บทย่อ
ทอฟ้าหญิงสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นที่น้องสาวของเธอฆ่าตัวตาย จากการกระทำของผู้ชายแสนเลวอย่างศรุต ประกายกุล เธอต้องการให้หัวใจเขาสลาย เหมือนกันกับพร่างดาว ทำให้ชีวิตเขาต้องพังพินาศ เหมือนกันกับที่น้องสาวของเธอได้รับ แต่แล้ว.... เมื่อนางพรานต้องการจะไปดักเสือร้ายอย่างเขา เธออาจจะต้องแลกทั้งร่างกายและ...หัวใจ เพื่อการแก้แค้นครั้งนี้ “ผมอยากเกลียดคุณนักทอฟ้า...” เสียงห้าวเอ่ยกระซิบออกมาอย่างลืมตัว เมื่อกอดร่างงามเข้ากระชับตัว ทอฟ้าหายใจสม่ำเสมอไปแล้วเพราะความเหนื่อยเพลียจากเกมรักอันแสนเร่าร้อนและหนักหน่วง “แต่ทำไมผมยังรักคุณอยู่ได้ ต่อให้คุณเกลียดผมยังไง ผมก็รักคุณอยู่ดี” ชายหนุ่มเอ่ยกับตัวเองอย่างเจ็บปวด พลางหลับตาลง แม้ตอนนี้เธอจะยังเกลียดเขา และเขาก็ไม่รู้ถึงสาเหตุแห่งความเกลียดนั้น แต่ไม่ว่าจะอย่างไร เขาก็ต้องยึดรั้งเธอไว้ข้างตัว เธอเป็นสมบัติของเขา ที่จะไม่มีวันปล่อยให้หลุดหายไปไหนอีก ต่อให้ทอฟ้าเกลียดเขา ก็อยู่ไปกันทั้งเกลียดๆ นี่แหละ...หัวใจของเขามันมีเพียงดวงเดียว และรักแน่วแน่มั่นคง อย่างไม่น่าให้อภัย แม้แต่กับผู้หญิงร้ายกาจอย่างทอฟ้าเองก็ตามที
บทที่ 1
เมื่อภาพของนางแบบบนจอคอมพิวเตอร์ สวยสมกับความต้องการและตรงตามกับแบบที่วางไว้ ทำให้หญิงสาวที่นั่งมองผลงานทั้งหมดอยู่ถึงกับยิ้มกว้างออกมาได้ในที่สุด ท่ามกลางความลุ้นระทึก ของเหล่าทีมงานและนางแบบ ที่กำลังแอบลุ้นอยู่หน้าห้องของเธอ เพราะกลัวว่างานจะไม่ผ่าน แล้วต้องทำกันใหม่หมดอีกรอบ
“เซตนี้เกิดไหมคะ คุณฟ้า” เสียงของคนซึ่งทำหน้าที่คุมแฟชั่นหนนี้เอ่ยอย่างหวั่นๆ เมื่อมองดูใบหน้าสวยหวาน งดงามของหญิงสาวผู้มีตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการ ซึ่งควบคุมทุกอย่างของนิตยสารแฟชั่นชื่อดังอย่าง ป๊อบ สวีท เป็นนิตยสารที่มีวัยรุ่น และหญิงสาววัยทำงานอ่านมากที่สุดอีกนิตยสารหนึ่ง เนื่องจากแฟชั่นและเคล็ดลับต่างๆ ในเล่ม รวมถึงคอลัมน์ที่มี ถูกใจผู้หญิงสาววัยทีน และหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ ยิ่งนัก
“ใช้ได้เลย” นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเปล่งประกายเจิดจ้า พร้อมกับยิ้มน้อยๆ เผยลักยิ้มน่ารักที่แก้มด้านขวาของเจ้าตัว เล่นเอาทีมงานทั้งหมดแล้วจะร้องไชโยออกมาอย่างดีใจ เมื่อได้ยินดังนั้น
“ถ้าอย่างนั้น พวกพี่ไปจัดการเลยนะคะ เซตนี้ขลุกขลักไปนิด ทั้งเรื่องสถานที่และนางแบบ แต่พวกเราก็พยายามทำให้ดีที่สุดนะคะคุณฟ้า” เตือนจิตมองหน้าสวยเก๋ของบรรณาธิการสาวอย่างขลาดๆ คุณฟ้าที่พวกเธอเรียก หรือทอฟ้านั้น ค่อนข้างเคี่ยวนักในการทำงาน เรียกได้ว่าพิถีพิถันกันทุกขั้นตอน กว่าจะได้เป็นนิตยสารเสร็จสมบูรณ์ในแต่ละเดือนออกมา ทุกคอลัมม์ ทุกเซตแฟชั่น ถูกคัดเลือกมาเป็นอย่างดี และผ่านสายตาระดับเอ็กซ์เรย์ของทอฟ้าเท่านั้น ถ้าไม่ผ่าน ก็ต้องไปแก้งานกันใหม่ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกกันเลยทีเดียว แม้กระทั่งเซเล็บดังขนาดไหน ที่มาเขียนคอลัมม์ให้ ก็ยังต้องยอมก้มหัวให้กับบรรณาธิการสาวอย่างทอฟ้า เวลาที่เธอต่อว่าและติเตียนเกี่ยวกับเรื่องงาน และให้แก้ไขใหม่อีกรอบ
