดตรงริมฝีปากบางเรียวอมชมพู ปากหยักตอดเล็กตอนน้อยเล่นอยู่อย่างนั่น

“คะ…ค่ะ” เสียงสั่นไหว่เพราะสัมผัสอันอบอุ่นที่ชายหนุ่มมอบให้ กังสดาลทนความวาวหวามไม่ไหวรีบยกมือขึ้นผลักใบหน้าของเขาออกแล้วรีบเบียดร่างกายเข้าหาร่างหนา ซบใบหน้าลงบนอกแกล่ง แนบหูฟังเสียงหัวใจของเขาเต็นดังตึกตักๆ แข่งกับเสียงหัวใจของเธอที่เรียกร้องและไม่อยากออกจากอ้อมกอดของเขาไปไหนเลย……

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel