ึ7 หนีเสือปะจระเข้
“เอ๊ะ! ไอ้บ้านี่ร้องทำไม”
สาวผมทองลืมตาขึ้น กวาดมองไปรอบๆ ตัว จากแสงสว่างของพระจันทร์ข้างขึ้น เห็นร่างอ้วนของชายหื่นนอนก้มหน้าอยู่กับพื้นริมถนนที่เต็มไปด้วยหญ้าและวัชพืชสูงเกือบหัวเข่า เธอลุกขึ้นนั่งด้วยความรู้สึกบอกกับตัวเองว่าจะต้องมีใครบางคนทำให้มีอันเป็นไปเช่นนี้
“ใคร ใครทำเขา แล้วลูกกุญแจล่ะอยู่ที่ไหน ช่วยด้วย”
ความกลัวจู่โจมเข้ามาเกาะกุมจิตใจอย่างรวดเร็ว รับรู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น ก้มมองตัวเองเห็นความเปลือยเปล่าของหน้าอกซึ่งปราศจากอาภรณ์ปกปิด แม้ว่าทำอาชีพบริการแต่ก็มียางอาย ถ้าหากมีคนเห็นเธอจะทำอย่างไร
ขณะที่กำลังหันรีหันขวางอยู่นั้น ใครบางคนในชุดคลุมยาวสีดำยืนอยู่ท้ายรถ เสียงหัวเราะหึๆ ดังขึ้น เจ้านั่นซ่อนใบหน้าเอาไว้ภายใต้ฮู้ด ขณะนี้กำลังก้าวเดินช้าๆ เสียงลมหายใจดังครืดคราดราวกับว่ามีเสลดพันติดในลำคอ
ในจังหวะนั้นเองหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายหันมาเห็นพอดี ชะงักงันไปชั่วครู่ ใจหายวะวาบ ความกลัวละลอกที่สองเกิดขึ้น เย็นเยียบไปทั่วทั้งเรือนร่าง
“ช่วยฉันด้วย ไอ้นั่นมันล็อกแขนฉันเอาไว้ หาลูกกุญแจไขให้ฉันที”
เธอร้องขอความช่วยเหลือด้วยปากคอสั่น แม้ว่ากลัวแทบขาดใจ แต่พยายามที่จะควบคุมสติให้กลับมาโดยเร็วที่สุด ดวงตาคู่คมยังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างในชุดคลุมตลอดเวลา ไม่มีคำพูดใดๆ นอกจากความเงียบและเห็นว่ากำลังเดินใกล้เข้ามาทุกที
“คุณ คุณ ช่วยฉันด้วย”
เงียบ! เสียจนหญิงสาวสั่นไปทั้งร่าง กลัวว่าจะถูกทำร้ายซ้ำ พยายามที่จะเอี้ยวตัวหลบ ซ่อนความอล่างฉ่างของหน้าอกเอาไว้กับเบาะรถ และแล้วใจเต้นแรงด้วยความดีใจเมื่อเห็นว่าเจ้านั่นชูลูกกุญแจให้ดู หญิงสาวดีใจสุดขีด
“ลูกกุญแจนี่ ช่วยไขกุญแจมือออกด้วยค่ะ”
เธอขยับร่างให้อยู่ในลักษณะลุกนั่งอีกครั้งยื่นมือทั้งสองข้างที่ถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือไปให้ชายนิรนาม บัดนี้เอาลูกกุญแจสอดเข้าไปในรู ไขออกอย่างง่ายดาย ทันทีที่ได้รับอิสระหญิงสาวคว้าเศษเสื้อเกาะอกมาปิดคลุมของพึงสงวนและลงมาจากรถ ยกมือไหว้บุรุษในยามวิกาล ขอบคุณต่อความเมตตา
“ขอบคุณมากนะคะ”