“ไม่ว่ากันหรอกค่ะพี่เตือน ก็อย่างว่ามันมีเรื่องหลายอย่าง แต่ทำได้ขนาดนี้ก็ดีแล้วล่ะค่ะ อ้อ...น้องนางแบบคนนี้ จ้างไว้ประจำเล่มของเราเลยก็ได้นะคะ ดูสวยเก๋ และคงจะแต่งหน้าได้หลายแบบดี ส่วนคนเก่า พี่เตือนบอกเลิกจ้างไปเลยนะคะ ฟ้าไม่อยากได้คนไม่รับผิดชอบไว้ทำงานกับเรา” น้ำเสียงตอนท้ายราวกับเสียงสั่งประกาศิต ทำให้เตือนใจที่กำลังจะอ้าปากแก้ตัวแทน ถึงกับหุบปากฉับ แล้วพยักหน้าอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านั้น เพราะรู้กันดีว่าทอฟ้าเด็ดขาดขนาดไหน ตัดสินใจแล้วก็ไม่มีทางถอยแน่ๆ และยากนักที่ใครจะคัดค้าน
“ค่ะ”
“รอบหน้าพี่เตือนอัพเดตแฟชั่นที่ชิบูย่าด้วยนะคะ สาวไทยชอบแต่งตัวสไตล์สาวญี่ปุ่นมากขึ้น บางทีเราอาจจะทำเป็นเล่มที่เจาะลึกแฟชั่นญี่ปุ่นเลย อ้อ...หานางแบบออกหน้าโซนนั้นให้ฟ้าด้วย จ้างพิเศษจากที่ประจำเล่มเราสักคนสองคน ส่วนเรื่องช่างแต่งหน้า เดี๋ยวฟ้าจัดการให้น้องๆ เอง” ทอฟ้าสั่งงานส่งท้าย เตือนใจจดรายละเอียดแล้วขอตัวออกไปจากห้อง ทิ้งให้หญิงสาวทำงานเพียงลำพังอีกครั้งหนึ่ง
มือเรียวยังคงคาอยู่ที่เม้าท์ เพื่อคลิกดูรูปภาพไปเรื่อยๆ อิมเมจรอบนี้น่าสนใจดี แล้วก็คงจะทำให้ยอดขายนิตยสารขายดีอีกตามเคย จากแฟนประจำและคนที่อาจจะชอบการแต่งตัวสไตล์วินเทจ เพราะแบบของมันดูดี แล้วก็ทำให้สาวๆ สดใสได้ทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว
ทอฟ้าเพลินกับงาน จนเวลาล่วงไปเกือบทุ่มตรง หญิงสาวจึงพริ้มตาหลับลงและนวดขมับเบาๆ ตอนนี้ข้างนอกพนักงานคนอื่นๆ กลับกันหมดแล้ว เหลือแค่เพียงป้าสมใจแม่บ้านเท่านั้นกระมัง เธอปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนจะกดโทรศัพท์หาน้องสาว เป็นกิจวัตรที่เธอทำทุกครั้งยามเพลินกับงานจนต้องกลับค่ำมืด ครอบครัวของสาวเก่งอย่างทอฟ้า มีกันและกันเพียงสองคนเท่านั้น คือเธอซึ่งเป็นพี่สาวคนโต และน้องสาวที่กำลังอยู่ในวัยเรียนอย่าง พร่างดาว บิดามารดาของพวกเธอเสียชีวิตไปหมดแล้ว ตั้งแต่ที่ทอฟ้ายังเรียนมหาลัย เธอจึงถือเป็นเสาหลักของบ้าน อนุกุลธรรม เธอถือการดูแลน้องสาวให้ได้ดีที่สุดเป็นหน้าที่ ซึ่งต้องทำให้บิดามารดาที่เสียชีวิตไปไม่ต้องเป็นห่วงกังวล เธอดูแลพร่างดาวอย่างดีที่สุด และทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อน้องสาว ทอฟ้าทำงานหนัก และประสบผลสำเร็จภายในเวลาไม่กี่ปี เธอก้าวขึ้นรับตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการในนิตยสาร ป๊อบ สวีท ด้วยเวลาอันรวดเร็ว แม้จะมีเสียงนินทาเล็กๆ น้อยๆ ว่าการที่เธอก้าวขึ้นมาถึงตำแหน่งนี้ เป็นเพราะจัตุรัส เจ้าของสำนักพิมพ์หลงรัก และอยากจะเอาใจทอฟ้า ด้วยการยกตำแหน่งนี้ให้ แต่หญิงสาวก็พิสูจน์ด้วยฝีมือว่า เป็นเพราะอะไรกันแน่ เธอถึงควรคู่กับตำแหน่งสูงสุดนี่
