บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

“ทำไมถึงต้องมาพักไกลขนาดนี้ด้วยนะยายฟ้า โอ๊ย! แล้วรถที่เช่ามาก็เก่า มันจะพาเราไปรอดไหมเนี่ย” เสียงบ่นของกณิการ์ ทำให้ทอฟ้าอมยิ้ม แล้วแกล้งดับเครื่องเอาเสียดื้อๆ เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับหน้าซีด แล้วหันมามองเธอพลางทำตาโต

“ยายฟ้า เห็นไหม ดับแล้ว ดับสนิทเลย ตายแล้ว! กลางป่ากลางดอยแบบนี้ ใครจะมาช่วยเราละ”

“เดินไปสิ รีสอร์ตชมภู อยู่อีกไม่กี่สิบกิโลเมตรเอง ถ้ากิ๊กจะถามหาเบอร์ของรีสอร์ต เราไม่มีนะ พอดีแบตเราหมด เปิดโทรศัพท์ดูไม่ได้”

“โอ้ว...มายก็อด” กรณิการ์ทำตาโต อุทานออกมาเสียงลั่นพลางยกมือขึ้นทาบอก ท่าทีนั้นทำให้ทอฟ้าอดหัวเราะขำอีกฝ่ายไม่ได้ แล้วสตาร์ทรถใหม่เครื่องยนต์ครางกระหึ่มเป็นปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เล่นเอากรณิการ์ถึงกับมองหน้าเพื่อนรักอย่างงงๆ ต่อจะตวัดมือตีแขนทอฟ้าดังเพี้ยะ! จนอีกฝ่ายต้องครวญออกมาเบาๆ

“เจ็บนะ ยายกิ๊ก รถดีแล้วขับไปได้แล้ว จะมาตีเราทำไมล่ะ”

“ก็มาแกล้งเราทำไมกันล่ะ” กรณิการ์กอดอก พลางทำหน้างอ ขณะที่ทอฟ้าหัวเราะอย่างถูกใจ แล้วเอ่ยเสียงใสๆ อย่างล้อเลียนเพื่อนรัก

“แหม....ก็เห็นกิ๊กบ่นเก่ง บ่นไม่หยุดเลย ก็เลยอยากให้กิ๊กหยุดบ่นบ้างยังไงล่ะ ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงนะ บ่นตั้งแต่ลงเครื่อง บ่นต่อตอนที่เราไปเช่ารถ บ่นจนเราจะถึงรีสอร์ตกันอยู่แล้วเนี่ย”

“แหม...” กรณิการ์ลากเสียงยาว หน้าแดงเรื่ออย่างละอาย ที่ตนเองพูดพร่ำบ่นมากขนาดนั้น เธอเสยผมแก้เก้อ แล้วพึมพำแก้ตัวอุบอิบ

“ไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย ฟ้ารำคาญก็บอกตรงๆ สิเราจะได้หยุดบ่น”

“อย่างกิ๊ก หยุดพูดได้เกินสองนาทีด้วยหรือ?” ทอฟ้าหันมาถามด้วยสีหน้ายิ้มๆ เล่นเอาอีกฝ่ายต้องตีแขนเอาอีกเพี้ยะ รอยนิ้วแดงหราเลยรอบนี้ ทอฟ้าถึงกับหันมาค้อนเธอเอาบ้าง

“เจ็บนะ เราพูดผิดตรงไหน พูดเรื่องจริงล้วนๆ”

“ไว้หน้าเราบ้างก็ได้น่า เฮ้อ...สงสัยเราจะบ่นเก่งแบบนี้ล่ะมั้ง หนุ่มๆ ถึงหนีเราหมด” กรณิการ์แลบลิ้นเมื่อพูดประโยคนี้ออกไป ทอฟ้าเลยหัวเราะอย่างถูกใจ ก่อนจะเอ่ยสนับสนุนเสียงหวาน