เสียงหัวเราะหึๆ ได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนที่เธอจะก้าวเดิน กรงฝ่ามือเกร็งขยุ้มลงบนศีรษะกระชากผมหยิกสีทองเต็มแรง ร่างงามสะดุ้งเฮือก หวีดร้องสุดเสียง
“อ๊ายยย ปล่อยนะ ปล่อย”
ยกสองมือขึ้นไปจับที่เส้นผมตัวเองเอาไว้ หญิงสาวพยายามแกะมือเจ้าวายร้ายออก แต่กลับกลายเป็นว่าเพิ่มความโกรธให้แก่มันมากยิ่งขึ้น ออกแรงกระชากลากถูให้ลงไปจากถนน ความเจ็บปวดเกิดขึ้นเมื่อผิวเนื้อครูดลงไปบนกรวดหินและกิ่งไม้ใบหญ้า เสียงหวีดร้องดังขึ้นเป็นระยะ แต่ไม่อาจหยุดยั้งความโหดเหี้ยมจากชายในชุดคลุมให้หยุดการกระทำลงได้
“ช่วยด้วย อย่า อย่า ฉันกลัวแล้ว”
คำร้องขอไร้ผลเมื่อฝ่ามือทรงพลังซัดผลั๊วะลงไปที่ใบหน้าเต็มแรง เธอสะดุ้งเฮือก กรีดร้องอีกครั้ง ความเจ็บปวดเกิดขึ้นทันที เห็นดาวพราวพร่างระยิบระยับ มีความรู้สึกว่าแก้มด้านนั้นบวมเป่ง จู่ๆ ของเหลวเหนียวหนืดไหลออกมาจากจมูกเลื่อนเข้าสู่ริมฝีปากที่เผยออ้า
เธอรับรู้รสชาติความเค็มของเลือดที่เหม็นคาว เธอไม่อาจส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือใดๆ ได้อีกต่อไปเพราะอยู่ในอาการเจ็บหนัก
มันเปลี่ยนจากกระชากเส้นผมมาเป็นลากแขนไปในพงหญ้าอย่างช้าๆ ผ่านร่างเจ้าอ้วนที่ยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่ละครั้งที่ถูกกระชากลากถูไปตามพื้น ใบหญ้าบาดเนื้อขาวผ่องให้เกิดบาดแผล เจ็บปวดราวกับถูกมีดคมๆ กรีดเฉือน
“ปล่อยฉัน ได้โปรด”
เสียงแผ่วๆ เล็ดลอดออกจากริมฝีปากสั่นระริก ร้องขอความเมตตา แม้รู้ว่าไม่มีหวัง แต่เธอก็พยายามจนสุดความสามารถเพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤติแห่งชีวิตอันน่ากลัว ทว่า กลับไร้ผล เมื่อร่างงามถูกเหวี่ยงขึ้นจากพื้น พุ่งไปข้างหน้าที่เต็มไปด้วยกองขยะสกปรกสูงท่วมหัว เจ้าโหดก้าวเดินเข้ามาหาอย่างช้าๆ เมื่อหญิงสาวขยับถอยหน้าด้วยความกลัว
ความสกปรกจากสิ่งเน่าเหม็นไม่เป็นอุปสรรคต่อการคืบคลาน เวลานี้รู้อย่างเดียวว่าจะต้องหนีให้พ้น
ชายคนนี้น่ากลัวว่าเจ้าอ้วนจอมหื่นคนเมื่อครู่ ความเหี้ยมโหดที่กระทำต่อเธอนั้น มีจุดมุ่งหมายต่อชีวิต
“อย่าเข้ามานะ”
ฝ่ามือควานไปเจอขวดเก่าๆ เขลอะไปด้วยคราบเศษอาหารเน่าที่เกาะอยู่รอบๆ นิ้วมือกดลงไปเต็มแรงสัมผัสกับความเหนียวหนืด แต่เวลานี้เธอไม่สนใจแต่อย่างใด รู้แต่เพียงว่าเป็นอาวุธชั้นดี ช่วยให้รอดพ้นจากอันตราย