“ทำไมยายดาวไม่รับสายนะ” หญิงสาวบ่นอุบ เมื่อปลายสายมีเพียงข้อความตอบรับเท่านั้น ใจของเธอเริ่มสั่นแปลกๆ นึกเป็นห่วงน้องสาวซึ่งเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจของเธอ ทอฟ้ารีบออกรถแล้วขับค่อนข้างเร็ว แปลกนักที่ยิ่งใกล้ถึงบ้าน ใจก็ยิ่งหายวาบอย่างประหลาด มันเป็นเหมือนลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง ซึ่งทอฟ้าไม่ชอบเอาเสียเลย
เมื่อมาถึงบ้านหลังเล็กชั้นเดียวของครอบครัวอนุกุลธรรม ทอฟ้าก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าบ้านเงียบเชียบ ไม่มีการเปิดไฟไว้ให้แสงสว่างเหมือนเดิม ใจคอเธอวูบโหวง มือเรียวล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาพยายามกด แต่มันก็เหมือนเดิม นั่นก็คือได้ยินเสียงเสียงตอบรับ แทนที่จะเป็นเสียงสดใสของน้องสาวของเธอ
ทอฟ้ารีบเปิดประตูรั้ว ก่อนจะนำรถเข้าไปจอด เธอหยิบไฟฉายอันเล็กในรถติดไปด้วย คิดในแง่ดีว่าไฟอาจจะเสีย พร่างดาวเลยไม่ได้เปิดไฟ มือเรียวขยับจะไขกุญแจประตูบ้าน หากแต่มันกลับเปิดได้ง่ายดาย ในบ้านก็มืดมิดและเงียบสนิท มันเงียบจนเธอรู้สึกหนาวยะเยือก ทอฟ้ากดเปิดสวิตช์ไฟ เพื่อขับไล่ความรู้สึกแปลกประหลาดออกไปเสีย เธอมองไปรอบๆ บ้าน ไม่มีแม้แต่เงาของน้องสาวสุดที่รัก
“ดาว ยายดาว ไปไหนกันนะ หรือว่าจะไปข้างนอก สับเพร่าถึงกับลืมเปิดประตูไว้ แย่จริงๆ ถ้าขโมยขึ้นบ้านจะเป็นยังไงกันนี่” เธอบ่นพึมพำก่อนจะมองไปยังห้องของพร่างดาว ประตูแง้มเปิดทิ้งไว้ แสงสว่างจากภายนอกสาดส่องเข้าไปพอมองเห็นภายในได้รำไร
ทอฟ้าส่ายหน้าน้อยๆ กับสิ่งที่พร่างดาวทำ น้องสาวของเธอวันนี้เหลวไหลเหลือเกิน ออกไปข้างนอกโดยไม่บอกกล่าว แถมยังกลับค่ำมืดเสียด้วย แบบนี้ถ้ากลับมาคงจะต้องจับอบรมกันสักหน่อย แต่จะว่าไปแล้วพักนี้พร่างดาวก็มีพฤติกรรมที่ค่อนข้างจะแปลกไปจากเดิมอยู่บ้าง พร่างดาวคนที่เคยสดใส กลับดูเงียบขรึมไปไม่เหมือนเดิม แต่ทอฟ้าก็คิดว่าน้องสาวคงจะเครียด เพราะใกล้จะสอบแล้ว จึงไม่ได้ซักถามอะไรซอกแซกนัก
ทอฟ้าเดินไปที่ห้องของพร่างดาว ตั้งใจจะปิดห้องให้กับน้องสาว แต่อะไรบางอย่างทำให้เธอเผลอมองเข้าไปด้านใน สิ่งที่เห็นเป็นเงาวูบไหว หญิงสาวคิดว่าน้องสาวลืมปิดหน้าต่างและลมพัดผ้าม่าน มือเรียวเปิดสวิตซ์ไฟ และบ่นออกมาเบาๆ
“ยายดาวนี่ยังไงกันนะ ขี้หลงขี้ลืมจริง”
แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไปในห้อง ไฟที่เปิดสว่างจ้า แสงนั้นทำให้เธอรู้ชัดว่าเงานั้นคืออะไร มันทำให้ทอฟ้าเบิกตาค้าง ก่อนจะร้องออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีด!
“กรี๊ด!”