“คงจะแบบนั้นแน่ๆ เลย เราถึงโสดอยู่ด้วยกันยังไงล่ะยายกิ๊ก จะว่าไปหาหนุ่มๆ แถวๆ เชียงราย จะยังมีดีๆ โสดๆ เหลือบ้างไหมนะ”

“หืม?” กรณิการ์ถึงกับหันขวับเลยรอบนี้ พลางพินิจมองเสี้ยวหน้าหวานแอร่มของทอฟ้า อย่างไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้จากเพื่อนรักของเธอ ทอฟ้าไม่เคยมีทีท่าอยากจะสนใจใคร หรือแสวงหาความรัก ตรงกันข้ามออกจะวิ่งหนีเสียด้วยซ้ำไป ทอฟ้ามุ่งมั่นแต่ในเรื่องงาน และเรื่องของน้องสาวเพียงเท่านั้น การได้ยินเพื่อนสนิทพูดแบบนี้ มันเลยทำให้กรณิการ์นึกแปลกใจมาก

“นี่คึกอะไรขึ้นมายะ คุณนายฟ้าถึงอยากจะหายโสด แปลกจริงๆ”

“ถึงเวลาแล้วมั้ง” ทอฟ้าตอบยิ้มๆ ขณะที่กรณิการ์ยังคงหรี่ตาและมองหน้าเพื่อนสาวอย่างนึกสงสัย หมู่นี้ทอฟ้าทำตัวแปลกๆ อย่างไรพิกล ดูอย่างเรื่องลาออกจากงาน มาเที่ยวนี่ก็แปลกเรื่องหนึ่งแล้ว ปรกติทอฟ้ารักงานของตัวเองจะตายไป แม้จะเศร้าเสียใจเรื่องพร่างดาวจนจะไม่มีอารมณ์ทำงานก็เถอะ แต่ก็ไม่น่าลาออก และหนีมาเที่ยวไกลขนาดนี้ แต่เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจก็เพียงเท่านั้น

รถของสองสาวเกิดอาการกระตุก และดับไปดื้อๆ อีกครั้ง รอบนี้กรณิการ์กอดอก พลางปรายตามองทอฟ้า ที่หน้าซีดลงเลยทันที เธอเอ่ยลอยๆ เสียงขรึม

“อะแฮ่ม! จะมาหลอกกันรอบสองหรือยังไงยะยายฟ้า ไม่สำเร็จหรอก อย่ามาแกล้งกันเลย หิวข้าวเย็นแล้วนะยะ”

“รอบนี้ไม่ติดจริงๆ นะ ไม่ได้แกล้ง” ทอฟ้าว่าพลางยิ้มแหย เล่นเอาคนฟังแทบจะเป็นลม กรณิการ์ครวญออกมาเสียงอ่อน

“อะไรนะ รอบนี้พังจริงๆ น่ะเหรอ ทำยังไงดีล่ะยายฟ้า นี่แหละอยากมาแกล้งเราดีนัก เห็นไหม ฟ้าดินเลยลงโทษ ให้รถพังจริงๆ เสียเลย”

“ใจเย็นๆ น่า” ทอฟ้าเอ่ยเสียงปลอบๆ ก่อนจะเม้มริมฝีปาก เธอหยิบเอาโทรศัพท์มือถือซึ่งอยู่ในกระเป๋าถือออกมา มันแบตเตอรี่หมดอย่างที่เธอแกล้งหลอกกรณิการ์จริงๆ เสียด้วย หญิงสาวพยายามค้นเอกสารเกี่ยวกับรีสอร์ตซึ่งเธอมาพัก แล้วในที่สุดก็เจอ เธอยื่นส่งให้กับเพื่อนสนิท ที่ตั้งที่จะเริ่มบ่นกับความแผลงของทอฟ้า ที่แกล้งเล่นตลก จนเกิดรถเสียขึ้นมาจริงๆ

“เอ้า! นี่โทรศัพท์บอกทางรีสอร์ตที เดี๋ยวเขาก็ส่งคนมารับ”

“ได้ย่ะ” กรณิการ์ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา พลางทำหน้าซีด ก่อนจะอุทานเสียงหลง “ตายล่ะ! ยายฟ้า แบตมันเหลือจี๊ดเดียว จะได้ทันคุยกันรู้เรื่องไหมเนี่ย”

“ลองดูก่อนน่า” แม้จะใจเสีย แต่ทอฟ้าก็ยังควบคุมสติของตนเองได้อย่างดีเยี่ยม เธอเปิดประตูรถคันกลางเก่ากลางใหม่ลงไป แล้วมองดูรอบๆ มีเพียงต้นไม้อยู่ล้อมรอบ และไร่สัปปะรดของชาวบ้านก็เท่านั้น ปราศจากผู้คนดีเสียจริงๆ หญิงสาวเปิดกระโปรงหน้ารถ ไอร้อนพวยพุ่งออกมาเลยทันที จนหญิงสาวต้องผงะถอย พลางสะบัดมือเร่าๆ

“อุ๊ย! เฮ้อ...แล้วเราจะทำอะไรได้นะ หวังว่าแบตของยายกิ๊ก คงจะมีพอที่จะคุยกันรู้เรื่องนะ” เธอมองซ้ายมองขวา ราวกับจะมองหาผู้ช่วยสักคน แต่ก็ไร้วี่แววของผู้คน ทอฟ้าเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าพลางหลับตา แล้วพึมพำอธิษฐานในใจ ว่าขอเจ้าชายขี่ม้าขาวสักคน ที่จะมาช่วยเธอและเพื่อนรักจากสถานการณ์แบบนี้ แต่จะมีไหมนะ...

‘ดูเหมือนเราจนแต้มแล้วจริงๆ ถึงได้คิดพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบนี้’

“ยายฟ้า แบตฉันหมด ยังไม่มันได้อธิบายเลยว่าเราอยู่ตรงไหน ทำยังไงดี” เสียงแหลมๆ ของเพื่อนรักดังขึ้น พร้อมกับร่างเพรียวที่ก้าวออกมาจากรถ ใบหน้าของกรณิการ์ซีดเผือดเลยทีเดียว ทอฟ้าเองก็กัดริมฝีปากแน่น แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้กำลังใจกรณิการ์ สาวขี้กังวล แถมขี้บ่น เพื่อไม่ให้เพื่อนสนิทของเธอใจเสียไปมากกว่านี้

“ใจเย็นๆ น่าเดี๋ยวเขาก็ออกตามหาเราเองแหละ”

“สาธุ! คุณพระคุณเจ้า ส่งใครก็ได้มาช่วยลูกทีเถอะค่ะ” รอบนี้กรณิการ์ยกมือไหว้ แถมขอร้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาการนั้นเหมือนทอฟ้าเมื่อครู่เปี๊ยบ ต่างกันตรงทอฟ้ามีฟอร์มมากกว่า ไม่ได้ยกมือไหว้บนบาน เล่นเอาหญิงสาวหัวเราะคิกอย่างอดไม่อยู่ เลยโดนขว้างค้อนเข้าให้

“คุณนายฟ้า หน้าสิ่วหน้าขวานยังจะมีอารมณ์ขำนะยะ”

“ขำกิ๊กน่ะแหละ” ว่าแล้วทอฟ้าก็หัวเราะเอา หัวเราะเอา จนกรณิการ์ต้องมองค้อนตาเขียว เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักไม่หยุดเสียที กรณิการ์ก็เริ่มจะเงื้อมือตี หากแต่ทอฟ้ากลับหลบ เอาไปเอามาสองสาวก็วิ่งหนีวิ่งไล่กันรอบรถ จนเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่

“พอแล้วๆ ยายฟ้า โอ๊ยเหนื่อย มาชวนเล่นอะไรบ้าๆ แบบนี้น่ะ”

“ไม่ได้เล่นสักหน่อย” ทอฟ้าก็หอบไปเลยเหมือนกัน “กิ๊กจะตีเราทำไมล่ะ เราก็หลบน่ะสิ กิ๊กน่ะแหละ วิ่งไล่ตีเราเป็นเด็กๆ ไปได้”

“นี่ถ้าลูกน้องของเธอมาเห็น คุณทอฟ้า เวอร์ชั่นวิ่งไล่จับแบบนี้เข้า คงจะตกใจเลยนะ เพราะปรกติแล้วฟ้าชอบทำหน้าเคร่งๆ ตาดุๆ ประจำ เวลาเราไปหาที่ออฟฟิศ”

“แหม....คนเราก็ต้องมีฟอร์มบ้างสิ ถ้าไม่อย่างนั้นก็ปกครองคนไม่ได้ แต่อยู่กับกิ๊กทีไร เราเป็นอันต้องหลุดทุกที” ทอฟ้ายิ้ม เมื่อนึกถึงตนเองในมาดของหัวหน้าบรรณาธิการสุดเฮี้ยบ ทำไมเธอจะไม่รู้เล่า ว่าบรรดาลูกน้องเรียกเธอลับหลังว่าอย่างไร นางแม่มดบ้าง เจ้าแม่น้ำแข็งบ้าง ยายบ้าอำนาจบ้าง แต่การทำงานบางทีก็ต้องเข้มข้น ถ้าไม่อย่างนั้นก็เสียการปกครองในแบบของเธอ แต่กับเพื่อนรักอย่างกรณิการ์แล้ว เธอก็เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่

คิดถึงงานที่ต้องลาออก แถมยังเป็นงานที่เธอรัก ใบหน้าสวยหวานก็สลดลงชั่ววูบ กรณิการ์จับสังเกตอาการนั้นได้ดี จึงแตะมือเพื่อนสนิทเบาๆ แล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน

“คิดถึงงานล่ะสิ เดี๋ยวถ้าสบายใจฟ้ากลับไปขอทำงานใหม่ คุณเจมส์ก็ยอมอยู่แล้วล่ะ”

“....” ทอฟ้าเพียงแค่ยิ้มตอบเพื่อนรัก แล้วตอบในใจว่า เธอคงจะกลับไปทำงานที่สนพ.เก่าลำบาก ถ้าแผนการของเธอสำเร็จ

เสียงรถดังขึ้นมา ทำให้สองสาวถึงกับตาโต แล้วหันขวับทันที รถโฟว์วิวสีขาวคันใหญ่ กำลังแล่นมาบนถนน กรณิการ์ถึงกับลงทุนไปยืนกลางถนนแล้วโบกมือเลยทันที รถคันนั้นค่อยชะลอความเร็วแล้วจอดนิ่ง ก่อนที่เจ้าของรถจะเปิดประตูลงมา

“คุณคะ ช่วยพวกเราด้วยค่ะ รถเสีย ว้าว! หล่อ” กรณิการ์ที่ตั้งใจจะไปขอความช่วยเหลือ ถึงกับเผลออุทานออกมาอย่างลืมตัว เมื่อเห็นหน้าเจ้าของรถคันหรู เขายิ้มนิดๆ อย่างร้ายกาจให้เธอ ยิ่งทำให้กรณิการ์แทบจะเป็นลมเพราะเสน่ห์อันบาดใจนั่น

“ยินดีครับ”

“ทางนี้ค่ะ” กรณิการ์ถือวิสาสะ จับไม้จูงมือเจ้าของรถสุดหล่อ ให้เดินไปยังรถของพวกเธอทันที ทอฟ้าที่ยืนรออยู่ถึงกับตาเบิกโพลง เมื่อเห็นว่าใครเดินมากับเพื่อนรักของเธอ!

สวรรค์คงจะเห็นใจเธอ อยากให้เธอได้แก้แค้นให้กับพร่างดาว เธอไม่คิดว่าจะเจอศรุต ประกายกุลรวดเร็วขนาดนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel